สามีใช้เงินกับรถมากเกินไป ใครเป็นแบบนี้บ้าง แก้ยังไงดีคะ

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า เราเข้าใจนะว่าการแต่งรถสำหรับผู้ชายมันเป็นความสุขอย่างนึง ทำงานมาก็อยากเอาเงินมาเติมความสุขบ้างเล็กๆน้อยๆ
แต่แฟนเรา เราว่ามันเริ่มไม่เล็กน้อยแล้ว 
เมื่อกลางปี60 แฟนออกรถใหม่ เป็นป้ายแดงคันแรกในชีวิต (ก่อนหน้านี้ซื้อแต่มือสองตลอด) พอได้รถมาก็เอาไปให้เพื่อนที่เปิดร้านล้างรถเคลือบแก้วให้ เพื่อนคิดเกือบ 30,000 บาท (ให้เข้าไปขัดสีทุก 6เดือน/สามปี รวม 6ครั้ง) แล้วอีท่าไหนก็ไม่รู้ โดนเพื่อนยุให้ติดฟิล์มของเพื่อนที่บอกว่าเป็นตัวแทนนำเข้าจากยี่ปุ่น ติดทั้งคันอีกเกือบหมื่น รวมๆแล้วก็ 4หมื่น
เราเข้าใจเค้าว่าเป็นรถใหม่ จะเห่อเคลื่อบนั้น เปลี่ยนนี่ มันก็ต้องมีบ้าง
ผ่านมาไม่ถึงปี เพื่อนแฟนก็บอกว่า มีเคลือบแบบใหม่ที่ไม่ใช่เคลือบแก้วเข้ามาจากยี่ปุ่นอีกเหมือนกัน ราคาลดให้แล้ว ร่วมๆ 2หมื่นบาท แฟนเราก็เชื่อ ไปเคลือบกับเขาอีก แถมยังไปเปลี่ยนฟิล์มรอบคันอีก สรุปคือเสียเงินไปเกือบ3หมื่น ซึ่งครั้งนี้เราไม่ได้ไปด้วย ถ้าไปคงห้ามแล้ว
พอรถกลับมา (ไปจอดทิ้งไว้ที่ร้านเพื่อน2วัน) กลับมา ขับไม่ได้เพราะฟิล์มมืดไป ต้องเอากลับไปเปลี่ยนใหม่ เป็นฟิล์มยี่ปุ่นอะไรก็ไม่รู้อีกที่เพื่อนเค้าโม้ไว้อีก แต่เปลี่ยนแล้วก็ยังมืดเหมือนเดิม สรุปรถใช้ไปไม่ถึงปีเสียเงินเปลี่ยนฟิล์ม 3 รอบ รวมเคลือบรวมฟิล์ม จะแสนนึงแล้ว!!!
เราทนไม่ไหว บอกเค้าว่าให้พอได้แล้ว แฟนเราก็เหมือนจะเข้าใจ
แต่เมื่อวันพุธ เราเจอบิลบัตรเครดิตแฟน มียอดคิดเงินจากร้านเพื่อนเค้าอีกแล้ว ยอดอีกหมื่นกว่าบาท พอถามก็บอกว่าไปขัดไฟหน้า เขาบอกว่าไฟมันเริ่มขุ่น กับติดฟิล์มใหม่อีก อ้างว่าอันเก่ามันเริ่มพอง
เราว่ามันเยอะเกินไปแล้ว เหมือนเขาเชื่อเพื่อนเค้ามาก เพื่อนยุให้ทำนั่นติดนี่ก็บ้าไปตามคำยุ พอเราว่าเพื่อนเค้า เค้าก็ไม่พอใจ เอาจริงๆคือมันผิดที่คนของเรานี่แหละที่คุมตัวเองไม่ได้ ขอดีๆก็แล้ว ขู่ก็แล้ว ทีแรกตั้งใจว่าภายใน 3 ปีนี้จะมีลูก แต่ถ้ามีแล้วยังเป็นแบบนี้ เราไม่เห็นอนาคตเลยจริงๆ
ใครพอจะมีไอเดียมั้ยคะ ว่าเราควรต้องคุยกับเขายังไง หรือเราต้องทำยังไงดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่