ผมเป็นเด็กมัธยมคนนึง เพื่อนๆบอกว่าผมเป็นเด็กเนิร์ด ในครอบครัวผมมีปู่ ปู่ของผมเป็นคนพูดจาไม่เข้าหูเก่ง (เรียกบ้านๆว่าปากหมา) เขาชอบพูดจาไปในทางส่อเสียด ไร้สาระ หรือก่อหวอดเล่นๆ บางครั้งเขาก็ด่าผมทั้งๆที่ไม่มีเค้ามูลความผิด เขาพูดจาไม่เข้าหูผมและคนอื่นในครอบครัวบ่อยมากจนผมเริ่มไม่อยากคุยกับเขา ผมกับปู่มีทัศนคติไม่ตรงกันทำให้บทสนทนาของพวกเรามีแต่ความตื้นเขิน เช่น กินข้าวหรือยัง พรุ่งนี้ไปโรงเรียนมั้ย เพราะผมต้องการหลีกเลี่ยงคำพูดส่อเสียดของเขา ปู่ของผมสูบบุหรี่เป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เด็กผมจะได้กลิ่นบุหรี่ของปู่ของผมมาโดยตลอด เมื่อก่อนผมเคยบอกเขาตลอดว่าให้เลิกบุหรี่หรือไม่ก็ให้เค้าไปสูบไกลๆบริเวณบ้าน ผมเดินบอกเค้าทุกครั้งที่ผมได้กลิ่นบุหรี่เข้ามาในบ้าน ผมบอกเขามาตั้งแต่ประถมจนถึงของม.ต้น เขาก็ยังไม่เลิกบุหรี่ พอจบม.ต้นผมรู้สึกเบื่อที่จะบอกเขาเรื่องเลิกสูบบุหรี่แล้ว เพราะทุกครั้งที่ผมบอกเขาไป เขาทำเพียงรับปากแล้วก็ดูดบุหรี่เช่นเดิม เขาชอบเดินเข้ามาในบ้านแล้วเปิดหน้าต่างทุกบานในบ้าน หลังจากนั้นสักพักเขาก็จุดบุหรี่แล้วก็เดินผ่านหน้าต่างบ้าน ผมที่กำลังนั่งทำงานการบ้านอยู่ในขณะนั้นก็จะได้กลิ่นทุกที ผมมีอคติกับกลิ่นบุหรี่ของเขามาโดยตลอด
นอกจากกลิ่นบุหรี่แล้ว เขาก็ยังกินเหล้าด้วย มีคืนหนึ่งในวันธรรมดา ปู่มีหน้าที่ไปรับส่งผมไปโรงเรียนทุกวัน แต่วันนั้นเขากลับกินเหล้ากับบ้านใกล้ๆจนดึก ด้วยความที่ผมเป็นห่วงเขาและกลัวที่จะไม่ได้ไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น ผมจึงไปตามเขากลับบ้านถึงที่ แต่ผมไปพูดจากับเขาด้วยความโมโห ทำให้ผมทะเลาะกับเจ้าของบ้าน แล้วทำให้ปู่ของผมผิดใจกับเจ้าของบ้านข้างๆ แต่นั่นก็เป็นการตัดแหล่งกินเหล้าของเขาแล้วแหล่งหนึ่ง แต่ทว่ามันยังเหลืออีกแหล่งหนึ่ง คือโต๊ะสนุ๊กเกอร์แถวบ้าน . . .
เขาชอบไปแทงสนุ๊กและเล่นตู้สล็อตที่นั่น และบางครั้งเค้ากลับมาในสภาพเมามาย มีวันหนึ่งผมปั่นจักรยานบ้านโต๊ะสนุ๊ก มีลุงคนหนึ่งบอกผมให้ไปตามปู่ไปหา ผมก็จะเรียกปู่ให้ไปหาลุงคนนั้น คืนนั้นปู่ผมกลับมาด้วยสภาพเมาเละ ทำลายข้าวของในบ้าน ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบพฤติกรรมกินเหล้าของปู่ตามการสูบบุหรี่ไปด้วย
บ้านผมมีฐานะปานกลาง ค่อนไปทางยากจน แต่ปู่ผมก็ยังไม่วายที่จะไปแทงสนุ๊กและเล่นตู้สล็อตที่นั่น ถึงแม้เค้าจะไม่เล่นไพ่หรือคาสิโน แต่การแทงสนุ๊กและเล่นตู้สล็อตก็กินเงินของเขาไปพอควร แถมเขายังดูดบุหรี่วันละ2ซองอีกด้วย แต่ทว่าปู่ไม่มีงานทำ ขอเงินจากย่าไปทุกๆวันเพื่อไปซื้อบุหรี่และหยอดตู้สล็อต ผมรู้สึกรังเกียจผู้คนเหล่านั้นเพราะอบายมุขเหล่านี้มันทำให้ปู่ของผมเป็นคนแบบนี้ คนที่ยุ่งในอบายมุขโดยไม่คำนึงถึงฐานะของครอบครัวและสภาพคล่องทางการเงินภายในบ้าน ถึงแม้คนภายนอกจะดูดบุหรี่ เล่นพนัน หรือติดยา ผมก็ยังไม่รู้สึกเกลียดคนภายนอกเหล่านั้น แต่ผมกลับเริ่มรู้สึกรังเกียจปู่ของผมเองไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ มุมมองของผมแคบเกินไปหรือเปล่าครับ ช่วยบอกผมทีครับ ขอบคุณครับ
ผิดมั้ยครับ ที่ผมรู้สึกรังเกียจปู่ของผมเอง?
นอกจากกลิ่นบุหรี่แล้ว เขาก็ยังกินเหล้าด้วย มีคืนหนึ่งในวันธรรมดา ปู่มีหน้าที่ไปรับส่งผมไปโรงเรียนทุกวัน แต่วันนั้นเขากลับกินเหล้ากับบ้านใกล้ๆจนดึก ด้วยความที่ผมเป็นห่วงเขาและกลัวที่จะไม่ได้ไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น ผมจึงไปตามเขากลับบ้านถึงที่ แต่ผมไปพูดจากับเขาด้วยความโมโห ทำให้ผมทะเลาะกับเจ้าของบ้าน แล้วทำให้ปู่ของผมผิดใจกับเจ้าของบ้านข้างๆ แต่นั่นก็เป็นการตัดแหล่งกินเหล้าของเขาแล้วแหล่งหนึ่ง แต่ทว่ามันยังเหลืออีกแหล่งหนึ่ง คือโต๊ะสนุ๊กเกอร์แถวบ้าน . . .
เขาชอบไปแทงสนุ๊กและเล่นตู้สล็อตที่นั่น และบางครั้งเค้ากลับมาในสภาพเมามาย มีวันหนึ่งผมปั่นจักรยานบ้านโต๊ะสนุ๊ก มีลุงคนหนึ่งบอกผมให้ไปตามปู่ไปหา ผมก็จะเรียกปู่ให้ไปหาลุงคนนั้น คืนนั้นปู่ผมกลับมาด้วยสภาพเมาเละ ทำลายข้าวของในบ้าน ทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบพฤติกรรมกินเหล้าของปู่ตามการสูบบุหรี่ไปด้วย
บ้านผมมีฐานะปานกลาง ค่อนไปทางยากจน แต่ปู่ผมก็ยังไม่วายที่จะไปแทงสนุ๊กและเล่นตู้สล็อตที่นั่น ถึงแม้เค้าจะไม่เล่นไพ่หรือคาสิโน แต่การแทงสนุ๊กและเล่นตู้สล็อตก็กินเงินของเขาไปพอควร แถมเขายังดูดบุหรี่วันละ2ซองอีกด้วย แต่ทว่าปู่ไม่มีงานทำ ขอเงินจากย่าไปทุกๆวันเพื่อไปซื้อบุหรี่และหยอดตู้สล็อต ผมรู้สึกรังเกียจผู้คนเหล่านั้นเพราะอบายมุขเหล่านี้มันทำให้ปู่ของผมเป็นคนแบบนี้ คนที่ยุ่งในอบายมุขโดยไม่คำนึงถึงฐานะของครอบครัวและสภาพคล่องทางการเงินภายในบ้าน ถึงแม้คนภายนอกจะดูดบุหรี่ เล่นพนัน หรือติดยา ผมก็ยังไม่รู้สึกเกลียดคนภายนอกเหล่านั้น แต่ผมกลับเริ่มรู้สึกรังเกียจปู่ของผมเองไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ มุมมองของผมแคบเกินไปหรือเปล่าครับ ช่วยบอกผมทีครับ ขอบคุณครับ