กระเป๋าเดินทางเป็น Must have item ที่สำคัญมากครับ เวลาที่เราจะต้องเดินทางไปไหน ถ้าให้เปรียบผมมองว่า กระเป๋าเดินทางเท่ากับบ้านหลังนึง เลยก็ว่าได้ เพราะในนั้นต้องมีทุกสิ่งที่เลือกสรรได้ นอกจากจะต้องมีข้าวของอุปกรณ์ที่พร้อมใช้ Born to go แล้ว กระเป๋าเดินทางยังจะต้องแน่นหนา ลากๆ อยู่แล้วล้อหลุด กระเป๋าแตกคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ ดังนั้นการเลือกกระเป๋าเดินทางที่มีคุณภาพ ก็เหมือนกับการเลือกบ้านอยู่กับเรายาวนานตลอด (ทุก) ทริป
ทาง Samsonite ได้ส่งกระเป๋าเดินทางรุ่น Lite-Box มาให้ทางผมทดลองใช้ ก่อนจะไปอ่านรีวิวด้านล่าง สปอยล์เล็กน้อยว่ามันเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังมองหา กระเป๋าเดินทางที่น้ำหนักเบา (มาก) รูปทรงสวย เรียบหรูดูคลาสิก และการรับประกัน 10 ปี
ขอเล่าถึงประวัติแบรนด์ Samsonite สักนิด Samsonite เป็นแบรนด์กระเป๋าชื่อดังของอเมริกา มีที่มาจากคำว่า Samson เป็นจอมพลังในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ มีทำเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่องเดียวกันด้วย ถ้าใครเคยดูมาก่อนก็อาจจะคุ้นๆ ผมว่าเป็นหลักการตั้งชื่อที่ดีครับ ทรงพลัง สะท้อนว่านี่คือกระเป๋าที่แข็งแกร่ง มีความแข็งแรง มีความทนทานในการใช้งานสูง
กระเป๋า Samsonite รุ่น Lite-Box มีทั้งหมด 3 ขนาดคือ Size 55/20, Size 69/25 และ Size 75/28 มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ DEEP RED สีแดงเข้ม , ECLIPSE GREY สีออกเทา และ DEEP BLUE สีน้ำเงินเข้ม ใบที่ทาง Samsonite ส่งมาครับ ขนาด 25 นิ้ว หรือ Size 69
เข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงก์นี้
https://www.samsonite.co.th/th/samsonite/lite-box/spinner-75/28/ss-79300-1277.html
ส่วนตัวชอบสีนี้นะครับ ไม่ฉูดฉาด ให้ภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึมดี เป็นข้อดีของโทนสีจำพวกดำ เทา น้ำเงินเข้ม เป็นอะไรที่ใช้ได้ตลอดกาล ไม่มีตกยุค ส่วนขนาด 25 นิ้ว หรือ Size 69 เป็นไซส์ที่ผมว่ากำลังพอเหมาะ ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป Vacation หรือ Business Trip สัก 4-5 วันกำลังสบาย เหลือพื้นที่ซื้อของฝากได้อีก
ต่อไปก็จะว่ากันด้วยจุดเด่นของเจ้ากระเป๋ารุ่นนี้
กระเป๋าเดินทางรุ่น Lite-Box เป็นหนึ่งในรุ่นกระเป๋าเดินทางที่ทาง Samsonite รวมสองอย่างเข้าด้วยกัน นั่นคือ วัสดุที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรง อันมาจากนวัตกรรมการผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์และวัสดุที่มีชื่อว่า Woven Polypropylene ที่จะถูกนำมารีดเป็นแผ่นบางๆ ตัดเป็นเส้น และถูกนำมาทอหลายๆ ชั้น ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงมาก ซึ่งเจ้า Polypropylene จะเป็นวัสดุกลุ่มเดียวกับที่เค้าใช้กันในเสื้อเกราะกันกระสุน กันชนรถ หรือพวกอุปกรณ์กีฬาที่ต้องใช้กันกระแทกแต่เบา
เมื่อแบรนด์บอกว่า เบาแต่แข็งแรง ก็เลยต้องมีบทพิสูจน์ สามารถติดตามดูกันได้ที่คลิปวีดีโอด้านล่าง (ขอพื้นที่ขายของเล็กน้อย... )
ลวดลายกระเป๋าจะเป็นแบบแนวตั้งทั้งใบครับ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เทียบกับความสูงผม 184 เซนติเมตร กระเป๋า 55 เซนติเมตร ใช้แล้วกระเป๋าอยู่ในช่วงระดับเหนือเข่าพอดี
น้ำหนักของกระเป๋าอยู่ที่ 2.82 กิโลกรัม ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงตั้งชื่อรุ่นว่า Lite-Box สมชื่อ เบามากเมื่อเทียบตัวกระเป๋าที่มีขนาด 25 นิ้ว ข้อดีความเบา นอกจากทำให้เรายกง่าย ลากง่ายแล้ว ก็คือช่วยประหยัดค่าโหลดกระเป๋านั่นเอง เหมาะสำหรับนักช้อปฯ มือวางอันดับหนึ่ง
Lite-Box มีหูจับทั้งด้านบน และด้านข้าง
ทั้ง 4 มุมของกระเป๋า จะมีการเสริมกันกระแทกไว้ เพราะมุมหรือขอบเป็นส่วนที่จะทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหาย หรือเป็นรอยได้ง่ายที่สุด
ล้อหมุน เป็นแบบ 360 องศา ในเรื่องความลื่นคะแนนเต็มสิบให้สิบ ทดสอบด้วยการนำไปลากบนพื้นซีเมนต์ฟุตปาธถนนเมืองไทย แต่ล้อก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างดีครับ สั่งทางไหนไปทางนั้น
เปิดกระเป๋าดูด้านในกันบ้าง มีแผงกั้นซิปทั้งสองฝั่งเก็บข้าวของเราได้มิดชิด
ฟีเจอร์ต่อไปนี้มีชื่อว่า Cross Ribbon สายรัดสัมภาระที่ปรับระดับสูงต่ำได้ทั้ง 4 มุมของกระเป๋า จะของเยอะของน้อยเปิดมาก็ไม่ต้องกลัวของถล่ม อย่างบางทริปไปแค่ 2-3 วัน แต่ขากลับได้ของฝากชิ้นใหญ่มาไม่มีปัญหาครับ ขยับ ปรับได้
มาถึงฟีเจอร์สุดท้ายก่อนจะพูดถึงความประทับใจ ก็คือเรื่องตัว TSA Lock (ย่อมาจาก Transportation Security Administration หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของสหรัฐอเมริกา) เป็นมาตรฐานใหม่ที่กระเป๋าเดินทางจะต้องมีติดตั้งครับ ที่มาของระบบนี้มาจากการที่บางที เจ้าหน้าที่สนามบิน X-Ray กระเป๋าแล้วพบวัตถุต้องสงสัย แต่ตามหาเจ้าของไม่พบอีก ในอดีตก็จะต้องมีการงัด แหก แตกกันไปข้างสร้างความเสียหายให้กระเป๋า
ทำให้เป็นที่มาของระบบ TSA Lock ถ้า X-Ray กระเป๋าแล้วน่าสงสัย ตามหาเจ้าของกระเป๋าไม่เจอ ทางหน่วยงานฯ ก็จะมีกุญแจพิเศษที่สามารถไขเพื่อจะตรวจสอบกระเป๋าได้ โดยไม่ทำให้กระเป๋าเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้สนามบินใหญ่ๆ ทั่วโลกเริ่มใช้ระบบนี้กันหมดแล้ว ดังนั้นถ้าใครกำลังจะซื้อกระเป๋าใหม่ ควรมองหากระเป๋าที่มี TSA Lock เป็นอันดับแรก
ทิ้งท้ายกันด้วยความประทับใจหลังจากทดลองใช้ เท่าที่ทดสอบทั้งเรื่องประสิทธิภาพ (ติดตามได้ในคลิป) สิ่งที่ผมประทับใจมีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือ น้ำหนักเบามาก ด้วยความที่กระเป๋าเปล่าๆ เบาไม่ถึง 3 กิโลกรัม พอใส่ของเข้าไปปุ๊บมันก็จะเบากว่ากระเป๋ายี่ห้ออื่น มันทำให้เวลาเราจะลากหรือจะขนขึ้นรถก็ค่อนข้างสะดวก
จุดที่สองที่ชอบคือ เรื่องความทนทาน กระแทกแล้วไม่เป็นรอย ผมทดสอบโยนหลายครั้ง ลากบนพื้นเรียบ พื้นขรุขระ ไม่มีปัญหา ยังคงลื่นไหลเลื่อนต่อได้ อยู่กับเราได้ตลอดทั้งทริปโดยที่เรารู้สึกอุ่นใจกับกระเป๋ารุ่นนี้
แนะนำว่าถ้าเพื่อนๆ ชาว Pantip กำลังมองหากระเป๋าเดินทางสักใบนึง ลองไปจับๆ Samsonite Lite-Box รุ่นนี้ดูครับ
[Advertorial]
[BR] Must have item กระเป๋าคู่ใจใช้ 10 ปียังมีประกัน Samsonite รุ่น Lite-Box เบา ทน แข็งแรง
ทาง Samsonite ได้ส่งกระเป๋าเดินทางรุ่น Lite-Box มาให้ทางผมทดลองใช้ ก่อนจะไปอ่านรีวิวด้านล่าง สปอยล์เล็กน้อยว่ามันเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังมองหา กระเป๋าเดินทางที่น้ำหนักเบา (มาก) รูปทรงสวย เรียบหรูดูคลาสิก และการรับประกัน 10 ปี
ขอเล่าถึงประวัติแบรนด์ Samsonite สักนิด Samsonite เป็นแบรนด์กระเป๋าชื่อดังของอเมริกา มีที่มาจากคำว่า Samson เป็นจอมพลังในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ มีทำเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่องเดียวกันด้วย ถ้าใครเคยดูมาก่อนก็อาจจะคุ้นๆ ผมว่าเป็นหลักการตั้งชื่อที่ดีครับ ทรงพลัง สะท้อนว่านี่คือกระเป๋าที่แข็งแกร่ง มีความแข็งแรง มีความทนทานในการใช้งานสูง
กระเป๋า Samsonite รุ่น Lite-Box มีทั้งหมด 3 ขนาดคือ Size 55/20, Size 69/25 และ Size 75/28 มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ DEEP RED สีแดงเข้ม , ECLIPSE GREY สีออกเทา และ DEEP BLUE สีน้ำเงินเข้ม ใบที่ทาง Samsonite ส่งมาครับ ขนาด 25 นิ้ว หรือ Size 69
เข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงก์นี้ https://www.samsonite.co.th/th/samsonite/lite-box/spinner-75/28/ss-79300-1277.html
ส่วนตัวชอบสีนี้นะครับ ไม่ฉูดฉาด ให้ภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึมดี เป็นข้อดีของโทนสีจำพวกดำ เทา น้ำเงินเข้ม เป็นอะไรที่ใช้ได้ตลอดกาล ไม่มีตกยุค ส่วนขนาด 25 นิ้ว หรือ Size 69 เป็นไซส์ที่ผมว่ากำลังพอเหมาะ ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป Vacation หรือ Business Trip สัก 4-5 วันกำลังสบาย เหลือพื้นที่ซื้อของฝากได้อีก
ต่อไปก็จะว่ากันด้วยจุดเด่นของเจ้ากระเป๋ารุ่นนี้
กระเป๋าเดินทางรุ่น Lite-Box เป็นหนึ่งในรุ่นกระเป๋าเดินทางที่ทาง Samsonite รวมสองอย่างเข้าด้วยกัน นั่นคือ วัสดุที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรง อันมาจากนวัตกรรมการผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์และวัสดุที่มีชื่อว่า Woven Polypropylene ที่จะถูกนำมารีดเป็นแผ่นบางๆ ตัดเป็นเส้น และถูกนำมาทอหลายๆ ชั้น ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงมาก ซึ่งเจ้า Polypropylene จะเป็นวัสดุกลุ่มเดียวกับที่เค้าใช้กันในเสื้อเกราะกันกระสุน กันชนรถ หรือพวกอุปกรณ์กีฬาที่ต้องใช้กันกระแทกแต่เบา
เมื่อแบรนด์บอกว่า เบาแต่แข็งแรง ก็เลยต้องมีบทพิสูจน์ สามารถติดตามดูกันได้ที่คลิปวีดีโอด้านล่าง (ขอพื้นที่ขายของเล็กน้อย... )
ลวดลายกระเป๋าจะเป็นแบบแนวตั้งทั้งใบครับ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เทียบกับความสูงผม 184 เซนติเมตร กระเป๋า 55 เซนติเมตร ใช้แล้วกระเป๋าอยู่ในช่วงระดับเหนือเข่าพอดี
น้ำหนักของกระเป๋าอยู่ที่ 2.82 กิโลกรัม ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงตั้งชื่อรุ่นว่า Lite-Box สมชื่อ เบามากเมื่อเทียบตัวกระเป๋าที่มีขนาด 25 นิ้ว ข้อดีความเบา นอกจากทำให้เรายกง่าย ลากง่ายแล้ว ก็คือช่วยประหยัดค่าโหลดกระเป๋านั่นเอง เหมาะสำหรับนักช้อปฯ มือวางอันดับหนึ่ง
Lite-Box มีหูจับทั้งด้านบน และด้านข้าง
ทั้ง 4 มุมของกระเป๋า จะมีการเสริมกันกระแทกไว้ เพราะมุมหรือขอบเป็นส่วนที่จะทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหาย หรือเป็นรอยได้ง่ายที่สุด
ล้อหมุน เป็นแบบ 360 องศา ในเรื่องความลื่นคะแนนเต็มสิบให้สิบ ทดสอบด้วยการนำไปลากบนพื้นซีเมนต์ฟุตปาธถนนเมืองไทย แต่ล้อก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างดีครับ สั่งทางไหนไปทางนั้น
เปิดกระเป๋าดูด้านในกันบ้าง มีแผงกั้นซิปทั้งสองฝั่งเก็บข้าวของเราได้มิดชิด
ฟีเจอร์ต่อไปนี้มีชื่อว่า Cross Ribbon สายรัดสัมภาระที่ปรับระดับสูงต่ำได้ทั้ง 4 มุมของกระเป๋า จะของเยอะของน้อยเปิดมาก็ไม่ต้องกลัวของถล่ม อย่างบางทริปไปแค่ 2-3 วัน แต่ขากลับได้ของฝากชิ้นใหญ่มาไม่มีปัญหาครับ ขยับ ปรับได้
มาถึงฟีเจอร์สุดท้ายก่อนจะพูดถึงความประทับใจ ก็คือเรื่องตัว TSA Lock (ย่อมาจาก Transportation Security Administration หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของสหรัฐอเมริกา) เป็นมาตรฐานใหม่ที่กระเป๋าเดินทางจะต้องมีติดตั้งครับ ที่มาของระบบนี้มาจากการที่บางที เจ้าหน้าที่สนามบิน X-Ray กระเป๋าแล้วพบวัตถุต้องสงสัย แต่ตามหาเจ้าของไม่พบอีก ในอดีตก็จะต้องมีการงัด แหก แตกกันไปข้างสร้างความเสียหายให้กระเป๋า
ทำให้เป็นที่มาของระบบ TSA Lock ถ้า X-Ray กระเป๋าแล้วน่าสงสัย ตามหาเจ้าของกระเป๋าไม่เจอ ทางหน่วยงานฯ ก็จะมีกุญแจพิเศษที่สามารถไขเพื่อจะตรวจสอบกระเป๋าได้ โดยไม่ทำให้กระเป๋าเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้สนามบินใหญ่ๆ ทั่วโลกเริ่มใช้ระบบนี้กันหมดแล้ว ดังนั้นถ้าใครกำลังจะซื้อกระเป๋าใหม่ ควรมองหากระเป๋าที่มี TSA Lock เป็นอันดับแรก
ทิ้งท้ายกันด้วยความประทับใจหลังจากทดลองใช้ เท่าที่ทดสอบทั้งเรื่องประสิทธิภาพ (ติดตามได้ในคลิป) สิ่งที่ผมประทับใจมีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือ น้ำหนักเบามาก ด้วยความที่กระเป๋าเปล่าๆ เบาไม่ถึง 3 กิโลกรัม พอใส่ของเข้าไปปุ๊บมันก็จะเบากว่ากระเป๋ายี่ห้ออื่น มันทำให้เวลาเราจะลากหรือจะขนขึ้นรถก็ค่อนข้างสะดวก
จุดที่สองที่ชอบคือ เรื่องความทนทาน กระแทกแล้วไม่เป็นรอย ผมทดสอบโยนหลายครั้ง ลากบนพื้นเรียบ พื้นขรุขระ ไม่มีปัญหา ยังคงลื่นไหลเลื่อนต่อได้ อยู่กับเราได้ตลอดทั้งทริปโดยที่เรารู้สึกอุ่นใจกับกระเป๋ารุ่นนี้
แนะนำว่าถ้าเพื่อนๆ ชาว Pantip กำลังมองหากระเป๋าเดินทางสักใบนึง ลองไปจับๆ Samsonite Lite-Box รุ่นนี้ดูครับ
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน