กรมหลวงอภัยนุชิต กรมหลวงพิพิธมนตรี เจ้าฟ้าสังวาลย์ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศนี่ท่านมีตำแหน่งเป็นอะไรบ้างคะ

เท่าที่ทราบมาคือ กรมหลวงอภัยนุชิต เป็นพระอัครมเหสีฝ่ายขวา หรือพระอัครมเหสีเอก (บางแหล่งบอกว่าเป็นพระมเหสีฝ่ายขวา)
กรมหลวงพิพิธมนตรี เป็นพระอัครมเหสีน้อย หรือ พระอัครมเหสีกลาง 
เจ้าฟ้าสังวาลย์ เป็น พระมเหสีฝ่ายซ้าย หรือบางข้อมูลบอกว่าเป็นอัครมเหสีฝ่ายซ้าย
นี่เป็นข้อมูลจากวิกิพีเดีย และจากผู้รู้หลายๆท่าน สงสัยว่าข้อมูลนี้ถูกต้องหรือไม่คะ เท่าที่เข้าใจคือพระอัครมเหสีมีได้เพียงพระองค์เดียวไม่ใช่หรอคะ แล้วสรุปทั้งสามพระองค์ตำแหน่งของท่านเป็นตำแหน่งอะไรบ้างคะ พระองค์ใดเป็นพระอัครมเหสีหรือพระมเหสีอย่างไรบ้าง รบกวนผู้รู้อธิบายอย่างละเอียดหน่อยค่าา
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
หลักฐานตาม คห.2 ครับ


คำว่า "พระพันวสา" "พระพันวัสสา" หรือ "พระพรรวษา" ในสมัยหลังสื่อถึงพระราชชนนีของพระเจ้าแผ่นดิน แต่ในสมัยโบราณพบว่าหมายถึงพระมเหสีครับ

เช่น ในเอกสารภูมิสถานกรุงศรีอยุธยาตอนหนึ่งกล่าวถึง "มีปตูเข้าไปพระตำหนักตึกใหญ่ ผนังนอกทาแดง ชื่อพระตำหนักโคหาสวรรค์ พระตำหนักหลังนี้เป็นของพระพันวษา ซึ่งเป็นพระอัครมเหษรีของสมเด็จพระนารายณแต่ก่อน"

หรือในสมัยรัชกาลที่ ๒ แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจะไม่ได้ทรงสถาปนาพระอัครมเหสีอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่าทรงยกย่องเจ้าฟ้าบุญรอดเป็นใหญ่เหนือพระภรรยาเจ้าทั้งปวง ปรากฏในพระราชพงศาวดารออกพระนามว่า "สมเด็จพระพรรษา" หรือ "สมเด็จพระพันวัสสา" มาจนสิ้นพระชนม์รัชกาลที่ ๓ ข้อนี้เป็นไปตามธรรมเนียมราชตระกูลในกรุงสยาม พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า

         "ครั้นในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ท่านได้เจ้าฟ้าหญิง ซึ่งเป็นพระธิดาของสมเด็จพระเจ้าพี่นาง ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นพระชายาแต่เดิมมา ดังเช่นกล่าวมาแล้วข้างต้น ครั้นเมื่อท่านเป็นเจ้าแผ่นดินขึ้น ก็ไม่ได้ตั้งแต่งยศศักดิ์อันใดอีก แต่คนทั้งปวงเข้าใจว่า ท่านเป็นพระมเหสีเรียกว่าสมเด็จพระพันพรรษา ๆ นี้คำเดียวกันกับพันปี เป็นคำให้พรสำหรับเรียกพระราชชนนีบ้าง พระมเหสีบ้าง ฤาบางทีจะเรียกเจ้าแผ่นดินเองบ้างดอกกระมัง ท่านมียศดังนี้ตลอดมา จนถึงสิ้นพระชนม์"



เหตุที่พระราชพงศาวดารออกพระนามกรมหลวงอภัยนุชิตว่าพระพันวษาใหญ่ กรมหลวงพิพิธมนตรีว่าพระพันวษาน้อย คือการบ่งบอกว่าเป็น พระมเหสีใหญ่และพระมเหสีน้อยตามลำดับครับ

ในคำให้การขุนหลวงหาวัดระบุตำแหน่งทั้งสององค์ว่าเป็น พระอัครมเหสี กับ ราชมเหสี  เข้าใจว่ามีความหมายเดียวกับพระมเหสีใหญ่ และพระมเหสีรองลงมาตามลำดับนั่นเอง   ยังปรากฏในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมว่า "อันพระอรรคมเหษีนั้นพระนามชื่อพระจันทชายา อันราชมเหษีนั้นพระนามเรียกพระขัติยเทวี"  

กรมหลวงอภัยนุชิตเป็นพระอัครมเหสีขวา   กรมหลวงพิพิธมนตรีปรากฏในความแทรก "คำให้การ" เกี่ยวกับสมัยพระนครศรีอยุธยาตอนปลายว่าเป็น "พระราชมเหสีกลาง"  ในขณะที่เจ้าฟ้าสังวาลที่เป็นมเหสีซ้ายไม่ได้ทรงกรม น่าจะมีศักดิ์ต่ำกว่าสององค์แรก

(บางทีฝ่ายซ้ายหรือขวาอาจจะมีมากกว่าองค์เดียว ปรากฏในพระราชพงศาวดารฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) ระบุว่าสมเด็จพระเพทราชาทรงสถาปนาพระอัครมเหสีเดิมเป็นฝ่ายขวา ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระนารายณ์และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าทองเป็นฝ่ายซ้ายทั้งสององค์)


เมื่อมาเทียบกับลำดับยศในคำให้การชาวกรุงเก่าที่อ้างอิงจากแบบแผนพม่าจะเห็นความสูงต่ำได้ชัดเจนขึ้น เพราะตามธรรมเนียมพม่าแบ่งยศพระมเหสีเป็น ๔ ตำแหน่งจากสูงไปต่ำคือ

๑. นันมะดอ มิบะยา กองจี (နန်းမတော် မိဖုရား ခေါင်ကြီး) คือ พระอัครมเหสี   มีอีกชื่อว่า ตองนัน มิบะยา (တောင်နန်း မိဖုရား) คือพระมเหสีตำหนักใต้

๒. มยอกนัน มิบะยา (မြောက်နန်း မိဖုရား) คือ พระมเหสีตำหนักเหนือ

๓. อะเลนัน มิบะยา (အလယ်နန်း မိဖုရား) คือ พระมเหสีตำหนักกลาง

๔. อะนอกนัน มิบะยา (အနောက်နန်း မိဖုရား) คือ พระมเหสีตำหนักตะวันตก


เหตุที่คำให้การชาวกรุงเก่าใช้ยศมเหสีแบบพม่า สันนิษฐานว่าเพราะผู้เรียบเรียงเป็นชาวพม่าจึงใช้ยศแบบพม่าให้เข้าใจง่าย  หากไล่ลำดับสูงต่ำแล้วเข้าใจได้ว่า กรมหลวงอภัยนุชิตซึ่งเป็นพระอัครมเหสีมีศักดิ์สูงสุด  รองลงมาคือกรมหลวงพิพิธมนตรีซึ่งเป็นพระมเหสีตำหนักเหนือ (หรือพระราชมเหสี)  จากนั้นที่ ๓ คือเจ้าฟ้านวน (เจ้าฟ้าสังวาล) ที่เป็นพระมเหสีตำหนักกลางครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่