pttgc ได้ประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวนหุ้น 50.00 ล้านหน่วย หรือ 3,000.00 ล้านบาท จะหยุดซื้อเมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งได้ครบจำนวน
บนสมมติฐานซื้อได้ครบ 3,000.00 ล้านบาท และ เต็มจำนวน 50.00 ล้านหน่วย เท่ากับราคาซื้อเฉลี่ยต่อหุ้น 3,000.00/50.00 = 60.00 บาทต่อหุ้น ในวันแรกซื้อหุ้นคืน 11/6/2562 เล่นระหว่าง 62.00 และ 63.00 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ย 60.00 บาท หลังจากนั้นราคาได้แกวงขึ้นสูงสุด 65.75 บาท เมื่อ 1/7/2562 หลังจากนั้นราคาในกระดานได้ไหลลง จนกกระทั่งวันที่รายครั้งแรก
ได้คืนมาแล้วจำนวน 400,000 หน่วย ด้วยจำนวนเงิน 20.50 ล้านบาท เฉลี่ย 51.25 นั้นแสดงว่าบริษัทไม่ได้ซื้อคืนระยะต้นซึ่งราคาในกระดาน >6x.xx
บาท หลังจากนั้นราคาได้แกว่งตัวลงมาปิดที่ 52.00 บาท เมื่อ 7/10/2562 ซึ่งบริษัทได้รายงานซื้อครังล่าสุด 1/10/2562
ได้ซื้อมาแล้วจำนวนหุ้น 900,000 หน่วย ด้วยจำนวนเง้น 46.875 ล้านบาท หรือ 52.08 บาท ได่บ่งบอกบริษัทไม่ได้ซื้อหุ้นคืนเมื่อราคาสูงๆ ได้เข้าซื้อเมื่อราคาได้ย่อตัวลงมา บนสันนิฐานข้อมูลนี้ บริษัทยังไม่ได้ได้ซื้อครบเต็มจำนวนเหลือ
สถิติซื้อหุ้นคืน
ก. จากจำนวน 50.00 หน่วย ได้ซื้อคืนมาเพียงเล็กน้อย 0.90 ล้านหน่วย เหลือ 50.00 - 0.90 = 49.10 ล้านหน่วย
ข. จากจำนวนเงิน 3,000.00 ล้านบาท ได้ใช้ไปเพียงเล็กน้อยเช่นกัน 3,000.00 - 48.875 = 2,951.125 ล้านหบาท
ค. เฉลี่ยหน่วยละ 2,951.125/49.10 = 60.10 บาทต่อหน่วย
ง. เหลือเวลาซื้อหุ้นคืนถึง 9/12/2562 ร่วมๆ 2 เดือน
ณ ราคาปิด 7/10/2562 ที่ 52.00 กับราคาเฉลี่ย 60.10 จะมีส่วนต่าง 8.10 บาท หรือ 15.57% ของราคา 52.00 มันก็น่าสนใจ ยกเว้นบริษัทไม่กดราคาเพื่อต้องถูกๆ ด้วยความเห็นส่วนตัวถ้าไม่โลภมากยังพอมี gap ให้เก็งกำไรช่วงเวลาที่เหลือ 2 เดือน ยกเว้นจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเท่านั้น
ด้วยความปรารถนาดี
PTTGC : เก็งกำไรระหว่างซื้อหุ้นคืน
pttgc ได้ประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวนหุ้น 50.00 ล้านหน่วย หรือ 3,000.00 ล้านบาท จะหยุดซื้อเมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งได้ครบจำนวน
บนสมมติฐานซื้อได้ครบ 3,000.00 ล้านบาท และ เต็มจำนวน 50.00 ล้านหน่วย เท่ากับราคาซื้อเฉลี่ยต่อหุ้น 3,000.00/50.00 = 60.00 บาทต่อหุ้น ในวันแรกซื้อหุ้นคืน 11/6/2562 เล่นระหว่าง 62.00 และ 63.00 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ย 60.00 บาท หลังจากนั้นราคาได้แกวงขึ้นสูงสุด 65.75 บาท เมื่อ 1/7/2562 หลังจากนั้นราคาในกระดานได้ไหลลง จนกกระทั่งวันที่รายครั้งแรก
ได้คืนมาแล้วจำนวน 400,000 หน่วย ด้วยจำนวนเงิน 20.50 ล้านบาท เฉลี่ย 51.25 นั้นแสดงว่าบริษัทไม่ได้ซื้อคืนระยะต้นซึ่งราคาในกระดาน >6x.xx
บาท หลังจากนั้นราคาได้แกว่งตัวลงมาปิดที่ 52.00 บาท เมื่อ 7/10/2562 ซึ่งบริษัทได้รายงานซื้อครังล่าสุด 1/10/2562
ได้ซื้อมาแล้วจำนวนหุ้น 900,000 หน่วย ด้วยจำนวนเง้น 46.875 ล้านบาท หรือ 52.08 บาท ได่บ่งบอกบริษัทไม่ได้ซื้อหุ้นคืนเมื่อราคาสูงๆ ได้เข้าซื้อเมื่อราคาได้ย่อตัวลงมา บนสันนิฐานข้อมูลนี้ บริษัทยังไม่ได้ได้ซื้อครบเต็มจำนวนเหลือ
สถิติซื้อหุ้นคืน
ก. จากจำนวน 50.00 หน่วย ได้ซื้อคืนมาเพียงเล็กน้อย 0.90 ล้านหน่วย เหลือ 50.00 - 0.90 = 49.10 ล้านหน่วย
ข. จากจำนวนเงิน 3,000.00 ล้านบาท ได้ใช้ไปเพียงเล็กน้อยเช่นกัน 3,000.00 - 48.875 = 2,951.125 ล้านหบาท
ค. เฉลี่ยหน่วยละ 2,951.125/49.10 = 60.10 บาทต่อหน่วย
ง. เหลือเวลาซื้อหุ้นคืนถึง 9/12/2562 ร่วมๆ 2 เดือน
ณ ราคาปิด 7/10/2562 ที่ 52.00 กับราคาเฉลี่ย 60.10 จะมีส่วนต่าง 8.10 บาท หรือ 15.57% ของราคา 52.00 มันก็น่าสนใจ ยกเว้นบริษัทไม่กดราคาเพื่อต้องถูกๆ ด้วยความเห็นส่วนตัวถ้าไม่โลภมากยังพอมี gap ให้เก็งกำไรช่วงเวลาที่เหลือ 2 เดือน ยกเว้นจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเท่านั้น
ด้วยความปรารถนาดี