เหยียบจันทบุรี ตามรอย Where We Belong

            ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ถูกใจผู้ชม และโดยเฉพาะกลุ่มแฟน ๆ วง บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ที่ได้เห็นไอดอลผู้น่ารักมารับบทนำแสดงในเรื่อง "Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า" จนกระทั่งมีโอกาสได้หาเรื่องไปทำงานที่จันทบุรี จึงเกิดแผนการเดินทางค้นหาตามรอยว่า การเดินทางของเรื่องราวเหล่านี้ที่อยู่ในจังหวัดจันทบุรี อันเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง มันเป็นอย่างไร
            ท่ามกลางเสียงเพลงสรรเสริญพระเยซูเจ้าที่กำลังบรรเลงออกมาในโบสถ์ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ซูกับเบลนั่งร่วมพิธี พร้อมกับนั่งมองไปยังป่านที่กำลังเล่นอิเล็กโทนและแพรที่กำลังยืนร้องร่วมกับทีมประสานเสียง
            "ดูดิ ทำไมมันไม่มองหน้ากันเลย"
            เบลเอ่ยขึ้นมา ซูจ้องไปยังทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กล่าว
            "เออ...หรือว่ามันจะชอบพี่โต้งทั้งคู่วะ?"
            หลังเสร็จพิธี ทุกคนออกจากโบสถ์ โดยซูอยู่กับป่านและนั่งพูดคุย ส่วนเบลพยายามโน้มน้าวแพรให้คืนดีกับป่านโดยอ้างว่าซูจะไปฟินแลนด์ จนกระทั่งเบลลากแพรมาหาป่าน และดึงโต้งมายืนตรงหน้า พร้อมกล่าวอย่างจริงจัง
            "พี่ชอบใคร พี่เลือกมา พี่อ้ำอึ้งให้ความหวังเนี่ย ทำเพื่อนหนูทะเลาะกันหมด"
            "อืม พี่ หนูว่าพี่ต้องเลือกสักคนอะ"
            ซูกล่าวย้ำ แต่โต้งได้แต่กล่าวว่า
            "พี่ไม่ได้ชอบทั้งคู่ว่ะ"
            แล้วทั้งหมดก็เคลียร์ใจลงได้ที่หน้าโบสถ์ วัดคาทอลิกนักบุญยอแซฟ กรรมกร ท่าใหม่ สถานที่ที่ทั้งหมดเรียนด้วยกัน
สถานที่: วัดนักบุญยอแซฟกรรมกร อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

            แล้วการรวมกลุ่มของวงสตาร์โตสเฟียร์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยการที่ทั้งวงได้พากันไปฉลองอายุครบสิบแปดปี ที่เป็นวัยบรรลุนิติภาวะและสามารถเข้าไปปาร์ตี้ในไนต์คลับกลางเมืองจันทบุรีอย่าง The 90s Music Bar ก่อนที่จะพากันไปรวมวงซ้อมดนตรีเพื่อให้ซูฟัง
สถานที่: The 90s Music Bar อ.เมือง จ.จันทบุรี
            หลังจากที่พ่อของซูปฏิเสธไม่เซ็นยินยอมให้รับทุนไปเรียนต่อที่ฟินแลนด์ ซูพับเอกสารใส่ซองและเก็บไว้ โดยที่ลูกค้ารุ่นน้าต่างรู้ดีว่าซูกำลังจะทำอะไร เขาจึงถามเพื่อโน้มน้าวให้เธออยู่ต่อ และสืบทอดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ด้วยเหตุผลที่เป็นอาหารของเมืองจันท์ แล้วเบลก็ปรากฏตัวในร้าน นั่งลงที่โต๊ะ แต่เธอไม่ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวเหมือนเคย เพราะได้ยินเหล่าน้ากำลังโน้มน้าวซู เบลจึงเอ่ยปากขึ้นมา
            “แล้วทำไมต้องทำอะ มันกลายเป็นภาระของซูไปแล้วหรอ แล้วที่พูดมาเนี่ย เคยถามซูบ้างปะ ”
            แม้จะดูเหมือนเด็กที่ไม่สนใจในความอาวุโส แต่พวกน้าก็ยังตอบกลับด้วยดีว่าเธอรู้ได้ยังไง เบลก็เลือกสวนกลับอย่างตรงไปตรงมาจนทำให้ซูไม่พอใจ และเริ่มตอบกลับด้วยคำแรง
            “สนิทกับกู ขนาดพูดแทนกูแล้วหรือวะ”
            “ต้องสนิทขนาดไหนอะ ขนาดไอ้มิวปะ ถึงจะพูดแทนได้”
            คำพูดนั้นทำให้ซูหมดความอดทน ความโมโหก่อตัวขึ้นและตวาดใส่เบลอย่างไม่สนใจ
            “แล้วมันจะทำไมวะ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูดิ ไม่ต้องมาช่วยกูจัดกระเป๋าเ*ยไรเนี่ย และก็ไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าอีกนะ”
            “เออ จะไปไหนก็ไปเลยนะเว้ย ยังไงก็ไม่คิดจะกลับมาที่นี่อยู่แล้วนี่ เ*ย ไม่แ*กแ*งแล้ว”
            เมื่อถูกตอกกลับเช่นนั้น ซูจึงระบายอารมณ์โดยการขว้างกระบวยตักน้ำซุปลง และเดินเข้าไปในตัวบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์
            ร้านแห่งนี้ ตั้งอยู่ในตัวเมื่องท่าใหม่ ไม่ไกลจากวัดนักบุญยอแซฟกรรมกร ในภาพยนตร์เป็นก๋วยเตี๋ยวเลียง แต่ความจริงร้านนี้คือก๋วยเตี๋ยวน้ำใสที่มีความโดดเด่นด้านรสชาติและเครื่องแน่น ที่เวลาบ่ายสองก็ขายหมดแล้ว
สถานที่: ก๋วยเตี๋ยวท่าใหม่ ถ.ราชกิจ ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
            หลังจากพบว่าความเป็นเพื่อนตัดกันไม่ขาด ซูจึงไปง้อขอคืนดีกับเบล แต่ก็มีเงื่อนไขมาให้ซูต้องปฏิบัติ นั่นคือการติดต่อ โอลิเวอร์ ครูสอนภาษาชาวต่างชาติที่ซูเรียนด้วย ให้มานั่งกินข้าวกับเบลที่คาเฟ่ เมื่อประตูเปิดออก โอลิเวอร์เดินเข้ามา และงุนงงที่เห็นเบล แต่ไม่เห็นซู
            “ไอ นัดซูไว้ ชีเซ่ดทำดอคคิวเม้นต์หายไป ไอเลยเอาอันใหม่มาให้”
            “ไอก็นัดซูไว้ มีทู ซูหายไปไหนน้า”
            “ขอไอ ซิตด้วยนะ”
            แล้วเบลก็ได้ทานอาหารร่วมกันกับโอลิเวอร์ ที่ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ซูแอบมองอยู่ไม่ไกล
สถานที่: Mililin Café&Eatery ถ.มหาราช ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี
            หลังเสร็จสิ้นภารกิจกินข้าว ทั้งสองก็มายังสวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยืนเล่นอยู่บนเครื่องออกกำลังกาย ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็กลับมาคืนดี อีกทั้งมันยังสร้างความสุขให้เบลจนเธอฮัมทำนองเพลงออกมา จนไปสะกิดหูของซูเข้า
            “เพราะดีอะ เพลงของใครวะ”
            “กูแต่งเอง”
            “หรอ กูชอบนะ”
            “กูแต่งให้อะ แค่หาผู้ให้กูอะ กูไม่หายโกรธหรอกนะเว้ย”
สถานที่: สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.จันทบุรี
            แม้เบลจะไม่สามารถทำให้ซูคืนดีกับมิวได้ แถมยังเกิดการทะเลาะกลางห้าง เบลและซูจึงเยียวยาความรู้สึกโดยการพาความเศร้าไปทิ้งทะเลที่หาดแหลมสิงห์ แล้วทั้งสองก็นอนบนชายหาด ระบายความทุกข์ใจออกมา
            “อะไรที่กูคิดว่าเป็นของกู มันไม่ใช่ของกูเลยสักอย่าง”
            ซูบ่นระบายความในใจออกมาที่รู้สึกว่าในที่แห่งนี้ ไม่ใช่ที่ของเธอ แล้วเบลก็ระบายออกมาเช่นกัน
            “บางทีกูก็ไม่เข้าใจ มีระยะห่าง กูพยายามเป็นส่วนหนึ่งของ แต่ก็ถีบกูออกมา เหมือนกูเป็นเพื่อนที่ห่วยอะ”
            “ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเว้ย ขอโทษนะ ที่กูทำดีสุดได้แค่นี้”
            แล้วซูก็โอบกอดเบลทั้งที่นอนบนชายหาด คลื่นทะเลซัดมา แต่อ้อมกอดนั้น เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยที่ทั้งสองมีให้กันและกัน
สถานที่: หาดแหลมสิงห์ ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
            หลังจากที่ซูตัดสินใจไมไปเรียนที่ฟินแลนด์ ซูกับเบลก็นัดเจอกันตามปกติ โดยที่ทั้งสองมานั่งพูดคุยริมแม่น้ำที่ศาลแห่งหนึ่ง แล้วทั้งสองก็นั่งคุกเข่าสวดภาวนาหน้ารูปปั้นเพื่อขอบางอย่าง
            “โตขึ้นน่ะ เราจะกลายเป็นผู้ใหญ่แบบไหนกันวะ”
            “ถ้าเราโตไป เราอาจจะกลายเป็นผู้ใหญ่แบบที่เราเคยเกลียดก็ได้เนอะ ถึงตอนนั้น ถ้ามารำลึกว่ายี่สิบปีก่อนเป็นยังไงนะ ตอนนั้นก็จำไม่ได้แล้วปะ”
            ศาลากลางน้ำแห่งนี้ อยู่ที่วัดอารักขเทวดา แหลมประดู่ เป็นวัดคาทอลิกริมแม่น้ำที่สวยงาม โดยศาลาแห่งนี้มีสะพานทอดยาวไปถึงกลางน้ำ และมีรูปปั้นอัครเทวดาโอบพระกุมารเยซูตั้งไว้ตรงกลาง
            หลังจากที่รู้ว่าซูไม่ได้ไปต่างประเทศ เก่งก็ได้นัดเจอกับซูที่ม้านั่งริมแม่น้ำจันทบุรีอันรมรื่น เพื่อระบายถึงความในใจอีกครั้งให้ซูฟัง
            “จำได้ปะตอน ม.4 ที่เราโดนทำโทษ ที่จริงไม่ใช่แค่เราคนเดียวนะที่โดน แต่คนอื่นมันหนีกันหมดเลย โคตรพระเอกเลยตอนนั้น จริง ๆ เราก็แอบชอบซูมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
            เก่งคว้ามือซูและพยายามจะจุมพิต แต่ซูเบือนหน้าหนีแสดงการปฏิเสธและเดินหนีไป
            ม้านั่งริมน้ำแห่งนี้อยู่ในวัดอารักขเทวดา แหล่มประดู่ ไม่ไกลจากศาลาริมน้ำ เป็นบริเวณที่ร่มรื่น และมีป่าชายเลนอยู่ด้านข้าง เป็นสถานที่ที่ให้อากาศบริสุทธิ์แห่งนี้ในบริเวณริมแม่น้ำจันทบุรี
สถานที่: วัดอารัขเทวดา แหลมประดู่ ต.บางกระไช อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
            เมื่อซูข้องใจกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเยี่ยงสก๊อย เธอให้เบลพาไปหาโดยไม่มีสาเหตุที่สะพานตากสินมหาราช และลงไปด่าหญิงสาวคนนั้นโดยที่ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
            “เป็นใครเนี่ย”
            หญิงสาวนางนั้นถาม แต่ซูก็ตอบกลับเพียงแค่ว่า
            “เลิกเ*ยได้ปะ”
            หญิงสาวนางนั้นผลักซูกลับ “มาผลักกูทำไม มาเ_ือกอะไร”
            “เอาหัวใจแม่กูคืนมา”
            แล้วการตะลุมบอนระหว่างซูกับแก๊งของหญิงสาวก็เปิดศึกขึ้นกลางสะพานแห่งนี้ โดยที่เบลพยายามเข้าห้าม
            สะพานตากสินมหาราช ถือเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งนี้ และได้เห็นทิวทัศน์แม่น้ำจันทบุรีที่สวยงาม
สถานที่: สะพานตากสินมหาราช อ.เมือง จ.จันทบุรี
            จนกระทั่งซูได้รู้ความจริงทั้งหมด ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ไม่ใช่ของเธอ แม้กระทั่งความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ซูจึงหายตัวไป การรอคอยของพ่อซูก็ยุติลง เมื่อถอดเอารูปภาพแม่ซู ภรรยาของเขาออกจากโต๊ะ เมื่อได้รู้ว่าคนรักของเขาจะไม่หวนกลับมาอีก ซัน น้องชายที่รักของซูก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะหน้าร้าน โดยมีก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ด้วยความหวังว่าผู้เป็นพี่สาวของเขาจะกลับมาหาอีกครั้ง
 ด้วยเวลาที่น้อย จึงไปไม่ครบ นำมาลงได้เท่านี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่