ผมไม่แปลกใจเลยที่ในสหรัฐอเมริกาจะกังวลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ว่าสุ่มเสี่ยงที่จะไปปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม ถึงขนาดที่ออกกฎห้ามแต่งหน้าหรือสวมหน้ากากเป็นตัวละครเอกในหนังเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นธรรมเนียมของการดูหนังที่นั่น ที่ผู้ชื่นชอบในตัวละครเด่นๆ ในหนังเรื่องนั้นจะแต่งหน้าแต่งตัวเป็นตัวละครที่ชื่นชอบเมื่อเข้าไปชม เพราะตลอดเวลาที่หนังดำเนินเรื่อง ผมเชื่อว่าถ้าคุณเคยมีชีวิตคล้ายกับ "อาเธอร์ เฟล็กซ์" คุณจะจิตตกไปกับชะตากรรมแสนรันทดของเขา ก่อนที่อาจจะหลุดหัวเราะอย่างไร้เหตุผล ทำตาลอยๆ ขวางๆ หรืออยากลุกขึ้นมาเต้นโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยบ้าง
และบางคนในบรรดาผู้ที่อินกับหนังเรื่องนี้ อาจถลำลึกไปไกลถึงขั้นก่อเหตุสะเทือนขวัญก็ได้..ใครจะไปรู้
โจ๊กเกอร์ฉบับนี้ไม่อิงกับจักรวาลหนังที่สร้างจากการ์ตูนมนุษย์ค้างคาว Batman ภาคไหนเลย แต่เป็นการนำตัวละครวายร้ายคู่ปรับของแบทแมน มาเล่าเรื่องให้เห็นว่า ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะกลายเป็นบุคคลที่เป็นอันตรายยิ่งกว่าฆาตกรต่อเนื่อง เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง โดยเฉพาะการถูก "ตีตรา" จากคนทั่วไปว่า "ไม่ปกติ" ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่ง "วาคิน ฟินิกส์" นักแสดงนำของเรื่องนี้ ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร อาเธอร์ เฟล็กซ์ ได้อย่างน่าขนลุก ทั้งความพยายามที่จะเป็นคนดี ทำหน้ามีความสุขในตอนแรก แต่ทุกอย่างนั้นเปล่าประโยชน์ สังคมรอบข้างทั้งใกล้ตัวและไกลออกไป มองเขาเป็น "ตัวประหลาด" บีบให้อาเธอร์ค่อยๆ บ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด "เลือด ความตาย และสังคมที่โกลาหล" ก็กลายเป็น "เรื่องตลก" ที่สนุกสนานสำหรับเขา
นอกเหนือจากชีวิตส่วนตัวของอาเธอร์ เฟล็กซ์ หนังยังถ่ายทอดประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจเอาไว้ นั่นคือ "มุมมองที่แตกต่าง" จากเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ เป็นแค่ความโชคร้ายของคนคนเดียวที่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ลุกลามบานปลายไปเป็นความขัดแย้งในเมืองก็อตแธม ระหว่าง "ชาวตลาดบน" ( อันหมายคนมีฐานะค่อนไปทางร่ำรวย ) กับ "ชาวตลาดล่าง" ( อันหมายถึงคนที่ฐานะค่อนไปทางยากจน ) ที่ทั้งสองฝ่ายตีความเหตุการณ์นั้นไปคนละอย่าง ไม่เพียงเท่านั้น โจ๊กเกอร์ฉบับนี้ยังเล่าเรื่องของ "ตระกูลเวย์น" อภิมหาเศรษฐีของเมืองนี้ ที่แตกต่างไปจากแบทแมนภาคอื่นๆ ด้วย ที่ต้องชมอีกอย่างคือ "ดนตรีประกอบ" เพราะทำได้แบบชวนดำดิ่งลงสู่ความมืดมิดและความบ้าคลั่งจริงๆ
ผมดูพากย์ไทย ก็ยังถือว่าดีนะ แต่เสียดายที่ไม่ได้ดู Soundtrack เชื่อว่าถ้าได้ดูคงอินกว่าเดิมมากๆ แน่นอน ( เอาเป็นว่าหนังเรื่องแรกในรอบหลายปีที่ผมดูแล้วอินมากๆ ) สรุปคือถ้าคุณชอบหนังแอ็คชั่น หรือเคยชินกับหนังแบทแมนที่มีแอ็คชั่นบู๊เยอะๆ เรื่องนี้คงไม่ตอบโจทย์ และอาจจะหลับคาโรงได้
แต่ถ้าคุณต้องการเสพความอึดอัดรันทดก่อนจะระเบิดออกเป็นความบ้าคลั่งของผู้ที่ถูกตีตราว่าไม่ปกติ ในบรรยากาศมืดๆ หม่นๆ ของเมือง เคล้าดนตรีประกอบเศร้าปนหลอน นี่คือหนังที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!!
ปล.อันนี้บ่นเรื่องส่วนตัวนิดเกี่ยวกับความอินในหนังเรื่องนี้นะครับ ( ขอใส่ครอบไว้ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สารภาพว่าที่อินกับโจ๊กเกอร์ฉบับนี้เป็นพิเศษ เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีปมกับคำว่าความปกติ-ไม่ปกติ หรือคำว่าเสน่ห์-บุคลิก ซึ่งเรื่องนี้ผมค่อนข้างแย่มาตลอด ( ถ้าคนตามผมมานานจะรู้ว่าผมบ่นบ่อยๆ ) ทำให้ตั้งแต่จำความได้ ก็ถูกตีตราด้วยคำว่า "เอ๋อ-ติงต๊อง-ปัญญาอ่อน-ไม่เต็มบาท" แล้ว ( มีหลายคนมาบอกทีหลัง ว่าถ้าไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันหรือเปิดอกคุยกันยาวๆ เขาก็จะมองผมเป็นพวกไม่ปกติแบบนั้นละ ) แต่ท่านผู้อ่านไม่ต้องกลัวนะครับ..ผมไม่กล้าฆ่าใครแน่ๆ กลัวติดคุกจ้า ( ฮา!!! )
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
Joker:การตอบโต้ของผู้ถูกตีตราว่า'ไม่ปกติ'(NoSpoil)
ผมไม่แปลกใจเลยที่ในสหรัฐอเมริกาจะกังวลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ว่าสุ่มเสี่ยงที่จะไปปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม ถึงขนาดที่ออกกฎห้ามแต่งหน้าหรือสวมหน้ากากเป็นตัวละครเอกในหนังเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นธรรมเนียมของการดูหนังที่นั่น ที่ผู้ชื่นชอบในตัวละครเด่นๆ ในหนังเรื่องนั้นจะแต่งหน้าแต่งตัวเป็นตัวละครที่ชื่นชอบเมื่อเข้าไปชม เพราะตลอดเวลาที่หนังดำเนินเรื่อง ผมเชื่อว่าถ้าคุณเคยมีชีวิตคล้ายกับ "อาเธอร์ เฟล็กซ์" คุณจะจิตตกไปกับชะตากรรมแสนรันทดของเขา ก่อนที่อาจจะหลุดหัวเราะอย่างไร้เหตุผล ทำตาลอยๆ ขวางๆ หรืออยากลุกขึ้นมาเต้นโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยบ้าง
และบางคนในบรรดาผู้ที่อินกับหนังเรื่องนี้ อาจถลำลึกไปไกลถึงขั้นก่อเหตุสะเทือนขวัญก็ได้..ใครจะไปรู้
โจ๊กเกอร์ฉบับนี้ไม่อิงกับจักรวาลหนังที่สร้างจากการ์ตูนมนุษย์ค้างคาว Batman ภาคไหนเลย แต่เป็นการนำตัวละครวายร้ายคู่ปรับของแบทแมน มาเล่าเรื่องให้เห็นว่า ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะกลายเป็นบุคคลที่เป็นอันตรายยิ่งกว่าฆาตกรต่อเนื่อง เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง โดยเฉพาะการถูก "ตีตรา" จากคนทั่วไปว่า "ไม่ปกติ" ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่ง "วาคิน ฟินิกส์" นักแสดงนำของเรื่องนี้ ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร อาเธอร์ เฟล็กซ์ ได้อย่างน่าขนลุก ทั้งความพยายามที่จะเป็นคนดี ทำหน้ามีความสุขในตอนแรก แต่ทุกอย่างนั้นเปล่าประโยชน์ สังคมรอบข้างทั้งใกล้ตัวและไกลออกไป มองเขาเป็น "ตัวประหลาด" บีบให้อาเธอร์ค่อยๆ บ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด "เลือด ความตาย และสังคมที่โกลาหล" ก็กลายเป็น "เรื่องตลก" ที่สนุกสนานสำหรับเขา
นอกเหนือจากชีวิตส่วนตัวของอาเธอร์ เฟล็กซ์ หนังยังถ่ายทอดประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจเอาไว้ นั่นคือ "มุมมองที่แตกต่าง" จากเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ เป็นแค่ความโชคร้ายของคนคนเดียวที่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ลุกลามบานปลายไปเป็นความขัดแย้งในเมืองก็อตแธม ระหว่าง "ชาวตลาดบน" ( อันหมายคนมีฐานะค่อนไปทางร่ำรวย ) กับ "ชาวตลาดล่าง" ( อันหมายถึงคนที่ฐานะค่อนไปทางยากจน ) ที่ทั้งสองฝ่ายตีความเหตุการณ์นั้นไปคนละอย่าง ไม่เพียงเท่านั้น โจ๊กเกอร์ฉบับนี้ยังเล่าเรื่องของ "ตระกูลเวย์น" อภิมหาเศรษฐีของเมืองนี้ ที่แตกต่างไปจากแบทแมนภาคอื่นๆ ด้วย ที่ต้องชมอีกอย่างคือ "ดนตรีประกอบ" เพราะทำได้แบบชวนดำดิ่งลงสู่ความมืดมิดและความบ้าคลั่งจริงๆ
ผมดูพากย์ไทย ก็ยังถือว่าดีนะ แต่เสียดายที่ไม่ได้ดู Soundtrack เชื่อว่าถ้าได้ดูคงอินกว่าเดิมมากๆ แน่นอน ( เอาเป็นว่าหนังเรื่องแรกในรอบหลายปีที่ผมดูแล้วอินมากๆ ) สรุปคือถ้าคุณชอบหนังแอ็คชั่น หรือเคยชินกับหนังแบทแมนที่มีแอ็คชั่นบู๊เยอะๆ เรื่องนี้คงไม่ตอบโจทย์ และอาจจะหลับคาโรงได้
แต่ถ้าคุณต้องการเสพความอึดอัดรันทดก่อนจะระเบิดออกเป็นความบ้าคลั่งของผู้ที่ถูกตีตราว่าไม่ปกติ ในบรรยากาศมืดๆ หม่นๆ ของเมือง เคล้าดนตรีประกอบเศร้าปนหลอน นี่คือหนังที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!!
ปล.อันนี้บ่นเรื่องส่วนตัวนิดเกี่ยวกับความอินในหนังเรื่องนี้นะครับ ( ขอใส่ครอบไว้ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )