+ + Contrast of Porsche ในความไม่ขาวไม่ดำของ ปอร์เช่ ศิวกร + +

.

Contrast of Porsche  ในความไม่ขาวไม่ดำของ ปอร์เช่ ศิวกร

นอกจากน้ำตาบนเวทีคอนเสิร์ตสุดท้ายของ 9x9 ในครั้งนั้น
ปอร์เช่ที่ฉันเห็นจากทุกช่องทางการสื่อสารเท่าที่ฉันจะใกล้ชิดเขาได้ ก็ไม่เคยแสดงด้านที่อ่อนไหวของตัวเองออกมาให้เห็นเลย มีแต่มุมอ่อนโยนของเขาที่มีต่อคนอื่นทั้งที่ใกล้ชิดและห่างไกลแต่ไม่ห่างกัน ภายใต้ท่าทีห้าวหาญ กร้าวแกร่ง สนุกสนาน ไม่ทุกข์ไม่ร้อน เบื้องหลังรอยยิ้มสดใสของเขา ย่อมมีช่วงเวลาที่อ่อนแอ ท้อแท้ กังวล ทุกข์ เศร้า เหมือนกับคนทั่วไป ในขณะที่บางคนเปิดเผยมุมเปราะบางของตัวเองออกมา เขาแทบไม่หันมุมหม่นตรมของตัวเองออกมาให้ใครได้สัมผัสสักเท่าไหร่หรืออาจจะไม่เลย . . . สิ่งที่เราไม่เห็นใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่

+  ใครๆ ต่างยก ความเป็นคนดี พ่อพระ เป็นสุภาพบุรุษให้เขา ในบางแง่มุมฉันพบความย้อนแย้งในตัวตนของเขาที่เมื่อประมวลความแล้วมันช่างเป็นความย้อนแย้งที่ต้องอมยิ้มเมื่อนึกถึง คนใกล้ชิดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเช่ค่อนข้างหัวร้อน แต่ทุกคนก็ไม่ปฏิเสธว่าเช่สุภาพ พูดเพราะและอ่อนโยนกับคนอื่นเสมอ
+  ดูเหมือนเช่จะไม่ติดเพื่อนหรือติดใครเป็นพิเศษ แต่เมื่อใดที่ใครสักคนต้องการความช่วยเหลือ เช่ก็อยู่ตรงนั้นเสมอ
+  ต่อให้ไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ ฉันก็ดูออกว่าเช่เป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องในชีวิตเขา จะเรื่องเล่นเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน มันอาจไม่ได้ดีที่สุดแต่มันต้องผิดพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่เช่จะสามารถ ความย้อนแย้งคือ ในความจริงจังกับทุกเรื่องราวนั้น มีเสียงหัวเราะแทรกอยู่ เช่ผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยเสียงหัวเราะเสมอ หลายครั้งเป็นเสียงหัวเราะของคนอื่นที่เช่เป็นคนทำให้มันเกิดขึ้น
+  เช่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องส่วนตัวเท่าเพื่อนๆ คนอื่น แต่เช่จะอวดอะไรๆ ที่เช่ชอบหรือคลั่งไคล้เสมอ เหมือนเช่อยากเล่าอยากคุยแต่ก็มีระยะ ห่างที่ทุกคนยอมรับ และยินดีจะยืนอยู่ ณ จุดนั้น
+  เช่ชอบเต้น เช่เป็นแร็ปเปอร์ มีความดุดันบนเวที เมื่อลงจากเวที เช่ชอบฟังเพลงคลาสสิก เช่เล่นเปียนโน แค่สองอย่างนี้ก็โรแมนติกมากแล้ว เช่ชอบอ่านการ์ตูนดูอะนิเมะ จ้ะจ้ะจ้า
+  ในโชว์ เช่ไม่อ้อนไม่อ่อย มีแต่ความท้าทาย หยอดบ้างเล็กน้อย  ในชีวิตจริง เช่โอ๋เก่งที่สุด

ในวัย 21 ปีของชายหนุ่มคนนี้ เขามีเป้าหมายและมุ่งมั่นไปบนเส้นทางที่เขารัก ทำในสิ่งที่เขารักอย่างเต็มที่ไปจนสุดทางทุกครั้ง ฉันถามตัวเองเพื่อให้ได้คำตอบที่แท้จริงว่าอะไรในความเป็นปอร์เช่ ศิวกร ที่ทำให้ฉันรักเขา

+  ความเป็นคนดีของเขาเหรอ – คนดีมีเยอะแยะไป
+  ความเก่งเหรอ – เขายังพูดเสมอว่าตัวเองยังไม่เก่งและเขาจะต้องทำให้ดีกว่านี้ขึ้นไปอีก
+  เพลงฮิปฮอปแร็ปเปอร์เหรอ – โอ้ย ไม่เคยอยู่ในความสนใจหรือ playlist ของฉันมาก่อนเลย
+  รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเหรอ – นั่นมันแค่เรื่องฉาบฉวยที่ไม่จีรังยั่งยืนหรอก

ความเก่ง ความดี หรือรูปสมบัติของเขาเป็นแค่สิ่งที่นำให้เราได้มาพบกันเท่านั้น
ไม่ว่าจะในฐานะ 9x9 ในฐานะนักแสดง ในฐานะ หน้ากากหลวิชัย หรือในฐานะแร็ปเปอร์ ศิลปินหน้าใหม่แห่งวง TRINITY

เหตุผลที่ฉันค้นพบและตอบตัวเองได้ว่าอะไรทำให้ฉันรักและอยากเป็นกำลังใจหนึ่งจุดเล็กๆ คอยสนับสนุนในทุกความฝันของเขาก็เพราะ ความเป็นตัวตนที่ไม่ขาวไม่ดำของเขา  เป็นตัวของตัวเอง  ความแตกต่างในบุคลิกของเขาเองที่มีความสมดุลย์   ทุกครั้งที่อยู่บนเวที เช่ที่สุภาพน่ารักเหมือนหนุ่มน้อยในวัยเดียวกันทั่วไปที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย กลับกลายร่างเป็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างเหลือร้าย การร้องการเต้นการแร็ป สะกดทุกสายตา แม้ในเวลาที่ไฟไม่ได้ส่องเขา เขาก็ไม่หยุดที่จะทำให้ทุกสายตาอยากจับจ้องไปที่เขาตลอดเวลา

เขาไม่ได้ทำโดยเอาความสุขของคนอื่นเป็นที่ตั้ง แต่เขามีความสุขที่ได้ทำสิ่งที่เขารัก เขาจึงทำมันอย่างมั่นใจ ผลของการได้ทำสิ่งที่รักอย่างมั่นใจและมีความสุข มันจึงกลายเป็นความสุขที่ทบทวี ความสุขที่สะท้อนกลับไปกลับมาอยู่ระหว่างเขาและเราคนดูที่จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเขาจากด้านล่างเวที

เมื่อมีคำถามว่า อะไรทำให้เขามายืนอยู่ในจุดนี้ ในฐานะศิลปินเต็มตัวอีกครั้งในนามวง TRINITY
ปอร์เช่ตอบกลับคำถามนี้ทันที่ . . . เพราะผมไม่ทอดทิ้งความฝัน 
ใช่แล้ว แม้จะมีบางช่วงเวลาที่ไฟฝันคล้ายจะมอดดับไป แต่เพราะเขาไม่ทอดทิ้งความฝัน จึงมีวันนี้ที่เราได้มาพบกัน แล้วเราจะไม่มีวันทอดทิ้งกัน

ไปให้สุดทางฝันนะเช่ เราจะไม่ไปยืนรอเช่ที่ปลายทาง แต่เราจะเดินไปด้วยกันตลอดเส้นทางนี้

อัลบั้มหน้า จะเต้นก็เต้นไป จะแร็ปก็แร็ปไป แต่ขอเพลงร้องเพราะๆ หลายๆ เพลงนะเช่นะ

รักกันต้องแสดงออก, your TWILIGHT 

.
.
.

Sivakorn Adulsuttikul  










credit photo to ig. noted (ภาพสุดท้าย)
และขอบคุณเจ้าของภาพทุกท่าน credit ในภาพค่ะ -/\-)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่