ขอแนะนำตัวคราวๆ เราเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่เพิ่งเลิกกับแฟนที่คบมาเกือบ 6ปี กำลังจะสร้างครอบครัวอยู่แล้ววว ไปดูบ้านดูช่องกัน
จะได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนสักทีโว้ยยย แต่ชีวิตก็ไม่ได้มีขึ้นอย่างเดียวไงคะ มันหล่นตุบ!! คือเราเลิกกัน เลยเกิดเรื่องนี้ขึ้น
อะเข้าเรื่องเลย... เริ่ม!!
( ป.ล.เรื่องเราค่อนข้างยาวววววว ใครเครียดๆ คิดซะว่า อ่านนิยายแย่มใสละกันเนอะ 55555 )
มันเป็นช่วงชีวิตนึงของเราที่โคตรจะวุ่นวาย
เราเพิ่งรู้ว่าการเลิกลาเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัวเเละสิ้นเปลืองมาก เปลืองทั้งเวลา ทั้งเงิน ทั้งความรู้สึก
เราเป็นหนี้บัตรเครดิตได้แบบ อีเ-ี้ยยยย นี้คือค่าซื้อความสุขของตูหราาาาา เเม่รู้ ตูคงโดนฆ่า
เเต่หน้าแปลก ที่มันช่วยได้จิงๆ เงินที่เอามาหักลบกับความเหงาที่เราสร้างขึ้น
นี่แหละที่เค้าบอกว่าเงินซื้อความสุขได้ ถึงมันจะสั้นนิดเดียว 55555 ที่เหลือทุกข์ล้วนๆ
( แม้ตอนนี้มันกลายเป็นความทุกข์ที่ตาม เเต่มันพาเราผ่านช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิดมาได้ตั้งนาน
ขอขอบคุณ KTC SCB และ KBANK มา ณ ที่นี่ด้วย จะตั้งใจใช้หนี้ต่อไป 555 )
เราใช้ชีวิตแบบเละเทะมาพักใหญ่ๆ เเละได้เจอเพื่อนคนนึงที่ปัดได้ในทินเดอร์ ( เออค่ะ ทินเดอร์ก็มา 5555 )
ซึ่งก็ไม่ได้ตั้งใจจะปัดมันเล๊ยยยยย แต่เพราะมันคือคนที่ติดดาวมา ใครเล่นทินก็จะเข้าใจเนอะ คือ เราสามารถติดดาวให้ใครก็ได้1คน
ที่เราคิดว่า เราชอบมาก อยากให้เค้ารู้ว่าเราชอบ ก็ติดดาวไปเลยจ้า ยั่วๆ และเพราะเราคงสวยมากจนมันห้ามใจไม่ไหว 55555 ( อันนี้น่าจะคิดไปเอง )
ส่วนรูปโปรไฟล์ของมันคือคนอ้วนๆดำๆที่ในมือถือกล้องแคนนอน ไม่มีอะไรดึงดูด ยกเว้นกล้องในมือ ตกเหยื่อได้ตรงจุดสุด
และความเลวของเราที่มีมากมายเหลือเกิน เราแค่เห็นว่ามันคือช่างภาพและน่าจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะเราเองก็ชอบถ่ายรูป
เอาไว้หลอกถามทริกถ่ายภาพแบบขำๆ และก็เหมือนคนอื่นๆที่ปัดมา คือเอาไว้คุยแก้เหงาไปงั้นๆ ไม่ได้พิศวาทอะไรในตัวมันเลย
ผลประโยชน์ล้วนๆ เลวจิ๊งงง เราก็คุยกะมันพร้อมกับคุยกะคนโน้นคนนี้ ตามสไตล์คนเล่นแอพพวกนี้
วันนึงเราเริ่มสนใจหนุ่มคนนึงในแอพ ทำให้ช่วงนั้นก็ไม่อยากคุยกะใคร เพราะอยากโฟกัสเเค่คนเดียว (ตอจัง555)
แต่มันก็ยังทักมาทูกกกกวัน เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ไม่อ่านซะส่วนใหญ่
เรื่องมันเกิดแบบเนี่ยยยย...วันนั้นเราตัดสินใจนัดพ่อหนุ่มที่เราโฟกัสเเค่คนเดียวมา ตัวจิงนางก็โอเค สูง ขาวววว..เนียนกริ๊บเหมือนในรูปเด๊ะ 555555
เรานัดนางไว้ร้านประจำแถวลาดพร้าว พอนางมาถึงก็มานั่งคุยโน้นนี้ตามประสา แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ นางพูดไม่เก่งเหมือนในแชทเลย
ทำให้เรารู้สึกเกร็งแปลกๆเวลาคุยกัน ตอนนั้นเราดื่มไปพอสมควรเพื่อแก้เขิน เเต่กลับไม่ได้สนิทใจที่จะคุยเลย
นางเองก็น่าจะรู้สึกไม่ต่างกัน นางเลยขอตัวกลับก่อน ทิ้งเราไว้ในความเหงาแบบเมาๆ
ซึ่งจังหวะนรกมาก ไอคุณดำช่างภาพ มันทักมาพอดี เอาวะ นัดมาอีกคนเลยละกัน มาวันเดียวเจอ 2คนไปเล๊ยยย
เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก2ตัวอะ ไหนๆก็โดนเทล่ะ นั่งคนเดียวก็เหงา หาเพื่อนเม้าดีกว่า 55555
พอชวนมันมา มันไม่ปฏิเสธเลยจ่ะ มันมาเลย มันบอกมาถ่ายงานเเถวนี้ เพิ่งเลิกงานพอดีเลย ไม่รู้ขี้โม้หรือป่าว อะไรจะพอดีขนาดนั้น เเต่ก็ดีกว่าไม่มีเพื่อน
พอมันมาถึง มันน่าตลกมากที่เรากลับคุยกะมันได้เป็นชั่วโมง แบบไม่มีพัก ในใจก็คิด ทำไมตูคุยกะเมิงถูกคอจังวะ เหมือนรู้จักกันมานาน
รู้สึกสบายใจที่จะเล่าเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นช่วงที่พามา เลยให้ยกตำแหน่งเพื่อนขี้เม้าและสุดยอดนักรับฟังที่ดีให้มันไปโดยบรรยาย
จากนั้นไม่นาน เราเริ่มติดใจเพื่อนคนใหม่คนนี้มาก ทิ้งพ่อหนุ่มสุดขาวไปเลย ด้วยความที่คุยกันถูกคอ เราเริ่มนัดเจอมันบ่อยขึ้น
กินเบียร์คนเดียวบางทีก็เหงาอะเนอะ ไอ้เพื่อนก็ไม่เคยว่างเลย คนเศร้าๆ มีเพื่อนกินด้วยก็โอเค๊
จากนั้นคุยกัน นัดเจอกัน จนเริ่มสนิทกันในระดับนึง แต่เราชัดเจนนะ พูดกรอกหูทุกครั้ง ว่ายังไม่อยากมีแฟน ไม่ต้องจีบ 5555
ซึ่งมันก็โอเค เพราะมันก็เพิ่งเลิกกะแฟนเหมือนกัน ยังไม่อยากมี อยากสนุกก่อน เออ คิดตรงกัน ผ่าน!
ช่วงนั้นอยู่ๆนึกเคว้งอะไรไม่รู้ อยู่ในช่วงเครียดกะหลายๆเรื่อง อยากลองไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียว เคยคิดไว้นานเเล้ว ว่าจะลองเที่ยวคนเดียวบ้าง
แต่ในใจก็เกิดกลัว เพราะที่ๆอยากไป คือเข้าไปลำบากมาก ไปคนเดียวตายแน่ๆ
จังหวะก็นรกอีกแล้ว มันก็ดันทักมาตอนเรากำลังนั่งวิเคราะห์เส้นทาง เราเลยเอ่ยปากชวนไปแบบงงๆ และที่งงกว่าคือมันตกลงไปเฉย
คือตูชวนไปไหนคือไปหมดอะ มีใจให้ตูหรือป่าวเนี่ย นี่คือคิดในใจนะ 55555
เเต่คือชวนไปแล้วอะ จะมาเปลี่ยนใจไม่ให้ไปก็เลวเกิ๊น แถมมันเสนอตัวด้วยว่าจะขี่มอไซย์กะถ่ายรูปให้ ฮั่นแน่ เอากล้องมาตกเหยื่ออีกแล้ววววว
เข้าทางเราเลย ก็เลยตามเลย สรุปก็พกมันไปด้วยแบบงง
ที่เเรกที่ไปถึงคือป่าบงเปียง เป็นทุ่งนาบนยอดดอย มีกระต้อบเล็กๆ ที่เปิดเข้าไปแล้วต้องอุทานว่า อีเขี้ยยยยย มีฟูกอันเดียวกะหมอน2ใบ ไม่มีไฟฟ้า
ในหัวเราคิดเลวก่อนเลย ตูพลาดเเน่ๆ ที่เอามันมาด้วย โอ้โห้จะได้ผัวกลับไปปะเนี่ย นอนกันแบบเนี่ย ถ้ามันปล้ำตู ชาวเขาจะช่วยตูได้มั๊ย
กรี๊ดมากอะ และคือมันซื้อเบียร์ขึ้นมาด้วย จะมอมตูเเน่ๆ คิดดีไม่ได้เลยจิง 555555
สรุปคืนนั้นคือ มันนอนก่อนเลยจ่ะ ไม่รอด้วย หลับก่อนตูอีก ดอกมาก ตูเนี่ย ดอกมากคิดไปได้ เเต่กลายเป็นคือคืนที่ดีมากกกกก
ลองคิดภาพตามนะ กระต๊อบเล็กๆ ไม่มีไฟ อากาศเย็นๆ นอนดูดาว จิบเบียร์ เเล้วก็เม้าเรื่องแฟนเก่ากัน 5555
ถ้ามาคนเดียวคงเหงามาก เราโชคดีเเล้วที่มีเพื่อนมาด้วย ผ่านคืนนั้นทำให้รู้ว่า มันไม่ได้แย่แบบหน้ามันเลย โทดๆ 55555
วันที่2 วันที่3 วันที่4 จนกลับ เออ มันพาเราไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วยนะ เพราะเราบอกว่ามาเชียงใหม่ขอไปดูหมีแพนด้าหน่อย 55555
ทำให้เราสนิทกันมาขึ้น สนิทใจมากขึ้นและรู้ว่าลึกๆจริงๆมันนิสัยดีนะ
เเต่ที่แปลกคือ พอกลับจากเชียงใหม่ มันหายไป!!
ปกติมันจะเป็นคนที่ทักมาคุยก่อนเสมอ แต่หลังจากที่กลับมา มันไม่ทัก พอทักไปก่อน มันก็ไม่ค่อยตอบ หรือตอนที่ไปเชียงใหม่ เราทำตัวเเย่ๆหรือป่าว
มันเลยจะถอยห่างออกไป ก็เลยไม่อยากไปกวน และคิดว่าถ้ามันอยากคุยคงทักมา
หลังเลิกงานวันนึง เราไปดื่มกะน้องที่ออฟฟิศแบบที่เคย อ้อ...ขอแทรกนิดนึง ปกติเราไม่ใช่คนขี้เมาเเต่อย่างใด มีไปดื่มบ้าง เเต่มันอยู่ในช่วงเหงา
เพราะปกติอยู่กับแฟนตลอด 6ปี พออยู่คนเดียวมันโคตรเหงาเลยนะ ไม่รู้มีใครเคยเป็นมั๊ย อะต่อๆๆ
ตอนดื่มก็รู้สึกสนุกสนาน แต่พอเมาเข้าที่ กลับรู้สึกว่า เห้ย..มันเงียบไปแล้ว ทำไมมันไม่ทักมาเลย เหมือนกับว่าเพื่อนคนนึงของเรากำลังหายไป
ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียวว่า อยากเจอมันจัง ด้วยความเมา และความดื้อของเราเอง เมาแล้ววาบเก่งงงง อยู่ๆเราก็ขึ้นแท็กซี่เพื่อจะไปหามัน
ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าบ้านมันอยู่ไหน คือโทหามัน เเล้วยืนโทสับให้แท็กซี่คุย จากนั้นตูหลับยาวเลยจ้า จำได้ว่าเมามาก อ้วกระหว่างทางด้วย
( นิสัยไม่ดีห้ามลอกเลียบแบบนะคะ 5555 )
คือเรามาบ้านมันเพราะอะไรไม่รู้ ถึงหน้าบ้านคือโดนด่า แล้วมันก็พาขึ้นห้อง พอเปิดประตูปุ๊บตูทิ้งตัวลงที่นอนปั๊บ แล้วได้ยินเสียงด่าตามมาเป็นระยะ
เราหลับตาเพราะเมามากไม่สามารถคอนโทลร่างได้... อย่าคิดว่า ต่อไปนี้ต้องเป็นฉากเข้าได้เข้าเข็ม
สิ่งที่มันทำคือถอดถุงเท้าให้ วันนั้นเราใส่กระโปรงยาวไป ตอนนอนกระโปรงน่าจะขยับขึ้นไปหน่อย
มันดึงลงมาปิดแล้วห่มผ้าให้ อเมซิ่งมาก จากนั้นมันก็นอนลงที่พื้นข้างๆเตียง แล้วถามเราว่า "เมิงมาทำไม" 55555
ตูมาทำไมไม่รู้ แต่เมิงน่ารักมากกกในนาทีนั้น
ส่วนคำตอบที่ตอบมันไปวันนั้นคือ "ฉันคิดถึงเทอ"
มาถึงจุดนี้ ทุกคนคงรู้เรื่องราวของเราคราวๆแล้ว 55555
เดียวเรามาต่อให้นะ
ทินเดอร์!!! ครั้งแรกกับแอพหาคู่ ไม่ได้เพื่อน ก็ได้ผู้ ก็ไม่แย่นะ
จะได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนสักทีโว้ยยย แต่ชีวิตก็ไม่ได้มีขึ้นอย่างเดียวไงคะ มันหล่นตุบ!! คือเราเลิกกัน เลยเกิดเรื่องนี้ขึ้น
อะเข้าเรื่องเลย... เริ่ม!!
( ป.ล.เรื่องเราค่อนข้างยาวววววว ใครเครียดๆ คิดซะว่า อ่านนิยายแย่มใสละกันเนอะ 55555 )
มันเป็นช่วงชีวิตนึงของเราที่โคตรจะวุ่นวาย
เราเพิ่งรู้ว่าการเลิกลาเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัวเเละสิ้นเปลืองมาก เปลืองทั้งเวลา ทั้งเงิน ทั้งความรู้สึก
เราเป็นหนี้บัตรเครดิตได้แบบ อีเ-ี้ยยยย นี้คือค่าซื้อความสุขของตูหราาาาา เเม่รู้ ตูคงโดนฆ่า
เเต่หน้าแปลก ที่มันช่วยได้จิงๆ เงินที่เอามาหักลบกับความเหงาที่เราสร้างขึ้น
นี่แหละที่เค้าบอกว่าเงินซื้อความสุขได้ ถึงมันจะสั้นนิดเดียว 55555 ที่เหลือทุกข์ล้วนๆ
( แม้ตอนนี้มันกลายเป็นความทุกข์ที่ตาม เเต่มันพาเราผ่านช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิดมาได้ตั้งนาน
ขอขอบคุณ KTC SCB และ KBANK มา ณ ที่นี่ด้วย จะตั้งใจใช้หนี้ต่อไป 555 )
เราใช้ชีวิตแบบเละเทะมาพักใหญ่ๆ เเละได้เจอเพื่อนคนนึงที่ปัดได้ในทินเดอร์ ( เออค่ะ ทินเดอร์ก็มา 5555 )
ซึ่งก็ไม่ได้ตั้งใจจะปัดมันเล๊ยยยยย แต่เพราะมันคือคนที่ติดดาวมา ใครเล่นทินก็จะเข้าใจเนอะ คือ เราสามารถติดดาวให้ใครก็ได้1คน
ที่เราคิดว่า เราชอบมาก อยากให้เค้ารู้ว่าเราชอบ ก็ติดดาวไปเลยจ้า ยั่วๆ และเพราะเราคงสวยมากจนมันห้ามใจไม่ไหว 55555 ( อันนี้น่าจะคิดไปเอง )
ส่วนรูปโปรไฟล์ของมันคือคนอ้วนๆดำๆที่ในมือถือกล้องแคนนอน ไม่มีอะไรดึงดูด ยกเว้นกล้องในมือ ตกเหยื่อได้ตรงจุดสุด
และความเลวของเราที่มีมากมายเหลือเกิน เราแค่เห็นว่ามันคือช่างภาพและน่าจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะเราเองก็ชอบถ่ายรูป
เอาไว้หลอกถามทริกถ่ายภาพแบบขำๆ และก็เหมือนคนอื่นๆที่ปัดมา คือเอาไว้คุยแก้เหงาไปงั้นๆ ไม่ได้พิศวาทอะไรในตัวมันเลย
ผลประโยชน์ล้วนๆ เลวจิ๊งงง เราก็คุยกะมันพร้อมกับคุยกะคนโน้นคนนี้ ตามสไตล์คนเล่นแอพพวกนี้
วันนึงเราเริ่มสนใจหนุ่มคนนึงในแอพ ทำให้ช่วงนั้นก็ไม่อยากคุยกะใคร เพราะอยากโฟกัสเเค่คนเดียว (ตอจัง555)
แต่มันก็ยังทักมาทูกกกกวัน เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ไม่อ่านซะส่วนใหญ่
เรื่องมันเกิดแบบเนี่ยยยย...วันนั้นเราตัดสินใจนัดพ่อหนุ่มที่เราโฟกัสเเค่คนเดียวมา ตัวจิงนางก็โอเค สูง ขาวววว..เนียนกริ๊บเหมือนในรูปเด๊ะ 555555
เรานัดนางไว้ร้านประจำแถวลาดพร้าว พอนางมาถึงก็มานั่งคุยโน้นนี้ตามประสา แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ นางพูดไม่เก่งเหมือนในแชทเลย
ทำให้เรารู้สึกเกร็งแปลกๆเวลาคุยกัน ตอนนั้นเราดื่มไปพอสมควรเพื่อแก้เขิน เเต่กลับไม่ได้สนิทใจที่จะคุยเลย
นางเองก็น่าจะรู้สึกไม่ต่างกัน นางเลยขอตัวกลับก่อน ทิ้งเราไว้ในความเหงาแบบเมาๆ
ซึ่งจังหวะนรกมาก ไอคุณดำช่างภาพ มันทักมาพอดี เอาวะ นัดมาอีกคนเลยละกัน มาวันเดียวเจอ 2คนไปเล๊ยยย
เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก2ตัวอะ ไหนๆก็โดนเทล่ะ นั่งคนเดียวก็เหงา หาเพื่อนเม้าดีกว่า 55555
พอชวนมันมา มันไม่ปฏิเสธเลยจ่ะ มันมาเลย มันบอกมาถ่ายงานเเถวนี้ เพิ่งเลิกงานพอดีเลย ไม่รู้ขี้โม้หรือป่าว อะไรจะพอดีขนาดนั้น เเต่ก็ดีกว่าไม่มีเพื่อน
พอมันมาถึง มันน่าตลกมากที่เรากลับคุยกะมันได้เป็นชั่วโมง แบบไม่มีพัก ในใจก็คิด ทำไมตูคุยกะเมิงถูกคอจังวะ เหมือนรู้จักกันมานาน
รู้สึกสบายใจที่จะเล่าเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นช่วงที่พามา เลยให้ยกตำแหน่งเพื่อนขี้เม้าและสุดยอดนักรับฟังที่ดีให้มันไปโดยบรรยาย
จากนั้นไม่นาน เราเริ่มติดใจเพื่อนคนใหม่คนนี้มาก ทิ้งพ่อหนุ่มสุดขาวไปเลย ด้วยความที่คุยกันถูกคอ เราเริ่มนัดเจอมันบ่อยขึ้น
กินเบียร์คนเดียวบางทีก็เหงาอะเนอะ ไอ้เพื่อนก็ไม่เคยว่างเลย คนเศร้าๆ มีเพื่อนกินด้วยก็โอเค๊
จากนั้นคุยกัน นัดเจอกัน จนเริ่มสนิทกันในระดับนึง แต่เราชัดเจนนะ พูดกรอกหูทุกครั้ง ว่ายังไม่อยากมีแฟน ไม่ต้องจีบ 5555
ซึ่งมันก็โอเค เพราะมันก็เพิ่งเลิกกะแฟนเหมือนกัน ยังไม่อยากมี อยากสนุกก่อน เออ คิดตรงกัน ผ่าน!
ช่วงนั้นอยู่ๆนึกเคว้งอะไรไม่รู้ อยู่ในช่วงเครียดกะหลายๆเรื่อง อยากลองไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียว เคยคิดไว้นานเเล้ว ว่าจะลองเที่ยวคนเดียวบ้าง
แต่ในใจก็เกิดกลัว เพราะที่ๆอยากไป คือเข้าไปลำบากมาก ไปคนเดียวตายแน่ๆ
จังหวะก็นรกอีกแล้ว มันก็ดันทักมาตอนเรากำลังนั่งวิเคราะห์เส้นทาง เราเลยเอ่ยปากชวนไปแบบงงๆ และที่งงกว่าคือมันตกลงไปเฉย
คือตูชวนไปไหนคือไปหมดอะ มีใจให้ตูหรือป่าวเนี่ย นี่คือคิดในใจนะ 55555
เเต่คือชวนไปแล้วอะ จะมาเปลี่ยนใจไม่ให้ไปก็เลวเกิ๊น แถมมันเสนอตัวด้วยว่าจะขี่มอไซย์กะถ่ายรูปให้ ฮั่นแน่ เอากล้องมาตกเหยื่ออีกแล้ววววว
เข้าทางเราเลย ก็เลยตามเลย สรุปก็พกมันไปด้วยแบบงง
ที่เเรกที่ไปถึงคือป่าบงเปียง เป็นทุ่งนาบนยอดดอย มีกระต้อบเล็กๆ ที่เปิดเข้าไปแล้วต้องอุทานว่า อีเขี้ยยยยย มีฟูกอันเดียวกะหมอน2ใบ ไม่มีไฟฟ้า
ในหัวเราคิดเลวก่อนเลย ตูพลาดเเน่ๆ ที่เอามันมาด้วย โอ้โห้จะได้ผัวกลับไปปะเนี่ย นอนกันแบบเนี่ย ถ้ามันปล้ำตู ชาวเขาจะช่วยตูได้มั๊ย
กรี๊ดมากอะ และคือมันซื้อเบียร์ขึ้นมาด้วย จะมอมตูเเน่ๆ คิดดีไม่ได้เลยจิง 555555
สรุปคืนนั้นคือ มันนอนก่อนเลยจ่ะ ไม่รอด้วย หลับก่อนตูอีก ดอกมาก ตูเนี่ย ดอกมากคิดไปได้ เเต่กลายเป็นคือคืนที่ดีมากกกกก
ลองคิดภาพตามนะ กระต๊อบเล็กๆ ไม่มีไฟ อากาศเย็นๆ นอนดูดาว จิบเบียร์ เเล้วก็เม้าเรื่องแฟนเก่ากัน 5555
ถ้ามาคนเดียวคงเหงามาก เราโชคดีเเล้วที่มีเพื่อนมาด้วย ผ่านคืนนั้นทำให้รู้ว่า มันไม่ได้แย่แบบหน้ามันเลย โทดๆ 55555
วันที่2 วันที่3 วันที่4 จนกลับ เออ มันพาเราไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วยนะ เพราะเราบอกว่ามาเชียงใหม่ขอไปดูหมีแพนด้าหน่อย 55555
ทำให้เราสนิทกันมาขึ้น สนิทใจมากขึ้นและรู้ว่าลึกๆจริงๆมันนิสัยดีนะ
เเต่ที่แปลกคือ พอกลับจากเชียงใหม่ มันหายไป!!
ปกติมันจะเป็นคนที่ทักมาคุยก่อนเสมอ แต่หลังจากที่กลับมา มันไม่ทัก พอทักไปก่อน มันก็ไม่ค่อยตอบ หรือตอนที่ไปเชียงใหม่ เราทำตัวเเย่ๆหรือป่าว
มันเลยจะถอยห่างออกไป ก็เลยไม่อยากไปกวน และคิดว่าถ้ามันอยากคุยคงทักมา
หลังเลิกงานวันนึง เราไปดื่มกะน้องที่ออฟฟิศแบบที่เคย อ้อ...ขอแทรกนิดนึง ปกติเราไม่ใช่คนขี้เมาเเต่อย่างใด มีไปดื่มบ้าง เเต่มันอยู่ในช่วงเหงา
เพราะปกติอยู่กับแฟนตลอด 6ปี พออยู่คนเดียวมันโคตรเหงาเลยนะ ไม่รู้มีใครเคยเป็นมั๊ย อะต่อๆๆ
ตอนดื่มก็รู้สึกสนุกสนาน แต่พอเมาเข้าที่ กลับรู้สึกว่า เห้ย..มันเงียบไปแล้ว ทำไมมันไม่ทักมาเลย เหมือนกับว่าเพื่อนคนนึงของเรากำลังหายไป
ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียวว่า อยากเจอมันจัง ด้วยความเมา และความดื้อของเราเอง เมาแล้ววาบเก่งงงง อยู่ๆเราก็ขึ้นแท็กซี่เพื่อจะไปหามัน
ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าบ้านมันอยู่ไหน คือโทหามัน เเล้วยืนโทสับให้แท็กซี่คุย จากนั้นตูหลับยาวเลยจ้า จำได้ว่าเมามาก อ้วกระหว่างทางด้วย
( นิสัยไม่ดีห้ามลอกเลียบแบบนะคะ 5555 )
คือเรามาบ้านมันเพราะอะไรไม่รู้ ถึงหน้าบ้านคือโดนด่า แล้วมันก็พาขึ้นห้อง พอเปิดประตูปุ๊บตูทิ้งตัวลงที่นอนปั๊บ แล้วได้ยินเสียงด่าตามมาเป็นระยะ
เราหลับตาเพราะเมามากไม่สามารถคอนโทลร่างได้... อย่าคิดว่า ต่อไปนี้ต้องเป็นฉากเข้าได้เข้าเข็ม
สิ่งที่มันทำคือถอดถุงเท้าให้ วันนั้นเราใส่กระโปรงยาวไป ตอนนอนกระโปรงน่าจะขยับขึ้นไปหน่อย
มันดึงลงมาปิดแล้วห่มผ้าให้ อเมซิ่งมาก จากนั้นมันก็นอนลงที่พื้นข้างๆเตียง แล้วถามเราว่า "เมิงมาทำไม" 55555
ตูมาทำไมไม่รู้ แต่เมิงน่ารักมากกกในนาทีนั้น
ส่วนคำตอบที่ตอบมันไปวันนั้นคือ "ฉันคิดถึงเทอ"
มาถึงจุดนี้ ทุกคนคงรู้เรื่องราวของเราคราวๆแล้ว 55555
เดียวเรามาต่อให้นะ