สวัสดีค่ะเมื่อวันที่ 21-24 ที่ผ่านมาเราได้ไปเที่ยวฮ่องกงมา เเต่ครั้งนี้จำใจไปคนเดียวเพราะเพื่อนว่างไม่ตรงกันเลย บางคนก็คิดว่าฮ่องกงไม่มีอะไร เเต่เราไปเจอตั๋วถูกโพดๆ ด้วยความงกเราเลยจองไว้เลย ไม่สนใจว่าใครไปได้ไปไม่ได้ 5555 ครั้งนี้เราไปกับ air asia ค่ะ ค่าตั๋ว 3500 ไปกลับ จองก่อนล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน ว่าเเล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าเราไปไหนมามั่ง ^^
อ้อลืมบอกไปก่อนมานี่เราโหลดเเอพ mtr HK กับ HK airport มา ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ทำให้ไม่หลง ส่วนเเผนที่การเดินทางในฮ่องกงเราปลื้มเเอพ maps.me มากๆๆๆ เเถมไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตด้วย อ่านเเมพนี้ไม่มีหลงเลยค่ะ ตรงข้ามกับ google map เราใช้ในไทยเวิร์คมากเเต่ใช้ที่ฮ่องกงใช้ได้เเบบกึ่งๆ ที่ไหนที่เราหาเเมพไม่ได้ใน maps.me เราถึงจะใช้ google map ค่ะ ทีนี้ก็เที่ยวได้สะดวกเลยไม่ต้องกางเเมพให้วุ่นวาย
Day 1 : Tsim Sha Tsui, Wong Tai Sin, Nanlian garden, Chilin nunnery, Mong Kok
- พอลงจากสนามบินฮ่องกงปุ๊บเราก็เดินตามทาง immigrant ไปเลยค่า อันนี้ง่ายๆ เพราะทุกคนต้องไปที่เดียวกัน สักพักก็จะถึงบันไดเลื่อนลงไปขึ้นรถไฟใต้ดินไป immigrant
อันนี้ต้องดูป้ายในขบวนรถนะคะจะมีบอกว่าตอนนี้ถึงไหนเเล้ว ตอนเราไปลงจุดที่ 2 ค่ะพอเสร็จเเล้วก็จะไปถึงด่านตม. เข้าตรงเเถว visitor นะคะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยจัดคิวให้ว่าใครจะต่อช่องไหน ของเราโชคดีมากได้ไปช่องที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงดูเซ็งๆ กับชีวิต เเกไม่ถามอะไรสักคำ รับสมุดไปปั๊มๆ ส่วนช่องข้างๆ เจ้าหน้าที่ถามคนไทยคนนึงหนักมาก ว่ามากับใคร พักที่ไหน กี่วัน พอผ่านด่านตม. มาได้ถ้าไม่มีกระเป๋าโหลดก็เดินออกไป arrival hall ได้เลยค่า พอออกไปปุ๊บ ก็เดินหา customer service center หรือจุดไหนก็ได้ที่ขาย airport express ถ้าใครอยากซื้อซิมก็สามารถหาซื้อได้ในชั้นนี้เลยค่ะ เราซื้อที่ 1010 ราคา 118HKD พอเสร็จละก็ออกไปเดินหาไปบอกทาง หาคำว่า to city
ก็จะเดินออกไป bus terminal จากนั้นก็มองหาที่จอดรถ A21 เข้าไปจิมซาจุ่ย ถึงตอนนี้อาจจะต้องหาข้อมูลมาก่อนว่าโรงเเรมเราต้องลงป้ายไหน ดูสถานีต่อไปได้จากป้ายไฟในรถได้เลยค่า ไม่ยาก พอเห็น next station ของเราก็กดกริ่งลงไปรอชั้นเเรกได้เลย
- พอถึงที่พัก เช็คอินปั๊บก็ออกเดินทางกันเลยค่า ที่เเรกที่จะไปก็คือวัด Wong Tai Sin (mtr ลงสถานี Wong Tai Sin exit B3) เดินทางด้วย mtr ซึ่งง่ายมากเพราะระบบคล้ายกับ mrt บ้านเราเลย ใครไปชัวร์เส้นทางก็ลองโหลดเเอพ mtr ของฮ่องกงมาจะมีรายละเอียดว่าใช้เวลากี่นาที ค่ารถ สถานีที่ผ่าน พอถึงทางออกเราก็เดินออกมาธรรมดาเลย ไม่หลงเเน่นอนเพราะพอขึ้นไปบนถนนก็จะเห็นหลังคาวัดรางๆ เเล้ว
- จากนั้นไป Nanlian garden กับวัดนางชี เดินกลับมาที่สถานีนั่งรถไฟหนึ่งสถานีไปลงสถานี diamond hill exit C2 พอออกมาก็เดินมองหาป้ายบอกทาง รู้สึกว่าต้องเดินอ้อมห้าง sun plaza ข้ามถนนจะเห็นประตูทางเข้าไม้ที่ดูญี่ปุ่นๆ หน่อยก็คือเราถึงเเล้วค่า ตัววัดนางชีจะอยู่ติดกับในสวนเลย ดูในเเผนที่ได้ไม่ยาก
- พอเสร็จละก็ลองมาเดินเล่นที่ sun plaza ดูค่าเพลินๆ ดี ก่อนกลับ
- จากนั้นก็ไปที่มงก๊กกัน ตั้งเป้าว่าจะไปถนนต้นไม้กับ line shop ให้ได้ ส่วนที่เหลือที่เดินผ่านถือว่าเดินเล่นเพลินๆ โดยรวมๆ เเล้วเราว่ามงก๊กเป็นย่านที่มีเสน่ห์มากเลย วันเเรกที่เราไปเดินผ่านร้านต้นไม้ ของกิน street food ร้านของเล่น เเต่มงก๊กกว้างมากเราเลยกลับไปวันที่ 3 อีกเเต่คราวนี้เดินเเถว lady market ให้อารมณ์เเบบสำเพ็งเลยค่ะ ละก็เดินหาอะไรกินเรื่อยเปื่อยก่อนกลับ ร้านของกินเฟรนไชส์อยู่เยอะดี
- เรื่องอาหารการกินวันเเรกตอนเที่ยวเรากิน Kfc ค่ะราคาชุดนึงถูกสุดประมาณ 41 HKD ตอนเย็นฝนตกเราเลยเดินมั่วไปกินบะหมี่ลูกชิ้นน้ำที่ Yuen Kee 36 HKD
Day 2 : Repulse Bay, Kwun Yam Temple, Tsim Sha Tsui area
- เช้านี้ฝนตกปรอยๆ เเต่เราว่าน่าจะไม่เป็นอะไรเลยออกเดินทางไปวัดเจ้าเเม่กวนอิมค่ะ เเต่ที่นี่ต้องไปทางรถบัส เราเลยนั่ง mtr ไปลงสถานี central exit A ตามป้าย Bus terminal ซึ่งพอออกจากสถานีเราก็ขึ้นสะพานลอยข้ามไปตึกฝั่งตรงข้าม จะพอมองเห็นตึกฝั่งตรงข้าม มีรถเมล์ออกมาจากชั้นใต้ดินที่ดูมีไฟส้มๆ นั่นเเหละค่ะจุดจอดรถ คราวนี้พอเห็นจากบนสะพานลอยละก็ทำยังไงก็ได้ให้เราลงไปอยู่ตรงจุดนั้นเเล้วรอขึ้นรถสาย 15 เราเเนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายค่ะ นั่งไปสัก 20 นาทีก็ใหให้เตรียมหาตึกที่มีรูตรงกลางอันโด่งดังนั่นเเหละค่ะ กดกริ่งลงเลย เเต่ไม่ต้องห่วงเพราะมันเป็นป้ายที่คนลงเเทบจะทั้งหมด ประเด็นคือพอลงไปเเล้ว พวกที่เหลือหายไปหมดเลย 55555 เเต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ข้ามถนนมาอีกฝั่งละเดินเลียบชายหาดไปเลย ถ้างงว่าไปทางไหนก็เปิด map ดูเลยค่ะ เเต่เราว่ายังไงก็ไม่หลง พยายามตามป้ายไป repulse bay ไว้ เดินเลียบๆ ไปสัก 10-15 นาทีก็จะถึงทางเข้าวัดค่ะ อาจจะเงียบเหงาสักหน่อยเพราะส่วนใหญ่คือมากับคณะทัวร์ ขากลับก็ขึ้นฝั่งตรงข้ามกับที่เรามาเลยค่ะ ละก็ลงไปง่ายๆ ที่ๆ เรามานั่นเเหละค่ะ
- กลับมาพักนิดนึงเเล้วก็ออกลุยต่อย่านจิมซาจุ่ยเลยค่ะ ที่เเรกที่เราไปคือสวนสาธารณะเกาลูน บรรยากาศร่มรื่นดีค่ะ ฝนตกปรอยๆ โรเเมนติกดี 5555 ภายในสวนจะมีป้ายให้ไป Hong Kong Heritage ภายในมีการจัดเเสดงวัตถุโบราณตั้งเเต่สมัยราชวงศ์เก่าเเก่เลยค่ะ ที่นี่เข้าฟรี อิอิ
- เสร็จจากนี้ก็ไปเดินตะลุยห้างกันเลยค่ะ ห้างเเรกที่ไปก็คือ silvercord ซึ่งตอนเเรกเราเข้าไปเเค่ไปกินข้าวที่ food republic หมดค่าข้าวห่อไข่ไป 50 HKD เเต่ร้านอื่นๆ ก็ราคา 50-60 up เลยค่ะ พอกินเสร็จเราก็มาเดินห้าง Ocean & harbor outlet ข้างในมี supermarket ด้วย ต่อมาก็คือห้าง silvercord ที่นี่เราไปเเวะ H&M ที่มีขายเครื่องสำอางค์ของเเบรนด์ด้วย จากนั้นจึงไปเดินห้าง China Hong Kong city in town outlets ซึ่งเราว่าไม่มีอะไร 55555 เเต่เห็นว่าชั้นบนเป็นที่ขายตั๋วเรือไปมาเก๊ารึยังไงเนี่ยเเหละค่ะ ต่อมาก็ไปเเวะห้าง sogo ที่นี่คนเยอะมากกกก โดยเฉพาะชั้นขายเครื่องสำอางค์เคาท์เตอร์เเบรนด์ เอาซะนึกว่าลดเเลกเเจกเเถม เดินจนเหนื่อยเราก็กลับมาพักที่ห้อง เเล้วออกไปกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาหมึกที่เรารับรองว่าอร่อยโพดๆ ที่ร้าน Kai Kee เสียไป 38 HKD ค่ะเเล้วก็เดินชิวๆ ไปดู symphany of light ซึ่งเริ่มตอน 20.00 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็จะมีคนเริ่มมาจับจองที่กันเเล้ว การเเสดงมีประมาณ 15 นาทีก็หมดค่ะ
Day 3: Central, Che Kung Temple
- วันนี้มาเเบบสบายๆ ค่ะเพราะเที่ยวไปเยอะจนหมดเเรงเเล้ว 55555
- ย่านนี้เราไม่ได้มีเเพลนเเน่นอนค่ะ เเค่กะว่าจะมาดูตึก ดูร้านค้าเเถวนั้นเลยตั้งว่าจะเดินตามเเมพไปหาข้าวเช้า เดินไปเดินมา ผ่านอะไรน่าสนใจมาเยอะมากเพราะหลงด้วย 5555 เเต่หลงไปหลงมา มาจบที่ร้าน Lan Fong Yuen เฉยเลยค่ะ เลยสั่งเซ็ทอาหารเช้ามากิน ราคาไม่เเพงด้วยค่ะ อร่อยใช้ได้ เสร็จเเล้วขากลับตั้งเป้าว่าจะเดินไปหา zoological เเต่หลงอีกค่ะ เดินไปเดินมาเจอตึกที่ทำการรัฐบาลกับ diary building เฉยเลยค่ะ ตึกสวยดีเเต่เฉยๆ ค่ะ อ้อลืมบอกว่าตอนออกจากสถานีขามา เดินไปไม่ไกลก็เจอโบสถ์ St. John Cathedral สวยเเบบคลาสสิกดีค่ะ
- ช่วงบ่ายออกมาเที่ยววัดกังหัน การเดินทางก็ไปทาง mtr ค่ะ ยุ่งยากนิดหน่อยตรงที่ต้องเปลี่ยนสถานีเยอะ เเละออกไปไกลพอสมควร พอออกจากสถานี che kung temple นี่นึกว่าอยู่เเถวบางนาเลยค่ะ 5555 เพราะเงียบมากเเละไม่มีคนลงเลย พอออกจากสถานีก็ข้ามถนน เดินลงไปทางเชื่อมใต้ดิน เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอวัดค่ะ ปล. ตรงทางเชื่อมใต้ดินค่อนข้างไม่มีคนเลย ไปคนเดียวต้องเดินระวังๆ หน่อยนะคะ พอถึงวัดปุ๊บก็ชัดเลยค่ะ เหมือนมีเเต่คนไทยไป 55555 มีป้ายภาษาไทยเรื่องปีชงด้วยค่ะ
Day 4: Citygate Outlet, Po Lin Temple, Big Buddha
- วันนี้พายุเข้าหนักเลยค่ะ มีฟ้าผ่าด้วย ขนาดเช็คเอาท์ออกมาตอน 11โมง ยังตกกระหน่ำ น้ำท่วมบางที่อีก ลำเค็ญจนคิดหนักเลยค่ะว่าจะไปวัดโปลินดีไม่ดี 55555 พอไปถึงห้างซิตี้เกทก็เลยไปฝากกระเป๋าก่อน ละก็เลยออกมาดูที่ป้ายรถสาย 23 ว่ามีคนบ้าไปเเบบเรามั้ย ถ้ามีก็จะลุยมั่ง ปรากฎว่ามีกลุ่มฝรั่งไปค่า เราเลยไปต่อคิวขึ้นรถเเบบไม่ลังเลเลย เอาไงเอากัน อ้อป้ายรถเมล์สาย 23 ไม่ได้จอดตรงที่จอดสาย S1 นะคะต้องเดินออกไปนอกห้างพอสมควร รถจะมาทุก 20 นาทีค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที สถานที่ให้เที่ยวก็จะมี ไหว้พระใหญ่ข้างบน ไปวัดโปลินด้านล่าง หมู่บ้านนองปิงฯลฯ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาอะไรไม่เจอเลยค่ะ เพราะมันเห็นได้ชัดมากว่าอะไรไปทางไหน ทีนี้ขากลับให้เดินเข้าไปในทางเข้าหมู่บ้านนองปิง เดินไปสักพักมองหาป้าย bus terminal จะมีทางออกไปหาป้ายรถเมล์ค่ะ ไม่ใช่ว่ารอตรงจุดที่ลงรถนา เดี๋ยวไม่ได้กลับ
- เสร็จจากวัดเเล้วก็กลับมาที่ citygate ต่อค่ะ เเล้วต้องไปซื้อรองเท้าใหม่ เราว่ารองเท้าที่ฮ่องกงไม่ได้ถูกมาก เเต่มีเเบบเยอะดี จากนั้นก็ไปเอากระเป๋าค่ะ เเต่ความพีคคือล็อกเกอร์เปิดไม่ได้ซะงั้น !!! เราอึ้งไปเลย 5555 เค้ามีเบอร์ hotline ให้โทรเเต่เราไม่รู้วิธีโทรหาเบอร์ฮ่องกง เลยอึ้งอยู่สักพัก คิดได้ว่าไปหา customer service counter ดีกว่า อย่างน้อยทุกห้างต้องมี เเล้วเค้าก็ช่วยโทรตามเจ้าหน้าที่ให้มาเปิดให้เราค่ะ รอเค้ามาสิบนาทีกว่า นานจนจิตตก 5555 ปรากฎว่าที่เปิดไม่ได้เพราะเราต้องมาต่อเวลาก่อนที่มันจะเกินเวลาที่เราจ่ายค่ะ ตอนเเรกเรานึกว่าฝากกระเป๋าละก็ปล่อยทิ้งไว้ค่อยมาจ่ายส่วนเกินซะอีก เลยเสียค่าปรับไปเยอะเลยค่ะ
- หมดปัญหาเเล้วก็ไปสนามบินด้วยสาย s1 เลยค่ะ ใช้เวลาเเค่สิบนาทีกว่าเอง พอลงจากรถเเล้วก็เดินเข้า terminal เเนะนำเลยค่ะว่าให้ไปคืนบัตร octopusเลย เพราะถ้าเข้าส่วน departure ไปเเล้วไม่มีที่รับคืนนะคะ เพราะเราลืมมาเเล้ว 5555 เราเลยเอาบัตรไปจ่ายค่าข้าวเย็นที่สนามบินเเล้วก็ซื้อพวกของใช้ทั่วไปจากร้าน manning ให้หมดบัตรไปเลย
ทีนี้ก็จบการผจญภัยของเราเเล้วค่ะ เราว่าฮ่องกงเป็นเมืองที่เที่ยวง่ายมาก ผู้หญิงสามารถเที่ยวคนเดียวได้เลยค่ะ อาจจะเหงาหน่อย เเต่ถ้าไปคนเดียวยังไงก็ต้องระวังนิดนึงค่ะ คราวหน้าถ้ามีโอกาสเราว่าจะเที่ยวเเนวธรรมชาติเห็นว่าฮ่องกงมีที่เที่ยวเยอะเลย ^^
[CR] หญิงเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน 2017
อ้อลืมบอกไปก่อนมานี่เราโหลดเเอพ mtr HK กับ HK airport มา ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ทำให้ไม่หลง ส่วนเเผนที่การเดินทางในฮ่องกงเราปลื้มเเอพ maps.me มากๆๆๆ เเถมไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตด้วย อ่านเเมพนี้ไม่มีหลงเลยค่ะ ตรงข้ามกับ google map เราใช้ในไทยเวิร์คมากเเต่ใช้ที่ฮ่องกงใช้ได้เเบบกึ่งๆ ที่ไหนที่เราหาเเมพไม่ได้ใน maps.me เราถึงจะใช้ google map ค่ะ ทีนี้ก็เที่ยวได้สะดวกเลยไม่ต้องกางเเมพให้วุ่นวาย
Day 1 : Tsim Sha Tsui, Wong Tai Sin, Nanlian garden, Chilin nunnery, Mong Kok
- พอลงจากสนามบินฮ่องกงปุ๊บเราก็เดินตามทาง immigrant ไปเลยค่า อันนี้ง่ายๆ เพราะทุกคนต้องไปที่เดียวกัน สักพักก็จะถึงบันไดเลื่อนลงไปขึ้นรถไฟใต้ดินไป immigrant
อันนี้ต้องดูป้ายในขบวนรถนะคะจะมีบอกว่าตอนนี้ถึงไหนเเล้ว ตอนเราไปลงจุดที่ 2 ค่ะพอเสร็จเเล้วก็จะไปถึงด่านตม. เข้าตรงเเถว visitor นะคะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยจัดคิวให้ว่าใครจะต่อช่องไหน ของเราโชคดีมากได้ไปช่องที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงดูเซ็งๆ กับชีวิต เเกไม่ถามอะไรสักคำ รับสมุดไปปั๊มๆ ส่วนช่องข้างๆ เจ้าหน้าที่ถามคนไทยคนนึงหนักมาก ว่ามากับใคร พักที่ไหน กี่วัน พอผ่านด่านตม. มาได้ถ้าไม่มีกระเป๋าโหลดก็เดินออกไป arrival hall ได้เลยค่า พอออกไปปุ๊บ ก็เดินหา customer service center หรือจุดไหนก็ได้ที่ขาย airport express ถ้าใครอยากซื้อซิมก็สามารถหาซื้อได้ในชั้นนี้เลยค่ะ เราซื้อที่ 1010 ราคา 118HKD พอเสร็จละก็ออกไปเดินหาไปบอกทาง หาคำว่า to city
ก็จะเดินออกไป bus terminal จากนั้นก็มองหาที่จอดรถ A21 เข้าไปจิมซาจุ่ย ถึงตอนนี้อาจจะต้องหาข้อมูลมาก่อนว่าโรงเเรมเราต้องลงป้ายไหน ดูสถานีต่อไปได้จากป้ายไฟในรถได้เลยค่า ไม่ยาก พอเห็น next station ของเราก็กดกริ่งลงไปรอชั้นเเรกได้เลย
- พอถึงที่พัก เช็คอินปั๊บก็ออกเดินทางกันเลยค่า ที่เเรกที่จะไปก็คือวัด Wong Tai Sin (mtr ลงสถานี Wong Tai Sin exit B3) เดินทางด้วย mtr ซึ่งง่ายมากเพราะระบบคล้ายกับ mrt บ้านเราเลย ใครไปชัวร์เส้นทางก็ลองโหลดเเอพ mtr ของฮ่องกงมาจะมีรายละเอียดว่าใช้เวลากี่นาที ค่ารถ สถานีที่ผ่าน พอถึงทางออกเราก็เดินออกมาธรรมดาเลย ไม่หลงเเน่นอนเพราะพอขึ้นไปบนถนนก็จะเห็นหลังคาวัดรางๆ เเล้ว
- จากนั้นไป Nanlian garden กับวัดนางชี เดินกลับมาที่สถานีนั่งรถไฟหนึ่งสถานีไปลงสถานี diamond hill exit C2 พอออกมาก็เดินมองหาป้ายบอกทาง รู้สึกว่าต้องเดินอ้อมห้าง sun plaza ข้ามถนนจะเห็นประตูทางเข้าไม้ที่ดูญี่ปุ่นๆ หน่อยก็คือเราถึงเเล้วค่า ตัววัดนางชีจะอยู่ติดกับในสวนเลย ดูในเเผนที่ได้ไม่ยาก
- พอเสร็จละก็ลองมาเดินเล่นที่ sun plaza ดูค่าเพลินๆ ดี ก่อนกลับ
- จากนั้นก็ไปที่มงก๊กกัน ตั้งเป้าว่าจะไปถนนต้นไม้กับ line shop ให้ได้ ส่วนที่เหลือที่เดินผ่านถือว่าเดินเล่นเพลินๆ โดยรวมๆ เเล้วเราว่ามงก๊กเป็นย่านที่มีเสน่ห์มากเลย วันเเรกที่เราไปเดินผ่านร้านต้นไม้ ของกิน street food ร้านของเล่น เเต่มงก๊กกว้างมากเราเลยกลับไปวันที่ 3 อีกเเต่คราวนี้เดินเเถว lady market ให้อารมณ์เเบบสำเพ็งเลยค่ะ ละก็เดินหาอะไรกินเรื่อยเปื่อยก่อนกลับ ร้านของกินเฟรนไชส์อยู่เยอะดี
- เรื่องอาหารการกินวันเเรกตอนเที่ยวเรากิน Kfc ค่ะราคาชุดนึงถูกสุดประมาณ 41 HKD ตอนเย็นฝนตกเราเลยเดินมั่วไปกินบะหมี่ลูกชิ้นน้ำที่ Yuen Kee 36 HKD
Day 2 : Repulse Bay, Kwun Yam Temple, Tsim Sha Tsui area
- เช้านี้ฝนตกปรอยๆ เเต่เราว่าน่าจะไม่เป็นอะไรเลยออกเดินทางไปวัดเจ้าเเม่กวนอิมค่ะ เเต่ที่นี่ต้องไปทางรถบัส เราเลยนั่ง mtr ไปลงสถานี central exit A ตามป้าย Bus terminal ซึ่งพอออกจากสถานีเราก็ขึ้นสะพานลอยข้ามไปตึกฝั่งตรงข้าม จะพอมองเห็นตึกฝั่งตรงข้าม มีรถเมล์ออกมาจากชั้นใต้ดินที่ดูมีไฟส้มๆ นั่นเเหละค่ะจุดจอดรถ คราวนี้พอเห็นจากบนสะพานลอยละก็ทำยังไงก็ได้ให้เราลงไปอยู่ตรงจุดนั้นเเล้วรอขึ้นรถสาย 15 เราเเนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายค่ะ นั่งไปสัก 20 นาทีก็ใหให้เตรียมหาตึกที่มีรูตรงกลางอันโด่งดังนั่นเเหละค่ะ กดกริ่งลงเลย เเต่ไม่ต้องห่วงเพราะมันเป็นป้ายที่คนลงเเทบจะทั้งหมด ประเด็นคือพอลงไปเเล้ว พวกที่เหลือหายไปหมดเลย 55555 เเต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ข้ามถนนมาอีกฝั่งละเดินเลียบชายหาดไปเลย ถ้างงว่าไปทางไหนก็เปิด map ดูเลยค่ะ เเต่เราว่ายังไงก็ไม่หลง พยายามตามป้ายไป repulse bay ไว้ เดินเลียบๆ ไปสัก 10-15 นาทีก็จะถึงทางเข้าวัดค่ะ อาจจะเงียบเหงาสักหน่อยเพราะส่วนใหญ่คือมากับคณะทัวร์ ขากลับก็ขึ้นฝั่งตรงข้ามกับที่เรามาเลยค่ะ ละก็ลงไปง่ายๆ ที่ๆ เรามานั่นเเหละค่ะ
- กลับมาพักนิดนึงเเล้วก็ออกลุยต่อย่านจิมซาจุ่ยเลยค่ะ ที่เเรกที่เราไปคือสวนสาธารณะเกาลูน บรรยากาศร่มรื่นดีค่ะ ฝนตกปรอยๆ โรเเมนติกดี 5555 ภายในสวนจะมีป้ายให้ไป Hong Kong Heritage ภายในมีการจัดเเสดงวัตถุโบราณตั้งเเต่สมัยราชวงศ์เก่าเเก่เลยค่ะ ที่นี่เข้าฟรี อิอิ - เสร็จจากนี้ก็ไปเดินตะลุยห้างกันเลยค่ะ ห้างเเรกที่ไปก็คือ silvercord ซึ่งตอนเเรกเราเข้าไปเเค่ไปกินข้าวที่ food republic หมดค่าข้าวห่อไข่ไป 50 HKD เเต่ร้านอื่นๆ ก็ราคา 50-60 up เลยค่ะ พอกินเสร็จเราก็มาเดินห้าง Ocean & harbor outlet ข้างในมี supermarket ด้วย ต่อมาก็คือห้าง silvercord ที่นี่เราไปเเวะ H&M ที่มีขายเครื่องสำอางค์ของเเบรนด์ด้วย จากนั้นจึงไปเดินห้าง China Hong Kong city in town outlets ซึ่งเราว่าไม่มีอะไร 55555 เเต่เห็นว่าชั้นบนเป็นที่ขายตั๋วเรือไปมาเก๊ารึยังไงเนี่ยเเหละค่ะ ต่อมาก็ไปเเวะห้าง sogo ที่นี่คนเยอะมากกกก โดยเฉพาะชั้นขายเครื่องสำอางค์เคาท์เตอร์เเบรนด์ เอาซะนึกว่าลดเเลกเเจกเเถม เดินจนเหนื่อยเราก็กลับมาพักที่ห้อง เเล้วออกไปกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาหมึกที่เรารับรองว่าอร่อยโพดๆ ที่ร้าน Kai Kee เสียไป 38 HKD ค่ะเเล้วก็เดินชิวๆ ไปดู symphany of light ซึ่งเริ่มตอน 20.00 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็จะมีคนเริ่มมาจับจองที่กันเเล้ว การเเสดงมีประมาณ 15 นาทีก็หมดค่ะ
Day 3: Central, Che Kung Temple
- วันนี้มาเเบบสบายๆ ค่ะเพราะเที่ยวไปเยอะจนหมดเเรงเเล้ว 55555
- ย่านนี้เราไม่ได้มีเเพลนเเน่นอนค่ะ เเค่กะว่าจะมาดูตึก ดูร้านค้าเเถวนั้นเลยตั้งว่าจะเดินตามเเมพไปหาข้าวเช้า เดินไปเดินมา ผ่านอะไรน่าสนใจมาเยอะมากเพราะหลงด้วย 5555 เเต่หลงไปหลงมา มาจบที่ร้าน Lan Fong Yuen เฉยเลยค่ะ เลยสั่งเซ็ทอาหารเช้ามากิน ราคาไม่เเพงด้วยค่ะ อร่อยใช้ได้ เสร็จเเล้วขากลับตั้งเป้าว่าจะเดินไปหา zoological เเต่หลงอีกค่ะ เดินไปเดินมาเจอตึกที่ทำการรัฐบาลกับ diary building เฉยเลยค่ะ ตึกสวยดีเเต่เฉยๆ ค่ะ อ้อลืมบอกว่าตอนออกจากสถานีขามา เดินไปไม่ไกลก็เจอโบสถ์ St. John Cathedral สวยเเบบคลาสสิกดีค่ะ
- ช่วงบ่ายออกมาเที่ยววัดกังหัน การเดินทางก็ไปทาง mtr ค่ะ ยุ่งยากนิดหน่อยตรงที่ต้องเปลี่ยนสถานีเยอะ เเละออกไปไกลพอสมควร พอออกจากสถานี che kung temple นี่นึกว่าอยู่เเถวบางนาเลยค่ะ 5555 เพราะเงียบมากเเละไม่มีคนลงเลย พอออกจากสถานีก็ข้ามถนน เดินลงไปทางเชื่อมใต้ดิน เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอวัดค่ะ ปล. ตรงทางเชื่อมใต้ดินค่อนข้างไม่มีคนเลย ไปคนเดียวต้องเดินระวังๆ หน่อยนะคะ พอถึงวัดปุ๊บก็ชัดเลยค่ะ เหมือนมีเเต่คนไทยไป 55555 มีป้ายภาษาไทยเรื่องปีชงด้วยค่ะ
Day 4: Citygate Outlet, Po Lin Temple, Big Buddha
- วันนี้พายุเข้าหนักเลยค่ะ มีฟ้าผ่าด้วย ขนาดเช็คเอาท์ออกมาตอน 11โมง ยังตกกระหน่ำ น้ำท่วมบางที่อีก ลำเค็ญจนคิดหนักเลยค่ะว่าจะไปวัดโปลินดีไม่ดี 55555 พอไปถึงห้างซิตี้เกทก็เลยไปฝากกระเป๋าก่อน ละก็เลยออกมาดูที่ป้ายรถสาย 23 ว่ามีคนบ้าไปเเบบเรามั้ย ถ้ามีก็จะลุยมั่ง ปรากฎว่ามีกลุ่มฝรั่งไปค่า เราเลยไปต่อคิวขึ้นรถเเบบไม่ลังเลเลย เอาไงเอากัน อ้อป้ายรถเมล์สาย 23 ไม่ได้จอดตรงที่จอดสาย S1 นะคะต้องเดินออกไปนอกห้างพอสมควร รถจะมาทุก 20 นาทีค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที สถานที่ให้เที่ยวก็จะมี ไหว้พระใหญ่ข้างบน ไปวัดโปลินด้านล่าง หมู่บ้านนองปิงฯลฯ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาอะไรไม่เจอเลยค่ะ เพราะมันเห็นได้ชัดมากว่าอะไรไปทางไหน ทีนี้ขากลับให้เดินเข้าไปในทางเข้าหมู่บ้านนองปิง เดินไปสักพักมองหาป้าย bus terminal จะมีทางออกไปหาป้ายรถเมล์ค่ะ ไม่ใช่ว่ารอตรงจุดที่ลงรถนา เดี๋ยวไม่ได้กลับ
- เสร็จจากวัดเเล้วก็กลับมาที่ citygate ต่อค่ะ เเล้วต้องไปซื้อรองเท้าใหม่ เราว่ารองเท้าที่ฮ่องกงไม่ได้ถูกมาก เเต่มีเเบบเยอะดี จากนั้นก็ไปเอากระเป๋าค่ะ เเต่ความพีคคือล็อกเกอร์เปิดไม่ได้ซะงั้น !!! เราอึ้งไปเลย 5555 เค้ามีเบอร์ hotline ให้โทรเเต่เราไม่รู้วิธีโทรหาเบอร์ฮ่องกง เลยอึ้งอยู่สักพัก คิดได้ว่าไปหา customer service counter ดีกว่า อย่างน้อยทุกห้างต้องมี เเล้วเค้าก็ช่วยโทรตามเจ้าหน้าที่ให้มาเปิดให้เราค่ะ รอเค้ามาสิบนาทีกว่า นานจนจิตตก 5555 ปรากฎว่าที่เปิดไม่ได้เพราะเราต้องมาต่อเวลาก่อนที่มันจะเกินเวลาที่เราจ่ายค่ะ ตอนเเรกเรานึกว่าฝากกระเป๋าละก็ปล่อยทิ้งไว้ค่อยมาจ่ายส่วนเกินซะอีก เลยเสียค่าปรับไปเยอะเลยค่ะ
- หมดปัญหาเเล้วก็ไปสนามบินด้วยสาย s1 เลยค่ะ ใช้เวลาเเค่สิบนาทีกว่าเอง พอลงจากรถเเล้วก็เดินเข้า terminal เเนะนำเลยค่ะว่าให้ไปคืนบัตร octopusเลย เพราะถ้าเข้าส่วน departure ไปเเล้วไม่มีที่รับคืนนะคะ เพราะเราลืมมาเเล้ว 5555 เราเลยเอาบัตรไปจ่ายค่าข้าวเย็นที่สนามบินเเล้วก็ซื้อพวกของใช้ทั่วไปจากร้าน manning ให้หมดบัตรไปเลย
ทีนี้ก็จบการผจญภัยของเราเเล้วค่ะ เราว่าฮ่องกงเป็นเมืองที่เที่ยวง่ายมาก ผู้หญิงสามารถเที่ยวคนเดียวได้เลยค่ะ อาจจะเหงาหน่อย เเต่ถ้าไปคนเดียวยังไงก็ต้องระวังนิดนึงค่ะ คราวหน้าถ้ามีโอกาสเราว่าจะเที่ยวเเนวธรรมชาติเห็นว่าฮ่องกงมีที่เที่ยวเยอะเลย ^^