[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มี ไส้เดือน นะครับ

โลกของเราเต็มไปด้วยความสุดขั้วมากมาย สถานที่ที่สุดขั้ว สัตว์ที่สุดขั้ว แต่สัตว์บางชนิดก็สุดขั้วเหนือไปกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 สัตว์นักเกษตรกรที่มีวิธีการเพิ่มผลผลิตอย่างน่าพิศวงที่สุด

10. นกมิสเติลโท (Mistletoe bird) - Dicaeum hirundinaceum


การทำสวน อาจจะเป็นการทำงานที่หนักและเหนื่อย, จาก ขุดดิน ไป ใส่ปุ๋ย ลงต้น และ เก็บเกี่ยว ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะชอบให้มือเลาะแบบนั้น ในปัจจุบันเราเลยได้สร้างเครื่องจักรช่วยทำอะไรมากมาย
และแม้ว่าผู้แข่งขันของเราจะไม่มีเทคโนโลยีอันทรงปัญญาแบบนั้น มันก็ได้ค้นพบวิธีปลูกต้นไม้ที่แปลกประหลาดที่สุด จากการใช้ คอน (Perch) ที่อยู่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
นี่คือ ต้นมิสเติลโท

มันเป็น ต้นไม้กาฝาก ที่คู่รักมักจะมาจูบกันใต้ต้นนี้ในวันคริสต์มาส
เพียงแค่ใน ออสเตรเลีย ก็มีมิสเติลโท อยู่ประมาณ 90 สายพันธุ์แล้ว 
มันจะแทงรากเข้าไปในเปลือกไม้ของต้นไม้ใหญ่เพื่อแย่งน้ำและสารอาหาร
แต่ มันขึ้นไปอยู่บนสวนลอยฟ้านั้นแต่แรกได้ยังไง ?
คำตอบก็คือ สัตว์ที่บินเข้ามาสู่อันดับ 10 ของเรา, นกมิสเติลโท
นกจะเอาผลสีขาวออกมาจากเปลือก

และกินทีทั้งลูก

มันมีระบบขับถ่ายพิเศษที่ทำให้ เมล็ดพืชใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นสำหรับการผ่านจากปากไปสู่ก้นโดยไม่ได้รับอันตราย
และมันก็จะป้ายอึที่พร้อมเติบโตตรงจุดที่เหมาะสม

จากนั้นต้นอ่อนก็จะโตอย่างรวดเร็วและแทงรากไปแย่งสารอาหารในเวลาไม่นาน


9. ไส้เดือน (Earthworm)


ปุ๋ยหมัก (Compost) คือเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกร และ คนจำนวนมากก็สร้างของตัวเองด้วยการเอาวัตถุดิบอินทรีย์มารวมกันและปล่อยให้มันย่อยสลายไปอย่างช้าๆ ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่อันดับ 9 ของเราทำ และมันทำได้ดีกว่าเราเสียอีก
มันสร้างเครือข่ายรูโพรงอันซับซ้อนได้สวนของเรา ที่ทำให้อากาศไหลเวียนตามรากและช่วยระบายน้ำ, แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ มันมีความอยากอาหารที่ไม่รู้จักพอตลอด 24 ชั่วโมงทั้งวัน สำหรับพืชผักที่ตาย
ไส้เดือนจะออกจากโพรงมาลากใบไม้ ดอกไม้ ที่ตายบนพื้นจำนวนมากลงไปกินใต้ดิน และ ขับถ่ายอึที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อต้นไม้ ที่ประตูรับสารอาหารของต้นไม้
ไส้เดือน อาจจะเป็นราชาแห่งปุ๋ยหมัก แต่การเจริญเติบโตของต้นไม้ไม่ได้ต้องการเพียงแค่ปุ๋ย และ ในอันดับต่อๆไป เรามีสัตว์ที่ทำได้มากกว่านี้

8. ต่อดอกไม้ (Thynnid wasp)


กล้วยไม้ คือ พืชที่สวยงามและเต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งรูปร่างและสีสัน ซึ่งในการเกษตรกร เราก็ได้มีการผสมพันธุ์ข้ามดอก โดยการเอาเกสรจากดอกหนึ่งไปใส่ในไข่ของอีกดอก และนี่ไม่ใช่สิ่งที่มีแค่เราจะทำได้
ต่อดอกไม้ คือต่อประเภทหนึ่ง ที่ตัวเมียไม่มีปีก ดังนั้นเพื่อจะผสมพันธุ์ มันจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดของดอกไม้ และปล่อยฟีโรโมนเรียกให้ตัวผู้มารับขึ้นไปผสมพันธุ์กลางอากาศ
การหาตัวเมียนั้น ต่อตัวผู้ไม่ได้ใช้การมองหา แต่ใช้การดมกลิ่นเฉพาะ ซึ่งก็มีดอกไม้บางชนิดที่มีรุปร่างเหมือนตัวเมียและสร้างกลิ่นที่เหมือนกันได้ เช่น ดอกกล้วยไม้ค้อนแคระ (Dwarf hammer orchid)

ในขณะที่ตัวผู้พยายามจะดึงดอกไม้ที่มันคิดว่าเป็นตัวเมียออก มันก็เขย่าอย่างแรกจนเกสรติดเต็มตัวมันไปหมด และ เกสรจากดอกก่อนหน้าเข้าไปผสมกับไข่ได้มากมาย
การใช้ ต่อดอกไม้ คือ 1 ในวิธีการผสมพันธุ์ของพืชโดยใช้แมลง ที่มีความสำเร็จ (เกสรได้ผสมกับไข่) สูงที่สุด แต่ มันก้เป็นการเกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจจะผสมพันธุ์ให้ ไม่เหมือนอันดับต่อไปของเรา ที่ทำมันอย่างจริงจัง

7. ต่อมะเดื่อ (Fig wasp) - Superfamily Chalcidoidea


ในหมู่เกาะป่าฝน (Tropical islands) นั้นมีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เป็นเหมือน ต้นไม้แห่งชีวิตในคัมภีร์ไบเบิล, เป็นต้นไม้ที่ได้ให้อาหารแก่สัตว์ทุกชนิด 

อย่างไรก็ตาม ดอกไม้มันจะไม่สามารถผสมพันธุ์ได้เลย ถ้าไม่มีนักเกษตรกรตัวน้อยที่คลานเข้ามาสู่อันดับ 7 ของเรา, ต่อมะเดื่อตัวเมีย
มะเดื่อ (Fig) คือต้นไม้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ดอกไม้ของมันอยู่ในผล และผลก็มีการปิดทึบอย่างแทบจะสมบูรณ์แบบ

ที่ผลมีรูอยู่ 1 รูสำหรับให้ต่อตัวเมียเข้าไป รูนี้เล็กมากจนต่อจะต้องยอมเสียปีกเพื่อเข้าไปข้างใน
เมื่อต่อตัวเมียที่แบกเกสรมาด้วยเข้าไปถึงข้างในผลมะเดื่อที่ยังไม่สุก มันก็จะวางไข่
เมื่อผลสุก ไข่ตัวผู้จะฟักออกมาก่อน, ทันทีที่มันฝึกมันก็จะไปหาไข่ที่มีตัวเมียแล้วฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในไข่เลย จากนั้นก็ใช้อวัยวะสว่านพิเศษที่ก้นเจาะรูให้ตัวเมียออกไปข้างนอกได้ และ ตัวผู้ที่ไร้ปีกก็จะตายลงเมื่อหน้าที่เสร็จ
เมื่อตัวเมียที่ได้รับการผสมพันธุ์ออกมาจากไข่ มันก็จะไปเก็บเกสรดอกไม้และบินไปเริ่มวัฎจักรต่อไป

6. ยีราฟ (Giraffe) - Genus Giraffa


การตัดแต่งต้นไม้ (Pruning) คือสิ่งหนึ่งที่ชาวสวนมักจะทำเพื่อเพิ่มความสวยงาม ซึ่งในโลกของสัตว์ก็มีแบบนั้นเช่นกัน และ ไม่มีชนิดไหนทำได้ดีไปกว่า ยีราฟ
ยีราฟชอบกินต้นอะเคเซีย (Acacia)

และมันถอนใบออกมามากถึง 30 กิโลกรัมต่อวัน

มันมีลื้นที่หนามากจนไม่ได้รับอันตรายจากหนามเหล่านี้เลย
และ การที่มันมีรูปร่างเหมือนร่มได้นั้น ก็ต้องขอบคุณนักตัดแต่ง 4 ขาชนิดนี้


5. กอริลลา (Gorilla) - Genus Gorilla


กรงเลี้ยงกอริลลาในสวนสัตว์ส่วนใหญ่มีการสร้างป่าแอฟริกาจำลองขนาดใหญ่ แต่ กอริลลาเองก็เป็นชาวสวนเช่นกัน
ใน 1 วันกอริลลาตัวผู้ต้องการอาหารมังสวิรัติมากถึง 18 กิโลกรัม เพื่อให้เพียงพอสำหรับร่างกายที่หนัก 180 กิโลกรัม
มันสามารถกินพืชได้มากกว่า 200 สปีชีส์, แต่มันไม่ได้ตะกละอะไรขนาดนั้น
มันสามารถจำได้ว่ากินอะไรจากตรงไหนไปแล้วบ้าง ซึ่งในครั้งต่อไปมันจะไปจุดอื่นเพื่อให้จุดเก่าขยายพันธุ์ วนลูปไปเรื่อยๆ และการกินต้นไม้ก็เพื่อให้เมล็ดที่หย่อนลงไปนั้นได้รับแสงแดดเพียงพอ
แต่สัตว์น้ำหนักมากขนาดนี้ ก็ยังไม่เหนือไปกว่า จิงโจ้ที่ตัวเล็กที่สุดในโลก

4. จิงโจ้หมูชะมด (Musky rat-kangaroo, Hypsi) - Hypsiprymnodon moschatus


ป่าฝนในออสเตรเลีย คือบ้านของนักทำสวนที่อยู่ร่วมโลกมานานที่สุด
ด้วยการที่เผ่าพันธุ์มันดำรงมาถึง 15 ปี, ฮิปซี คือจิงโจ้ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังไม่สูญพันธุ์
ฮิปซี คือสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง (Marsupial) ขนาดเท่า หนูตะเภา (Guinea pig) ที่มีรูปร่างเหมือนทั้ง จิงโจ้ (Kangaroo) และ พอสซัม (Possum)
มันมีความชอบอย่างแรงใน ผลไม้ และมันก็มีนิสัยชอบขุดเก็บเสบียงใต้ดิน
ในช่วงฤดูหนึ่ง มันสามารถฝังผลไม้ลงดินมากถึง 700 ชนิดที่ต่างกัน
ฮิปซี ขี้ลืมอย่างมาก มันจำไม่ได้ว่าฝังไปตรงไหนบ้าง และบางทีผลไม้ที่ฝังไปก็อยู่ห่างจากต้นที่ไปเอามา (Parent tree) มากถึง 60 เมตร, และนี่ก็ทำให้มันมีโอกาสเติบโตที่สูงมาก จากการที่ไม่ต้องแย่ง พื้นที่ แสงแดด และ แร่ธาตุ กับ ต้นที่โตเต็มวัย
มีการศึกษาพบว่า การที่มันเอาผลไม้ออกไปไกลมากขนาดนั้นจากแหล่งที่เอามา นั้นคือความตั้งใจ เป็นการให้ป่าได้ผลิตผลพันธุ์อย่างรวดเร็วที่สุด และมันก็ขุดฝังลงดินอย่างตั้งใจด้วย และนี่ทำให้มันเองก็ขุดตัวเองลงไปสู่ อันดับ 4

3. ปลวก (Termite) - Infraorder Isoptera


มูลสัตว์ (Dung) ถูกนำมาทำเป็น ปุ๋ยคอก (Manure) อย่างช้านาน และนี่ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ อันดับ 3 ของเราใช้
ในแอฟริกา อึ ทำหน้าที่เป็นปุ๋ย (Fertilize) สำหรับสวนที่ป้อนอาหารให้กับคนงาน 5 ล้าน คน
ปลวก ดูจะไม่สามารถเป็นเกษตรกรได้ อีกอย่าง พืชอะไรจะไปโตที่ใจกลางอันมืดมิดของเนินปลวก 

ราชินีปลวก วางไข่มากถึง 15 ฟองต่อนาที และเธอไม่มีปัญหากับชีวิตมืดมิด แต่อุปสรรคเดียวก็คือ 5 ล้านกว่าปากท่หิวโหยเหล่านั้น ไม่สามารถย่อย เซลลูโลสไม้ จากพืชที่กินเข้าไป และนี่คือเหตุผลที่เธอจะผลิตตัวอ่อนที่จะกลายเป็น เกษตรกรที่ดีที่สุดในแอฟริกา 
เมื่อปลวกหาอาหาร (Foraging worker) กลับมาด้วยท้องที่เต็มไปด้วยพืชที่ถูกเคี้ยว มันก็จะไปห้องน้ำในสวนเห็ดรา 

เมื่อราย่อยเซลลูโลส ปลวกกินรา, และ สวนเห็ดราก็หนักได้มากกว่า 20 กิโลกรัม

2. แมงกะพรุน (Jellyfish) - Subphylum Medusozoa


มันมีพืชชนิดหนึ่งในหมู่เกาะของปาเลา (Palau) ที่มีการเคลื่อนที่อย่างแปลกประหลาดที่สุด และมันอยู่กับสัตว์ที่รวมเป็นฝูง (Swarm) เข้าสู่อันดับ 2
เรื่องราวเริ่มเมื่อประมาณ ล้านปีที่แล้ว เมื่อปะการังสูงขึ้นมาจนปิดทางเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีแมงกะพรุนจำนวนมาก 
แมงกะพรุนเหล่านี้ เป็น มังสวิรัติ และ ไม่มีเข็มพิษ

มันมีสาหร่ายขนาดจิ๋วจำนวนมากตามตัว, สาหร่ายเหล่านี้สร้าง น้ำตาล และ พลังงาน ให้กับทั้งตัวเองและแมงกะพรุน
และเพื่อตอบแทน แมงกะพรุนดูแลสาหร่ายตลอด 24 ชั่วโมง, เมื่อเป็นกลางวัน มันจะว่ายไปยังจุดที่ได้รับแสงแดดมากที่สุดในทะเลสาบ และ เมื่อเป็น กลางคืน มันจะดำดิ่งไปก้นพื้นเพื่อให้สาหร่ายได้รับ ไนเตรท (Nitrate) และ ฟอสเฟต (Phosphate)

1. มดมะนาวเหลือง (Lemon ant) - Myrmelachista schumanni


ลึกเข้าไปในป่าฝนอเมซอนที่เปรู มันมีบริเวณหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ สวนของปีศาจ (Devil's garden)

และนี่คือผลงานที่ปราศจากฝีมือมนุษย์ แต่คือสัตว์ที่รีบจ้ำอ้าว (Scurry) เข้ามาสู่อันดับ 1 ของเรา, มดมะนาว (Lemon ant)
มันสร้างรังอยู่ที่รากของต้นไม้ และ จะต่อกรกับผู้บุกรุกทุกประเภทไม้เว้นแม้แต่ต้นไม้ที่โตเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง
การจะกำจัดต้นอ่อน (Sapling) ที่โตในพื้นที่ให้หมดไปอย่างสิ้นซากนั้นยาก แต่ด้วยการที่ตัวมันมีอาวุธยาฆ่าวัชพืชที่แรงมากๆชนิดหนึ่ง มันก็สามารถทำให้ที่อยู่อาศัยมีเพียงแค่ พวกมัน และ ต้นไม้สปีชีส์หนึ่ง ได้อย่างถนัดมือ
มดมะนาวเหลือง เป็นอันดับ 1 เพราะมันสามารถสร้างที่โล่งที่ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 1,300 ตารางเมตร

---

จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=qMp16jOrII8