สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน วันนี้เราอยากแชร์ประสบการณ์ การใช้ประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล ของบ.กรุงเทพประกันชีวิต
ที่เราเจอมากับตัวเองให้ทุกท่านได้ทราบ จัดได้ว่า เป็นประกันที่ "แย่ที่สุด" ที่เราได้ใช้บริการเลยก็ว่าได้
เราเองเป็นคนนึงที่ซื้อประกันไว้แทบจะครอบคลุมในทุกๆด้านของชีวิตเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล และอื่นๆอีกพอสมควร แต่ก็พลาดที่เลือก ประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล เป็นของบ.กรุงเทพประกันชีวิต
เรื่องราวเกิดขึ้นตามนี้เลยค่ะ (ถ้าท่านใดมีความคิดเห็น อยากสอบถามเหตการณ์เพิ่มเติม รวมถึงข้อแนะนำต่างๆ เชิญแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะคะ)
เรายินดีรับฟังค่ะ
วันที่ 29 กันยายน 2562
เวลาประมาณ 23.00น.
ดิฉันให้แฟนขับรถมาส่งที่ฉุกเฉิน ณ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ด้วยอาการ ปวดข้อเท้าซ้าย เล็บเท้าทั้ง2ข้างมีห้อเลือด ม่วงบวมและช้ำเยอะพอสมควร เล็บเปิดแทบจะหลุดออกมาได้ เนื่องจากเดินป่าแล้วสะดุดรากไม้ เถาวัลย์ต่างๆในช่วงทางลงเขาและข้อเท้าก็พลิกด้วย
ระหว่างเินทางก็กดโทรศัพท์เชคมาตลอดว่า รพ. ที่เราจะไปนั้นเป็นคู่สัญญา กับบ.ประกันที่เราถืออยู่หรือไม่ "ปรากฎว่าเป็นบ.คู่สัญญา" เราก็โอเค
ตอนลงจากรถได้เราก็นั่งรถเข็นค่ะ ให้จนท.เข็นให้ เพราะมันปวดเท้าค่อนข้างมาก
จากนั้นถึงเค้าเตอร์ จนท.รพ. บทสนทนาก็เป็นดังนี้
จนท.รพ : ขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ
เรา : ยื่นบัตร ปชช ให้ พร้อมถามว่า ให้ยื่นบัตรประกันด้วยเลยมั้ยคะ
จนท.รพ. : ยื่นเลยค่ะ
เรา : เลือกยื่น 2 ใบ ใบนึงเป็นของบ.Cซึ่งเป็นประกันสุขภาพ(แบบระบุอาการ) เนื่องจากเรามีไข้ และ บัตรBLA Care card ของบ.กรุงเทพประกันชีวิต
จากนั้น เข้าพบหมอและพยาบาลที่ฉุกเฉิน หมอส่งX-Rayข้อเท้า แล้วกลับมาดูอาการที่เล็บเท้าอีกครั้งเพื่อประเมิณอาการ
ในระหว่างนี้ ก็มีจนท.รพ. มาแจ้งว่า คนไข้คะ ดิฉันติดต่อ จนท.ของกรุงเทพประกันชีวิต เพื่อทำเรื่องเคลมไม่ได้ค่ะ จนท.ฝ่ายสินไหมอยู่ถึง "5โมงเย็น" และไม่มีจนท. ที่ประสานงานเรื่องนี้ได้ คนไข้ต้องสำรองจ่ายไปก่อนนะคะ หรือ มีประกันของบ.อื่นๆอีกมั้ยคะ
เรา : เอ่อ....พี่คะ รบกวนเชคอีกรอบได้มั้ยคะ ทำไมเคลมไม่ได้อ่าคะ ในใจคือ งง!! มาก เพราะที่เราเลือกซื้อประกันอุบัติเหต ก็เพราะเราก็อยากได้บริการที่ดี สามารถแฟกซ์เคลมได้(กับบ.คู่สัญญา) ไม่ต้องสำรองจ่าย มีวงเงินในการรักษาและมีการรักษาต่อเนื่องได้ เพราะถ้าเราใช้ประกันอุบัติเหตในแบบที่พ่วงประกันสุขภาพ หรือแบบอื่นๆก็จะเป็นแบบฉุกเฉินรักษาครั้งเดียวจบอะไรแบบนี้
ในระหว่างนี้ คุณหมอ ก็มาแจ้งว่า คนไข้ต้องถอดเล็บนะคะ!!!
เราก็อึ้งค่ะ!! เพราะมันไม่ใช่เล็บเดียว คือมันเป็นอยู่3-4เล็บ ที่ม่วงดำช้ำ และจะต้องถอด
อีกใจก็กังวลค่ะ ว่าค่ารักษา ค่าศัลยกรรมทางการแพทย์ ค่าบริการนู่นนี่นั่น จะเท่าไร เพราะนี่ก็เลือก รพ.เอกชน ชั้นนำเป็นที่รู้จักกันอย่างดีเลยทีเดียว!!!
**นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เราลังเลใจมาก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องสำรองจ่ายเท่าไร เราเองก็ไม่ได้มีเงินมากนัก และจะเคลมกับบ.ประกันทีหลังได้หรือเปล่าก็ไม่รู้**
เรานี่คิดหนักมากกกก ปวดเท้าก็ปวด มาเจอปัญหาเคลมประกันอีก ซื้อประกันอุบัติเหตมา แล้วใช้ไม่ได้นี่คืออะไรฟร่ะ!! ไหนว่าบ.ดีเด่น ได้รางวัลมาสดๆร้อนๆ นี่อะไรกัน เรารู้สึกfail และรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ เสียความรู้สึกขั้นสุดจริงๆ และที่สำคัญไปกว่านั้น คือเรารู้สึกว่า เราสูญเสียโอกาสที่จะได้รับการรักษาที่ดี เนื่องจากห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย
จากนั้น
จนท.รพ. : ติดต่อ บริษัทประกันไม่ได้จริงๆค่ะ
เรา : ตัดใจ และยื่นบัตร Care card ซึ่งเป็นประกันกลุ่มของบริษัท มีประกันอุบัติเหตแบบฉุกเฉินพ่วงอยู่ด้วย แต่วงเงินก็ไม่ได้เยอะ (ของบ.ประกันอีกเจ้านึง ที่ไม่ได้เอ่ยไว้ข้างต้น) และก็ตัดสินใจประคองอาการ หมอเลยให้ยาจำพวกยาแก้ปวดมากินเพื่อบรรเทาอาการ
สรุป ใช้ประกันเจ้าอื่นเคลมได้ และไวมาก โดยไม่ได้ใช้บริการของประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล ของบ.กรุงเทพประกันชีวิต เนื่องจากติดปัญหาข้างต้น
ยังไม่จบค่ะ เราติดตามต่อ ด้วยความสงสัยและอยากไขข้อข้องใจ
วันต่อมา เราติดต่อ ตัวเทนประกัน เพื่อแจ้งเรื่องราวให้ทราบ และย้าหลายหนว่า " เราขอเบอร์ที่ติดต่อ จนท.ในการเคลมประกันได้แบบ24ชม." อ่ะพอหาให้ได้มั้ย เผื่อเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยเราจะได้ใช้บริการของประกันที่เราซื้อได้เต็มที่
จุดนี้ ตัวแทน ก็หาเบอร์ที่เป็น Call Center ให้เราค่ะ เราก็ถามตัวแทนไปอีกว่า ติดต่อได้24ชม.แน่นะ สำหรับเคลมประกัน
ตัวแทน ก็ดีค่ะ ลองโทรเข้า Call Center เองเลย และเชคด้วยตัวเอง ได้ความเช่นเดียวกับ รพ.ที่เราไปทำการรักษาเมื่อวานค่ะ คือมีจนท.รับเรื่องพิจารณาสินไหมแค่ 5 โมงเย็น จากนั้นเราก็ลองโทรเข้า Call center อีกครั้ง อยากเชคด้วยตัวเอง และก็ได้รับข้อมูลเดียวกันคือ มีจนท.รับเรื่องพิจารณาสินไหมแค่ 5 โมงเย็น ----> " นี่คืออะไรคะ เราอยากได้คำอธิบายจากบกรุงเทพประกันภัยค่ะ อุบัติเหตมันเกิดขึ้นได้ 24 ชม.ค่ะ เลือกเวลาที่เกิดขึ้นไม่ได้ และมันก็ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่นี่เราซื้อประกันอุบัติเหตส่วนบุคคลเพื่อคุ้มครองจุดนี้ค่ะ แต่ไม่ได้รับบริการหลัง 5 โมงเย็น มันคืออะไรคะ ในกรมธรรม์ก็ไม่ได้มีระบุนะ ว่าลูกค้าจะต้องสำรองจ่าย ทั้งๆที่รพ.ที่เลือก ก็เป็นรพ.คู่สัญญาค่ะ ถ้าเราซื้อประกันแบบนี้ แล้วเราต้องมาสำรองจ่ายกับรพ.คู่สัญญาอีก เราจัดว่าแย่มากกกกกค่ะ " และถ้าสมมติว่ากรณีเหตุมันเกิดร้ายแรงกว่านี้ เราไม่มีประกันเจ้าอื่น ไม่มีเงินสำรองจ่าย เราก็ต้องรอการรักษาไปจนถึงเวลาทำงานของฝ่ายพิจารณาสินไหน อย่างนั้นใช่มั้ย??? พี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกท่านช่วยกันพิจารณาด้วยนะคะ
ต่อค่ะ...
ตัวแทนก็ซักเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แจ้งเรืองที่เกิดขึ้นภายในให้หัวหน้าทีมรับทราบและประสานงานจนท.ภายใน (ขั้นตอนภายในเป็นอย่างไร เราไม่รู้) รู้แต่ว่า ทางตัวแทนแจ้งว่า แจ้งเรื่องไปให้แล้ว ได้รับคำตอบว่า ถ้ารพ.แจ้งเคลมไม่ได้ ให้ลูกค้าโทรมาหาตัวแทนค่ะ จะประสานงานให้ ซึ่งสุดท้ายจะประสานงานจนแฟกซ์เคลมได้หรือป่าวก็ไม่รู้
---> มันใช่หรอคะ ขั้นตอนการบริการแบบนี้ แล้วถ้าเราประสบอุบัติเหต จนไม่สามารถโทรแจ้งตัวแทนได้ล่ะ จะทำยังไง???
ปล.ตัวโตๆค่ะ ถ้าเหตการณ์นี้ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับการเยียวยา รวมทั้งไม่ได้มีแผนการที่พร้อมปรับใช้ทันทีเพื่อดูแลลูกค้าในอนาคต เราจะไม่ยอมจบเท่านี้แน่นอน เรารู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบมากๆๆๆๆ และขาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาที่ดีค่ะ
อำลา กรุงเทพประกันชีวิต!!!
แชร์ประสบการณ์ ประกันอุบัติเหตส่วนบุคคลที่ "แย่ที่สุด" ของบ.กรุงเทพประกันชีวิต
ที่เราเจอมากับตัวเองให้ทุกท่านได้ทราบ จัดได้ว่า เป็นประกันที่ "แย่ที่สุด" ที่เราได้ใช้บริการเลยก็ว่าได้
เราเองเป็นคนนึงที่ซื้อประกันไว้แทบจะครอบคลุมในทุกๆด้านของชีวิตเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล และอื่นๆอีกพอสมควร แต่ก็พลาดที่เลือก ประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล เป็นของบ.กรุงเทพประกันชีวิต
เรื่องราวเกิดขึ้นตามนี้เลยค่ะ (ถ้าท่านใดมีความคิดเห็น อยากสอบถามเหตการณ์เพิ่มเติม รวมถึงข้อแนะนำต่างๆ เชิญแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะคะ)
เรายินดีรับฟังค่ะ
วันที่ 29 กันยายน 2562
เวลาประมาณ 23.00น.
ดิฉันให้แฟนขับรถมาส่งที่ฉุกเฉิน ณ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ด้วยอาการ ปวดข้อเท้าซ้าย เล็บเท้าทั้ง2ข้างมีห้อเลือด ม่วงบวมและช้ำเยอะพอสมควร เล็บเปิดแทบจะหลุดออกมาได้ เนื่องจากเดินป่าแล้วสะดุดรากไม้ เถาวัลย์ต่างๆในช่วงทางลงเขาและข้อเท้าก็พลิกด้วย
ระหว่างเินทางก็กดโทรศัพท์เชคมาตลอดว่า รพ. ที่เราจะไปนั้นเป็นคู่สัญญา กับบ.ประกันที่เราถืออยู่หรือไม่ "ปรากฎว่าเป็นบ.คู่สัญญา" เราก็โอเค
ตอนลงจากรถได้เราก็นั่งรถเข็นค่ะ ให้จนท.เข็นให้ เพราะมันปวดเท้าค่อนข้างมาก
จากนั้นถึงเค้าเตอร์ จนท.รพ. บทสนทนาก็เป็นดังนี้
จนท.รพ : ขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ
เรา : ยื่นบัตร ปชช ให้ พร้อมถามว่า ให้ยื่นบัตรประกันด้วยเลยมั้ยคะ
จนท.รพ. : ยื่นเลยค่ะ
เรา : เลือกยื่น 2 ใบ ใบนึงเป็นของบ.Cซึ่งเป็นประกันสุขภาพ(แบบระบุอาการ) เนื่องจากเรามีไข้ และ บัตรBLA Care card ของบ.กรุงเทพประกันชีวิต
จากนั้น เข้าพบหมอและพยาบาลที่ฉุกเฉิน หมอส่งX-Rayข้อเท้า แล้วกลับมาดูอาการที่เล็บเท้าอีกครั้งเพื่อประเมิณอาการ
ในระหว่างนี้ ก็มีจนท.รพ. มาแจ้งว่า คนไข้คะ ดิฉันติดต่อ จนท.ของกรุงเทพประกันชีวิต เพื่อทำเรื่องเคลมไม่ได้ค่ะ จนท.ฝ่ายสินไหมอยู่ถึง "5โมงเย็น" และไม่มีจนท. ที่ประสานงานเรื่องนี้ได้ คนไข้ต้องสำรองจ่ายไปก่อนนะคะ หรือ มีประกันของบ.อื่นๆอีกมั้ยคะ
เรา : เอ่อ....พี่คะ รบกวนเชคอีกรอบได้มั้ยคะ ทำไมเคลมไม่ได้อ่าคะ ในใจคือ งง!! มาก เพราะที่เราเลือกซื้อประกันอุบัติเหต ก็เพราะเราก็อยากได้บริการที่ดี สามารถแฟกซ์เคลมได้(กับบ.คู่สัญญา) ไม่ต้องสำรองจ่าย มีวงเงินในการรักษาและมีการรักษาต่อเนื่องได้ เพราะถ้าเราใช้ประกันอุบัติเหตในแบบที่พ่วงประกันสุขภาพ หรือแบบอื่นๆก็จะเป็นแบบฉุกเฉินรักษาครั้งเดียวจบอะไรแบบนี้
ในระหว่างนี้ คุณหมอ ก็มาแจ้งว่า คนไข้ต้องถอดเล็บนะคะ!!!
เราก็อึ้งค่ะ!! เพราะมันไม่ใช่เล็บเดียว คือมันเป็นอยู่3-4เล็บ ที่ม่วงดำช้ำ และจะต้องถอด
อีกใจก็กังวลค่ะ ว่าค่ารักษา ค่าศัลยกรรมทางการแพทย์ ค่าบริการนู่นนี่นั่น จะเท่าไร เพราะนี่ก็เลือก รพ.เอกชน ชั้นนำเป็นที่รู้จักกันอย่างดีเลยทีเดียว!!!
**นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เราลังเลใจมาก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องสำรองจ่ายเท่าไร เราเองก็ไม่ได้มีเงินมากนัก และจะเคลมกับบ.ประกันทีหลังได้หรือเปล่าก็ไม่รู้**
เรานี่คิดหนักมากกกก ปวดเท้าก็ปวด มาเจอปัญหาเคลมประกันอีก ซื้อประกันอุบัติเหตมา แล้วใช้ไม่ได้นี่คืออะไรฟร่ะ!! ไหนว่าบ.ดีเด่น ได้รางวัลมาสดๆร้อนๆ นี่อะไรกัน เรารู้สึกfail และรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ เสียความรู้สึกขั้นสุดจริงๆ และที่สำคัญไปกว่านั้น คือเรารู้สึกว่า เราสูญเสียโอกาสที่จะได้รับการรักษาที่ดี เนื่องจากห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย
จากนั้น
จนท.รพ. : ติดต่อ บริษัทประกันไม่ได้จริงๆค่ะ
เรา : ตัดใจ และยื่นบัตร Care card ซึ่งเป็นประกันกลุ่มของบริษัท มีประกันอุบัติเหตแบบฉุกเฉินพ่วงอยู่ด้วย แต่วงเงินก็ไม่ได้เยอะ (ของบ.ประกันอีกเจ้านึง ที่ไม่ได้เอ่ยไว้ข้างต้น) และก็ตัดสินใจประคองอาการ หมอเลยให้ยาจำพวกยาแก้ปวดมากินเพื่อบรรเทาอาการ
สรุป ใช้ประกันเจ้าอื่นเคลมได้ และไวมาก โดยไม่ได้ใช้บริการของประกันอุบัติเหตส่วนบุคคล ของบ.กรุงเทพประกันชีวิต เนื่องจากติดปัญหาข้างต้น
ยังไม่จบค่ะ เราติดตามต่อ ด้วยความสงสัยและอยากไขข้อข้องใจ
วันต่อมา เราติดต่อ ตัวเทนประกัน เพื่อแจ้งเรื่องราวให้ทราบ และย้าหลายหนว่า " เราขอเบอร์ที่ติดต่อ จนท.ในการเคลมประกันได้แบบ24ชม." อ่ะพอหาให้ได้มั้ย เผื่อเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยเราจะได้ใช้บริการของประกันที่เราซื้อได้เต็มที่
จุดนี้ ตัวแทน ก็หาเบอร์ที่เป็น Call Center ให้เราค่ะ เราก็ถามตัวแทนไปอีกว่า ติดต่อได้24ชม.แน่นะ สำหรับเคลมประกัน
ตัวแทน ก็ดีค่ะ ลองโทรเข้า Call Center เองเลย และเชคด้วยตัวเอง ได้ความเช่นเดียวกับ รพ.ที่เราไปทำการรักษาเมื่อวานค่ะ คือมีจนท.รับเรื่องพิจารณาสินไหมแค่ 5 โมงเย็น จากนั้นเราก็ลองโทรเข้า Call center อีกครั้ง อยากเชคด้วยตัวเอง และก็ได้รับข้อมูลเดียวกันคือ มีจนท.รับเรื่องพิจารณาสินไหมแค่ 5 โมงเย็น ----> " นี่คืออะไรคะ เราอยากได้คำอธิบายจากบกรุงเทพประกันภัยค่ะ อุบัติเหตมันเกิดขึ้นได้ 24 ชม.ค่ะ เลือกเวลาที่เกิดขึ้นไม่ได้ และมันก็ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่นี่เราซื้อประกันอุบัติเหตส่วนบุคคลเพื่อคุ้มครองจุดนี้ค่ะ แต่ไม่ได้รับบริการหลัง 5 โมงเย็น มันคืออะไรคะ ในกรมธรรม์ก็ไม่ได้มีระบุนะ ว่าลูกค้าจะต้องสำรองจ่าย ทั้งๆที่รพ.ที่เลือก ก็เป็นรพ.คู่สัญญาค่ะ ถ้าเราซื้อประกันแบบนี้ แล้วเราต้องมาสำรองจ่ายกับรพ.คู่สัญญาอีก เราจัดว่าแย่มากกกกกค่ะ " และถ้าสมมติว่ากรณีเหตุมันเกิดร้ายแรงกว่านี้ เราไม่มีประกันเจ้าอื่น ไม่มีเงินสำรองจ่าย เราก็ต้องรอการรักษาไปจนถึงเวลาทำงานของฝ่ายพิจารณาสินไหน อย่างนั้นใช่มั้ย??? พี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกท่านช่วยกันพิจารณาด้วยนะคะ
ต่อค่ะ...
ตัวแทนก็ซักเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แจ้งเรืองที่เกิดขึ้นภายในให้หัวหน้าทีมรับทราบและประสานงานจนท.ภายใน (ขั้นตอนภายในเป็นอย่างไร เราไม่รู้) รู้แต่ว่า ทางตัวแทนแจ้งว่า แจ้งเรื่องไปให้แล้ว ได้รับคำตอบว่า ถ้ารพ.แจ้งเคลมไม่ได้ ให้ลูกค้าโทรมาหาตัวแทนค่ะ จะประสานงานให้ ซึ่งสุดท้ายจะประสานงานจนแฟกซ์เคลมได้หรือป่าวก็ไม่รู้
---> มันใช่หรอคะ ขั้นตอนการบริการแบบนี้ แล้วถ้าเราประสบอุบัติเหต จนไม่สามารถโทรแจ้งตัวแทนได้ล่ะ จะทำยังไง???
ปล.ตัวโตๆค่ะ ถ้าเหตการณ์นี้ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับการเยียวยา รวมทั้งไม่ได้มีแผนการที่พร้อมปรับใช้ทันทีเพื่อดูแลลูกค้าในอนาคต เราจะไม่ยอมจบเท่านี้แน่นอน เรารู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบมากๆๆๆๆ และขาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาที่ดีค่ะ
อำลา กรุงเทพประกันชีวิต!!!