แชร์ประสบการณ์พาลูก 2.5 ขวบ เข้าประเมินกับแพทย์ เพราะไม่สบตาคนอื่น เรียกไม่ค่อยหัน

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน

จากกระทู้ก่อนหน้านี้ที่มาตั้งคำถามไว้ https://ppantip.com/topic/37652515/comment8-2

ล่าสุดได้พาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อประเมินพัฒนาการลูกมาค่ะ เนื่องจากเราอยากนัดได้วันเร็วๆจึงลงเอยที่โรงพยาบาลเอกชนค่ะ

คุณหมอจะให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปพร้อมลูก โดยจะทั้งสอบถามอาการจากปากคุณพ่อ คุณแม่เอง และสังเกตอาการเด็กไปด้วยค่ะ ในห้องประเมินจะมี่ของเล่นต่างๆวางอยู่ คุณหมอจะใช้อุปกรณ์การเล่นต่างๆประเมินทั้งพัฒนาการของกล้ามเนื้อ และพยายามพูดคุยกับลูกเราโดยสังเกตพัฒนาการทางภาษาและ ทางสังคมไปด้วยค่ะ

เริ่มเลยคุณหมอจะถามชื่อกับเด็ก เรียกชื่อให้ยกมือ ซึ่งลูกเราไม่ยอมทำเลย ไม่ยอมยกมือ ไม่พูด แต่อมยิ้ม ... อันนี้แม่ใจแป้วมาก ต้องบอกก่อนว่าลูกเรามีหลายชื่อด้วยที่ผู้ใหญ่เรียกไม่ค่อยซ้ำกันทำให้สับสนชื่อตัวเอง

จากนั้นจะหลอกล่อทดสอบไปเรื่อยๆ เช่น ให้วางต่อบล็อคไม้ 8 ชั้น ซึ่งลูกเราทำได้ ให้ชี้สัตว์ในนิทานทำได้ ตอบได้หมด แต่ทั้งหมดทั้งมวล เค้าไม่สบตาคุณหมอค่ะ

จนสุดท้าย คุณหมอปล่อยให้เค้าไปเล่นของเล่นอีกมุมนึง เค้าก็ไปเล่น แล้วพอทำได้ ก็จะหันมามองคุณหมอ ส่งเสียงเย้ เก่งมาก (ชมตัวเอง) เพื่อให้คุณหมอมองและชมตาม

คุณหมอบอกว่ามีสัญญานที่ดีอยู่ว่า ลูกติดคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งในเด็กออทิสติกเค้าจะไม่สนใจ เห็นพ่อแม่เป็นวัตถุชิ้นนึงคือ อยู่คนเดียวได้ ไม่เรียกหา และอีกอย่างคือ ลูกเรายังสามารถเล่นบทบาทสมมติได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี

เวลาในห้องแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งคุณหมอยังไม่ได้สรุปว่าเป็นออทิสติกนะคะ แต่ก็จะบอกว่า อาการ ไม่สบตา เรียกชื่อไม่หัน นี่เป็นกลุ่มอาการของโรคออทิสติกจริงๆ แต่ยังไม่สามารถฟันธง ณ ตอนนั้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม สรุปได้อย่างนึงว่า พัฒนาการทางภาษาและทางสังคมของลูกช้า ซึ่งคุณหมอบอกว่าการรักษาเด็กปกติแต่พัฒนาการช้า กับ เด็กออทิสติก นั้นเหมือนกันในเรื่องต้องกระตุ้นการพูด กระตุ้นพัฒนาการทางสังคมโดยนักบำบัด ในขั้นแรกนี้จึงจะนัดลูกเราเข้าบำบัดกับคุณครูก่อน และจะประเมินอาการต่อเนื่องอีกทีทุกๆเดือนค่ะ

ในช่วงของการฝึก เราควรให้ลูกรู้ชื่อเดียวก่อน โดยตกลงกันว่าจะเรียกชื่ออะไร เพื่อให้เค้ารู้จักชื่อตัวเอง เช่น เรียกชื่อเล่นอย่างเดียว ค่ะ

อยากฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ว่า ถ้าลูกเริ่มมีอาการไม่สบตา หรือสังเกตว่ามีพัฒนาการทางสังคมที่ผิดปกติไป ควรดูแลใกล้ชิดและสังเกตร่วมกับแพทย์เพื่อประเมินร่วมกันนะคะ เพราะในวัย2-3 ขวบนี้ ยังพอที่จะรีบรักษา ก่อนที่เด็กจะโตและรักษายากไปกว่านี้ค่ะ

ท่านไหนมีประสบการณ์หรือความคิดเห็นอื่นๆอยากมาแชร์กัน ก็ยินดีมากๆเลยนะคะ

ขอบคุณทุกท่านและพันทิบด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่