.
ทางเลือกอื่นของ นิชิโนะ ในวันที่ขาด ชนาธิป
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการบาดเจ็บของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดทัพของ อากิระ นิชิโนะ เพื่อรับมือกับสองเกมสำคัญทั้ง คองโก (อุ่นเครื่อง) รวมถึง สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่อาจส่งผลต่อเส้นทางของทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกได้
โดย กองกลางวัย 26 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ ระหว่างอบอุ่นร่างกาย ก่อนเกมที่ ต้นสังกัด บุกไปพ่าย กัมบะ โอซาก้า ถึง 5-0 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจากการประสานกับสโมสร และ พูดคุยกับ ชิรากิ โยเฮ เจ้าหน้าที่ประจำทีมชาติไทย คาดว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องใช้เวลาพักประมาณ 10-14 วัน ซึ่งไม่สามารถลงฝึกซ้อมได้ทันเวลา จึงตัดสินใจให้ถอนตัวในที่สุด
แม้จะไม่โดดเด่นสุดๆ ในสองเกมแรกกับ เวียดนาม และอินโดนีเซีย แต่อย่าลืมว่า การมี ชนาธิป อยู่ในสนาม ย่อมทำให้แนวรับคู่แข่งเกิดความ “กังวล” จนต้องเทกันไปประกบเพลย์เมคเกอร์จาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จนเกิดพื้นที่ว่างให้นักเตะไทยคนอื่นๆ เล่นได้ง่ายขึ้น กลายเป็นการเข้าทำที่หลากหลาย จนส่งให้เราบุกไปถล่ม อินโดนีเซีย ได้ในที่สุด
แต่ในเมื่ออุบัติเหตุทางฟุตบอลย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สิ่งที่ นิชิโนะ และทีมงานสต๊าฟต้องมาคิดกันต่อก็คือ ทีมชาติไทย จะเดินหน้าต่อไปอย่างไรกับแทคติกที่ไม่มี ชนาธิป อยู่ในสนาม
วันนี้เราจะมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน...
#เอกนิษฐ์กับบทบาทเพลย์เมคเกอร์ที่ถนัด
“เจ้าชายล้านนา” จากทัพกว่างโซ้งฯ พร้อมแล้วกับการออกสตาร์ทในฐานะ “เพลย์เมคเกอร์” ที่เจ้าตัวเคยเอ่ยมาว่า คือบทบาทที่เขาถนัดที่สุดยามวาดลวดลายบนผืนฟลอร์หญ้า เพราะหากเปรียบเทียบจุดต่อจุดแล้ว เอกนิษฐ์ มีทั้งความเร็ว การไปกับบอลที่ดี รวมถึงลูกจ่ายคิลเลอร์พาส และการจบสกอร์ที่คมกริบไม่ต่างไปจาก ชนาธิป มากสักเท่าไหร่
หาก นิชิโนะ มีความมั่นใจในตัวของ เอกนิษฐ์ เป็นทุนอยู่แล้ว ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่กุนซือเลือดซามูไรรายนี้จะไม่กล้าใส่ชื่อ “บุ๊ค” ลงในไลน์อัพ 11 ตัวจริง ด้วยการเป็นจอมทัพให้กับ “ช้างศึก” พร้อมกับวลีเด็ดที่ว่า “ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ”
#ยังมีสุภโชคอยู่
การออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ถอนตัวออกจากทีมชาติไทยของ สุภโชค สารชาติ คือหนึ่งในข่าวที่ดีที่สุดของทัพ “ช้างศึก” เลยก็ว่าได้ เพราะอย่าลืมว่า “เช็ค” ได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดของทีมชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พิสูจน์ได้จากผลงานตั้งแต่ศึกคิงส์ คัพ ต่อเนื่องมาจนถึงการพบกับ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา
จริงอยู่ที่ นิชิโนะ มักจะชอบจับ สุภโชค ไปยืนริมเส้นคอยอาศัยความเร็วเล่นงานแนวรับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการลากตัดเข้าใน หรือพาบอลเข้าไปปั่นป่วนในกรอบเขตโทษ หรือสุดเส้นหลัง แต่อย่าลืมว่า “เช็ค” ยังมีเซ้นส์ของการเป็นตัวปั้นเกมที่ดี และมีศักยภาพที่ดีพอที่จะรับไม้ต่อจาก ชนาธิป เพื่อเป็น “แม่ทัพ” ในเกมที่จะพบกับ ยูเออี เพราะด้วยความกล้าที่จะเล่น กล้าได้กล้าเสียกับการผ่านบอล ตลอดจนความขยัน และลูกดุดันตรงกลางสนาม หากเจ้าตัวอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เกินร้อย ไม่แน่ว่าคนที่จะมารับหน้าที่แทน ชนาธิป ในฐานะเพลย์เมคเกอร์ก็อาจจะเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า สุภโชค สารชาติ ก็เป็นได้ ดั่งที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมเป็นตัวเลือกของทีมชาติไทยนัดดวลกับ ยูเออี อย่างแน่นอน
“ตอนนี้ในแง่ความมั่นใจ ก็ถือว่าโอเคครับ ผมกำลังรู้สึกดี ที่มีโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง และทำประตูได้ด้วย ส่วนอาการบาดเจ็บ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ จริงอยู่ที่ตอนนี้ ยังไม่เต็มร้อย แต่ก็ยังมีเวลาอีกพอสมควรครับ และอีก 3-4 วัน ก็จะเริ่มกลับมาซ้อมได้แล้ว ยืนยันว่ายังอยู่ที่นี่กับทีมแน่นอนครับ”
“ผมอยากขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะอย่างที่บอก ทุกอย่างตอนนี้ กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ และผมพร้อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกของโค้ชในเกมวันที่ 15 ตุลาคมนี้ แน่นอน เหนือสิ่งอื่นใด ผมหวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาเชียร์เรากันเยอะๆ เพื่อเก็บ 3 แต้มให้ได้ครับ” กองกลางจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปิดท้าย
#ธีรศิลป์แดงดา #กับบทบาทใหม่ในยุคนิชิโนะ ?
คงไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าของสุดยอดกองหน้าแดนสยามอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ฟิตร่างกายได้ทันจนได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดนี้ แน่นอนว่า นิชิโนะ น่าจะมองเห็นถึงศักยภาพ และประสบการณ์ในตัวของ “มุ้ย” และบางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสในการลงเล่นให้กับทีมชาติไทย กับบทบาทใหม่ที่เชื่อว่า ธีรศิลป์ ทำได้อย่างแน่นอนนั่นคือ “เพลย์เมคเกอร์”
เพราะอย่าลืมว่า ธีรศิลป์ คือคนที่มีเทคนิคดีอยู่เป็นทุน เข้าใจ และปรับตัวกับการอ่านเกมในสนามได้เป็นอย่างดี เราจึงเคยเห็น ธีรศิลป์ ได้ลงเล่นในบทบาทอื่นๆ ยามอยู่ในสีเสื้อสโมสรทั้ง กองหน้าตัวต่ำคอยปั้นเกม, ตัวริมเส้น และศูนย์หน้าตัวพักบอล เรียกได้ว่ามีความหลากหลาย และจับทางยากเอาการ
เมื่อบวกกับบารมียี่ห้อ “เอล แดงดา” - “มุ้ยซัง” แน่นอน บางทีในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดัน นิชิโนะ อาจจะต้องการใครสักคนที่เต็มไปด้วยความนิ่ง ภาวะความเป็นผู้นำ และการอ่านเกมที่ขาด ลงยืนแทนที่ ชนาธิป ในแดนกลาง ซึ่งแน่นอน ธีรศิลป์ คือคนที่เพียบพร้อมในคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด
สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงเล่นเกมกระชับมิตรอย่างเป็นทางการ 1 นัด พบกับ ทีมชาติคองโก วันที่ 10 ตุลาคม 2562 ที่สนามบีจี ปทุม สเตเดียม ก่อนเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 3 กลุ่ม จี วันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทั้ง 2 แมตช์ เริ่มแข่งในเวลา 19.00 น. และถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32
#แบกเป้ดูบอลไทย by “เก้น นิติพงษ์”
ที่มา : เพจช้างศึก
"ช้างศึก...กับศึกใหญ่ ในวันที่ไร้ชนาธิป" (ทางเลือกอื่นของ นิชิโนะ ในวันที่ขาด ชนาธิป)
ทางเลือกอื่นของ นิชิโนะ ในวันที่ขาด ชนาธิป
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการบาดเจ็บของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดทัพของ อากิระ นิชิโนะ เพื่อรับมือกับสองเกมสำคัญทั้ง คองโก (อุ่นเครื่อง) รวมถึง สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่อาจส่งผลต่อเส้นทางของทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกได้
โดย กองกลางวัย 26 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ ระหว่างอบอุ่นร่างกาย ก่อนเกมที่ ต้นสังกัด บุกไปพ่าย กัมบะ โอซาก้า ถึง 5-0 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจากการประสานกับสโมสร และ พูดคุยกับ ชิรากิ โยเฮ เจ้าหน้าที่ประจำทีมชาติไทย คาดว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องใช้เวลาพักประมาณ 10-14 วัน ซึ่งไม่สามารถลงฝึกซ้อมได้ทันเวลา จึงตัดสินใจให้ถอนตัวในที่สุด
แม้จะไม่โดดเด่นสุดๆ ในสองเกมแรกกับ เวียดนาม และอินโดนีเซีย แต่อย่าลืมว่า การมี ชนาธิป อยู่ในสนาม ย่อมทำให้แนวรับคู่แข่งเกิดความ “กังวล” จนต้องเทกันไปประกบเพลย์เมคเกอร์จาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จนเกิดพื้นที่ว่างให้นักเตะไทยคนอื่นๆ เล่นได้ง่ายขึ้น กลายเป็นการเข้าทำที่หลากหลาย จนส่งให้เราบุกไปถล่ม อินโดนีเซีย ได้ในที่สุด
แต่ในเมื่ออุบัติเหตุทางฟุตบอลย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สิ่งที่ นิชิโนะ และทีมงานสต๊าฟต้องมาคิดกันต่อก็คือ ทีมชาติไทย จะเดินหน้าต่อไปอย่างไรกับแทคติกที่ไม่มี ชนาธิป อยู่ในสนาม
วันนี้เราจะมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน...
#เอกนิษฐ์กับบทบาทเพลย์เมคเกอร์ที่ถนัด
“เจ้าชายล้านนา” จากทัพกว่างโซ้งฯ พร้อมแล้วกับการออกสตาร์ทในฐานะ “เพลย์เมคเกอร์” ที่เจ้าตัวเคยเอ่ยมาว่า คือบทบาทที่เขาถนัดที่สุดยามวาดลวดลายบนผืนฟลอร์หญ้า เพราะหากเปรียบเทียบจุดต่อจุดแล้ว เอกนิษฐ์ มีทั้งความเร็ว การไปกับบอลที่ดี รวมถึงลูกจ่ายคิลเลอร์พาส และการจบสกอร์ที่คมกริบไม่ต่างไปจาก ชนาธิป มากสักเท่าไหร่
หาก นิชิโนะ มีความมั่นใจในตัวของ เอกนิษฐ์ เป็นทุนอยู่แล้ว ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่กุนซือเลือดซามูไรรายนี้จะไม่กล้าใส่ชื่อ “บุ๊ค” ลงในไลน์อัพ 11 ตัวจริง ด้วยการเป็นจอมทัพให้กับ “ช้างศึก” พร้อมกับวลีเด็ดที่ว่า “ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ”
#ยังมีสุภโชคอยู่
การออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ถอนตัวออกจากทีมชาติไทยของ สุภโชค สารชาติ คือหนึ่งในข่าวที่ดีที่สุดของทัพ “ช้างศึก” เลยก็ว่าได้ เพราะอย่าลืมว่า “เช็ค” ได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดของทีมชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พิสูจน์ได้จากผลงานตั้งแต่ศึกคิงส์ คัพ ต่อเนื่องมาจนถึงการพบกับ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา
จริงอยู่ที่ นิชิโนะ มักจะชอบจับ สุภโชค ไปยืนริมเส้นคอยอาศัยความเร็วเล่นงานแนวรับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการลากตัดเข้าใน หรือพาบอลเข้าไปปั่นป่วนในกรอบเขตโทษ หรือสุดเส้นหลัง แต่อย่าลืมว่า “เช็ค” ยังมีเซ้นส์ของการเป็นตัวปั้นเกมที่ดี และมีศักยภาพที่ดีพอที่จะรับไม้ต่อจาก ชนาธิป เพื่อเป็น “แม่ทัพ” ในเกมที่จะพบกับ ยูเออี เพราะด้วยความกล้าที่จะเล่น กล้าได้กล้าเสียกับการผ่านบอล ตลอดจนความขยัน และลูกดุดันตรงกลางสนาม หากเจ้าตัวอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เกินร้อย ไม่แน่ว่าคนที่จะมารับหน้าที่แทน ชนาธิป ในฐานะเพลย์เมคเกอร์ก็อาจจะเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า สุภโชค สารชาติ ก็เป็นได้ ดั่งที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมเป็นตัวเลือกของทีมชาติไทยนัดดวลกับ ยูเออี อย่างแน่นอน
“ตอนนี้ในแง่ความมั่นใจ ก็ถือว่าโอเคครับ ผมกำลังรู้สึกดี ที่มีโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง และทำประตูได้ด้วย ส่วนอาการบาดเจ็บ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ จริงอยู่ที่ตอนนี้ ยังไม่เต็มร้อย แต่ก็ยังมีเวลาอีกพอสมควรครับ และอีก 3-4 วัน ก็จะเริ่มกลับมาซ้อมได้แล้ว ยืนยันว่ายังอยู่ที่นี่กับทีมแน่นอนครับ”
“ผมอยากขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะอย่างที่บอก ทุกอย่างตอนนี้ กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ และผมพร้อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกของโค้ชในเกมวันที่ 15 ตุลาคมนี้ แน่นอน เหนือสิ่งอื่นใด ผมหวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาเชียร์เรากันเยอะๆ เพื่อเก็บ 3 แต้มให้ได้ครับ” กองกลางจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปิดท้าย
#ธีรศิลป์แดงดา #กับบทบาทใหม่ในยุคนิชิโนะ ?
คงไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าของสุดยอดกองหน้าแดนสยามอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ฟิตร่างกายได้ทันจนได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดนี้ แน่นอนว่า นิชิโนะ น่าจะมองเห็นถึงศักยภาพ และประสบการณ์ในตัวของ “มุ้ย” และบางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสในการลงเล่นให้กับทีมชาติไทย กับบทบาทใหม่ที่เชื่อว่า ธีรศิลป์ ทำได้อย่างแน่นอนนั่นคือ “เพลย์เมคเกอร์”
เพราะอย่าลืมว่า ธีรศิลป์ คือคนที่มีเทคนิคดีอยู่เป็นทุน เข้าใจ และปรับตัวกับการอ่านเกมในสนามได้เป็นอย่างดี เราจึงเคยเห็น ธีรศิลป์ ได้ลงเล่นในบทบาทอื่นๆ ยามอยู่ในสีเสื้อสโมสรทั้ง กองหน้าตัวต่ำคอยปั้นเกม, ตัวริมเส้น และศูนย์หน้าตัวพักบอล เรียกได้ว่ามีความหลากหลาย และจับทางยากเอาการ
เมื่อบวกกับบารมียี่ห้อ “เอล แดงดา” - “มุ้ยซัง” แน่นอน บางทีในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดัน นิชิโนะ อาจจะต้องการใครสักคนที่เต็มไปด้วยความนิ่ง ภาวะความเป็นผู้นำ และการอ่านเกมที่ขาด ลงยืนแทนที่ ชนาธิป ในแดนกลาง ซึ่งแน่นอน ธีรศิลป์ คือคนที่เพียบพร้อมในคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด
สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงเล่นเกมกระชับมิตรอย่างเป็นทางการ 1 นัด พบกับ ทีมชาติคองโก วันที่ 10 ตุลาคม 2562 ที่สนามบีจี ปทุม สเตเดียม ก่อนเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 3 กลุ่ม จี วันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทั้ง 2 แมตช์ เริ่มแข่งในเวลา 19.00 น. และถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32
#แบกเป้ดูบอลไทย by “เก้น นิติพงษ์”
ที่มา : เพจช้างศึก