ควอซาร์ แสงลึกลับที่ขอบจักรวาล
เควซาร์ (quasar) เป็นคำย่อของคำว่า Quasistellar Radio Sources หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แหล่งกำเนิดของคลื่นวิทยุคล้ายกับดวงดาว ถูกค้นพบเมื่อทศวรรษที่ 1960 ด้วยกล้องโทรทรรศน์วิทยุ เริ่มแรกเควซาร์ไม่มีหลักฐานระบุแน่นอนว่าคืออะไร แต่จากที่นักดาราศาสตร์ได้สำรวจและค้นพบ เควซาร์คือวัตถุที่มีแสงสว่างเจิดจ้าเป็นอย่างมาก อยู่ห่างไกลจากโลกด้วยระยะทาง 100,000,000 ปีแสง หรือมีระยะทางมากกว่า 60,000,000 ไมล์ เคลื่อนที่ในอวกาศด้วยความเร็วสูงประมาณ 177,000 ไมล์ต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วเกือบเท่ากับแสง
เควซาร์อยู่ห่างไกลจากโลกเป็นอย่างมาก จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นวัตถุที่ก่อกำเนิดขึ้นในห้วงอวกาศ ในยุคของการเริ่มแรกแห่งยุคประวัติศาสตร์ของเอกภพ ซึ่งแสงเจิดจ้าที่ได้รับจากเควซาร์นี้ ได้เดินทางมาในห้วงอวกาศด้วยระยะเวลาหลายสิบล้านปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก เควซาร์อาจจะเดินทางในห้วงอวกาศมายาวนานก่อนที่โลกจะถือกำเนิดขึ้น
และจากการศึกษาล่าสุดของนักดาราศาสตร์ได้ระบุว่า เควซาร์คือวัตถุมวลขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับดาวฤกษ์ คือมีแสงสว่างในตัวเอง แต่เควซาร์แตกต่างจากดาวฤกษ์ตรงที่มีแสงสว่างมากกว่าถึง 1,000 เท่า และไม่สามารถระบุตำแหน่งในห้วงอวกาศได้อย่างแน่นอน เควซาร์อาจจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารใกล้เคียงกับระบบสุริยะของโลกหรือใหญกว่าเป็นหลายร้อยเท่า และหมุนด้วยความเร็วราว 153,000 ไมล์/วินาที (250,000 กิโลเมตร/วินาที) เควซาร์ อาจจะเป็นแกนของดาราจักรใหม่ที่กำลังก่อตัวอยู่ หรืออาจจะเป็นศูนย์กลางของหลุมดำก็ได้
Cr.
https://aomduen.wordpress.com
"ราชาแห่งดวงจันทร์"
8 ตุลาคม 2562 ทีมนักดาราศาสตร์สถาบันวิทยาศาสตร์คาร์เนกี ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยการค้นพบครั้งใหม่ว่า ดาวเสาร์มีดวงจันทร์บริวารที่มาโคจรอยู่รอบ ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 20 ดวง ส่งผลให้ดาวเสาร์มีดวงจันทร์บริวารรวม 82 ดวง มากที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ขึ้นแท่นเป็น "ราชาแห่งดวงจันทร์" จากแต่เดิมเป็นของดาวพฤหัสบดี ที่มีดวงจันทร์บริวาร 79 ดวง
ตามรายงานเผยว่า ดวงจันทร์บริวารดาวเสาร์ใหม่ที่พบทั้ง 20 ดวงนั้น มีขนาดใกล้เคียงกันอยู่ที่ประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ไมล์ หรือราว 5 กิโลเมตร แต่ในจำนวนนี้มี 17 ดวง โคจรถอยหลัง ซึ่งหมายความว่า พวกมันโคจรสวนทางกับการเคลื่อนที่ของดาวเสาร์และดวงจันทร์บริวารดวงอื่น ๆ
สก็อตต์ เชปพาร์ด และทีมนักดาราศาสตร์ ใช้กล้องโทรทรรศน์ซูบารุในฮาวาย ซึ่งเป็นหนึ่งในกล้องที่มีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนมากที่สุดของโลก ในการสำรวจค้นหาดวงจันทร์รอบดาวเคราะห์ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปีที่ผ่านมา ทางทีมได้ค้นพบดวงจันทร์บริวารดาวพฤหัสบดีใหม่ 12 ดวง และครั้งนี้ก็เป็นผลสำเร็จเช่นเดียวกัน ผลการค้นพบดังกล่าวมีบทบาทสำคัญช่วยบ่งชี้ให้เห็นว่า ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะมีการก่อตัวและพัฒนาอย่างไร
การค้นพบครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการดาราศาสตร์ โดยทางเว็บไซต์สถาบันวิทยาศาสตร์คาร์เนกี ได้เปิดให้ประชาชนชาวโลกได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เข้าแข่งขันตั้งชื่อดวงจันทร์บริวารดาวเสาร์ใหม่ทั้ง 20 ดวงนี้ โดยการทวีตชื่อที่แนะนำไปยังบัญชีทวิตเตอร์ @SaturnLunacy พร้อมบอกเหตุผล และอย่าลืมติดแฮชแท็ก #NameSaturnsMoons เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม - 6 ธันวาคม 2562
Cr.
https://hilight.kapook.com/
ปาก้อนหินในอวกาศ
หากมนุษย์อวกาศลองปาวัตถุอย่างเช่น ก้อนหิน ปาในอวกาศแล้วก้อนหินก้อนนั้นจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ในอวกาศไม่มีทั้งแรงลมหรืออะไรที่จะทำให้ก้อนหินเปลี่ยนทิศทาง ความเร็วก็เช่นกันก้อนหินจะคงความเร็วเท่าเดิมเหมือนกับตอนที่มันถูกขว้างมาและสามารถทะลุออกไปนอกจักรวาลได้
แต่เรื่องนี้ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน สิ่งที่จะทำให้ก้อนหินเปลี่ยนทิศทางนั้นก็คือแรงดึงดูดจากดวงดาวที่มันวิ่งผ่าน หากดาวที่ก้อนหินวิ่งผ่านมีแรงดึงดูดที่มากพอ หรือก้อนหินดันลอยเข้าไปใกล้กับดาวที่มีแรงดึงดูด พวกมันก็จะถูกดูดเข้าไปในวงโคจรและก็จะวนอยู่แบบนั้นจนกว่าจะสลายกลายเป็นฝุ่น แต่ถ้าจะทำให้ก้อนหินลอยลิ่วออกไปนอกระบบสุริยะ นักบินอวกาศจะต้องนั่งยานอวกาศไปปานอกทางช้างเผือกเพื่อที่จะไม่ถูกแรงโน้มถ่วงของศูนย์กลางมวลของจักรวาลดึงไม่ให้ออกไปไหน
Cr.SpokeDark.TV
สัญญาณลับจากอวกาศ
เมื่อเกิด fast radio bursts หรือ FRBs กล้องโทรทรรศน์ของโลกสามารถตรวจจับสัญญาณได้จะเกิดแสงสว่างวาบแค่เพียงมิลลิวินาที จากนั้นแสงสว่างจากการสัญญาณของกล้องนั้นจะหายไป โดยนักดาราศาสตร์ตรวจพบสัญญาณเหล่านี้หลายสิบครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเพิ่งประกาศว่าพวกเขาพบสัญญาณเหล่านี้ได้มากขึ้น และยังเป็นสัญญาณที่เกิดซ้ำๆ ซึ่งหาได้ยาก
เราไม่อาจทราบอย่างแน่ชัดได้ว่าสัญญาณเหล่านี้อยู่ที่ไหนหรือมาจากไหน? นี่คือข้อสันนิฐาน 5 ข้อ เกี่ยวกับสัญญาณลึกลับจากอวกาศนี้
1. การหมุนรอบตัวอย่างรวดเร็วจากดาวนิวตรอน ก่อนที่ดาวระเบิด และหายไป ประจุนิวตรอนในดวงดาวจะหมุนอย่างรวดเร็ว นักดาราศาสตร์คิดว่าสนามแม่เหล็กแรงสูงจากการหมุนวนนั้นอาจทำให้เกิดสัญญาณแปลก ๆ ได้
2. การปะทะกันระหว่างดวงดาวจากทฤษฎีของ Shriharsh Tendulkar นักดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัย McGill University in Montreal, Canada สถานการณ์นี้ใช้ได้กับสัญญาณ cosmic เท่านั้น ซึ่งจะเห็นเพียงครั้งเดียวจากกระบวนการที่ดาวฤกษ์ถูกทำลาย การระเบิดอย่างรวดเร็วของดาวฤกษ์จะเกิดสัญญาณ FRBs ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามสัญญาณที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในการเกิดสัญญาณ FRBs ขึ้นซ้ำๆ นั้นต้องหาข้ออธิบายที่ต่างกันออกไป
3. ปรากฏการณ์ “Blitzar”ปรากฏการณ์ “Blitzar” คือ ปรากฏการณ์ที่ดาวนิวตรอนหมุนตัวเองด้วยความเร็วไม่คงที่หรือช้าจนทำให้เกิดการยุบตัวจากหลุมดำเช่นกันกับการปะทะกันระหว่างดวงดาวปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเพราะเป็นกระบวนการที่ดวงดาวถูกทำลาย
4. หลุมดำ หลุมดำนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในหลาย ๆ ทฤษฎี ตั้งแต่ดาวนิวตรอนที่ตกลงไปในหลุมดำจนถึงหลุมดำที่ยุบตัวกันจนเป็นหลุมดำขนาดใหญ่
5. มนุษย์ต่างดาว ในขณะที่บางคนเชื่อว่าสัญญาณลึกลับนั้นเกิดจากธรรมชาติ แต่ยังมีข้อสันนิฐาน และคาดการณ์ว่าสัญญาณเหล่านี้เกิดจากกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตนอกโลก
Cr.
http://realmetro.com
‘Asgardia’ ประเทศในอวกาศ
ดูเหมือนความหวังของมนุษยชาติที่ต้องการใช้ชีวิตในอวกาศ จะเข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อมีการจัดตั้งประเทศในอวกาศขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีชื่อว่า “Asgardia” ภายใต้การก่อตั้งของ นาย Igor Ashurbeyli นักวิทยาศาสตร์และนักธุรกิจชาวรัสเซีย
Asgardia ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาความสงบสุขภายในโลกมนุษย์ที่อาจได้รับอันตรายจากอวกาศ เช่น อุกกาบาตพุ่งชน หรือกระทั่งสงครามอวกาศและมนุษย์ต่างดาวในอนาคต หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่นาย Igor Ashurbeyli และคณะผู้ก่อตั้งประเทศ Asgardia ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง 100% ในอนาคตข้างหน้า
ปัจจุบันบริษัทกำลังเปิดรับสมัครพลเมืองชาว Asgardia จำนวน 100,000 คน บนเว็บไซต์ asgardia.space โดยไม่กำหนดคุณสมบัติว่าจะต้องเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เชื้อชาติหรือสัญชาติใดๆ ทั้งสิ้น หลังปิดรับสมัครจะทำการคัดเลือกอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งอาจคัดเลือกจากกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาประเทศ เช่นกลุ่มนักธุรกิจ และนักวิทยาศาสตร์ เพื่อก่อตั้งประเทศในช่วงแรก
หากขั้นตอนก่อตั้งประเทศผ่านไปได้ด้วยดี คณะผู้ก่อตั้งมีแผนส่งพลเมืองชุดแรกขึ้นไปอาศัยในอวกาศภายในปี 2060 โดยโครงการจะเริ่มต้นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนขยายเป็นประเทศในอวกาศที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต แน่นอนว่าการก่อตั้งประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งในห้วงอวกาศยิ่งยากไปกันใหญ่ เพราะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมาย แต่ถึงยังไงก็ดีนาย Igor Ashurbeyli และคณะผู้ก่อตั้ง เชื่อมั่นว่าโครงการต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
Cr. SpokeDark.TV
ภัยร้ายในอวกาศจากรังสีคอสมิค (cosmic rays)
ในห้วงอวกาศนั้นเต็มไปด้วยรังสีพลังงานสูงที่เรียกว่ารังสีคอสมิค ซึ่งมาจากนอกระบบสุริยะ ส่วนมากเกิดจากการระเบิดของดาวฤกษ์ที่เรียกว่าซูเปอร์โนวามนุษย์โลกนั้นปลอดภัยเพราะโลกเรามีสนามแม่เหล็กที่คอยป้องกันรังสีคอสมิคเหล่านี้ แต่การไปอยู่บนดาวอังคารเป็นระยะเวลานานนั้นน่าเป็นห่วง เพราะรังสีคอสมิคอาจสร้างความเสียหายให้กับดีเอ็นเอและเซลล์ร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์สมองอาจเสียหายอย่างถาวร ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นคือ ความจำเสื่อม โรควิตกกังวล การตัดสินใจผิดปกติ จนถึงเกิดภาวะซึมเศร้า
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าปัญหานี้สามารถป้องกันได้ด้วยการสร้างเกราะป้องกันรังสีคอสมิค เพื่อให้มนุษย์อวกาศสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว
ความลับในอวกาศกว่า 99% อยู่ในหนัง 4 เรื่องนี้
อพอลโล 13 ผ่าวิกฤตอวกาศ (Apollo 13):
ภารกิจการเดินทางไปสำรวจดวงจันทร์จากทีมนักบินอวกาศที่บินไปกับยานอะพอลโล 13 จำต้องล้มเลิกกะทันหันเมื่อเกิดเหตุขัดข้องไม่คาดฝัน… แค่เอ่ยถึงชื่อยานก็รู้แล้วว่านี่คือภาพยนตร์เรื่อง“Apollo 13” ในตำนานนั่นเอง กับ 3 ชีวิตที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศจะหาทางกลับบ้านได้หรือไม่ ลุ้นระทึกไปกับพวกเขาได้เลย
กราวิตี้ มฤตยูแรงโน้มถ่วง (Gravity):
อีกหนึ่งความตื่นเต้นในอวกาศ สืบเนื่องจากผลกระทบการยิงทำลายดาวเทียมของรัสเซีย ส่งผลให้ยานอวกาศของ ดร.ไรอัน สโตนและทีมนักบินอวกาศเสียหาย ความวุ่นวายจึงบังเกิด ภาพยนตร์ที่สร้างแรงกดดันตลอดเรื่อง ที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดกับ “Gravity”
วันโลกาวินาศ (Armageddon):
ภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมอย่างสูงสุดกับ “Armageddon” เมื่อดาวหางขนาดใหญ่พุ่งตรงมายังโลก ภารกิจนี้จึงตกไปอยู่ในมือของหัวหน้าทีมนักขุดเจาะมือหนึ่งของโลก เขาและพวกพ้องจะต้องตะลุยอวกาศไปหาดาวหางดวงนั้นเพื่อระเบิดให้แตกออกเป็นสองเสี่ยง โดยที่พวกเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าตัวเองจะรอดปลอดภัยได้กลับมาบ้านหรือไม่
ทะยานดาวกู้โลก (Interstellar):
ที่สุดของภาพยนตร์อวกาศแห่งยุค คงไม่มีใครมองข้ามหนังเรื่องนี้ไปได้ “Interstellar” ภารกิจการเดินทางผ่านรูหนอน ที่ทำให้ได้พบกับความมหัศจรรย์แห่งห้วงจักรวาล ความคลาดเคลื่อนของเวลาที่มีความสำคัญทุกวินาที และการสื่อสารผ่านสัญญาณบางอย่างที่ยากเกินอธิบาย นี่คือความท้าทายสุดตื่นเต้น ที่ใช้ช่วงอายุขัยของทั้งชีวิตมาเป็นเดิมพัน
Cr.
https://board.postjung.com/966043
ความลี้ลับของอวกาศ
เควซาร์ (quasar) เป็นคำย่อของคำว่า Quasistellar Radio Sources หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แหล่งกำเนิดของคลื่นวิทยุคล้ายกับดวงดาว ถูกค้นพบเมื่อทศวรรษที่ 1960 ด้วยกล้องโทรทรรศน์วิทยุ เริ่มแรกเควซาร์ไม่มีหลักฐานระบุแน่นอนว่าคืออะไร แต่จากที่นักดาราศาสตร์ได้สำรวจและค้นพบ เควซาร์คือวัตถุที่มีแสงสว่างเจิดจ้าเป็นอย่างมาก อยู่ห่างไกลจากโลกด้วยระยะทาง 100,000,000 ปีแสง หรือมีระยะทางมากกว่า 60,000,000 ไมล์ เคลื่อนที่ในอวกาศด้วยความเร็วสูงประมาณ 177,000 ไมล์ต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วเกือบเท่ากับแสง
เควซาร์อยู่ห่างไกลจากโลกเป็นอย่างมาก จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นวัตถุที่ก่อกำเนิดขึ้นในห้วงอวกาศ ในยุคของการเริ่มแรกแห่งยุคประวัติศาสตร์ของเอกภพ ซึ่งแสงเจิดจ้าที่ได้รับจากเควซาร์นี้ ได้เดินทางมาในห้วงอวกาศด้วยระยะเวลาหลายสิบล้านปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก เควซาร์อาจจะเดินทางในห้วงอวกาศมายาวนานก่อนที่โลกจะถือกำเนิดขึ้น
และจากการศึกษาล่าสุดของนักดาราศาสตร์ได้ระบุว่า เควซาร์คือวัตถุมวลขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับดาวฤกษ์ คือมีแสงสว่างในตัวเอง แต่เควซาร์แตกต่างจากดาวฤกษ์ตรงที่มีแสงสว่างมากกว่าถึง 1,000 เท่า และไม่สามารถระบุตำแหน่งในห้วงอวกาศได้อย่างแน่นอน เควซาร์อาจจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารใกล้เคียงกับระบบสุริยะของโลกหรือใหญกว่าเป็นหลายร้อยเท่า และหมุนด้วยความเร็วราว 153,000 ไมล์/วินาที (250,000 กิโลเมตร/วินาที) เควซาร์ อาจจะเป็นแกนของดาราจักรใหม่ที่กำลังก่อตัวอยู่ หรืออาจจะเป็นศูนย์กลางของหลุมดำก็ได้
Cr.https://aomduen.wordpress.com
"ราชาแห่งดวงจันทร์"
8 ตุลาคม 2562 ทีมนักดาราศาสตร์สถาบันวิทยาศาสตร์คาร์เนกี ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยการค้นพบครั้งใหม่ว่า ดาวเสาร์มีดวงจันทร์บริวารที่มาโคจรอยู่รอบ ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 20 ดวง ส่งผลให้ดาวเสาร์มีดวงจันทร์บริวารรวม 82 ดวง มากที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ขึ้นแท่นเป็น "ราชาแห่งดวงจันทร์" จากแต่เดิมเป็นของดาวพฤหัสบดี ที่มีดวงจันทร์บริวาร 79 ดวง
ตามรายงานเผยว่า ดวงจันทร์บริวารดาวเสาร์ใหม่ที่พบทั้ง 20 ดวงนั้น มีขนาดใกล้เคียงกันอยู่ที่ประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ไมล์ หรือราว 5 กิโลเมตร แต่ในจำนวนนี้มี 17 ดวง โคจรถอยหลัง ซึ่งหมายความว่า พวกมันโคจรสวนทางกับการเคลื่อนที่ของดาวเสาร์และดวงจันทร์บริวารดวงอื่น ๆ
สก็อตต์ เชปพาร์ด และทีมนักดาราศาสตร์ ใช้กล้องโทรทรรศน์ซูบารุในฮาวาย ซึ่งเป็นหนึ่งในกล้องที่มีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนมากที่สุดของโลก ในการสำรวจค้นหาดวงจันทร์รอบดาวเคราะห์ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปีที่ผ่านมา ทางทีมได้ค้นพบดวงจันทร์บริวารดาวพฤหัสบดีใหม่ 12 ดวง และครั้งนี้ก็เป็นผลสำเร็จเช่นเดียวกัน ผลการค้นพบดังกล่าวมีบทบาทสำคัญช่วยบ่งชี้ให้เห็นว่า ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะมีการก่อตัวและพัฒนาอย่างไร
การค้นพบครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการดาราศาสตร์ โดยทางเว็บไซต์สถาบันวิทยาศาสตร์คาร์เนกี ได้เปิดให้ประชาชนชาวโลกได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เข้าแข่งขันตั้งชื่อดวงจันทร์บริวารดาวเสาร์ใหม่ทั้ง 20 ดวงนี้ โดยการทวีตชื่อที่แนะนำไปยังบัญชีทวิตเตอร์ @SaturnLunacy พร้อมบอกเหตุผล และอย่าลืมติดแฮชแท็ก #NameSaturnsMoons เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม - 6 ธันวาคม 2562
Cr. https://hilight.kapook.com/
ปาก้อนหินในอวกาศ
หากมนุษย์อวกาศลองปาวัตถุอย่างเช่น ก้อนหิน ปาในอวกาศแล้วก้อนหินก้อนนั้นจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ในอวกาศไม่มีทั้งแรงลมหรืออะไรที่จะทำให้ก้อนหินเปลี่ยนทิศทาง ความเร็วก็เช่นกันก้อนหินจะคงความเร็วเท่าเดิมเหมือนกับตอนที่มันถูกขว้างมาและสามารถทะลุออกไปนอกจักรวาลได้
แต่เรื่องนี้ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน สิ่งที่จะทำให้ก้อนหินเปลี่ยนทิศทางนั้นก็คือแรงดึงดูดจากดวงดาวที่มันวิ่งผ่าน หากดาวที่ก้อนหินวิ่งผ่านมีแรงดึงดูดที่มากพอ หรือก้อนหินดันลอยเข้าไปใกล้กับดาวที่มีแรงดึงดูด พวกมันก็จะถูกดูดเข้าไปในวงโคจรและก็จะวนอยู่แบบนั้นจนกว่าจะสลายกลายเป็นฝุ่น แต่ถ้าจะทำให้ก้อนหินลอยลิ่วออกไปนอกระบบสุริยะ นักบินอวกาศจะต้องนั่งยานอวกาศไปปานอกทางช้างเผือกเพื่อที่จะไม่ถูกแรงโน้มถ่วงของศูนย์กลางมวลของจักรวาลดึงไม่ให้ออกไปไหน
Cr.SpokeDark.TV
สัญญาณลับจากอวกาศ
เมื่อเกิด fast radio bursts หรือ FRBs กล้องโทรทรรศน์ของโลกสามารถตรวจจับสัญญาณได้จะเกิดแสงสว่างวาบแค่เพียงมิลลิวินาที จากนั้นแสงสว่างจากการสัญญาณของกล้องนั้นจะหายไป โดยนักดาราศาสตร์ตรวจพบสัญญาณเหล่านี้หลายสิบครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเพิ่งประกาศว่าพวกเขาพบสัญญาณเหล่านี้ได้มากขึ้น และยังเป็นสัญญาณที่เกิดซ้ำๆ ซึ่งหาได้ยาก
เราไม่อาจทราบอย่างแน่ชัดได้ว่าสัญญาณเหล่านี้อยู่ที่ไหนหรือมาจากไหน? นี่คือข้อสันนิฐาน 5 ข้อ เกี่ยวกับสัญญาณลึกลับจากอวกาศนี้
1. การหมุนรอบตัวอย่างรวดเร็วจากดาวนิวตรอน ก่อนที่ดาวระเบิด และหายไป ประจุนิวตรอนในดวงดาวจะหมุนอย่างรวดเร็ว นักดาราศาสตร์คิดว่าสนามแม่เหล็กแรงสูงจากการหมุนวนนั้นอาจทำให้เกิดสัญญาณแปลก ๆ ได้
2. การปะทะกันระหว่างดวงดาวจากทฤษฎีของ Shriharsh Tendulkar นักดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัย McGill University in Montreal, Canada สถานการณ์นี้ใช้ได้กับสัญญาณ cosmic เท่านั้น ซึ่งจะเห็นเพียงครั้งเดียวจากกระบวนการที่ดาวฤกษ์ถูกทำลาย การระเบิดอย่างรวดเร็วของดาวฤกษ์จะเกิดสัญญาณ FRBs ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามสัญญาณที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในการเกิดสัญญาณ FRBs ขึ้นซ้ำๆ นั้นต้องหาข้ออธิบายที่ต่างกันออกไป
3. ปรากฏการณ์ “Blitzar”ปรากฏการณ์ “Blitzar” คือ ปรากฏการณ์ที่ดาวนิวตรอนหมุนตัวเองด้วยความเร็วไม่คงที่หรือช้าจนทำให้เกิดการยุบตัวจากหลุมดำเช่นกันกับการปะทะกันระหว่างดวงดาวปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเพราะเป็นกระบวนการที่ดวงดาวถูกทำลาย
4. หลุมดำ หลุมดำนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในหลาย ๆ ทฤษฎี ตั้งแต่ดาวนิวตรอนที่ตกลงไปในหลุมดำจนถึงหลุมดำที่ยุบตัวกันจนเป็นหลุมดำขนาดใหญ่
5. มนุษย์ต่างดาว ในขณะที่บางคนเชื่อว่าสัญญาณลึกลับนั้นเกิดจากธรรมชาติ แต่ยังมีข้อสันนิฐาน และคาดการณ์ว่าสัญญาณเหล่านี้เกิดจากกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตนอกโลก
Cr.http://realmetro.com
‘Asgardia’ ประเทศในอวกาศ
ดูเหมือนความหวังของมนุษยชาติที่ต้องการใช้ชีวิตในอวกาศ จะเข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อมีการจัดตั้งประเทศในอวกาศขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีชื่อว่า “Asgardia” ภายใต้การก่อตั้งของ นาย Igor Ashurbeyli นักวิทยาศาสตร์และนักธุรกิจชาวรัสเซีย
Asgardia ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาความสงบสุขภายในโลกมนุษย์ที่อาจได้รับอันตรายจากอวกาศ เช่น อุกกาบาตพุ่งชน หรือกระทั่งสงครามอวกาศและมนุษย์ต่างดาวในอนาคต หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่นาย Igor Ashurbeyli และคณะผู้ก่อตั้งประเทศ Asgardia ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง 100% ในอนาคตข้างหน้า
ปัจจุบันบริษัทกำลังเปิดรับสมัครพลเมืองชาว Asgardia จำนวน 100,000 คน บนเว็บไซต์ asgardia.space โดยไม่กำหนดคุณสมบัติว่าจะต้องเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เชื้อชาติหรือสัญชาติใดๆ ทั้งสิ้น หลังปิดรับสมัครจะทำการคัดเลือกอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งอาจคัดเลือกจากกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาประเทศ เช่นกลุ่มนักธุรกิจ และนักวิทยาศาสตร์ เพื่อก่อตั้งประเทศในช่วงแรก
หากขั้นตอนก่อตั้งประเทศผ่านไปได้ด้วยดี คณะผู้ก่อตั้งมีแผนส่งพลเมืองชุดแรกขึ้นไปอาศัยในอวกาศภายในปี 2060 โดยโครงการจะเริ่มต้นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนขยายเป็นประเทศในอวกาศที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต แน่นอนว่าการก่อตั้งประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งในห้วงอวกาศยิ่งยากไปกันใหญ่ เพราะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมาย แต่ถึงยังไงก็ดีนาย Igor Ashurbeyli และคณะผู้ก่อตั้ง เชื่อมั่นว่าโครงการต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
Cr. SpokeDark.TV
ภัยร้ายในอวกาศจากรังสีคอสมิค (cosmic rays)
ในห้วงอวกาศนั้นเต็มไปด้วยรังสีพลังงานสูงที่เรียกว่ารังสีคอสมิค ซึ่งมาจากนอกระบบสุริยะ ส่วนมากเกิดจากการระเบิดของดาวฤกษ์ที่เรียกว่าซูเปอร์โนวามนุษย์โลกนั้นปลอดภัยเพราะโลกเรามีสนามแม่เหล็กที่คอยป้องกันรังสีคอสมิคเหล่านี้ แต่การไปอยู่บนดาวอังคารเป็นระยะเวลานานนั้นน่าเป็นห่วง เพราะรังสีคอสมิคอาจสร้างความเสียหายให้กับดีเอ็นเอและเซลล์ร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์สมองอาจเสียหายอย่างถาวร ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นคือ ความจำเสื่อม โรควิตกกังวล การตัดสินใจผิดปกติ จนถึงเกิดภาวะซึมเศร้า
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าปัญหานี้สามารถป้องกันได้ด้วยการสร้างเกราะป้องกันรังสีคอสมิค เพื่อให้มนุษย์อวกาศสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว
ความลับในอวกาศกว่า 99% อยู่ในหนัง 4 เรื่องนี้
อพอลโล 13 ผ่าวิกฤตอวกาศ (Apollo 13):
ภารกิจการเดินทางไปสำรวจดวงจันทร์จากทีมนักบินอวกาศที่บินไปกับยานอะพอลโล 13 จำต้องล้มเลิกกะทันหันเมื่อเกิดเหตุขัดข้องไม่คาดฝัน… แค่เอ่ยถึงชื่อยานก็รู้แล้วว่านี่คือภาพยนตร์เรื่อง“Apollo 13” ในตำนานนั่นเอง กับ 3 ชีวิตที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศจะหาทางกลับบ้านได้หรือไม่ ลุ้นระทึกไปกับพวกเขาได้เลย
กราวิตี้ มฤตยูแรงโน้มถ่วง (Gravity):
อีกหนึ่งความตื่นเต้นในอวกาศ สืบเนื่องจากผลกระทบการยิงทำลายดาวเทียมของรัสเซีย ส่งผลให้ยานอวกาศของ ดร.ไรอัน สโตนและทีมนักบินอวกาศเสียหาย ความวุ่นวายจึงบังเกิด ภาพยนตร์ที่สร้างแรงกดดันตลอดเรื่อง ที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดกับ “Gravity”
วันโลกาวินาศ (Armageddon):
ภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมอย่างสูงสุดกับ “Armageddon” เมื่อดาวหางขนาดใหญ่พุ่งตรงมายังโลก ภารกิจนี้จึงตกไปอยู่ในมือของหัวหน้าทีมนักขุดเจาะมือหนึ่งของโลก เขาและพวกพ้องจะต้องตะลุยอวกาศไปหาดาวหางดวงนั้นเพื่อระเบิดให้แตกออกเป็นสองเสี่ยง โดยที่พวกเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าตัวเองจะรอดปลอดภัยได้กลับมาบ้านหรือไม่
ทะยานดาวกู้โลก (Interstellar):
ที่สุดของภาพยนตร์อวกาศแห่งยุค คงไม่มีใครมองข้ามหนังเรื่องนี้ไปได้ “Interstellar” ภารกิจการเดินทางผ่านรูหนอน ที่ทำให้ได้พบกับความมหัศจรรย์แห่งห้วงจักรวาล ความคลาดเคลื่อนของเวลาที่มีความสำคัญทุกวินาที และการสื่อสารผ่านสัญญาณบางอย่างที่ยากเกินอธิบาย นี่คือความท้าทายสุดตื่นเต้น ที่ใช้ช่วงอายุขัยของทั้งชีวิตมาเป็นเดิมพัน
Cr.https://board.postjung.com/966043