ขอเล่าเรื่องการเตรียมตัวไปสอบ IELTs  ในมุมที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาความรู้ที่ใช้สอบ
จากประสบการณ์ที่พาลูกไปสอบ IELTs ธรรมดาที่ไม่ใช่ UKVI ของ British Council  ร.ร.แลนด์มาร์ค สุขุมวิท
การสอบช่วงเช้า ที่เป็นข้อเขียน จะจัดสอบที่ ชั้น 7 ของโรงแรม สำหรับ IELTs ปกติ ส่วนสำหรับ IELTs UKVI จะจัดสอบที่ชั้น 9
การสอบช่วงบ่าย สอบ Speaking ส่วนใหญ่จะสอบที่ชั้น 3 ตามคิวที่ได้รับ
ควรไปถึงก่อน 8 โมงเช้า ไปถึงจะไปรวมอยู่ที่ห้องรอที่ชั้น 7 สำหรับ IELTs ปกติ ก่อนที่จะเรียกเข้าแถวไปทำเอกสาร

1.    เค้าจะติดประกาศว่า ได้ที่นั่งสอบเบอร์อะไร รวมทั้งมีผังที่นั่งสอบ ชื่อลำดับจะเรียงตามตัวอักษรคับ
        ถ้าหาไม่เจอ อาจมีการสลับของ ชื่อ กับนามสกุล คือเอานามสกุลขึ้นก่อน คนสอบจะต้องจำที่นั่งสอบ และแถวที่นั่ง

2.    สิ่งที่เอาเข้าห้องสอบได้ มีอย่างเดียวคือ เอกสารบัตรประชาชน หรือ passport  อย่างใดอย่างหนึ่ง เท่านั้น
        ตามที่ได้กรอกไว้ตอนสมัคร  และจะต้องถ่ายเอกสารด้วย อีกหนึ่งใบ ที่เซ็นรับรองยืนยันสำเนา
        สรุป มีของเข้าไป 2 ชิ้น คือ เอกสารตัวจริง กับ สำเนา
        ที่เหลือ  ห้าม  นำเข้าห้องสอบครับ ไม่ว่า นาฬิกา มือถือ กระเป๋าเงิน เหรียญที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง
        ที่เค้าให้อีกอย่างคือ  น้ำเปล่า แต่ขวดจะต้องใส และไม่มีตัวอักษร หรือแผ่นยี่ห้อ หรือ เอกสารใดหุ้ม
        แล้วของพวกนี้ จะเก็บอย่างไร เค้าจัดที่รับฝากของให้ครับ ซึ่งจะจัดให้ฝากก่อนที่จะตรวจค้นตัวเข้าไปทำเอกสาร แล้วเข้าห้องสอบ

3.    ควรจะเตรียมตัวเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย คือ ถ้าเริ่มเข้าห้องสอบแล้ว จะไม่ให้ออกมาเข้าห้องน้ำ จนกว่าประมาณ 10:20 น.
        ประเด็นคือ ชั้น 7 ที่ตรวจเอกสารและเข้าสอบไม่มีห้องน้ำให้เข้าครับ ต้องลงไปเข้าที่ชั้น 3 หรือที่ LOBBY ของโรงแรมครับ

4.    เค้าให้เรียกให้เข้าแถวประมาณ 8 โมง เพื่อเรียงคิว เข้าไปฝากของ ตรวจร่างกายมิให้นำสิ่งของที่ไม่อนุญาตเข้า
        แล้วถึงไปเรียงแถวตามแถวที่นั่งสอบ รอ ทำเอกสาร ถ่ายรูป แล้วเข้าห้องสอบ ซึ่งจะเริ่มสอบประมาณ 9 โมง
        ขั้นตอนนี้ยังไม่ต้องรีบเข้าแถวก้อได้ ยังสามารถวิ่งไปถ่ายเอกสาร หรือ ไปเข้าห้องน้ำได้ เพราะแถวจะยาว
        แล้วยังไงก้อต้องไปเข้าคิวตาม ROW ที่นั่งสอบ ทำประวัติ ก่อนที่จะเข้าห้องสอบ

5.    ถ้าลืมถ่ายเอกสารมา ร.ร.มีห้อง office staff ที่ชั้น 7 (ชั้นเดียวกัน) รับถ่ายเอกสารให้ ได้ยินว่า 30 บาท

6.    ถ้าเอารถยนต์ส่วนตัว สามารถเข้าไปจอดในที่จอดของโรงแรมได้เลย โดยทาง ร.ร.จะให้มี stamp วางไว้ที่หน้าห้อง
        สามารถจอดได้ทั้งวันฟรี แนะนำให้ที่ชั้น 7 ซึ่งตรงกับ ชั้นที่เค้าสอบข้อเขียนตอนเช้า
        และจอดที่ ชั้น 3 ชั้นที่สอบ speaking ตอนบ่าย

7.    สำหรับคนที่มารอ หลังจากคนสอบเข้าห้องสอบแล้ว ห้องที่นั่งรอเค้าจะปิดครับ คนรอต้องไปหาที่รอที่อื่นครับ
        ซึ่งจะมีที่นั่งที่ชั้น 7 บริเวณด้านซ้ายก่อนออกไปที่จอดรถ หรือ ชั้น 3 บริเวณด้านขวา ก่อนออกไปที่จอดรถ
        ไม่งั้นก็ต้องยืนรอตรงทางเดินของชั้นที่ 7 ซึ่งไม่มีเก้าอี้ให้นั่งรอครับ  
        หรือก็ไปธุระที่อื่นก่อนก็ได้แล้วใกล้ๆ เที่ยงค่อยมารอเจอต้องสอบข้อเขียนเสร็จ

8.    สอบเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้วครับ ส่วนการสอบ Speaking เริ่มประมาณ 12:40 น.
        ดังนั้นใครที่สอบลำดับแรกๆ แทบจะไม่ได้กินข้าวครับ
        ยิ่งถ้าเราต้องฝากของก่อนเข้าห้องสอบตอนเช้า ยังต้องเสียเวลาต่อคิวเอาของที่เราฝากคืนอีก

9.    คิวสอบ Speaking เค้าจะให้เป็น sticker แบะไว้ให้บนโต๊ะที่นั่งสอบ ซึ่งผู้สอบจะต้องนำออกมาด้วย หลังสอบเสร็จช่วงเช้า

10.    ที่กินมื้อเที่ยง ถ้าง่ายๆ ก้อ Mac ฝั่งตรงข้ามโรงแรมเลยครับ
        กินเสร็จกลับมารอสอบ Speaking ซึ่งจะจัดที่ชั้น 3 หรือชั้น 9  ตามที่เราได้
        ของลูกได้คิวตั้งแต่ 16:00 น. กินข้าวเสร็จประมาณ 13:30น. เข้ามาเค้าก็ให้เราลงทะเบียนสอบ Speaking ได้เลยครับ
        ไม่ต้องรอตามเวลาคิวที่ได้  หลังลงทะเบียนก็รอเรียกเข้าไปสอบ ได้สอบประมาณ 15:00น.

11.    พอเค้าเรียกให้ไปสอบ ก็ต้องไปแสกนนิ้วมือแล้วไปรอหน้าห้องที่เราจะสอบ
        ซึ่งขั้นตอนนี้ก็เหมือนตอนเช้าครับ เข้าสอบแบบตัวเปล่าๆ คือเอาของใดๆ ฝากไว้ที่ลงทะเบียน สอบเสร็จค่อยกลับมาเอาของคืน

12.    ผลประกาศจะส่งทางไปรษณีย์ แต่สามารถตรวจสอบได้ทางเวป
        วันที่ประกาศจะติดบอร์ดไว้หน้าที่ลงทะเบียนสอบ Speaking ตอนบ่ายครับ  

เห็นมีหลายคนมีปัญหาก่อนเข้าห้องสอบคือ
1.    จำไม่ได้ว่า ตัวเองใช้หลักฐานอะไรตอนสมัคร (บัตรประชาชน หรือ Passport)
2.    ไม่รู้ว่าจะต้องถ่ายสำเนาไปยื่นเข้าห้องสอบอีก หนึ่งใบ  (อย่าลืมเซ็นยินยันสำเนาด้วยนะจ๊ะ)
3.    ต้องใช้เอกสารตัวจริงด้วย

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ สำหรับมีความพร้อมเตรียมไปสอบ ถ้าข้อมูลไหนไม่ตรงช่วยแก้ไขด้วยครับ
ขอบคุณครับ