คือเรากับแฟนคบกันมาเป็นเวลา 4 ปีใกล้จะเข้าปีที่ 5 ตอนนี้เราสองคนอายุ 24 ปี หลังจากเราสองคนเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงาน. ตอนแรกเราทำงานใกล้บ้านเป็นพยาาบาลอยูา รพ รัฐบาล ขึ้นเวรหนักมาก แต่ค่าตอบแทนได้น้อยนิด. เราเลยตัดสินใจว่าเราจะย้ายที่ทำงานิไปที่ที่ได้ค่าตอบแทนมากกว่า เลยย้ายมาทำงานเอกชน ที่ภูเก็ต เรายอมรับว่ามาอยู่นี้เงินเดือนและค่าตอบแทนเป้นที่น่าพอใจ เราอยุ้ได้ และเหลือเงินเก็บ เราวางแผนกับแฟนว่าเราจะทำงานยุนี้หาเงิน ได้สักก้อนแล้วเราจะกลับบ้าน ไปซื้อบ้านกัน. แต่พอมาวันนี้แฟนดันคิดตรงข้ามกับเราเขาอยากกลับบ้านไปดุแลแม่. ซึ้งมันก็เป็นเรื่องที่ดี เรายอมรับแต่ว่าเงินเดือนได้ลดลง เรากับแฟนเคยคุยกันว่า เราอายุยังไม่เยอะ ยังสามารถเก็บตังสร้างตัวได้. พอมีเงินเก้บเราค่อยกลับบัาน เรารู้สึกว่าเหมือนเราพยายามอยู่ฝ่ายเดียว. เวลาคุยเรื่องอนาคตกันเราก็ไม่อยากขัดเขาทีาเขาจะกลับบ้านไปดูแลแม่ มันเป็นสิ่งที่ดี เรารุ้. แต่เราก้ต้องคิดถึงอนาคตตัวเองในข้างหน้าด้วยไหมอะ หรือ. ทุกคนคิดว่าเราคิดว่าเห็นแก่ตัวไหมอะ คือแฟนเรามีแต่อยากจะกลับบ้าน แล้วตังเก็บก็ไม่มี คิดอยุ่อย่างเดียวว่าต้องกลับบ้าน
เรารู้สึกว่าเหมือนเราพยายามฝ่ายเดียว เราควรทำยังไงดี จะปล่อยให้แฟนกลับไปอยู่บ้านกลับไปอยู่แบบไม่ทีจุดหมาย เงินเดือนน้อยลง แค่ผ่อนรถก้จะหมดแล้ว หรือเราเองควรพอ เพราะหลายครัวความคิดเห็นเรากับเขาต่างกันมากเกินไป
เมื่อเริ่มวางแผนอนาคตกับแฟน
เรารู้สึกว่าเหมือนเราพยายามฝ่ายเดียว เราควรทำยังไงดี จะปล่อยให้แฟนกลับไปอยู่บ้านกลับไปอยู่แบบไม่ทีจุดหมาย เงินเดือนน้อยลง แค่ผ่อนรถก้จะหมดแล้ว หรือเราเองควรพอ เพราะหลายครัวความคิดเห็นเรากับเขาต่างกันมากเกินไป