สมาธิประหลาด2 ป่วยก่อนเขียน

ผมอายุ 54 แล้ว แต่รู้สึกว่าตัวเองแก่มากกว่านั้น
และผมตั้งใจว่าจะเขียนสมาธิประหลาด 2
เพื่อเล่ารายละเอียดก่อน ขณะ และหลัง
พร้อมข้อคิดเห็นเพิ่ม แต่ก็ชั่งใจไว้อยู่จนครบรอบปี
ที่ผมทำสมาธินั้น

ก็เกิดอาการป่วยหนัก (ไม่เคยป่วยถึงนอน รพ.มานับสิบปี)
ถึงกับเข้าห้องฉุกเฉิน แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
เลยอยากจะบันทึกเหตุการณ์ไ้ว้

มีหลายเรื่องทึ่ผุดขึ้นมาตอนที่ป่วย ที่น่าจะบันทึกไว้ด้วย แต่ตอนนี้ลืมๆ ไป ต้องทบทวนแล้วแก้ไขอีกที
จะลงพอคร่าวๆ

วันที่ 1 หลังป่วยจุกเกร็งกระเพราะ
มาหลายวัน ก็เข้า ฉุกเฉิน รพ.
และกลับบ้านหลังได้รับการฉีดยา และดีเหมือนหาย
(หลังจากนั่งสมาธิแบบไม่ได้ตั้งใจ)

รูปก่อนไป รพ.กลางดึก
หลังทานผัดกระเพราเห็ดเข้าไปจานใหญ่ตอนเที่ยง เพราะคิดว่าหายป่วยแล้วเกิดจุกเสียดจนเหงื่อซึมออกมามาก
แต่ใจยังสงบๆ ทนจนถึง 5 ทุ่ม ก็เข้า รพ. โดยขับรถไปเอง (บังเอิญน้องโทรมาพบว่าป่วย เลยจะบอกรถฉุกเฉินมารับ ผมอายเลยรีบขับไปเอง) และโชคดีมากที่ไป รพ. ทัน
เพราะผมมีอาหารสั่นไปทั้งตัว มากขึ้นๆ จนต้องจับเตียงเกร็งไว้ไม่ให้สั่น

ผมมาวิคราะห์ตอนหลัง คิดว่าเกิดจากกินยาผิด กินเกินขนาด เพราะขณะที่ปวดเกร็งเป็นเวลาดึกแล้ว
ยาลดกรด ยาธาตุน้ำขาวที่ซื้อมาหมด
แต่ยังไม่หาย เลยไปหายาสมุนไพรเก่าๆ ฉลากยาเลอะอ่านไม่ได้แล้ว เอามากินเป็นกำหลายสิบเม็ด เพราะหวังจะให้ผงยาไปช่วยดูดซับแก๊ส แต่กลายเป็นว่ากินยาเกินขนาด ทำให้เกิดอาการสั่น แขนขาสั่นตลอดเวลาหายใจสั้นๆหอบแรง แต่ยังมีสติ ใจสงบ พูดและให้ความร่วมมือกับหมอ
ดีมากทั้งการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 
การเอ็กซ์เรย์ โดยเอามือจับเหล็กกั้นเตียง และขายันกับเหล็กกั้นเตียง
บังคับไม่ให้สั่น

เมื่อคุณหมอให้ยาฉีดแล้ว ก็รออีกนานมาก แต่อาการสั่นลดลงบ้าง
นอนแทบไม่ได้เพราะจุดเสียด
สุดท้ายนั่งหลับตา เอามือจับขอบเตียงลดอาการสั่น นานเพียงใดไม่รู้
คุณหมอมาทักว่าหายแล้วเหรอ 
จึงลืมตา และพบว่าหายจุกเสียดและหายสั่นแล้ว กลับบ้านได้
ยิ้ม

แต่เช้าวันต่อมาถึงแม้จะรู้ว่าการสั่นเกิดจากสารพิษ และกำลังช็อคก็ไม่ยอมไปหาหมอและห้ามโทรเรียกฉุกเฉิน ให้ไปซื้อผงถ่านมาหวังจะให้ช่วยดูดซับสารพิษ แต่ก็ไม่ได้ทานจริงๆ ลูกเอาพารามาให้ทาน แต่
ประสาทหลอนเห็นเป็นผงถ่าน
ทานแล้วก็ข่มเวทนาหลับไป
เวลาเหมือนยาวนานมาก หลับๆตื่นๆ
รู้สึกดีขึ้น อาการสั่นหายไป
นึกว่าเป็นเวลาบ่าย ปรากฎว่าเพิ่งผ่านไป 4 ชม. ค้นถุงยาหาผงถ่านจะทานอีกก็ไม่เจอ งง. (ที่แท้ไม่มีอยู่ตั้งแต่แรก)


#


#

ภาพมืดๆนี้เกิดจากกล้องมือถือลั่นเอง
เลยนำมาบันทึกไว้เพราะมีข้อมูลเวลา
ที่อยู่ในโรงพยาบาล

วันที่ 2 เช้ามาอาการกำเริ่บหนัก แต่สติยังดี
ไม่ยอมไปหาหมอ แล้วข่มตาหลับไป ตื่นมารู้สึกดีขึ้น
    ตื่นมาเช้ามืดนึกว่าหาย แต่เพราะฤทธิ์ยาที่หมอฉีดหมดลง ลำไส้เริ่มทำงานดูดซึมเอาอาหารเก่าที่มีสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด
เกิดหนาวสั่น ต้องย้ายไปนอนห้องพระห่มผ้าหนา

วันที่ 3 ทรงๆ หลับตื่นๆ มาก็อ่านตอบกระทู้ (ฮา)

วันที่ 4 เช้ามาสดใส เหมือนจะหาย แต่ก็กำเริบอีกหลายครั้ง

ภาพวันที่4 นึกว่าหายแล้ว
เลยโชว์พาวแสดง รอยแผลไฟไหม้ที่เกิด
จากการช่วยดับไฟไหม้บ้านแม่ยาย
จนตนเองและลูกเกือบถูกไฟครอกตาย 
(เกิดไฟติดที่แขนเสื้อ และขาเกงกางบางส่วน)

วันที่ 5 วันนี้เช้ามาดี สายแย่ บ่ายแย่ เย็นดี คงหายแล้ว ตั้งกระทู้ได้
ยิ้ม
วันที่ 6 วันพระ 
หายแล้ว  ไปวัดทำบุญ
ทานกับข้าวที่เหลือจากพระแล้ว
ถ่ายรูปไว้หน่อย

ป่วยจนตาหม่นเลย
อนิจจัง  ทุกขัง อนัตตา

ปล. มีแก้ไขเพิ่มเติมอีก

(ต่อ) 
ตอนนี้หายป่วยแล้วหลังจากทำงานเป็น
สไปเดอร์แมน อาทิตย์แรกยังปวดท้องตอนดึก ต้องตื่นมากินยา 

เดาว่าเำราะได้ออกแรง ออกเหงื่อ ระบบลำไส้มีการเคลื่อนไหวมาก จึงหาย
สามารถทานอาหารได้มาก ตอนนี้กินข้าวเหนียวจำนวนมากได้ ไม่ปวดท้อง ท้องไม่ผูก รู้สึกแข็งแรงขึ้นมากๆ

สองสามสัปดาห์แรก มีการเจ็บหน้าอก
ไอเจ็บ หายใจแรงเจ็บตรงหน้าอกใกล้หัวใจ นึกว่าจะป่วยมาก แต่ฝืนทำงานและก็หายในที่สุด เดาว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ
ยิ้ม
ปัจจุบันแข็งแรงดีครับ พุงหาย กางเกงหลวม แต่น้ำหนักไม่ลด ไขมันลด กล้ามเนื้อเพิ่ม ทานอาหารได้ทุกชนิด ปีนที่สูงที่ยากได้สบายๆ

ยิ้ม
สมาธิประหลาด1
https://m.ppantip.com/topic/38691976
สมาธิประหลาด3
https://ppantip.com/topic/39505959/desktop
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่