หลังจากที่ได้ฟัง youtube ของคุณหมอเขียวและบรรดาจิตอาสา (ลูกศิษย์) มาหลายคลิป ด้วยความที่เราป่วยเป็นมะเร็ง เลยตัดสินใจลองไปเข้าค่ายดู ตอนที่ตัดสินใจไป ก็ลอง search เข้าไปดูว่ามีค่ายที่ไหนบ้าง แล้วเราก็เลือกสถานที่หนึ่งที่ใกล้เรา (บางค่ายจะมีแค่เพียงจิตอาสา (ลูกศิษย์) เป็นผู้ดำเนินการ คุณหมอเขียวไม่ได้มาด้วย) ซึ่งค่ายที่เราไปเข้าก็เช่นกันค่ะ แต่เราก็พยายามหารายละเอียดว่า ในค่ายเค้าทำอะไรกันบ้าง แต่ไม่ค่อยมีรายละเอียดเท่าไหร่ ครั้งนี้ไปเข้าค่ายมา เลยอยากมาแชร์ค่ะ
ระยะเวลาในการเข้าค่าย : 2 วัน 1 คืน
Agenda ในค่าย : ยา 9 เม็ด
Concept ของคุณหมอเขียว :
1. ยา 9 เม็ดนี้ รักษาได้ทุกโรค แต่ไม่ทุกคน (คนที่รักษาไม่ได้คือ คนที่อาการหนักเกินไป หรือ มีวิบากกรรมหนัก)
2. หมอที่ดีที่สุดในโลก คือ ตัวเราเอง
3. คนที่มาเป็นจิตอาสา ถือว่า เป็นการบำเพ็ญเพียร ทำบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น และทำให้มีพลังหมู่มิตรดีมารวมกัน
สาเหตุของการเกิดโรค :
1. เป็นเพราะร้อน - เย็นไม่สมดุลกัน
2. เป็นเพราะวิบากกรรม
ยา 9 เม็ดมีอะไรบ้าง :
1. ดื่มน้ำสมุนไพร (ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร่างกายจะร้อน ฉะนั้น ควรจะต้องดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นมาช่วยปรับสมดุล เช่น น้ำใบย่านาง)
2. พอกหน้า พอกตัว ทา หยอด ด้วยสมุนไพร (สมุนไพรหลายชนิด)
3. การแช่มือ แช่เท้าในน้ำสมุนไพร (สมุนไพรหลายชนิด)
4. ออกกำลังกายตามแบบหมอเขียว (โยคะ กดจุด)
5. ธรรมะ (ธรรมะของคุณหมอเขียว มีรายละเอียดปลีกย่อยพอสมควรค่ะ เช่น ศีลข้อ 1 การไม่ฆ่าสัตว์ ก็รวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย)
6. ดีท๊อก (การสวนทวารเพื่อขับพิษ)
7. กัวชา (การเอาไม้มาขูดผิวขับพิษ)
8. กินอาหารปรับสมดุล (มีขั้นตอนในการกินเยอะพอสมควร เช่น ต้องกินผลไม้ก่อน แล้วค่อยตามด้วยผักสด ผักต้ม แล้วค่อยข้าว เครื่องปรุงที่ใช้ได้ มีเพียงเกลืออย่างเดียวค่ะ อ้อ ที่กินปรับสมดุลอีกอย่างคือ กินฉี่ด้วย!)
9. พอเพียง รู้เพียร รู้พัก
วันแรก
เค้าก็จะเริ่มแนะนำตัวจิตอาสา แล้วก็ให้ดื่มน้ำสมุนไพรก่อน
หลังจากนั้น ก็เล่าเรื่องของจิตอาสาแต่ละท่านว่า เป็นมายังไง แล้วก็เข้าเรื่องอาหาร
พักเที่ยง - กินอาหารที่เค้าจัดไว้ให้
ตอนบ่ายต่อด้วยเรื่องดีท๊อก
เย็นๆ ก็มีพอกหน้า แช่มือ แช่เท้า ด้วยน้ำสมุนไพร
จบวันแรก
วันที่ 2
ออกกำลังกายตอนเช้า
กัวชา
พักเที่ยง - กินอาหารที่เค้าจัดไว้ให้
พอเพียงและธรรมะ
สรุปว่าได้อะไรจากค่ายบ้าง จับมือ ร้องเพลง
จบวันที่ 2
ระหว่างที่อยู่ในค่าย ทางจิตอาสา (ลูกศิษย์) ก็จะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันขึ้นพูด โดยจะมีพูดแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง ว่าเคยเป็นอะไรมา แล้วใช้วิธีหมอเขียวแล้วดีขึ้นอย่างไรบ้าง โดยที่เค้าบอกว่า ต้องมีศรัทธานะ หลังจากนั้น ก็ค่อยๆ อธิบายเรื่องยา 9 เม็ดไป พร้อมทั้งให้ปฏิบัติด้วย เรื่องที่ challenge ที่สุด คงเป็นเรื่องอาหาร เพราะเครื่องปรุงที่เค้าใส่ให้ มีแค่เกลืออย่างเดียว ฉะนั้น รสชาติมันก็จะแปลกๆ ไปด้วย (ตอนอยู่ในค่าย เราทำเกือบทุกข้อล่ะ ยกเว้นดีท๊อกกับกินฉี่นะ อันนี้ทำใจยังไม่ได้)
และนอกจากนี้ ทั้ง 2 วันก็จะมีขายของในค่าย เช่น หนังสือของคุณหมอเขียว น้ำมันเขียว น้ำมันมะพร้าว ไม้กัวชา เกลือ น้ำใบย่านาง ฯลฯ (แต่การเข้าค่ายไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ)
หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ จะพอมีประโยชน์นะคะ
ขอให้ท่านที่ป่วยอยู่ กลับมาอาการดีขึ้นจนเป็นปกติและแข็งแรงโดยเร็วค่ะ
หมายเหตุ
การเลือกรักษาไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์ทางเลือก จะต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะทุกอย่างมีค่าเสียโอกาสเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สภาพร่างกายของเราในตอนที่เริ่มรักษา
แชร์ประสบการณ์เข้าค่ายหมอเขียว (แพทย์ทางเลือก)
ระยะเวลาในการเข้าค่าย : 2 วัน 1 คืน
Agenda ในค่าย : ยา 9 เม็ด
Concept ของคุณหมอเขียว :
1. ยา 9 เม็ดนี้ รักษาได้ทุกโรค แต่ไม่ทุกคน (คนที่รักษาไม่ได้คือ คนที่อาการหนักเกินไป หรือ มีวิบากกรรมหนัก)
2. หมอที่ดีที่สุดในโลก คือ ตัวเราเอง
3. คนที่มาเป็นจิตอาสา ถือว่า เป็นการบำเพ็ญเพียร ทำบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น และทำให้มีพลังหมู่มิตรดีมารวมกัน
สาเหตุของการเกิดโรค :
1. เป็นเพราะร้อน - เย็นไม่สมดุลกัน
2. เป็นเพราะวิบากกรรม
ยา 9 เม็ดมีอะไรบ้าง :
1. ดื่มน้ำสมุนไพร (ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร่างกายจะร้อน ฉะนั้น ควรจะต้องดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นมาช่วยปรับสมดุล เช่น น้ำใบย่านาง)
2. พอกหน้า พอกตัว ทา หยอด ด้วยสมุนไพร (สมุนไพรหลายชนิด)
3. การแช่มือ แช่เท้าในน้ำสมุนไพร (สมุนไพรหลายชนิด)
4. ออกกำลังกายตามแบบหมอเขียว (โยคะ กดจุด)
5. ธรรมะ (ธรรมะของคุณหมอเขียว มีรายละเอียดปลีกย่อยพอสมควรค่ะ เช่น ศีลข้อ 1 การไม่ฆ่าสัตว์ ก็รวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย)
6. ดีท๊อก (การสวนทวารเพื่อขับพิษ)
7. กัวชา (การเอาไม้มาขูดผิวขับพิษ)
8. กินอาหารปรับสมดุล (มีขั้นตอนในการกินเยอะพอสมควร เช่น ต้องกินผลไม้ก่อน แล้วค่อยตามด้วยผักสด ผักต้ม แล้วค่อยข้าว เครื่องปรุงที่ใช้ได้ มีเพียงเกลืออย่างเดียวค่ะ อ้อ ที่กินปรับสมดุลอีกอย่างคือ กินฉี่ด้วย!)
9. พอเพียง รู้เพียร รู้พัก
วันแรก
เค้าก็จะเริ่มแนะนำตัวจิตอาสา แล้วก็ให้ดื่มน้ำสมุนไพรก่อน
หลังจากนั้น ก็เล่าเรื่องของจิตอาสาแต่ละท่านว่า เป็นมายังไง แล้วก็เข้าเรื่องอาหาร
พักเที่ยง - กินอาหารที่เค้าจัดไว้ให้
ตอนบ่ายต่อด้วยเรื่องดีท๊อก
เย็นๆ ก็มีพอกหน้า แช่มือ แช่เท้า ด้วยน้ำสมุนไพร
จบวันแรก
วันที่ 2
ออกกำลังกายตอนเช้า
กัวชา
พักเที่ยง - กินอาหารที่เค้าจัดไว้ให้
พอเพียงและธรรมะ
สรุปว่าได้อะไรจากค่ายบ้าง จับมือ ร้องเพลง
จบวันที่ 2
ระหว่างที่อยู่ในค่าย ทางจิตอาสา (ลูกศิษย์) ก็จะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันขึ้นพูด โดยจะมีพูดแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง ว่าเคยเป็นอะไรมา แล้วใช้วิธีหมอเขียวแล้วดีขึ้นอย่างไรบ้าง โดยที่เค้าบอกว่า ต้องมีศรัทธานะ หลังจากนั้น ก็ค่อยๆ อธิบายเรื่องยา 9 เม็ดไป พร้อมทั้งให้ปฏิบัติด้วย เรื่องที่ challenge ที่สุด คงเป็นเรื่องอาหาร เพราะเครื่องปรุงที่เค้าใส่ให้ มีแค่เกลืออย่างเดียว ฉะนั้น รสชาติมันก็จะแปลกๆ ไปด้วย (ตอนอยู่ในค่าย เราทำเกือบทุกข้อล่ะ ยกเว้นดีท๊อกกับกินฉี่นะ อันนี้ทำใจยังไม่ได้)
และนอกจากนี้ ทั้ง 2 วันก็จะมีขายของในค่าย เช่น หนังสือของคุณหมอเขียว น้ำมันเขียว น้ำมันมะพร้าว ไม้กัวชา เกลือ น้ำใบย่านาง ฯลฯ (แต่การเข้าค่ายไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ)
หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ จะพอมีประโยชน์นะคะ
ขอให้ท่านที่ป่วยอยู่ กลับมาอาการดีขึ้นจนเป็นปกติและแข็งแรงโดยเร็วค่ะ
หมายเหตุ
การเลือกรักษาไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์ทางเลือก จะต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะทุกอย่างมีค่าเสียโอกาสเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สภาพร่างกายของเราในตอนที่เริ่มรักษา