คือเราขอแม่ไปดูหนังกับแฟนค่ะเรามีอะไรเราบอกเค้าทุกอย่าง ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย แล้วเรากับแฟนก็4-5เดือนเจอกันครั้งนึงเพราะงานเราค่อนค่างยุ่งค่ะ แฟนเราก็เข้าใจ แลเวเราจะเจอกันแต่ละทีเราต้องนัดล่วงหน้าเป็นเดือนๆกว่าจะได้เจอกัน เราต้องให้แม่รู้ก่อนว่าเราจะไปเจอกันวันนี้นะ ของเดือนหน้า ครั้งแรกแม่โอเคค่ะ เราก็ได้ไปดูหนังกันครั้งแรก เค้าจ่ายให้เราทุกอย่างเลย พอตอนกละบเราก็ให้แม่มารับ เราก็เล่าให้แม่ฟังว่าวันนี้ไปงั้นงี้มาด้วยความสนุกสนานและคิดว่าแม่คือคนที่รับฟังเรามากที่สุด เค้าก็ยิ้มแห้งๆแล้วไม่พูดอะไร จนถัดมาอีก2-3เดือนเราก็จะนัดไปดูหนังอีกเพราะคิวงานเราว่าง1วัน เราก็นัดแม่ไว้ตั้งแต่เดือนก.ย. แม่6ต.ค. หนูไปดูหนังกะบแฟนได้มั้ย แม่ก็บอกว่าได้ เราดีใจมากๆอ่ะ คือเราก็ตั้งตารอให้ถึงวันนั้น พอวันนี้(2ต.ค) แม่คุยเรื่องงานกับเราว่าเออเนี่ยคิวงานแน่นมากนะช่วงนี้แล้วก็บ่นๆๆของแกไปว่าเหนื่อยเราเลยพูดขำๆกับแม่เชิงเตือนความจำว่า "ลงคิววันไหนก็ได้แต่เว้นวันที่6ด้วยอย่าลืมนะ5555" แม่เราเปลี้ยนอารมณ์ทันทีเลยอ่ะ เค้าด่าเราแรงมากๆ "อย่าติดแต่ผู้ชาย หางานหาเงินมาให้อ่ะไม่ชอบหรอ แล้วไปแต่ละทีเสัยเงินเยอะเปลือง
เลย//คือเราพึ่งเคยไปเจอแฟนครั้งเดียวตอนนู้นแล้วแฟนเป็นคนจ่ายทุกอย่างแล้วบอกเราฟุ่มเฟือย???//ทำไมไม่รู้จักแยกแยะหน่อย" เราเลยบอกแม่ว่า"ก็วันนั้นหนูคุยกับแม่แล้วไงแม่ก็บอกว่าได้อ่ะแล้วทำไมวันนี้พูดแบบนี้อ่ะ คนรอเค้าก็รออ่ะแล้วไม่ได้เจอกันบ่อยด้วย อม่คิดดูนะ3-4เดือนเจอกันครั้งอ่ะ" แม่สวนกละบมาแบบ เราโคตรอยากตายตรงนั้นเลยอ่ะ"นี่แค่นี้ยังห่วงผู้ชายมากกว่างาน โตไปไม่กะxรี่หนีตามผู้ชายออกจากบ้านเลยหรอ" เห้ย....คือเราแค่อยากไปดูหนังกับแฟนอ่ะ เรากลั้นน้ำตาหนักมากตอนนั้นมันเหมือนโลกทั้งใบของเราพัง เราก็ไม่เคยทำให้เค้าเสียใจอ่ะ เราเชื่อฟังเค้ามาตลอด ทำดี100ครั้งแต่จำแค่ครั้งเดียวตอนเราทำตัวไม่ดีนิดหน่อยหรอ? แล้วเค้ายังตบท้ายอีก"ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้นก็เลิกกันไปเลยสิ จะมีทำไมแฟนอ่ะมันช่วยหาเงินหรอ" คือเรารู้สึกว่าเราไม่เหมือนลูกอ่ะ เราเหมือนหุ่นเชิดที่เค้าคอยบงการไปทำนู่นนี่แล้วก็ได้ประโยชน์เข้าตัวเค้าเอง เราก็ทักไปบอกแฟนว่า :คุณ เค้าขอโทษนะมเค้าไปด้วยไม่ได้แล้ว(แล้วก็บอกเหตุผล)
แฟนเราก็บอกไม่เป็นไรนะ ค่อยเจอกันก็ได้ เค้ารอได้ อย่าร้องไห้นะ;)
แล้วความที่เราคิกว่าแม่ไว้ใจได้มากสุดและคิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ควรจะเอาไปพูดให้ใครฟังอ่ะมันเป็นเรื่องในครอบครัว แต่ตอนนั้นเรากินเนื้อย่างอยู่กับน้าลุงๆป้าๆทั้งหลาย เราพึ่งมานั่งที่โต๊ะเราอารมณ์ไม่ดีเลยหน้าบึ้ง ลุงถามว่าเราเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น แม่เราพูดออกมาดังมากๆเลยอ่ะ "มันโกรธแม่ไม่ให้ไปดูหนังกับผู้ชาย หึทำหยั่งกะมันช่วยหาเงิน" คือเค้าหักหน้าเรามากอ่ะ เหมือนเอาหน้าเราไปจี้ลงไปที่กระทะไฟร้อนๆ แล้วยังนั่งเม้ามอยกับน้าๆอย่างสนุกสนานโดยไม่สนเลยว่าเราจะรู้สึกยังไงตรงนั้น คนที่เคยกลั้นน้ำตากินข้าวคงเข้าใจนะคะว่ามันทรมานแค่ไหน เราไม่ได้ซีเรียสที่แม่ไม่ให้ไปดูหนัง แต่ที่ซีเรียสคือ "ทั้งๆที่คุณรับปากกับเราไว้แล้ว แล้วก็บอกไว้เป็นเดือนแต่คุณกลับพังมันแค่ใน1วิ ทั้งๆที่คนรอเค้าก็รอแบบมีความหวัง มันคือสิ่งที่คนที่เราเรียกว่าแม่คสรกระทำต่อลูกหรอคะ"
ที่เราต้องมาตั้งกระทู้เพราะมันไม่ได้พึ่งเกิดครั้งเดียวค่ะ แม่ผิดสัญญาแบบนี้มาหลายครั้งมากๆจนเราคิดว่า เห้ย มันใช่หรอวะ ใครก็ได้ช่วยตอบทีว่าเราคิดมากเองหรือแม่เราไม่ควรทำแบบนั้นจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าจะบอกว่า เห้ยแกคงลืมแหละนานแล้วนะ ไม่ค่ะ แม่บอกด้วยว่าไม่ลืมก็ตั้งใจลงคิวงานวันนั้น แล้วจะทำไม 🙂
แม่มีพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าควรมั้ยคะ?
แฟนเราก็บอกไม่เป็นไรนะ ค่อยเจอกันก็ได้ เค้ารอได้ อย่าร้องไห้นะ;)
แล้วความที่เราคิกว่าแม่ไว้ใจได้มากสุดและคิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ควรจะเอาไปพูดให้ใครฟังอ่ะมันเป็นเรื่องในครอบครัว แต่ตอนนั้นเรากินเนื้อย่างอยู่กับน้าลุงๆป้าๆทั้งหลาย เราพึ่งมานั่งที่โต๊ะเราอารมณ์ไม่ดีเลยหน้าบึ้ง ลุงถามว่าเราเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น แม่เราพูดออกมาดังมากๆเลยอ่ะ "มันโกรธแม่ไม่ให้ไปดูหนังกับผู้ชาย หึทำหยั่งกะมันช่วยหาเงิน" คือเค้าหักหน้าเรามากอ่ะ เหมือนเอาหน้าเราไปจี้ลงไปที่กระทะไฟร้อนๆ แล้วยังนั่งเม้ามอยกับน้าๆอย่างสนุกสนานโดยไม่สนเลยว่าเราจะรู้สึกยังไงตรงนั้น คนที่เคยกลั้นน้ำตากินข้าวคงเข้าใจนะคะว่ามันทรมานแค่ไหน เราไม่ได้ซีเรียสที่แม่ไม่ให้ไปดูหนัง แต่ที่ซีเรียสคือ "ทั้งๆที่คุณรับปากกับเราไว้แล้ว แล้วก็บอกไว้เป็นเดือนแต่คุณกลับพังมันแค่ใน1วิ ทั้งๆที่คนรอเค้าก็รอแบบมีความหวัง มันคือสิ่งที่คนที่เราเรียกว่าแม่คสรกระทำต่อลูกหรอคะ"
ที่เราต้องมาตั้งกระทู้เพราะมันไม่ได้พึ่งเกิดครั้งเดียวค่ะ แม่ผิดสัญญาแบบนี้มาหลายครั้งมากๆจนเราคิดว่า เห้ย มันใช่หรอวะ ใครก็ได้ช่วยตอบทีว่าเราคิดมากเองหรือแม่เราไม่ควรทำแบบนั้นจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้