สุดยอดงานวิศวกรรมอุโมงค์ลอดใต้ทะเล

สะพานเออเรซุนด์  (Öresund Bridge )



เป็นสะพานข้ามช่องแคบเออเรซุนด์ ที่เชื่อมต่อจากประเทศสวีเดนไปยังประเทศเดนมาร์กและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ประกอบด้วยทางยกระดับ สะพานขึง และอุโมงค์ลอดใต้ทะเล ขนาด 4 ช่องจราจร และทางรถไฟคู่ขนานไปกับถนนคอนกรีต ตัวสะพานมีระยะทางราว 8 กิโลเมตร ส่วนถนนในอุโมงค์มีระยะทางราว 4 กิโลเมตร
         
ได้ชื่อว่าเป็นทางยกระดับก็ต้องมีการเก็บค่าผ่านทางเป็นธรรมดา หากคุณต้องการจะข้ามสะพานนี้แล้วละก็ต้องเสียเงินค่าผ่านทางราว 1,800 บาท
 ถ้าเรามองดูสะพานนี้จากมุมมองทางอากาศ จะเห็นได้ว่าตัวสะพานจู่ ๆ ก็มุดหายไปในน้ำทะเล แต่ที่จริงแล้วคือ สะพานจากฝั่งสวีเดนนั้นค่อย ๆ ลดระดับลงจนกลายเป็นอุโมงค์ลอดใต้ทะเลต่างหาก

เนื่องจากถนนฟากเดนมาร์กนั้นอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานโคเปนเฮเกนมาก และบรรดาวิศวกรวิตกว่า หากสร้างทางเชื่อมเป็นสะพานทั้งหมด อาจเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องบินที่อาจพลาดมาชนสะพานเมื่อกำลังลดระดับเพดานบินเพื่อลงจอดก็เป็นได้ วิศวกรจึงออกแบบให้มีสะพานและอุโมงค์อย่างละครึ่งนั่นเอง
Cr.https://hilight.kapook.com

สะพานส่งน้ำ เวลูวีเมียร์ (Aqueduct Veluwemeer) 


นี่คืออุโมงค์ถนนลอดใต้ทะเลสาบ เวลูวีเมียร์ ที่ชื่อว่า สะพานส่งน้ำ เวลูวีเมียร์ (Aqueduct Veluwemeer) ที่สร้างแล้วเสร็จและเปิดให้ประชาชนใช้งานเมื่อปี 2545 ซึ่งอุโมงค์แห่งนี้เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของทะเลสาบเวลูวีเมียร์อันแสนกว้างใหญ่ โดยช่องทางน้ำเหนืออุโมงค์มีความกว้าง 19 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 3 เมตร เพียงพอที่จะให้เรือลำไม่ใหญ่นักแล่นผ่านไปได้

ถนนของอุโมงค์แห่งนี้ เป็นถนนสาย N302 ซึ่งเป็นถนนทางหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดโฟลเฟลันด์ ซึ่งเป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับแผ่นดินใหญ่ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ถนนสายนี้มีรถขับผ่านมากกว่า 28,000 คันต่อวัน และนอกจากนี้ยังมีทางเดินเล็ก ๆ ขนาบข้างผืนน้ำ ไว้สำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวบริเวณทะเลสาบอีกด้วย
Cr.https://variety.thaiza.com

อุโมงค์เซกัง (Seikan Tunnel)


เป็นอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดและอยู่ลึกที่สุดในโลก โดยยาวถึง 53.85 กิโลเมตร (ส่วนที่อยู่ทะเลยาว 23.3 กิโลเมตร) และอยู่ลึกจากพื้นดินใต้ท้องทะเลลงไปกว่า 140 เมตร 
          อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเกาะฮอนชูกับเกาะฮอกไกโด ในประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมนั้นสองเกาะนี้เดินทางไปมาหาสู่กันด้วยเรือเฟอร์รี่ แต่การเดินทางด้วยวิธีนี้มีอุปสรรคเยอะ เพราะเจอพายุเป็นประจำ รัฐบาลญี่ปุ่นมีการสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างอุโมงค์เมื่อปี 2489 แต่หลังจากนั้นรัฐบาลได้เร่งเดินหน้าสร้างอุโมงค์แห่งนี้ เพราะในระยะเวลาไม่กี่ปีมีผู้โดยสารใช้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามไปมาระหว่างสองเกาะนี้เพิ่มมากขึ้นกว่า 4 ล้านคนและปริมาณการขนส่งก็เพิ่มมากขึ้นด้วย

ในปี 2531 รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้เปิดใช้งานอุโมงค์ Seikan อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดให้บริการแล้วมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางจากโตเกียวไปเมืองซัปโปโร เกาะฮอกไกโด ที่เรียกได้ว่ามีคนจองเต็มทุกเที่ยวเสมอ แม้ว่าจะแพงกว่าและใช้เวลามากกว่าการนั่งเครื่องบินด้วยซ้ำ 
Cr.https://www.dek-d.com/

อุโมงค์ The Channel Tunnel


เป็นอุโมงค์รถไฟลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดในโลก เชื่อมระหว่างเมืองฟอล์คสโตน มณฑลเค้นท์ บริเตนใหญ่กับตำบลคอแกลส์ เมืองกาเลส์ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส มีความยาวทั้งสิ้น 50.5 กิโลเมตร มีส่วนที่อยู่ใต้ทะเลยาว 37.9 กิโลเมตร ส่วนที่อยู่ใต้น้ำต่ำที่สุดที่ 75 เมตร และลึกสุดที่ 230 เมตร โดยเป็นเส้นทางคมนาคมของรถไฟและรถยนต์ อุโมงค์แห่งนี้สร้างลอดใต้ช่องแคบอังกฤษบริเวณช่องแคบโดเวอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุด ที่มีความกว้าง 34 กิโลเมตร
         
           อุโมงค์ช่องแคบอังกฤษเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1987 บริหารงานโดยบริษัท ยูโรทันเนล เปิดใช้งานอุโมงค์เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 เปิดการเดินรถเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 4,650 ล้านปอนด์ หรือราว 228 ล้านบาท มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
            รถไฟที่วิ่งในอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ มีชื่อว่า “ยูโรสตาร์” (Eurostar) ซึ่งมีความยาว 800 เมตร หรือเทียบเท่ากับสนามฟุตบอล 7 สนาม ใช้ความเร็วในการวิ่ง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที ในการเดินทางจากลอนดอนไปปารีส และนับจากเปิดการเดินรถเมื่อปี ค.ศ.1994 มีผู้ใช้บริการการคมนาคมอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษราว 57 ล้านคน ซึ่งมีจำนวนเทียบเท่าประชากรชาวอังกฤษ
Cr.http://ammyvilla.blogspot.com

อุโมงค์ Greenwich Foot Tunnel


เป็นอุโมงค์ทางเท้าลอดใต้แม่น้ำเทมส์ ในลอนดอนตะวันออก ประเทศอังกฤษ ได้รับการออกแบบโดยวิศวกรโยธาที่ชื่อ Sir Alexander Binnie สร้างขึ้นสำหรับสภาเทศบาลเมืองลอนดอนและสร้างโดยผู้รับเหมาก่อสร้าง John Cochrane & Co โดยสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1899 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1902 

ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางสำหรับคนงานที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำเทมส์ เพื่อเดินทางไปทำงานบนท่าเรือลอนดอน และอู่ต่อเรือ Isle of Dogs แทนเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากและบริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการข้ามฝั่งไปยังแม่น้ำเทมส์ บริเวณปลายทางเข้าอุโมงค์ทั้ง 2 ด้านอยู่ใต้อาคารโดมและลิฟท์ ซึ่งติดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1904 ต่อมาได้รับการปรับปรุงในปี 1992 เพื่อความปลอดภัย และมีบันไดที่ช่วยให้คนเดินเท้าเข้าถึงพื้นที่ลาดเอียง
อุโมงค์เหล็กนี้มีความยาว 1,215 ฟุต หรือ 370.2 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายในประมาณ 9 ฟุต วงแหวนเหล็กเคลือบด้วยคอนกรีตและกระเบื้องเคลือบขาวกว่า 200,000 แผ่น ทางตอนเหนือของอุโมงค์ถูกทำลายด้วยระเบิด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอุโมงค์แห่งนี้ จัดเป็นทางหลวงสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หากต้องการเข้าอุโมงค์นี้ ให้มองหาอาคารโดมใหญ่ๆ เพื่อหาทางเข้าใต้ดิน ซึ่งสามารถเข้าได้โดยบันไดหมุนและลิฟท์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีการตกแต่งใหม่ระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง ค.ศ. 2012 

นอกจากนี้อุโมงค์นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางปั่นจักรยานของสหราชอาณาจักร ที่เชื่อมไปอินเวอร์เนสส์ (Inverness) และโดเวอร์ (Dover) ในปัจจุบันอุโมงค์แห่งนี้ยังคงเป็นที่นิยม ซึ่งในแต่ละปี มีประชาชนใช้บริการไม่ต่ำกว่าปีละ 1.5 ล้านคน เรียกได้ว่า เป็นอุโมงค์ที่สร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนร่วมอย่างแท้จริง
Cr.https://www.talontiew.com/

สะพาน "ฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า"


สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เป็นประธานในพิธีเปิด สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge) อย่างเป็นทางการ สะพานแห่งนี้มีความยาวทั้งสิ้น 55 กิโลเมตร ประกอบด้วย สะพานข้ามทะเล อุโมงค์ลอดใต้ทะเล และเกาะเทียม นับเป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก เชื่อมเกาะฮ่องกง เมืองจูไห่ของมณฑลกวางตุ้ง และเกาะมาเก๊า 

โดยสะพานดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยวของเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง (Pearl River Delta: PRD) ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก รวมถึงร่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างฮ่องกงกับจูไห่ จากเดิม 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น 

ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศอย่าง The Guardian ยังยกให้เป็น "หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่" อีกด้วย 
Cr.http://www.thaiticketmajor.net

อุโมงค์ใต้น้ำนอร์เวย์


นอร์เวย์สุดทุ่ม เตรียมลงทุนงบประมาณ 2,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 87,000 ล้านบาท เพื่อสร้างอุโมงค์รถใต้น้ำวิ่งข้ามฝั่ง
ซอนเนฟยอร์ดเป็นเมืองที่มีสภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อน ซึ่งการเดินทางจากเมืองคริสเตียนซานไปยังเมืองทรอนด์เฮมมีระยะห่างถึง 680 ไมล์ ต้องใช้เวลานั่งเรือข้ามฟากถึง 21 ชม.
ทางรัฐบาลนอร์เวย์จึงมีแนวคิด ในการสร้างอุโมงค์ใต้น้ำเพื่อช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้ถึง 10 ชม. ซึ่งอุโมงค์ใต้นำนี้จะเชื่อมเส้นทางจากเมืองคริสเตียนซานทางใต้ ไปยังเมืองทรอนด์ไฮม์ทางภาคเหนือ

ลักษณะของอุโมงค์ใต้น้ำนี้จะถูกสร้างให้ตลอดแนวเส้นทางอุโมงค์ยึดโยงด้วยโครงและทุ่นบนผิวน้ำ พร้อมสลักใต้ท้องน้ำ พร้อมกับมีทุ่นลอยน้ำเพื่อรักษาระดับของอุโมงค์ และตัวอุโมงค์มีความยาว 2.4 กม. อยู่ในระดับลึกลงไปใต้ทะเล 30 เมตร
ทั้งนี้อุโมงค์ใต้น้ำให้รถวิ่งได้มีกำหนดสร้างแล้วเสร็จปี 2578 หรืออีก 19 ปีข้างหน้า
Cr.https://www.home.co.th
 
 
 
อุโมงค์ยูเรเซีย (Eurasia Tunnel)


ตุรกีเปิดอุโมงค์ใต้ทะเลแห่งแรกเพื่อใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป ลอดใต้ช่องแคบ "บอสฟอรัส"

อุโมงค์ยูเรเซีย (Eurasia Tunnel) ซึ่งเป็นอุโมงค์ข้ามทวีปที่ลึกที่สุดในโลกนี้ มี 2 ชั้น ครอบคลุมระยะทาง 15 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาการจราจรที่ติดขัดในเมือง โดยสามารถย่นระยะเวลาในการเดินทางจาก 100 นาทีให้เหลือเพียง 15 นาที ทั้งยังสามารถรองรับรถยนต์ได้มากถึง 100,000 คันในแต่ละวัน
อุโมงค์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2011 ใช้งบประมาณ 1.25 พันล้านดอลลาร์ ใต้ช่องแคบบอสฟอรัส ที่ระดับความลึก 106 เมตร สร้างโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบระบายอากาศความจุสูง อุปกรณ์พิเศษด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย ผนังกันไฟและระบบการอพยพฉุกเฉิน สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ถึง 7.5 ริกเตอร์
Cr.https://variety.thaiza.com
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่