สอบ IELTS แบบผ่านคอมพิวเตอร์ กับ British Council
.
ขอเล่าขั้นตอนและวิธีการที่ผ่านการสอบกับสถาบันแบบไม่มีส่วนได้เสียใดๆ แค่อยากเล่าเผื่อเป็นประโยชน์กับทุกคน
เคยสอบทั้งแบบกระดาษและล่าสุดแบบคอมพิวเตอร์ เพราะบางคนอาจกำลังตัดสินใจหรือตัดสินใจไปแล้วจะได้เตรียมตัวถูกทาง
บางอย่างมันก็ต่างจากการสอบแบบกระดาษอยู่
.
สมัครสอบ
ขั้นแรกที่เราสมัครสอบนี่มันสามารถเลือกได้เลยจะสอบวันไหน มีวันให้สอบได้เกือบทุกวันของเดือนนั้นๆเลย นี่เลยเป็นข้อดีที่หนึ่ง
ข้อดีที่สองนะการสอบเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะสอบข้อเขียนรอบเช้าหรือบ่าย แล้วจะสอบพูดรอบตรงข้ามกับข้อเขียนได้เลย
ซึ่งแบบเดิมเราต้องสอบข้อเขียนตอนเช้า แล้วรอสอบพูดตอนบ่ายตามคิวของเรา แน่นอนเราต้องตื่นเช้ามากเพื่อรายงานตัวก่อนสอบ
ง่วงนอนน่ะสิ คนจะสอบมันก็ตื่นเต้น เตรียมตัวอ่านหนังสือแบบ one night miracle กัน พอถ่ายรูปหน้าก็จะโจรๆมาก แล้วถ้าได้สอบ
พูดคิวท้ายๆตอนห้าหกโมงเย็นก็รอกันนานมาก แต่พอรอบนี้เลยเลือกสอบพูดรอบเช้า ไม่เช้าหรอก 11:20 สิบกว่านาทีก็จบล่ะ
มีเวลาเหลือก่อนสอบข้อเขียนอีกเกือบสองชั่วโมงไปเตรียมสอบข้อเขียนได้อีกแน่ะ
.
mock test
การสอบรอบปี 2019 British Council ใจดีให้ไปสอบ mock test ส่วนของ Writing ทั้งสอง tasks ฟรีๆเสมือนจริงเลย (ก็ไม่จริงเสียทีเดียว
เพราะรอบ mock test นี้คอมมันจับคำสะกดผิดให้เราด้วย แต่รอบสอบจริงไม่มีจับสะกดผิดให้นะ นับให้แค่จำนวนคำซึ่งก็ดีมากแล้ว
สอบ mock test นี้หลังสอบเสร็จเขายังมีอาจารย์ที่สถาบันคอมเม้นท์ให้เราด้วยว่างานเขียนของเราด้อยตรงไหน (ส่วนใหญ่เราถูกคอมเมนท์
เรื่องข้อด้อยมากกว่าข้อดีนะ ๕๕๕๕๕) และเขาจะคำนวนคร่าวๆให้เราว่าจะได้ band ไหนตามเกณฑ์ของการสอบ IELTS นั่นแหละ ถือว่า
เป็นกำไรที่ได้จากการลงทุนครั้งนี้ล่ะกันและช่วยให้เราเตรียมตัวถูกทางด้วยนะ วันสอบ mock test อาจสมาธิหลุดหน่อยเพื่อนร่วมสอบเคาะแป้นพิมพ์
เสียงดังร้อยเดซิเบลมาก
.
วันสอบจริง
เขาให้เราไปสอบที่ตึกจามสแควร์ชั้น 24 นะ
ในเมล์แจ้งที่สอบและสิ่งที่ต้องเตรียมไปคือเสื้อกันหนาว สำคัญจริงๆแอร์เย็นมาก ขนาดเราขี้ร้อนใส่เชิ๊ตผ้าหนามากยังต้องถลกแขนลงแต่ยังหนาว
จนสั่นเลย
ถ้าสอบๆไปแล้วปวดเยี่ยวขอออกมาเยี่ยวได้นะ แต่ไม่มีทดเวลา และห้ามออกมาช่วง 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาของแต่ละเทสท์
.
ระหว่างสอบ
เราจะให้เข้าไปตรวจสอบตัวตนและฝากสิ่งของไว้ที่ห้องกลาง ยกเว้นบัตรแสดงตน
เขาอนุญาตให้นำน้ำดื่มได้ต้องเอาฉลากใดๆออกและต้องเป็นขวดใสน้ำใสเท่านั้น พวกน้ำอัดลมสีๆ ห้ามเอาเข้า
พอเข้าห้องสอบเราจะได้นั่งหน้าคอมตัวเองมีที่กั้น ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าใครจะลอกเรา เราจะลอกใคร บอกเลยยาก ถ้าลอกได้คนคุมสอบเห็นนะ ปรับตกนะ
อย่าทำ ไม่ดี
การสอบแต่ละเทสท์เราจะต้อง log in ใหม่ทุกครั้ง จะมีกระดาษให้ใหม่ที่มีพาสเวิร์ดใหม่ทุกรอบ แล้วคนคุมสอบก็จะเก็บไปตอนหมดเวลา กระดาษทดขีดเขียนได้เลย มีดินสอยางลบให้หมด
.
Speaking
ขอข้ามส่วนนี้ล่ะกันเพราะมันยังคงเหมือนเดิมคือสอบกับคนจริงอยู่ รูปแบบเหมือนเดิม
.
Listening
ฟังผ่านหูฟังนะ หูฟังดีเลยแหละ ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก เสียงดังปรับระดับได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสอบระบบจะให้เราทดสอบระบบเสียง ขนาดตัวอักษรด้วย
ส่วนนี้เราถือว่าระบบการสอบดี สถาบันเตรียมระบบไว้ดีเลย
แต่ แต่ แต่ ข้อเสียหนึ่งที่เราว่าไม่เวิร์คคือการวางข้อสอบที่ใช้วิธีเรียงสองข้อซ้ายขวา แทนที่จะเรียงลงแนวนอนเลยเราจะได้ไม่เสียเวลากวาดตาซ้ายขวา
เพราะจอมันใหญ่ เราก็แอบหลุดเพราะไม่ได้นึกว่าข้อสอบจะวางไว้ข้างกันสองข้อ
.
Reading
หลังจากเรา log in แล้วเราก็เลือกขนาดตัวอักษรได้ แต่ไม่แน่ใจอ่ะว่ามันขยายขนาดไหมเหมือมเรายังคิดว่าเล็กอยู่ สายตาไม่ดีน่ะ การอ่านจะแบ่งหน้าจอเป็นสองคอลัมน์ ซ้ายเป็นเนื้อเรื่อง ขวาคำถาม ข้อดีคือคลิกขวา highlight ได้ด้วยลบออกก็ได้ สะดวกดีเหมือนเราอ่านหนังสือในแท็บเล็ตแล้วขีดเขียนไว้นั่นแหละ อีกสิ่งหนึ่งคือพวกข้อสอบเช่นจับชื่อหัวข้อกับย่อหน้าแค่คลิกซ้ายแล้วลากไปวางในช่องได้เลย สะดวกมาก ชอบ คือจับคู่ได้ง่ายๆมีแค่ส่วนเติมคำที่ยังคงต้องพิมพ์เองอยู่ พวกข้อสอบช้อยส์ก็แค่คลิกเลือกคำตอบได้เลย
แล้วถ้าเราอยากข้ามเรื่องไปก็ทำได้นะ สลับได้เป็นข้อๆเลย ข้ามเป็นเรื่องๆได้เลย
.
Writing
ส่วนการเขียนนี่ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ที่มันดีคือคอมจะนับคำให้เราว่าครบจำนวนที่ข้อสอบให้เราเขียนหรือยัง
ข้อดีของการสอบผ่านคอมคือ เรากระโดดข้ามย่อหน้าได้ เว้นที่ได้แล้วกลับมาเพิ่มมาเติมใหม่ได้ง่ายกว่ากระดาษเหมือนตอนเราทำคอมนั่นแหละมันสะดวกกว่าตรงที่เราคิดอะไรออกก็ไปเขียนตรงนั้นก่อนค่อยกลับมาเขียนส่วนที่เว้นไว้ไม่เสียเวลาลบเขียนใหม่
.
สรุป
เวลานับถอยหลังให้ที่หน้าจอเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเงยหน้ามองนาฬิกาหน้าห้องแบบเมื่อก่อน
ทั้งสามพาร์ทนี้ระบบจะบอกว่าเราทำข้อไหนไปแล้ว ข้อไหนยังไม่ทำ เราจะได้กลับมาเดาได้ก่อนหมดเวลา
เปิดดูคลิปแนะนำวิธีการสอบในยูทูปนะจะได้เตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบผ่านคอม
.
ผลสอบ
เขาแจ้งว่าเราจะได้ผลสอบ (น่าจะผ่านหน้าเวปไซต์) ภายใน 5-7 วันตามปฏิทิน วิธีการนับก็ให้นับหลังวันที่สอบเป็นวันที่ 1 เช่นเราสอบวันที่ 11 เราจะเริ่มนับวันแรกคือวันที่ 12 ดังนั้นผลสอบจะออกประมาณวันที่ 16-18
แต่โชคไม่ดีสถาบันส่งเมล์มาแจ้งว่าจะให้ผลล่าช้า แต่ไม่ได้บอกว่าจะล่าช้าไปกี่วัน
ตอนนี้เลยได้แต่กดรีเฟรชหน้าเวปรอ 30000 รอบต่อวัน
.
ผลประเมินความพอใจ
เราให้ 9/10 ไม่ประทับใจการจัดเรียงคำถามของพาร์ทฟัง อยากให้จัดเรียงข้อลงข้างล่าง ไม่อยากให้จัดซ้ายขวาสองข้อด้วยด้วยกัน
.
ภาพรวมของการสอบถือว่าดี เพราะเคยสอบแบบกระดาษเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วเห็นว่าสอบผ่านคอมนี่สะดวกดีกว่ามาก
.
ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านโชคดี ได้คะแนนเยอะๆกันทุกคนนะ
[CR] IELTS computer-delivered British Council
.
ขอเล่าขั้นตอนและวิธีการที่ผ่านการสอบกับสถาบันแบบไม่มีส่วนได้เสียใดๆ แค่อยากเล่าเผื่อเป็นประโยชน์กับทุกคน
เคยสอบทั้งแบบกระดาษและล่าสุดแบบคอมพิวเตอร์ เพราะบางคนอาจกำลังตัดสินใจหรือตัดสินใจไปแล้วจะได้เตรียมตัวถูกทาง
บางอย่างมันก็ต่างจากการสอบแบบกระดาษอยู่
.
สมัครสอบ
ขั้นแรกที่เราสมัครสอบนี่มันสามารถเลือกได้เลยจะสอบวันไหน มีวันให้สอบได้เกือบทุกวันของเดือนนั้นๆเลย นี่เลยเป็นข้อดีที่หนึ่ง
ข้อดีที่สองนะการสอบเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะสอบข้อเขียนรอบเช้าหรือบ่าย แล้วจะสอบพูดรอบตรงข้ามกับข้อเขียนได้เลย
ซึ่งแบบเดิมเราต้องสอบข้อเขียนตอนเช้า แล้วรอสอบพูดตอนบ่ายตามคิวของเรา แน่นอนเราต้องตื่นเช้ามากเพื่อรายงานตัวก่อนสอบ
ง่วงนอนน่ะสิ คนจะสอบมันก็ตื่นเต้น เตรียมตัวอ่านหนังสือแบบ one night miracle กัน พอถ่ายรูปหน้าก็จะโจรๆมาก แล้วถ้าได้สอบ
พูดคิวท้ายๆตอนห้าหกโมงเย็นก็รอกันนานมาก แต่พอรอบนี้เลยเลือกสอบพูดรอบเช้า ไม่เช้าหรอก 11:20 สิบกว่านาทีก็จบล่ะ
มีเวลาเหลือก่อนสอบข้อเขียนอีกเกือบสองชั่วโมงไปเตรียมสอบข้อเขียนได้อีกแน่ะ
.
mock test
การสอบรอบปี 2019 British Council ใจดีให้ไปสอบ mock test ส่วนของ Writing ทั้งสอง tasks ฟรีๆเสมือนจริงเลย (ก็ไม่จริงเสียทีเดียว
เพราะรอบ mock test นี้คอมมันจับคำสะกดผิดให้เราด้วย แต่รอบสอบจริงไม่มีจับสะกดผิดให้นะ นับให้แค่จำนวนคำซึ่งก็ดีมากแล้ว
สอบ mock test นี้หลังสอบเสร็จเขายังมีอาจารย์ที่สถาบันคอมเม้นท์ให้เราด้วยว่างานเขียนของเราด้อยตรงไหน (ส่วนใหญ่เราถูกคอมเมนท์
เรื่องข้อด้อยมากกว่าข้อดีนะ ๕๕๕๕๕) และเขาจะคำนวนคร่าวๆให้เราว่าจะได้ band ไหนตามเกณฑ์ของการสอบ IELTS นั่นแหละ ถือว่า
เป็นกำไรที่ได้จากการลงทุนครั้งนี้ล่ะกันและช่วยให้เราเตรียมตัวถูกทางด้วยนะ วันสอบ mock test อาจสมาธิหลุดหน่อยเพื่อนร่วมสอบเคาะแป้นพิมพ์
เสียงดังร้อยเดซิเบลมาก
.
วันสอบจริง
เขาให้เราไปสอบที่ตึกจามสแควร์ชั้น 24 นะ
ในเมล์แจ้งที่สอบและสิ่งที่ต้องเตรียมไปคือเสื้อกันหนาว สำคัญจริงๆแอร์เย็นมาก ขนาดเราขี้ร้อนใส่เชิ๊ตผ้าหนามากยังต้องถลกแขนลงแต่ยังหนาว
จนสั่นเลย
ถ้าสอบๆไปแล้วปวดเยี่ยวขอออกมาเยี่ยวได้นะ แต่ไม่มีทดเวลา และห้ามออกมาช่วง 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาของแต่ละเทสท์
.
ระหว่างสอบ
เราจะให้เข้าไปตรวจสอบตัวตนและฝากสิ่งของไว้ที่ห้องกลาง ยกเว้นบัตรแสดงตน
เขาอนุญาตให้นำน้ำดื่มได้ต้องเอาฉลากใดๆออกและต้องเป็นขวดใสน้ำใสเท่านั้น พวกน้ำอัดลมสีๆ ห้ามเอาเข้า
พอเข้าห้องสอบเราจะได้นั่งหน้าคอมตัวเองมีที่กั้น ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าใครจะลอกเรา เราจะลอกใคร บอกเลยยาก ถ้าลอกได้คนคุมสอบเห็นนะ ปรับตกนะ
อย่าทำ ไม่ดี
การสอบแต่ละเทสท์เราจะต้อง log in ใหม่ทุกครั้ง จะมีกระดาษให้ใหม่ที่มีพาสเวิร์ดใหม่ทุกรอบ แล้วคนคุมสอบก็จะเก็บไปตอนหมดเวลา กระดาษทดขีดเขียนได้เลย มีดินสอยางลบให้หมด
.
Speaking
ขอข้ามส่วนนี้ล่ะกันเพราะมันยังคงเหมือนเดิมคือสอบกับคนจริงอยู่ รูปแบบเหมือนเดิม
.
Listening
ฟังผ่านหูฟังนะ หูฟังดีเลยแหละ ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก เสียงดังปรับระดับได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสอบระบบจะให้เราทดสอบระบบเสียง ขนาดตัวอักษรด้วย
ส่วนนี้เราถือว่าระบบการสอบดี สถาบันเตรียมระบบไว้ดีเลย
แต่ แต่ แต่ ข้อเสียหนึ่งที่เราว่าไม่เวิร์คคือการวางข้อสอบที่ใช้วิธีเรียงสองข้อซ้ายขวา แทนที่จะเรียงลงแนวนอนเลยเราจะได้ไม่เสียเวลากวาดตาซ้ายขวา
เพราะจอมันใหญ่ เราก็แอบหลุดเพราะไม่ได้นึกว่าข้อสอบจะวางไว้ข้างกันสองข้อ
.
Reading
หลังจากเรา log in แล้วเราก็เลือกขนาดตัวอักษรได้ แต่ไม่แน่ใจอ่ะว่ามันขยายขนาดไหมเหมือมเรายังคิดว่าเล็กอยู่ สายตาไม่ดีน่ะ การอ่านจะแบ่งหน้าจอเป็นสองคอลัมน์ ซ้ายเป็นเนื้อเรื่อง ขวาคำถาม ข้อดีคือคลิกขวา highlight ได้ด้วยลบออกก็ได้ สะดวกดีเหมือนเราอ่านหนังสือในแท็บเล็ตแล้วขีดเขียนไว้นั่นแหละ อีกสิ่งหนึ่งคือพวกข้อสอบเช่นจับชื่อหัวข้อกับย่อหน้าแค่คลิกซ้ายแล้วลากไปวางในช่องได้เลย สะดวกมาก ชอบ คือจับคู่ได้ง่ายๆมีแค่ส่วนเติมคำที่ยังคงต้องพิมพ์เองอยู่ พวกข้อสอบช้อยส์ก็แค่คลิกเลือกคำตอบได้เลย
แล้วถ้าเราอยากข้ามเรื่องไปก็ทำได้นะ สลับได้เป็นข้อๆเลย ข้ามเป็นเรื่องๆได้เลย
.
Writing
ส่วนการเขียนนี่ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ที่มันดีคือคอมจะนับคำให้เราว่าครบจำนวนที่ข้อสอบให้เราเขียนหรือยัง
ข้อดีของการสอบผ่านคอมคือ เรากระโดดข้ามย่อหน้าได้ เว้นที่ได้แล้วกลับมาเพิ่มมาเติมใหม่ได้ง่ายกว่ากระดาษเหมือนตอนเราทำคอมนั่นแหละมันสะดวกกว่าตรงที่เราคิดอะไรออกก็ไปเขียนตรงนั้นก่อนค่อยกลับมาเขียนส่วนที่เว้นไว้ไม่เสียเวลาลบเขียนใหม่
.
สรุป
เวลานับถอยหลังให้ที่หน้าจอเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเงยหน้ามองนาฬิกาหน้าห้องแบบเมื่อก่อน
ทั้งสามพาร์ทนี้ระบบจะบอกว่าเราทำข้อไหนไปแล้ว ข้อไหนยังไม่ทำ เราจะได้กลับมาเดาได้ก่อนหมดเวลา
เปิดดูคลิปแนะนำวิธีการสอบในยูทูปนะจะได้เตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบผ่านคอม
.
ผลสอบ
เขาแจ้งว่าเราจะได้ผลสอบ (น่าจะผ่านหน้าเวปไซต์) ภายใน 5-7 วันตามปฏิทิน วิธีการนับก็ให้นับหลังวันที่สอบเป็นวันที่ 1 เช่นเราสอบวันที่ 11 เราจะเริ่มนับวันแรกคือวันที่ 12 ดังนั้นผลสอบจะออกประมาณวันที่ 16-18
แต่โชคไม่ดีสถาบันส่งเมล์มาแจ้งว่าจะให้ผลล่าช้า แต่ไม่ได้บอกว่าจะล่าช้าไปกี่วัน
ตอนนี้เลยได้แต่กดรีเฟรชหน้าเวปรอ 30000 รอบต่อวัน
.
ผลประเมินความพอใจ
เราให้ 9/10 ไม่ประทับใจการจัดเรียงคำถามของพาร์ทฟัง อยากให้จัดเรียงข้อลงข้างล่าง ไม่อยากให้จัดซ้ายขวาสองข้อด้วยด้วยกัน
.
ภาพรวมของการสอบถือว่าดี เพราะเคยสอบแบบกระดาษเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วเห็นว่าสอบผ่านคอมนี่สะดวกดีกว่ามาก
.
ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านโชคดี ได้คะแนนเยอะๆกันทุกคนนะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้