สวัสดีค่า ^ _ ^ หลังจากห่างหายไปนานวันนี้เรามาพร้อมกับกระทูเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเอง ฉบับผู้หญิงคนเดียว ทริปนี้เราไปมาเมื่อปี 2018 ปลายเดือนมิถุนายน (จำได้ว่าเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นร้อนกว่าไทยมากกก)
ทริปนี้เราซื้อตั๋วเครื่องบิน + โรงแรมผ่านทาง Expedia ราคารวมกันประมาณ 15k บินไปกลับสายการบิน scoot ซึ่งทำเราลำบากมากถึงมากที่สุดเพราะหลังจากจองไป 1-2 เดือนก็มีเมล์บอกว่าขากลับมีการเปลี่ยนเส้นทางคือต้องไปต่อเครื่องที่เกาสง ไทเปก่อนเเล้วค่อยบินจากไทเปกลับมาดอนเมือง แม่เจ้าาาา เราใช้เวลาบินทั้งหมดเกือบ 10 ชั่วโมง ง่วงและเมื่อยมาก สาบานว่าชาตินี้จะลาขาด scoot เลย
Day 1: ป้ายกูลิโกะ - โดตมบูริ - ดอน ควิโจเต้ - ข้าวห่อไข่ Hokkoyokusei Honten
เราซื้อพาสรถไฟ Nankai Rapid train ไปกลับจาก HIS พอไปถึงก็แลกเอาตั๋วได้เลยและก็แวะเอาบัตร ICOCA ด้วย เราไปถึงเช็คอินที่โรงแรมก่อนเลย พักเเป๊บนึงก็ออกมาเดินเล่น ดูที่ทางแล้วก็แวะหาข้าวเย็นกิน
โรงแรมเราพักที่ Rihga Nakanoshima Inn อยู่ที่สถานี Higashi (Y12), Yodobashi Line ใช้ Exit 2 (บันได) หรือ Exit 10 (ลิฟท์) ซึ่งอยากแนะนำให้ทุกคนมาพักมากเพราะมันดีมากจริงๆ เราไม่ได้ถ่ายรูปบริเวณข้างเคียงมา แต่โรงแรมอยู่ติดสถานีแบบติดกันเลย แถมข้างๆ มี 7-Eleven อีกต่างหาก บริเวณโดยรอบก็ปลอดภัยดี เพราะเราลองเดินเล่นเเล้วปรากฎว่ามันมีเเต่ตึกทำงาน ผู้คนเดินไปเดินมา และที่สำคัญเดินทางจากสถานีไปที่ต่างๆ สะดวกมาก จำได้ว่าออกไปเที่ยวแล้วกลับมานอนพักแล้วออกไปใหม่ยังชิวๆ
Day 2: Universal Studio
เช้านี้ตั้งใจว่าจะเที่ยว Universal เราซื้อพาสจาก HIS แบบธรรมดามา เพราะกะว่าจะไปเเค่แฮรี่ก็ตายตาหลับละ แล้วก็คิดถูกจริงๆ ที่มีตั๋วแล้ว เพราะคิวต่อเเถวซื้อตั๋วค่อนข้างยาวเลย ไปถึงปั๊บเราก็ตรงดิ่งตามแผนที่ไปโซนเเฮรี่ก่อนเลย จากนั้นก็แวะช้อปนิดหน่อยก่อนไปโซนมินเนียน
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะไม่เล่นพวกเครื่องเล่นเลยเพราะไปคนเดียวน่าจะไม่สนุกเท่าไปหลายคนแต่เห็นเครื่องเล่นหลายอันแล้วต้องบอกว่าน่าเล่นกว่าที่ไทยมากกก แต่นั่นแหละพอดูแถวต่อสำหรับพาสธรรมดาแล้วก็ต้องรอประมาณชั่วโมงเกือบทุกเครื่อง เราเลยลองเล่นแค่ Flying dinosour อย่างเดียวพอ หลังจากรอคิวไปชั่วโมงก็ได้เล่นสมใจอยาก นี่ถ้าไม่ติดว่าอากาศร้อนจะไปต่ออีกเครื่องนึง แต่มันร้อนมากแบบไม่ไหวจริงๆ เลยต้องยอมแพ้กลับโรงแรม
การเดินทาง
เรานั่งรถไฟไปสถานี Nishiumeda > เดินไปสถานที Osaka ชานชาลา 1 JR Hanwa Line Rapid Service for Hineno > ลงที่สถานี Nishikujo เปลี่ยนขึ้น JR Yumesaki Line สาย Sakurajima > ลงที่สถานี Universal City
Day 3: Kyoto
วันนี้เราออกนอกเมืองไปที่เกียวโตเพราะอยู่ใกล้โอซาก้าดี
การเดินทาง
เริ่มต้นที่สถานีโอซาก้าจากนั้นเดินไปสถานีรถไฟ JR จากนั้นก็ตามป้ายไปเลยค่ะ เราขึ้นชานชาลา 8 JR Special Rapid Service for Maibara มีเรื่องให้ตื่นเต้นนิดนึงตรงที่ไปพอไปถึงสถานีแล้วต้องไปที่ชานชาลา มันตื่นเต้นก็ตรงที่ปกติจอ LED ที่จะบอกชานชาลาที่ให้รอ ปกติมันจะขึ้นสลับภาษาญี่ปุ่น / อังกฤษ แต่ที่นี่จำได้ว่าขึ้นเเต่ญี่ปุ่นค่ะคู้ณณณ มีภาษาอังกฤษขึ้นแบบถ้าไม่จ่อดูจะไม่สังเกตเลยเปลี่ยนเร็วมาก เลยกลัวว่าจะขึ้นผิดขบวนรึเปล่าโชคดีที่ทริปนี้ไม่หลงเลย
1. เดินเล่นย่านอาราชิยามะ: (วัดเทนริวจิ > ป่าไผ่ > ศาลเจ้าโนโนะมิยะ > สะพานโทเก็ทสึเคียว)
ออกจากสถานเกียวโต > นั่งรถไฟไปสถานี Saga-Arashiyama เดินไปตามที่ต่างๆ
2. วัดคิโยมิสุเดระ (เจดีย์ยาซากะ > เนินบันได > วัดคิโยมิสุเดระ > น้ำตกโอดะวะ: นั่งรถบัสสาย 110 หรือ 206 ขึ้นจากสถานีเกียวโต ลงจากป้ายปุ๊บก็ข้ามถนนไปตามเส้นทางท่องเที่ยวค่ะ
3. วัดเสาพันต้น: จากสถานีเกียวโตไปสถานี Inari เดินแป๊บนึงก็เจอะค่ะ
ขากลับก็นั่งรถไฟจาก JR เกียวโตไป Shin-Osaka
Day 4: เก็บตก, แวะกินข้าวแฮมเบิร์กที่ Bikkuri Donkey
วันนี้เรามีเวลาฟรีช่วงเช้าก่อนต้องไปขึ้นเครื่องตอนเที่ยง เลยคิดว่าจะไปเดินเล่นแถวที่พักหน่อย ดูวิถีชีวิตคนทำงานตอนเช้า เดินเล่นริมคลอง จากนั้นก็ไปช้อปเก็บตกและแวะทานแฮมเบิร์กที่ Bikkuri Donkey สาขาที่โดตมบุริก่อนนั่งรถไฟไปสนามบินค่ะ อยากจะไปกินทุกวันเลยเพราะว่ามันอร่อยมากและให้เยอะมาก แนะนำให้ลองเลยค่ะ
จบ 4 วัน 3 คืนแล้วว เราคิดว่าญี่ปุ่นเป็นอีกที่ที่ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวได้ ปลอดภัย ไม่น่ากลัว มีอะไรสนุกให้ดูตลอดจนไม่เหงาเลย แต่แนะนำว่าถ้าใครจะไปหลีกเลี่ยงไปช่วงหน้าร้อนดีกว่าค่ะ เพราะมันร้อนจนอาจจะหมดสนุกได้จริงๆ โดยส่วนตัวคิดว่าร้อนกว่าไทยอีกค่ะ ทริปหน้าจะไปไหนคนเดียวอีกอย่าลืมติดตามนะคะ
สำหรับกระทู้เก่าของเราลองไปดูได้ค่า
[CR] หญิงเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน 2017
https://ppantip.com/topic/36515125
[CR] หญิงเดี่ยวเที่ยวโอซาก้า 4 วัน 3 คืน 2018
ทริปนี้เราซื้อตั๋วเครื่องบิน + โรงแรมผ่านทาง Expedia ราคารวมกันประมาณ 15k บินไปกลับสายการบิน scoot ซึ่งทำเราลำบากมากถึงมากที่สุดเพราะหลังจากจองไป 1-2 เดือนก็มีเมล์บอกว่าขากลับมีการเปลี่ยนเส้นทางคือต้องไปต่อเครื่องที่เกาสง ไทเปก่อนเเล้วค่อยบินจากไทเปกลับมาดอนเมือง แม่เจ้าาาา เราใช้เวลาบินทั้งหมดเกือบ 10 ชั่วโมง ง่วงและเมื่อยมาก สาบานว่าชาตินี้จะลาขาด scoot เลย
Day 1: ป้ายกูลิโกะ - โดตมบูริ - ดอน ควิโจเต้ - ข้าวห่อไข่ Hokkoyokusei Honten
เราซื้อพาสรถไฟ Nankai Rapid train ไปกลับจาก HIS พอไปถึงก็แลกเอาตั๋วได้เลยและก็แวะเอาบัตร ICOCA ด้วย เราไปถึงเช็คอินที่โรงแรมก่อนเลย พักเเป๊บนึงก็ออกมาเดินเล่น ดูที่ทางแล้วก็แวะหาข้าวเย็นกิน
โรงแรมเราพักที่ Rihga Nakanoshima Inn อยู่ที่สถานี Higashi (Y12), Yodobashi Line ใช้ Exit 2 (บันได) หรือ Exit 10 (ลิฟท์) ซึ่งอยากแนะนำให้ทุกคนมาพักมากเพราะมันดีมากจริงๆ เราไม่ได้ถ่ายรูปบริเวณข้างเคียงมา แต่โรงแรมอยู่ติดสถานีแบบติดกันเลย แถมข้างๆ มี 7-Eleven อีกต่างหาก บริเวณโดยรอบก็ปลอดภัยดี เพราะเราลองเดินเล่นเเล้วปรากฎว่ามันมีเเต่ตึกทำงาน ผู้คนเดินไปเดินมา และที่สำคัญเดินทางจากสถานีไปที่ต่างๆ สะดวกมาก จำได้ว่าออกไปเที่ยวแล้วกลับมานอนพักแล้วออกไปใหม่ยังชิวๆ
Day 2: Universal Studio
เช้านี้ตั้งใจว่าจะเที่ยว Universal เราซื้อพาสจาก HIS แบบธรรมดามา เพราะกะว่าจะไปเเค่แฮรี่ก็ตายตาหลับละ แล้วก็คิดถูกจริงๆ ที่มีตั๋วแล้ว เพราะคิวต่อเเถวซื้อตั๋วค่อนข้างยาวเลย ไปถึงปั๊บเราก็ตรงดิ่งตามแผนที่ไปโซนเเฮรี่ก่อนเลย จากนั้นก็แวะช้อปนิดหน่อยก่อนไปโซนมินเนียน
ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะไม่เล่นพวกเครื่องเล่นเลยเพราะไปคนเดียวน่าจะไม่สนุกเท่าไปหลายคนแต่เห็นเครื่องเล่นหลายอันแล้วต้องบอกว่าน่าเล่นกว่าที่ไทยมากกก แต่นั่นแหละพอดูแถวต่อสำหรับพาสธรรมดาแล้วก็ต้องรอประมาณชั่วโมงเกือบทุกเครื่อง เราเลยลองเล่นแค่ Flying dinosour อย่างเดียวพอ หลังจากรอคิวไปชั่วโมงก็ได้เล่นสมใจอยาก นี่ถ้าไม่ติดว่าอากาศร้อนจะไปต่ออีกเครื่องนึง แต่มันร้อนมากแบบไม่ไหวจริงๆ เลยต้องยอมแพ้กลับโรงแรม
การเดินทาง
เรานั่งรถไฟไปสถานี Nishiumeda > เดินไปสถานที Osaka ชานชาลา 1 JR Hanwa Line Rapid Service for Hineno > ลงที่สถานี Nishikujo เปลี่ยนขึ้น JR Yumesaki Line สาย Sakurajima > ลงที่สถานี Universal City
Day 3: Kyoto
วันนี้เราออกนอกเมืองไปที่เกียวโตเพราะอยู่ใกล้โอซาก้าดี
การเดินทาง
เริ่มต้นที่สถานีโอซาก้าจากนั้นเดินไปสถานีรถไฟ JR จากนั้นก็ตามป้ายไปเลยค่ะ เราขึ้นชานชาลา 8 JR Special Rapid Service for Maibara มีเรื่องให้ตื่นเต้นนิดนึงตรงที่ไปพอไปถึงสถานีแล้วต้องไปที่ชานชาลา มันตื่นเต้นก็ตรงที่ปกติจอ LED ที่จะบอกชานชาลาที่ให้รอ ปกติมันจะขึ้นสลับภาษาญี่ปุ่น / อังกฤษ แต่ที่นี่จำได้ว่าขึ้นเเต่ญี่ปุ่นค่ะคู้ณณณ มีภาษาอังกฤษขึ้นแบบถ้าไม่จ่อดูจะไม่สังเกตเลยเปลี่ยนเร็วมาก เลยกลัวว่าจะขึ้นผิดขบวนรึเปล่าโชคดีที่ทริปนี้ไม่หลงเลย
1. เดินเล่นย่านอาราชิยามะ: (วัดเทนริวจิ > ป่าไผ่ > ศาลเจ้าโนโนะมิยะ > สะพานโทเก็ทสึเคียว)
ออกจากสถานเกียวโต > นั่งรถไฟไปสถานี Saga-Arashiyama เดินไปตามที่ต่างๆ
2. วัดคิโยมิสุเดระ (เจดีย์ยาซากะ > เนินบันได > วัดคิโยมิสุเดระ > น้ำตกโอดะวะ: นั่งรถบัสสาย 110 หรือ 206 ขึ้นจากสถานีเกียวโต ลงจากป้ายปุ๊บก็ข้ามถนนไปตามเส้นทางท่องเที่ยวค่ะ
3. วัดเสาพันต้น: จากสถานีเกียวโตไปสถานี Inari เดินแป๊บนึงก็เจอะค่ะ
ขากลับก็นั่งรถไฟจาก JR เกียวโตไป Shin-Osaka
วันนี้เรามีเวลาฟรีช่วงเช้าก่อนต้องไปขึ้นเครื่องตอนเที่ยง เลยคิดว่าจะไปเดินเล่นแถวที่พักหน่อย ดูวิถีชีวิตคนทำงานตอนเช้า เดินเล่นริมคลอง จากนั้นก็ไปช้อปเก็บตกและแวะทานแฮมเบิร์กที่ Bikkuri Donkey สาขาที่โดตมบุริก่อนนั่งรถไฟไปสนามบินค่ะ อยากจะไปกินทุกวันเลยเพราะว่ามันอร่อยมากและให้เยอะมาก แนะนำให้ลองเลยค่ะ
จบ 4 วัน 3 คืนแล้วว เราคิดว่าญี่ปุ่นเป็นอีกที่ที่ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวได้ ปลอดภัย ไม่น่ากลัว มีอะไรสนุกให้ดูตลอดจนไม่เหงาเลย แต่แนะนำว่าถ้าใครจะไปหลีกเลี่ยงไปช่วงหน้าร้อนดีกว่าค่ะ เพราะมันร้อนจนอาจจะหมดสนุกได้จริงๆ โดยส่วนตัวคิดว่าร้อนกว่าไทยอีกค่ะ ทริปหน้าจะไปไหนคนเดียวอีกอย่าลืมติดตามนะคะ
สำหรับกระทู้เก่าของเราลองไปดูได้ค่า
[CR] หญิงเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน 2017 https://ppantip.com/topic/36515125
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้