[brief]
-จาก House RCA สู่ HOUSE Samyan "บ้าน" อันแสนอบอุ่นของคนรักหนัง สถานที่ที่หนังทางเลือกจากทั่วโลกได้มีโอกาสมาพบกับผู้ชมชาวไทย
-มาร่วมหวนคิดถึง house RCA และฉลองขึ้นบ้านใหม่ HOUSE Samyan ไปพร้อมกันในกระทู้นี้
.
ย้อนกลับช่วงเดือนเมษายน 2555 ผมเห็นโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐโปรโมทหนังญี่ปุ่นฟีลกู๊ด-ชวนถวิลหาอดีตที่ฮิตมากๆ ในบ้าน (แต่ถือว่าเป็นหนังนอกกระแสในบ้านเรา) เรื่องหนึ่งที่จะเข้าฉายในเมืองไทย หนังเรื่องนั้นคือ Always: Sunset on the Third Street 3
.
ผมจำได้ว่าในโฆษณาระบุไว้ว่าโรงหนังที่จะฉายหนังเรื่องนี้มีสองที่ ที่แรกคือเครือเอเพล็กซ์ใจกลางสยามสแควร์ และโรงหนังอีกที่หนึ่งนั้นตั้งอยู่ในในอาร์ซีเอ พอดูต่อมาในเฟสบุ๊กก็รู้ว่าโรงหนังแห่งที่สองนั้นจะฉายหนังภาคแรกและภาคสองก่อนเพื่อเป็นการต้อนรับภาคสามที่กำลังจะมาถึง ผมในวัย 12 ขวบกว่าๆ จึงลองชวนแม่ไปดู Always ภาคแรก เผื่อว่าชอบและจะได้ดูภาคต่อๆ มาต่อไป
.
นั่นคือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้รู้จัก House RCA
.
[house RCA x ชนชั้นปรสิต (ภาพโดย: ชนชั้นปรนิสิต)]
.
ครั้งที่แรกที่ผมไปนั้น เฮาส์ยังมีโรงหนังเพื่อนบ้านอย่าง UMG ที่ฉายหนังกระแสหลักอยู่ (แต่ปิดไปไม่นานหลังจากที่ผมไปเฮาส์ครั้งแรก) ทางเข้าของเฮาส์คือประตูไม้ทึบบานใหญ่ที่แบ่งโรงหนังกับโลกด้านนอก เมื่อเข้าไปแล้วก็พบกับเคาน์เตอร์ขายตั้วที่มีวอลเปเปอร์อันเป็นเอกลักษณ์ และทางเดินสู่โรงหนังนั้น ด้านซ้ายจะมีร้านดีวีดีเล็กๆ ร้านคาเฟ่และจุดขายขนมตั้งอยู่ถัดมา (แต่ตอนหลังเหลือเพียงซุ้มขายขนมและที่นั่งรอ) แล้วสุดทางจึงเป็นโรง 1-2 ส่วนด้านขวาของทางเดินเป็นภาพการ์ตูนลายเส้นน่ารักๆ (ที่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเคยมีคนมือบอนไปขีดเขียน น่าตีมือจริงๆ) ยาวไปจนถึงสุดทางเดินที่เป็นภาพสีรวมมิตรหนัง เมื่อบรรยากาศประกอบด้วยผู้คน-ทั้งสต๊าฟและคนดู-ก็ทำให้เฮาส์ดูคึกครื้นและอบอุ่น พอดูหนังจบผมก็ประทับใจทั้งหนังและโรงหนังมากๆ และหวังว่าจะได้มาดูหนังที่ house RCA บ่อยๆ
.
[UMG เพื่อนบ้านเก่าของ house RCA]
[ทางเดินสู่โรงหนัง]
[เจ้าแว่น]
[ชอบตรงนี้จัง]
[หน้าโรง x พี่สต๊าฟฉีกตั๋ว]
.
แต่ด้วยความที่มันอยู่ไกลและไปยากพอสมควรทำให้ตัวผมเองก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปดูหนังที่เฮาส์บ่อยนัก (แต่ถ้าให้พูด นั่นก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเฮาส์อาร์ซีเอนะ) จนข้ามมากลางปี 2561 พอผมรู้ข่าวว่าเฮาส์จะมาเปิดที่สามย่านมิตรทาวน์ก็ตื่นเต้นและดีใจ (เพราะใกล้กับที่เรียนมาก ประทับใจ) แต่ตอนนั้นก็สงสัยว่าเฮาส์อาร์ซีเอจะต้องปิดหรือเปล่า เพราะยังไม่มีประกาศออกมาว่าจะที่เดิมจะเปิดต่อหรือปิดไป พอรู้ว่าที่อาร์ซีเอจะปิดก็ใจหายและแอบเสียดาย ก่อนที่จะย้ายไป “บ้านหลังใหม่” ในเดือนกันยาฯ ผมจึงไปเยี่ยม “บ้านหลังเดิม” เพื่อเก็บบรรยากาศไว้เป็นครั้งสุดท้าย และที่ตลกสำหรับผมคือ ป้ายไฟหน้าตึกยังคงติดชื่อหนัง Always 1-2-3 หนังนอกกระแสเรื่องแรกที่ผมเคยดูและทำให้ผมได้รู้จักกับโรงหนังเฮาส์
.
[countdown สู่วันอำลา house RCA]
[ป้ายไฟหน้า house RCA ที่ไม่ได้เอาชื่อหนัง Always ลง]
.
พอมาถึงวันที่ 26 กันยาฯ ก็เป็นวันที่ HOUSE Samyan ได้เปิดบ้านให้แขกได้มาเยี่ยมเยี่ยนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ผมจึงไม่พลาดที่จะไปรับขวัญบ้านใหม่ (แต่ก่อนที่ยังไม่เปิดผมก็เดินไปดู-ด้วยความตื่นเต้น-ทีมงานกำลังตกแต่งบ้านแห่งนี้อยู่) ที่เห็นชัดคือ การออกแบบของ HOUSE Samyan นั้นดูวัยรุ่นและมินิมอลขึ้น โชว์คอนเซปท์ของความเป็น “บ้าน” ได้ตรงไปตรงมาอย่างน่ารักมากๆ เหมือนจะสื่อว่าเฮาส์แห่งนี้พร้อมเปิดประตูต้อนรับคนดูทุกคนให้มาใช้เวลาร่วมกันในชายคาบ้านแห่งนี้ และเป็นมิตรต่อหนังทางเลือกทุกแนว
.
ยังไงก็ดี แม้จะมีโฉมบ้านจะแตกต่างไปจากบ้านหลังเก่า แต่ HOUSE Samyan ก็ยังมีรายละเอียดให้แฟนๆ ของเฮาส์ได้คิดถึง house RCA เช่น การนับเลขโรงหนัง เป็น 3-4-5 ต่อจากโรง 1-2 ดั้งเดิม (และการตกแต่งหน้าโรงที่คล้ายๆ กันไปอีก) วอลเปเปอร์ติดผนังอันเป็นเอกลักษณ์ มุมคาเฟ่ที่กลับมาอีกครั้ง ตลอดถึงพี่ๆ สต๊าฟจากบ้านหลังเก่า (รวมถึงคุณลุงประจำโรงหนัง) ที่ย้ายมาสู่บ้านแห่งนี้ด้วย
.
แต่ผมเชื่อว่า ไม่ว่าเฮาส์จะพิมพ์ด้วยภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ย้ายไปตั้งที่ไหน การตกแต่งจะเป็นยังไงหรือเปลี่ยนไปมากแค่ไหน "เฮาส์" ก็จะยังคงบรรยากาศของความเป็น "บ้าน" ที่อบอุ่นให้แก่คนรักหนัง และเป็นสถานที่ที่เชื่อมหนังทางเลือกจากทั่วโลกมาสู่ผู้ชมชาวไทยเสมอไป
.
Once having become a house, ALWAYS being HOUSE.
[บรรยากาศตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่มาเป็น "บ้าน" จริงๆ]
[มุมด้านข้างของบ้านในคืนก่อนวันเปิด]
[มีเต้าเสียบแล้วยังมีรูเจ้าหนูด้วย!]
[คาเฟ่ที่กลับมาแล้ว แต่ตอนถ่ายร้านปิดไปแล้ว งงกันมั้ย (ส่วนด้านขวาภาพเป็นจุดขายขนม เสียดายที่ถ่ายไม่เห็น)]
[ตกแต่งหน้าโรงโทนเดียวกันกับที่เดิมเลย!]
[วอลเปเปอร์คุ้นๆ นะ]
[คำตอบของคุณลุงเรื่องย้าย "บ้าน" ตอนที่ผมไปดู EIGHTH GRADE]
.
[ปล.โปรแกรมหนังที่จะมาฉายในบ้านหลังนี้ก็น่าสนใจมากมายเหลือเกิน โดยเฉพาะโปรแกรม Film Buffet ร้อยกว่าเรื่องที่จะจัดหนักจัดเต็มให้สมาชิกของ HOUSE ดูกันตาช้ำตลอดทั้งเดือนตุลาฯ เพื่อเป็นการฉลองขึ้นบ้านใหม่ และ HOUSE Classics ที่จะนำหนังขึ้นหิ้งมาฉายใหม่อีกครั้ง (ส่วนตัวอยากดู Manhattan และ Tokyo Story มาก!) ใครสนใจก็เชิญไปติดตามรายละเอียดทางแฟนเพจของโรงฯ ได้ และหวังว่าเราคงได้มีโอกาสพบปะกันในบ้านแห่งนี้บ้างนะ!]
ฝากติดตาม #kfctherevieWER ได้ทาง twitter และ letterboxd @kfcthereviewer ด้วยนะครับ : )
kfctherevieWER: มาเยี่ยม "บ้าน" หลังใหม่ จาก house RCA สู่ HOUSE Samyan [special]
-จาก House RCA สู่ HOUSE Samyan "บ้าน" อันแสนอบอุ่นของคนรักหนัง สถานที่ที่หนังทางเลือกจากทั่วโลกได้มีโอกาสมาพบกับผู้ชมชาวไทย
-มาร่วมหวนคิดถึง house RCA และฉลองขึ้นบ้านใหม่ HOUSE Samyan ไปพร้อมกันในกระทู้นี้
.
ย้อนกลับช่วงเดือนเมษายน 2555 ผมเห็นโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐโปรโมทหนังญี่ปุ่นฟีลกู๊ด-ชวนถวิลหาอดีตที่ฮิตมากๆ ในบ้าน (แต่ถือว่าเป็นหนังนอกกระแสในบ้านเรา) เรื่องหนึ่งที่จะเข้าฉายในเมืองไทย หนังเรื่องนั้นคือ Always: Sunset on the Third Street 3
.
ผมจำได้ว่าในโฆษณาระบุไว้ว่าโรงหนังที่จะฉายหนังเรื่องนี้มีสองที่ ที่แรกคือเครือเอเพล็กซ์ใจกลางสยามสแควร์ และโรงหนังอีกที่หนึ่งนั้นตั้งอยู่ในในอาร์ซีเอ พอดูต่อมาในเฟสบุ๊กก็รู้ว่าโรงหนังแห่งที่สองนั้นจะฉายหนังภาคแรกและภาคสองก่อนเพื่อเป็นการต้อนรับภาคสามที่กำลังจะมาถึง ผมในวัย 12 ขวบกว่าๆ จึงลองชวนแม่ไปดู Always ภาคแรก เผื่อว่าชอบและจะได้ดูภาคต่อๆ มาต่อไป
.
นั่นคือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้รู้จัก House RCA
.
[house RCA x ชนชั้นปรสิต (ภาพโดย: ชนชั้นปรนิสิต)]
.
ครั้งที่แรกที่ผมไปนั้น เฮาส์ยังมีโรงหนังเพื่อนบ้านอย่าง UMG ที่ฉายหนังกระแสหลักอยู่ (แต่ปิดไปไม่นานหลังจากที่ผมไปเฮาส์ครั้งแรก) ทางเข้าของเฮาส์คือประตูไม้ทึบบานใหญ่ที่แบ่งโรงหนังกับโลกด้านนอก เมื่อเข้าไปแล้วก็พบกับเคาน์เตอร์ขายตั้วที่มีวอลเปเปอร์อันเป็นเอกลักษณ์ และทางเดินสู่โรงหนังนั้น ด้านซ้ายจะมีร้านดีวีดีเล็กๆ ร้านคาเฟ่และจุดขายขนมตั้งอยู่ถัดมา (แต่ตอนหลังเหลือเพียงซุ้มขายขนมและที่นั่งรอ) แล้วสุดทางจึงเป็นโรง 1-2 ส่วนด้านขวาของทางเดินเป็นภาพการ์ตูนลายเส้นน่ารักๆ (ที่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเคยมีคนมือบอนไปขีดเขียน น่าตีมือจริงๆ) ยาวไปจนถึงสุดทางเดินที่เป็นภาพสีรวมมิตรหนัง เมื่อบรรยากาศประกอบด้วยผู้คน-ทั้งสต๊าฟและคนดู-ก็ทำให้เฮาส์ดูคึกครื้นและอบอุ่น พอดูหนังจบผมก็ประทับใจทั้งหนังและโรงหนังมากๆ และหวังว่าจะได้มาดูหนังที่ house RCA บ่อยๆ
.
[UMG เพื่อนบ้านเก่าของ house RCA]
[ทางเดินสู่โรงหนัง]
[เจ้าแว่น]
[ชอบตรงนี้จัง]
[หน้าโรง x พี่สต๊าฟฉีกตั๋ว]
.
แต่ด้วยความที่มันอยู่ไกลและไปยากพอสมควรทำให้ตัวผมเองก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปดูหนังที่เฮาส์บ่อยนัก (แต่ถ้าให้พูด นั่นก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเฮาส์อาร์ซีเอนะ) จนข้ามมากลางปี 2561 พอผมรู้ข่าวว่าเฮาส์จะมาเปิดที่สามย่านมิตรทาวน์ก็ตื่นเต้นและดีใจ (เพราะใกล้กับที่เรียนมาก ประทับใจ) แต่ตอนนั้นก็สงสัยว่าเฮาส์อาร์ซีเอจะต้องปิดหรือเปล่า เพราะยังไม่มีประกาศออกมาว่าจะที่เดิมจะเปิดต่อหรือปิดไป พอรู้ว่าที่อาร์ซีเอจะปิดก็ใจหายและแอบเสียดาย ก่อนที่จะย้ายไป “บ้านหลังใหม่” ในเดือนกันยาฯ ผมจึงไปเยี่ยม “บ้านหลังเดิม” เพื่อเก็บบรรยากาศไว้เป็นครั้งสุดท้าย และที่ตลกสำหรับผมคือ ป้ายไฟหน้าตึกยังคงติดชื่อหนัง Always 1-2-3 หนังนอกกระแสเรื่องแรกที่ผมเคยดูและทำให้ผมได้รู้จักกับโรงหนังเฮาส์
.
[countdown สู่วันอำลา house RCA]
[ป้ายไฟหน้า house RCA ที่ไม่ได้เอาชื่อหนัง Always ลง]
.
พอมาถึงวันที่ 26 กันยาฯ ก็เป็นวันที่ HOUSE Samyan ได้เปิดบ้านให้แขกได้มาเยี่ยมเยี่ยนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ผมจึงไม่พลาดที่จะไปรับขวัญบ้านใหม่ (แต่ก่อนที่ยังไม่เปิดผมก็เดินไปดู-ด้วยความตื่นเต้น-ทีมงานกำลังตกแต่งบ้านแห่งนี้อยู่) ที่เห็นชัดคือ การออกแบบของ HOUSE Samyan นั้นดูวัยรุ่นและมินิมอลขึ้น โชว์คอนเซปท์ของความเป็น “บ้าน” ได้ตรงไปตรงมาอย่างน่ารักมากๆ เหมือนจะสื่อว่าเฮาส์แห่งนี้พร้อมเปิดประตูต้อนรับคนดูทุกคนให้มาใช้เวลาร่วมกันในชายคาบ้านแห่งนี้ และเป็นมิตรต่อหนังทางเลือกทุกแนว
.
ยังไงก็ดี แม้จะมีโฉมบ้านจะแตกต่างไปจากบ้านหลังเก่า แต่ HOUSE Samyan ก็ยังมีรายละเอียดให้แฟนๆ ของเฮาส์ได้คิดถึง house RCA เช่น การนับเลขโรงหนัง เป็น 3-4-5 ต่อจากโรง 1-2 ดั้งเดิม (และการตกแต่งหน้าโรงที่คล้ายๆ กันไปอีก) วอลเปเปอร์ติดผนังอันเป็นเอกลักษณ์ มุมคาเฟ่ที่กลับมาอีกครั้ง ตลอดถึงพี่ๆ สต๊าฟจากบ้านหลังเก่า (รวมถึงคุณลุงประจำโรงหนัง) ที่ย้ายมาสู่บ้านแห่งนี้ด้วย
.
แต่ผมเชื่อว่า ไม่ว่าเฮาส์จะพิมพ์ด้วยภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ย้ายไปตั้งที่ไหน การตกแต่งจะเป็นยังไงหรือเปลี่ยนไปมากแค่ไหน "เฮาส์" ก็จะยังคงบรรยากาศของความเป็น "บ้าน" ที่อบอุ่นให้แก่คนรักหนัง และเป็นสถานที่ที่เชื่อมหนังทางเลือกจากทั่วโลกมาสู่ผู้ชมชาวไทยเสมอไป
.
Once having become a house, ALWAYS being HOUSE.
[บรรยากาศตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่มาเป็น "บ้าน" จริงๆ]
[มุมด้านข้างของบ้านในคืนก่อนวันเปิด]
[มีเต้าเสียบแล้วยังมีรูเจ้าหนูด้วย!]
[คาเฟ่ที่กลับมาแล้ว แต่ตอนถ่ายร้านปิดไปแล้ว งงกันมั้ย (ส่วนด้านขวาภาพเป็นจุดขายขนม เสียดายที่ถ่ายไม่เห็น)]
[ตกแต่งหน้าโรงโทนเดียวกันกับที่เดิมเลย!]
[วอลเปเปอร์คุ้นๆ นะ]
[คำตอบของคุณลุงเรื่องย้าย "บ้าน" ตอนที่ผมไปดู EIGHTH GRADE]
.
[ปล.โปรแกรมหนังที่จะมาฉายในบ้านหลังนี้ก็น่าสนใจมากมายเหลือเกิน โดยเฉพาะโปรแกรม Film Buffet ร้อยกว่าเรื่องที่จะจัดหนักจัดเต็มให้สมาชิกของ HOUSE ดูกันตาช้ำตลอดทั้งเดือนตุลาฯ เพื่อเป็นการฉลองขึ้นบ้านใหม่ และ HOUSE Classics ที่จะนำหนังขึ้นหิ้งมาฉายใหม่อีกครั้ง (ส่วนตัวอยากดู Manhattan และ Tokyo Story มาก!) ใครสนใจก็เชิญไปติดตามรายละเอียดทางแฟนเพจของโรงฯ ได้ และหวังว่าเราคงได้มีโอกาสพบปะกันในบ้านแห่งนี้บ้างนะ!]
ฝากติดตาม #kfctherevieWER ได้ทาง twitter และ letterboxd @kfcthereviewer ด้วยนะครับ : )