รอกันมานานนะครับ ในที่สุดภาค ๒ ก็ได้เวลาออกอากาศแล้ว ๑๘ พฤศจิกายนนี้
ภาคนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมคือ มีการดำเนินเรื่องสองยุคสมัย แต่เท่าที่ติดตาม ภาคนี้เกือบทั้งหมดน่าจะดำเนินในยุคอดีต ซึ่งคงถูกใจหลายๆคนที่ไม่ชอบเส้นเรื่องหรือตัวละครในยุคปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังกล่าวว่า เรื่องราวในภาคนี้จะมีการดำเนินเรื่องที่กระชับมากขึ้น (ไม่เยิ่นเย้อหรือเนิบนาบเหมือนภาคแรก) ก็น่าจะถูกใจหลายๆคนเช่นกัน... ส่วนตัวมองว่าทางทีมงานก็น่าจะฟังเสียงคนดูอยู่เหมือนกันนะ
ในแง่เนื้อเรื่องนั้น เนื่องจากมันต่อเนื่องมาจากภาคที่แล้ว ดังนั้นคงไปเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่ ขัดใจ คนรู้ประวัติศาสตร์ได้ยาก ตรงนี้ในฐานะคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์มาบ้าง อยากให้คนดูมองศรีอโยธยาในฐานะ ละครที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง และนำเสนอประวัติศาสตร์คู่ขนาน โดยเล่นกับคำว่า "ถ้า" (ถ้าเจ้าชายสุทัศน์ทรงเป็นหนุ่มในช่วงเวลานั้น และได้เป็นวังหน้า จะเป็นเช่นไร / ถ้าสมเด็จพระพันวสาน้อย ยังดำรงพระชนม์ชีพอยู่ จะเป็นอย่างไร ฯลฯ) ... ผมว่าจะทำให้การติดตามชมมีความสุขมากขึ้นนะ (ความเห็นส่วนตัว)
ศรีอโยธยา ภาค ๒ เริ่มตอนแรก ๑๘ พฤศจิกายนนี้
รอกันมานานนะครับ ในที่สุดภาค ๒ ก็ได้เวลาออกอากาศแล้ว ๑๘ พฤศจิกายนนี้
ภาคนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมคือ มีการดำเนินเรื่องสองยุคสมัย แต่เท่าที่ติดตาม ภาคนี้เกือบทั้งหมดน่าจะดำเนินในยุคอดีต ซึ่งคงถูกใจหลายๆคนที่ไม่ชอบเส้นเรื่องหรือตัวละครในยุคปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังกล่าวว่า เรื่องราวในภาคนี้จะมีการดำเนินเรื่องที่กระชับมากขึ้น (ไม่เยิ่นเย้อหรือเนิบนาบเหมือนภาคแรก) ก็น่าจะถูกใจหลายๆคนเช่นกัน... ส่วนตัวมองว่าทางทีมงานก็น่าจะฟังเสียงคนดูอยู่เหมือนกันนะ
ในแง่เนื้อเรื่องนั้น เนื่องจากมันต่อเนื่องมาจากภาคที่แล้ว ดังนั้นคงไปเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่ ขัดใจ คนรู้ประวัติศาสตร์ได้ยาก ตรงนี้ในฐานะคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์มาบ้าง อยากให้คนดูมองศรีอโยธยาในฐานะ ละครที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง และนำเสนอประวัติศาสตร์คู่ขนาน โดยเล่นกับคำว่า "ถ้า" (ถ้าเจ้าชายสุทัศน์ทรงเป็นหนุ่มในช่วงเวลานั้น และได้เป็นวังหน้า จะเป็นเช่นไร / ถ้าสมเด็จพระพันวสาน้อย ยังดำรงพระชนม์ชีพอยู่ จะเป็นอย่างไร ฯลฯ) ... ผมว่าจะทำให้การติดตามชมมีความสุขมากขึ้นนะ (ความเห็นส่วนตัว)