พอดีเด็นตี้ได้มีโอกาสไปเสริมหน้าผากที่ SLC Hospital มานะคะ เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน เพื่อเพื่อนๆ ที่สนใจหรือกำลังตัดสินใจจะได้เอามาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจนะคะ
ต้องบอกก่อนว่าเดนตี้เป็นนักวิ่ง(runway team) เวลาวิ่งก็จะต้องรวบผมอยู่ตลอดเวลา เวลาที่ถ่ายรูปออกมาตรงมุมด้านข้าง คือไม่รอดจริงๆ ค่ะ หน้าดูไม่มีมิติเลย แบนมาก!! อยากมีหน้าผากโหนกนูนบ้าง เวลารวบผมถ่ายรูปจะดูสวยนะคะ เลยตัดสินใจเข้ามาปรึกษาและคิดทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากในครั้งนี้
วันที่เด็นตี้เข้าไปปรึกษา คุณหมอให้คำแนะนำดีนะคะ คุณหมอถามก่อนเลย ว่าอยากได้แบบไหน โหนกมากไหม หน้าผากเดิมเราเป็นแบบนี้ สามารทำให้มันโหนกออกมาได้ประมาณไหน และทำออกมาแล้วรูปทรงหน้าผากจะเป็นแบบไหน คุณหมอที่เด็นตี้เข้าไปปรึกษาชื่อคุณหมอกัมปนาทค่ะซึ่งเด็นตี้เป็นคนไม่มีเนื้อกน้าผากเลยคุณหมอจึงแนะนำให้ทำแค่ไซด์sบางที่สุด จะดูเป็นธรรมชาติ และมองไม่เห็นรอยขอบซิลิโคนค่ะ อีกเรื่องหนึ่งค่ะ ศัลยกรรมเสริมหน้าผากนี้มันสามารถทำได้ทั้งแบบดมยา กับไม่ดมยา นะคะ เดนตี้เลือกแบบดมยา คือแบบกลัวเจ็บอยากนอนหลับไปเลยหนะค่ะ
รูปหน้าผากเดนตี้ก่อนทำนะคะ
วันแรกหลังจากทำเสร็จ มันก็จะมีอาการตึงๆมึนๆจากการดมยา เริ่มปวดเล็กน้อยแต่ทนได้ไม่ถึงกับทรมานไรมาก อาการบวมช้ำไม่มีเลยค่ะ ซึ่งคุณหมอให้ยาและอุปกรณ์ดังนี้ค่ะ
Arcoxia ยาแก้ปวด( ทานได้วันละ1เม็ด)
Reparil20 mg. ยาแก้ช้ำ, ลดบวม(ครั้งละ2เม็ด/3เวลา)
Cavumox ยาฆ่าเชื้อ (ครั้งละ1เม็ด/เช้า, เย็น)
ตำแหน่งแผลจะซ่อนอยู่บริเวนข้างในผมนะคะ ยาวประมาณ 4 เซนได้ค่ะ
วันที่ 3 หลังเสริมหน้าผาก อาการปวดและตึงๆ เริ่มลดลงแล้วค่ะ แต่เริ่มบวมขึ้นมา วันที่3รู้สึกจะเป็นวันที่บวมที่สุดแล้วค่ะ แต่ไม่มีอาการเขียวช้ำอะไรเลยค่ะ อันนี้ตี้ประคบเจลเย็น บริเวณหน้าผากและดวงตาอยู่บ่อยๆค่ะ
วันที่ 4 เริ่มเป็นปกติแล้วค่ะ ออกไปข้างนอกแต่งตัวสวยได้แล้ว แบบสบายมากค่ะ หน้าเปลี่ยนเลย มีแต่คนบอกว่าหน้าเด็กลง
วันที่ 10 หลังจากตัดไหมนะคะ
หน้าผากเริ่มเข้าที่แล้ว แต่ยังมีอาการตึงๆ นิดหน่อย เดนตี้ก็ออกไปถ่ายงานได้แล้วค่ะ รู้สึกชอบ ปลื้มเลย
ยังไงใครที่สนใจอยากเสริมหน้าผากลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอดูนะคะที่ SLC Hospital คืออยากบอกว่ามันดีมากค่ะ อาการโดยรวมคือไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หลังทำความจริงก็ใช้ชีวิตได้ตามปกตินะคะ แต่อาจมีปวดๆ ตึงๆ หรือบวมบ้าง เต็มที่ให้ 10 วันค่ะ ส่วนตัวตี้เอง 4 วัน ตี้ออกไปใช้ชีวิตปกติแล้ว ยังไงหลังจากนี้ เด็นตี้จะมาอัพเดทอาการให้เพื่อนๆ ฟัง อีกครั้งนะคะ
[SR] ประสบการณ์เสริมหน้าผาก กับศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตของนักวิ่งสาว
ต้องบอกก่อนว่าเดนตี้เป็นนักวิ่ง(runway team) เวลาวิ่งก็จะต้องรวบผมอยู่ตลอดเวลา เวลาที่ถ่ายรูปออกมาตรงมุมด้านข้าง คือไม่รอดจริงๆ ค่ะ หน้าดูไม่มีมิติเลย แบนมาก!! อยากมีหน้าผากโหนกนูนบ้าง เวลารวบผมถ่ายรูปจะดูสวยนะคะ เลยตัดสินใจเข้ามาปรึกษาและคิดทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากในครั้งนี้
วันที่เด็นตี้เข้าไปปรึกษา คุณหมอให้คำแนะนำดีนะคะ คุณหมอถามก่อนเลย ว่าอยากได้แบบไหน โหนกมากไหม หน้าผากเดิมเราเป็นแบบนี้ สามารทำให้มันโหนกออกมาได้ประมาณไหน และทำออกมาแล้วรูปทรงหน้าผากจะเป็นแบบไหน คุณหมอที่เด็นตี้เข้าไปปรึกษาชื่อคุณหมอกัมปนาทค่ะซึ่งเด็นตี้เป็นคนไม่มีเนื้อกน้าผากเลยคุณหมอจึงแนะนำให้ทำแค่ไซด์sบางที่สุด จะดูเป็นธรรมชาติ และมองไม่เห็นรอยขอบซิลิโคนค่ะ อีกเรื่องหนึ่งค่ะ ศัลยกรรมเสริมหน้าผากนี้มันสามารถทำได้ทั้งแบบดมยา กับไม่ดมยา นะคะ เดนตี้เลือกแบบดมยา คือแบบกลัวเจ็บอยากนอนหลับไปเลยหนะค่ะ
รูปหน้าผากเดนตี้ก่อนทำนะคะ
วันแรกหลังจากทำเสร็จ มันก็จะมีอาการตึงๆมึนๆจากการดมยา เริ่มปวดเล็กน้อยแต่ทนได้ไม่ถึงกับทรมานไรมาก อาการบวมช้ำไม่มีเลยค่ะ ซึ่งคุณหมอให้ยาและอุปกรณ์ดังนี้ค่ะ
Arcoxia ยาแก้ปวด( ทานได้วันละ1เม็ด)
Reparil20 mg. ยาแก้ช้ำ, ลดบวม(ครั้งละ2เม็ด/3เวลา)
Cavumox ยาฆ่าเชื้อ (ครั้งละ1เม็ด/เช้า, เย็น)
หน้าผากเริ่มเข้าที่แล้ว แต่ยังมีอาการตึงๆ นิดหน่อย เดนตี้ก็ออกไปถ่ายงานได้แล้วค่ะ รู้สึกชอบ ปลื้มเลย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้