สังคมสมัยนี้อยู่ยากจัง
ตัวเราเคยเปิดบัญชีธนาคารสีส้มไว้ ไม่ได้ใช้เป็นบัญชีหลัก แต่เก็บไว้เฉยๆ มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 2,500 เรื่องเริ่มจากวันนี้ (วันที่ 1 สิงหาคม 2562) เราจะกดเงินออกมาใช้ 500 ไปทำรายการที่ตู้ซึ่งแจ้งว่าเรากำลังกดเงินมากกว่าเงินในบัญชีที่มี เราเลยทำรายการอีกครั้งเพื่อเช็คยอดเงิน ปรากฏว่ามีเงินเหลือแค่ 473.71 เราก็งง ว่าเงินหายไปไหนตั้งสองพัน
กลับถึงบ้าน เช็คยอดออนไลน์ก่อน ปรากฏว่ามียอดออกจากบัญชีจริงเมื่อวันที่ 27/07/62 จำนวน 2,047.18 เลยรีบเอาสมุดบัญชีแล้วโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ธนาคารสีส้มเพื่อเช็คว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานแจ้งว่ามีการสั่งซื้อของผ่านเว็บไซต์นึงซึ่งที่จริงมีการพยายามทำรายการตั้งแต่วันที่ 24/07/62 ด้วยยอดเงิน 3,000 กว่าบาท แต่เนื่องจากเงินในบัญชีเรามีแค่ 2,500 เลยทำรายการไม่ได้ แล้วก็มาทำสำเร็จในวันที่ 27/07/62 พนักงานที่เราคุยด้วยแจ้งว่าให้ไปที่ธนาคารพร้อมสมุดบัญชีและบัตรประชาชนเพื่อทำรายการอายัดเงิน
ต่อมาเช้าวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562 ออกเดินทางไปทำเรื่องที่ธนาคารสีส้ม ซึ่งตอนแรกว่าจะไปแจ้งความก่อน แต่คอลเซ็นเตอร์บอกว่าไม่ต้อง ให้ไปทำเรื่องที่ธนาคารก่อน พอไปถึงธนาคารเล่าเรื่องราว บลา บลา บลา พนักงานตอบว่า คุณลูกค้าต้องไปแจ้งความก่อนนะคะ แล้วนำไปลงบันทึกประจำวันกลับมาแล้วจะทำเรื่องให้ เราเลยถามไปว่าแล้วทำไมคอลเซ็นเตอร์ถึงบอกว่าให้มาทำเรื่องก่อน พนักงานก็อึกอักๆ เลยไม่คาดคั้นแล้ว เราก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ เสร็จแล้วก็กลับไปดำเนินเรื่องที่ธนาคาร และทำการอายัดบัตรเดบิตใบนั้น (เป็นบัตรเดบิดแบบที่ใช้รูดซื้อของได้ แต่ต้องมีเงินในบัตรจ้า) พนักงานแจ้งว่าต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์เรื่องถึงจะเรียบร้อย คือได้รับเงินกลับ
หลังจากนั้นน่าจะสักเกือบ 2 สัปดาห์ มีพนักงานจากธนาคารโทรมาแจ้งว่า ทราบแล้วว่าเงินไปไหน กำลังดำเนินการดึงเงินกลับมาซึ่งต้องใช้เวลา 45 วันทำการ!!!!!!!!!!! มันคืออะไรคะ ในเมื่อทราบมี่มาที่ไปแล้วทำไมต้องให้ลูกค้ารอนานขนาดนั้น ที่จริงมันเป็นความผิดของใครคะ (บัตรนี้ไม่เคยเอาออกมาใช้ซื้อสินค้าออนไลน์เลยแม่แต่ครั้งเดียว แต่โดนแฮ็คได้) ธนาคารพยายามบ่ายเบี่ยงว่าเราเอาไปใช้ทำอะไร หรือให้ใครไปหรือเปล่า กลายเป็นลูกค้าผิดซะงั้น
หลังจากรอมาเกือบ 2 เดือน วันนี้ (27/09/2562) เลยลองโทรเข้าไปเช็ค ตอลเซ็นเตอร์ตอบว่ายังไงรู้ไหมคะ "กรณีนี้จะต้องใช้เวลาประมาณ 90 วันทำการเพื่อปรับปรุงยอดค่ะ" เอ่อ นานไปไหมคะ เคยอ่านเจอว่าธนาคารสีม่วงใช่เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเพื่อดำเนินเรื่องให้ลูกค้า ตัวเงินอาจจะดูไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับเรามันก็คือเงินที่สามารถเอาไปใช้จ่ายได้ แล้วนี่สมมุติว่าเงินนี้ต้องไว้ใช้ซื้อของกิน ดำรงชีวิตอยู่ ไม่ต้องตายกันไปเลยเหรอค่ะ
ฝากถึงธนาคารสีส้มด้วยค่ะ ถ้าอยากได้ลูกค้าเยอะๆ เรื่องปัญหาแบบนี้เป็นโอกาสที่จะซื้อใจลูกค้านะคะถ้าคุณแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ถ้าไม่นับถึงพนักงานทุกคนที่ดิฉันไปติดต่อประสานงานด้วยที่สุภาพและดูแลดี ส่วนที่เหลืออาจทำให้ต้องพิจารณาการใช้บริการต่อค่ะ (เดินเรื่องช้า สาขาน้อย)
ปล. วางสายปุ๊บ โพสต์ปั๊บ โกรธจนมือสั่น พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ไม่รู้จะทำยังไง อยากด่าก็ไม่ใช่ความผิดของคอลเซ็นเตอร์ หวังว่าใครสักคนของธนาคารสีส้มจะมาตอบกลับบ้างนะคะ
รู้ไว้ใช่ว่า
เมื่อเราโดนแฮ็คข้อมูลบัตรและเงินหายออกจากบัญชี สิ่งที่ควรทำมีดังต่อไปนี้
1. โทรเช็คกับคอลเซ็นเตอร์ว่าเงินหายไปวันที่เท่าไหร่ จำนวน หายไปได้อย่างไร
2. ถ้ามีบัตรที่ผูกกับบัญชี รีบทำการอายัดหรือยกเลิกบัตรใบนั้นทันที
3. รีบไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด และลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อจะได้นำเอกสารไปดำเนินการขั้นต่อไปที่ธนาคาร
4. เตรียมสมุดบัญชี บัตรที่ผูกกับบัญชี ใบบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ แล้วรีบไปดำเนินการที่ธนาคารให้เร็วที่สุด (ดำเนินการที่สาขาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสาขาที่เปิดบัญชีค่ะ)
อย่าคิดว่าเรื่องพวกนี้ไกลตัว เราอ่าน-ดูข่าวบ่อยๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอกับตัวเอง ขนาดคิดว่าเงินจำนวนไม่มาก ยังไม่รอด บัตร-สมุดบัญชีก็อยู่กับตัวเงินยังถูกแฮ็คได้ ฉะนั้นอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนอื่นเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่าข้อมูลเหล่านั้นสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้างนะจ๊ะ
เงินหายออกจากบัญชี ผ่านมาเกือบ 2 เดือน ก็ยังไม่ได้เงินคืน
ตัวเราเคยเปิดบัญชีธนาคารสีส้มไว้ ไม่ได้ใช้เป็นบัญชีหลัก แต่เก็บไว้เฉยๆ มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 2,500 เรื่องเริ่มจากวันนี้ (วันที่ 1 สิงหาคม 2562) เราจะกดเงินออกมาใช้ 500 ไปทำรายการที่ตู้ซึ่งแจ้งว่าเรากำลังกดเงินมากกว่าเงินในบัญชีที่มี เราเลยทำรายการอีกครั้งเพื่อเช็คยอดเงิน ปรากฏว่ามีเงินเหลือแค่ 473.71 เราก็งง ว่าเงินหายไปไหนตั้งสองพัน
กลับถึงบ้าน เช็คยอดออนไลน์ก่อน ปรากฏว่ามียอดออกจากบัญชีจริงเมื่อวันที่ 27/07/62 จำนวน 2,047.18 เลยรีบเอาสมุดบัญชีแล้วโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ธนาคารสีส้มเพื่อเช็คว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานแจ้งว่ามีการสั่งซื้อของผ่านเว็บไซต์นึงซึ่งที่จริงมีการพยายามทำรายการตั้งแต่วันที่ 24/07/62 ด้วยยอดเงิน 3,000 กว่าบาท แต่เนื่องจากเงินในบัญชีเรามีแค่ 2,500 เลยทำรายการไม่ได้ แล้วก็มาทำสำเร็จในวันที่ 27/07/62 พนักงานที่เราคุยด้วยแจ้งว่าให้ไปที่ธนาคารพร้อมสมุดบัญชีและบัตรประชาชนเพื่อทำรายการอายัดเงิน
ต่อมาเช้าวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562 ออกเดินทางไปทำเรื่องที่ธนาคารสีส้ม ซึ่งตอนแรกว่าจะไปแจ้งความก่อน แต่คอลเซ็นเตอร์บอกว่าไม่ต้อง ให้ไปทำเรื่องที่ธนาคารก่อน พอไปถึงธนาคารเล่าเรื่องราว บลา บลา บลา พนักงานตอบว่า คุณลูกค้าต้องไปแจ้งความก่อนนะคะ แล้วนำไปลงบันทึกประจำวันกลับมาแล้วจะทำเรื่องให้ เราเลยถามไปว่าแล้วทำไมคอลเซ็นเตอร์ถึงบอกว่าให้มาทำเรื่องก่อน พนักงานก็อึกอักๆ เลยไม่คาดคั้นแล้ว เราก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ เสร็จแล้วก็กลับไปดำเนินเรื่องที่ธนาคาร และทำการอายัดบัตรเดบิตใบนั้น (เป็นบัตรเดบิดแบบที่ใช้รูดซื้อของได้ แต่ต้องมีเงินในบัตรจ้า) พนักงานแจ้งว่าต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์เรื่องถึงจะเรียบร้อย คือได้รับเงินกลับ
หลังจากนั้นน่าจะสักเกือบ 2 สัปดาห์ มีพนักงานจากธนาคารโทรมาแจ้งว่า ทราบแล้วว่าเงินไปไหน กำลังดำเนินการดึงเงินกลับมาซึ่งต้องใช้เวลา 45 วันทำการ!!!!!!!!!!! มันคืออะไรคะ ในเมื่อทราบมี่มาที่ไปแล้วทำไมต้องให้ลูกค้ารอนานขนาดนั้น ที่จริงมันเป็นความผิดของใครคะ (บัตรนี้ไม่เคยเอาออกมาใช้ซื้อสินค้าออนไลน์เลยแม่แต่ครั้งเดียว แต่โดนแฮ็คได้) ธนาคารพยายามบ่ายเบี่ยงว่าเราเอาไปใช้ทำอะไร หรือให้ใครไปหรือเปล่า กลายเป็นลูกค้าผิดซะงั้น
หลังจากรอมาเกือบ 2 เดือน วันนี้ (27/09/2562) เลยลองโทรเข้าไปเช็ค ตอลเซ็นเตอร์ตอบว่ายังไงรู้ไหมคะ "กรณีนี้จะต้องใช้เวลาประมาณ 90 วันทำการเพื่อปรับปรุงยอดค่ะ" เอ่อ นานไปไหมคะ เคยอ่านเจอว่าธนาคารสีม่วงใช่เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเพื่อดำเนินเรื่องให้ลูกค้า ตัวเงินอาจจะดูไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับเรามันก็คือเงินที่สามารถเอาไปใช้จ่ายได้ แล้วนี่สมมุติว่าเงินนี้ต้องไว้ใช้ซื้อของกิน ดำรงชีวิตอยู่ ไม่ต้องตายกันไปเลยเหรอค่ะ
ฝากถึงธนาคารสีส้มด้วยค่ะ ถ้าอยากได้ลูกค้าเยอะๆ เรื่องปัญหาแบบนี้เป็นโอกาสที่จะซื้อใจลูกค้านะคะถ้าคุณแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ถ้าไม่นับถึงพนักงานทุกคนที่ดิฉันไปติดต่อประสานงานด้วยที่สุภาพและดูแลดี ส่วนที่เหลืออาจทำให้ต้องพิจารณาการใช้บริการต่อค่ะ (เดินเรื่องช้า สาขาน้อย)
ปล. วางสายปุ๊บ โพสต์ปั๊บ โกรธจนมือสั่น พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ไม่รู้จะทำยังไง อยากด่าก็ไม่ใช่ความผิดของคอลเซ็นเตอร์ หวังว่าใครสักคนของธนาคารสีส้มจะมาตอบกลับบ้างนะคะ
รู้ไว้ใช่ว่า
เมื่อเราโดนแฮ็คข้อมูลบัตรและเงินหายออกจากบัญชี สิ่งที่ควรทำมีดังต่อไปนี้
1. โทรเช็คกับคอลเซ็นเตอร์ว่าเงินหายไปวันที่เท่าไหร่ จำนวน หายไปได้อย่างไร
2. ถ้ามีบัตรที่ผูกกับบัญชี รีบทำการอายัดหรือยกเลิกบัตรใบนั้นทันที
3. รีบไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด และลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อจะได้นำเอกสารไปดำเนินการขั้นต่อไปที่ธนาคาร
4. เตรียมสมุดบัญชี บัตรที่ผูกกับบัญชี ใบบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ แล้วรีบไปดำเนินการที่ธนาคารให้เร็วที่สุด (ดำเนินการที่สาขาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสาขาที่เปิดบัญชีค่ะ)
อย่าคิดว่าเรื่องพวกนี้ไกลตัว เราอ่าน-ดูข่าวบ่อยๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอกับตัวเอง ขนาดคิดว่าเงินจำนวนไม่มาก ยังไม่รอด บัตร-สมุดบัญชีก็อยู่กับตัวเงินยังถูกแฮ็คได้ ฉะนั้นอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนอื่นเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่าข้อมูลเหล่านั้นสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้างนะจ๊ะ