สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิป วันนี้เราจะมารีวิวความรู้สึก และผลลัพท์หลังการใช้
ผลิตภัณฑ์
LA MER : The Treatment Lotion ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนเลยว่า ปัจจุบันเราอายุ 33 ปีแล้วค่ะ สิ่งที่ตามมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น นอกจากปัญหาริ้วรอยแล้ว ผิวหน้ายังขาดความชุ่มชื่น การดูดซึมสารบำรุง ครีมบำรุงต่างๆผิวสามารถดูดซึมได้น้อย ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองใช้The Treatment Lotion เรารู้สึกว่าเป็นสกินแคร์ สำหรับเตรียมผิว ที่สามารถตอบโจย์ปัญหาผิว และสภาพผิวหน้าของผู้หญิงหลัก3+ แบบเรามากๆ
สำหรับ The Treatment Lotion ขนาดที่เราได้ทำการลงทะเบียนกับทางpantip และได้รับมาทดลองใช้ก็คือขนาด 5ml. ค่ะ ซึ่งนอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังมีขนาดจริงที่วางจำหน่าย คือ ขนาด 100ml. ราคา 3,400 บาท
150ml. ราคา5100 บาท
และ 300ml. ราคา 6,300บาท
ในวันที่เราได้เข้าไปรับผลิตภัณฑ์นั้น ทางพี่ทีม งานLamer ได้แนะนำรายละเอียดและขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
รวมทั้งทดสอบการซึมซาบและการทำงานของตัวThe Treatment Lotion ให้เราดูด้วยการใช้แผ่นคุชชั่น 2 แผ่น (แทนผิวหน้า ) แล้วหยดน้ำเปล่าลงไปในแผ่นแรก และThe Treatment Lotion ลงในแผ่นที่ 2 โดยใช้เวลาพร้อมกัน จะเห็นได้ว่า แผ่นที่2 ที่หยดตัว The Treatment Lotion สามารถซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็หยดน้ำ(เปรียบเสมือนครีมบำรุง) ตามลงไปในแผ่นที่ลงThe Treatment Lotion จะเห็นได้ว่าน้ำซึมซาบได้รวดเร็วมากๆ ในขณะแผ่นที่หยดด้วยน้ำ(ใช้แทนครีมบำรุงชนิดอื่น) ซึมซาบได้ไม่ดี ยังมีน้ำเกาะติดที่ผิวคุชชั่น
หลังจากที่ทดสอบการซึมซาบจะเห็นได้ว่า The Treatment Lotion สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญยังช่วยผลักสกินแคร์ ที่จะลงตัวต่อไปให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีมากขึ้นและรวดเร็วมากขึ้นด้วย
The Treatment Lotion ขนาดที่เรามาทดลองใช้ก็คือขนาด 5ml. ตัวแพคเกจก็มีความพรีเมียม เรียบหรู และได้มาตรฐาน น่าใช้มากๆ
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
สำหรับ LA MER : The Treatment Lotion โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้แก่ผิวด้วย Liquid Energy ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ผิวชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ มอบผิวแลดูนุ่ม เรียบเนียนและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอและดูมีชีวิตชีวา
La Mer The Treatment Lotion เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นขั้นตอนแรกในการบำรุงผิวหน้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้โดดเด่นด้วยส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของ La Mer ไม่ว่าจะเป็น
น้ำสกัดเข้มข้นจาก Miracle Broth™ ช่วยในการเสริมสร้างกระบวนการสร้างผิวใหม่ รวมทั้งเติมความชุ่มชื้น ปรับสมดุลในผิว ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ทรงพลัง
Softening Water มอบความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้กับผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ซึ่ง Softening Water ประกอบไปด้วยไมโครเจลจากสาหร่าย ส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอน และ Deconstructed Waters™
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นโลชั่นใส เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม คล้ายกับเอสเซ้นส์ แต่เข้มข้นกว่า เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นกุหลาบ ช่วยให้ผ่อนคลาย
ช่วยมอบความชุ่มชื่นให้กับผิว สามารถใช้บำรุงได้ทั้งเช้า เย็น ในขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวค่ะ
หลังจากที่เราทดลองใช้ เรารู้สึกว่า โลชั่นนี้น่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและไม่ได้มีปัญหาผิวมากนัก อาจไม่ต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์อื่นใดเพิ่ม
สำหรับคนที่มีผิวแห้งโลชั่นตัวนี้จะทำหน้าที่ผลิตภัณฑ์เตรียมผิวที่ดีมากตัวนึงเลยค่ะ ช่วยเสริมประสิทธิภาพครีมบำรุงที่จะทาต่อด้วย (ผิวแห้งอยู่ดีๆทาครีมบำรุงมันจะไม่ซึมเข้าไปบำรุงผิวนะคะ จะเคลือบอยู่แค่ผิวด้านบนเท่านั้น)
ส่วนคนที่ผิวแพ้ง่าย หลังจากที่ดูส่วนผสม พบว่าก็อาจจะมีส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายเคืองผิวได้บ้าง เช่นคนที่แพ้สารสกัดจากสาหร่าย หรือส่วนผสมจากท้องทะเล คนที่แพ้ส่วนผสมของออยล์ เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันจากพืชธรรมชาติผสมอยู่บ้าง คนที่แพ้ส่วนผสมของสารสกัดจากยีสต์ และคนที่แพ้ส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ
วิธีการใช้
หลังจากล้างหน้า หยดโลชั่นเล็กน้อยลงบนปลายนิ้วหรือบนสำลี กดแตะลงบนผิวเบาๆ สามารถใช้ได้ทั้งเช้า เย็น แล้วตามด้วยการบำรุงผิวด้วยเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ในขั้นตอนต่อไป
วิธีที่1 หยดลงบนสำลี 2-3 หยด ทาให้ทั่วทั้งผิวหน้าและลำคอ
ซึ่งการหยดตัวโลชั่นลงบนสำลีนั้น เป็นวิธีการที่ช่วยให้ประหยัดและทาได้ทั่วผิวได้ดีมากขึ้น
วิธีที่2 หยดโลชั่นเล็กน้อยลงบนปลายนิ้ว ทาให้ทั่วทั้งผิวหน้าและลำคอ
เนื้อโลชั่นใส คล้ายเอสเซ้นส์ แต่มีความเข้มข้น เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มผิว และมีกลิ่นที่หอมคล้ายๆกุหลาบ ระหว่างที่ทาทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
เนื้อโลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ทาThe Treatment Lotion ลงไปในขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว เรารู้สึกว่าผิวหน้ามีความเนียน และมีความชุ่มชื่นขึ้นทันที ตัวโลชั่นมีความบางเบา หลังจากที่ทาไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความสบายผิว ผิวดูสดชื่น ดูตื่นขึ้นทันทีหลังจากที่ใช้
หลังจากนั้นเราจะทาเซรั่ม และครีมบำรุง กันแดดในขึ้นตอนต่อไป เรารู้สึกเลยว่า เซรั่ม และครีมบำรุง ในด้านที่ใช้ The Treatment Lotion ทำให้ตัวสกินแคร์ต่างๆที่ตามลงไปสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีมากๆ ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายขึ้นด้วย และรู้สึกสบายผิวหลังจากที่ทาด้วยค่ะ
ด้านที่ใช้ The Treatment Lotion หลังจากที่ทาสกินแคร์ต่างๆตามลงไปจะเห็นได้ว่าสกินแคร์สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ช่วยให้เกลี่ยง่ายขึ้น ตัวสกินแคร์ไม่ตกค้างไว้บนผิว
ส่วนด้านที่ไม่ได้ใช้ The Treatment Lotion เรารู้สึกว่าสกินแคร์ที่ทาลงไปนั้น ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้น้อยกว่า เคลือบบนผิวหน้า และมีความมันบนใบหน้ามากกว่า
ทดสอบความมันที่ตกค้างที่ผิว
💚แผ่นที่ 1 คือ กระดาษซับมันที่ใช้ซับหลังจากที่ทาThe Treatment Lotion ในขึ้นตอนแรก จะเห็นได้ว่าไม่มีความมันติดมาบนกระดาษซับมันเลย มีแต่ความชุ่มชื่นที่คงข้างบนผิวเท่านั้น
💚แผ่นที่2 คือ กระดาษซับมัน ที่ทำการซับ หลังจากที่ทา The Treatment Lotion ในขั้นตอนแรก และทาสกินแคร์ต่างๆตามลงไป จะเห็นได้ว่ามีความมันติดออกมาน้อยมาก
💚 แผ่นที่ 3 คือ กระดาษซับมัน ที่ทำการซับผิวหน้า โดยไม่ได้ใช้The Treatment Lotion ในขั้นตอนแรก จะเห็นได้ว่ามีความมันติดออกมามากกว่า
ซึ่งเรารู้สึกว่าว่าหลังจากที่เราใช้The Treatment Lotion ทำให้สกินแคร์ที่ทาบำรุงผิวตามลงไป ตัวThe Treatment Lotion สามารถช่วยผลักสารบำรุง และสกินแคร์ต่างๆซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีมากขึ้น ดีมากกว่าเดิมที่ไม่ได้ใช้อย่างเห็นได้ชัดเลย และช่วยให้เรารู้สึกสบายผิว และมอบความชุ่มชื่นให้กับผิวหลังจากที่ใช้ ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ยาวนาน โดยไม่ทำให้ผิวมันเมือก ไม่เหนอะหนะ และช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นด้วย ที่สำคัญช่วยให้เมคอัพที่ทาลงไปติดผิวได้ดีมากขึ้น เมคอัพติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ
ผลลัพท์หลังการใช้
หลังจากที่เราได้ใช้ The Treatment Lotion ขนาดทดลอง 5 ml. หมดขวด (ประมาณ 1 สัปดาห์ )
เรารู้สึกเลยว่าสภาพผิวหน้าของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น มีความชุ่มชื่น ดูอิ่มน้ำ บางวันแอบขี้เกลีนดทาครีมเยอะ ๆ ก็สามารถลง The Treatment Lotion กับกันแดด ผิวหน้าก็รอด และมีความชุ่มชื่นตลอดวัน และยังช่วยหน้าไม่โทรม ผิวละเอียดเนียนนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตัวโลชั่น ให้ความสบายผิว เวลาทาสกินแคร์ตัวอื่นตามลงไป ก็ช่วยให้ สกินแคร์ซึมไปบำรุงผิว ได้รวดเร็ว และดียิ่งขึ้น ไม่สร้างความเหนอะ ระหว่างวัน ช่วงให้เมคอัพที่ลงติดผิวหน้า เกาะผิวได้ดีขึ้น เมคอัพติดทน
ที่สำคัญไม่มีอาการแพ้ หรือระคายเคืองใดๆ เกิดขึ้นเลยค่ะ
ต้องบอกเลยว่า The Treatment Lotion ของ Lamer เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวของผู้หญิงวัย 30 แบบเราได้ดีมากๆ เป็นสกินแคร์ที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและควรแค่การการลงทุน เอาคะแนนความประทับใจไปแบบเต็มๆเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสต้องซื้อขนาดจริงมา ใช้ต่อแน่นอนค่ะ
คะแนนความประทับใจ
เนื้อผลิตภัณฑ์ 5:5
เนื้อโลชั่นเป็นเจลใส คล้ายเอสเซ้นส์ ให้สัมผัสที่เนียนนุ่ม ลื่นผิว บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่สร้างความมันความเหนอะ
กลิ่น 4:5
กลิ่นหอมออกแนวกุหลาบ กลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุน ระหว่างที่ทาจะได้กลิ่นหอม ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
การซึมซาบ 5:5
เราให้คะแนนเต็มเลยค่ะ เพราะเนื้อโลชั่นซึมซาบไว บางเบา ทาแล้วสบายผิว ไม่เหนอะ
ความชุ่มชื่น 5:5
ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ช่วยบำรุงผิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยาวนาน บางวันแค่ The Treatment Lotion กับกันแดดคือจบ ผิวน่าชุ่มชื่นทั้งวัน
การบำรุง 5:5
ช่วยบำรุงผิวตั้งแต่ครั้งแรงที่ใช้ ใช้แล้วผิวชุ่มเนียนนุ่ม ช่วยผลักสารบำรุง ให้ช่วยให้สกินแคร์อื่นๆที่ลงตามลงไปทำงานได้ดีและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ความอ่อนโยน 5:5
ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้ อาการระคายเคือง อ่อนโยนต่อผิวของเรา
คุณภาพ ราคา และการใช้ซ้ำ 5:5
ประสิทธิภาพการบำรุง สารบำรุงต่างๆ พร้อมทั้งผลลัพท์และความเปลี่ยนแปลงหลังการใช้ ต้องบอกว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมากๆ เป็นอีกไอเท็มที่เราอยากใช้ต่อมากๆค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ และอยากสัมผัสความดีงามของผลิตภัณฑ์ Lamer ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Web site :
https://www.lamer.co.th/ หรือที่เค้าเตอร์แบรนด์ มีBA สุดน่ารักคอยให้ข้อมูลแบบละเอียดรออยู่จร้า
[SR] รีวิว LA MER The Treatment Lotion
ผลิตภัณฑ์ LA MER : The Treatment Lotion ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนเลยว่า ปัจจุบันเราอายุ 33 ปีแล้วค่ะ สิ่งที่ตามมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น นอกจากปัญหาริ้วรอยแล้ว ผิวหน้ายังขาดความชุ่มชื่น การดูดซึมสารบำรุง ครีมบำรุงต่างๆผิวสามารถดูดซึมได้น้อย ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองใช้The Treatment Lotion เรารู้สึกว่าเป็นสกินแคร์ สำหรับเตรียมผิว ที่สามารถตอบโจย์ปัญหาผิว และสภาพผิวหน้าของผู้หญิงหลัก3+ แบบเรามากๆ
สำหรับ The Treatment Lotion ขนาดที่เราได้ทำการลงทะเบียนกับทางpantip และได้รับมาทดลองใช้ก็คือขนาด 5ml. ค่ะ ซึ่งนอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังมีขนาดจริงที่วางจำหน่าย คือ ขนาด 100ml. ราคา 3,400 บาท
150ml. ราคา5100 บาท
และ 300ml. ราคา 6,300บาท
ในวันที่เราได้เข้าไปรับผลิตภัณฑ์นั้น ทางพี่ทีม งานLamer ได้แนะนำรายละเอียดและขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
รวมทั้งทดสอบการซึมซาบและการทำงานของตัวThe Treatment Lotion ให้เราดูด้วยการใช้แผ่นคุชชั่น 2 แผ่น (แทนผิวหน้า ) แล้วหยดน้ำเปล่าลงไปในแผ่นแรก และThe Treatment Lotion ลงในแผ่นที่ 2 โดยใช้เวลาพร้อมกัน จะเห็นได้ว่า แผ่นที่2 ที่หยดตัว The Treatment Lotion สามารถซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็หยดน้ำ(เปรียบเสมือนครีมบำรุง) ตามลงไปในแผ่นที่ลงThe Treatment Lotion จะเห็นได้ว่าน้ำซึมซาบได้รวดเร็วมากๆ ในขณะแผ่นที่หยดด้วยน้ำ(ใช้แทนครีมบำรุงชนิดอื่น) ซึมซาบได้ไม่ดี ยังมีน้ำเกาะติดที่ผิวคุชชั่น
หลังจากที่ทดสอบการซึมซาบจะเห็นได้ว่า The Treatment Lotion สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญยังช่วยผลักสกินแคร์ ที่จะลงตัวต่อไปให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีมากขึ้นและรวดเร็วมากขึ้นด้วย
The Treatment Lotion ขนาดที่เรามาทดลองใช้ก็คือขนาด 5ml. ตัวแพคเกจก็มีความพรีเมียม เรียบหรู และได้มาตรฐาน น่าใช้มากๆ
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
สำหรับ LA MER : The Treatment Lotion โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้แก่ผิวด้วย Liquid Energy ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ผิวชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ มอบผิวแลดูนุ่ม เรียบเนียนและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอและดูมีชีวิตชีวา
La Mer The Treatment Lotion เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นขั้นตอนแรกในการบำรุงผิวหน้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้โดดเด่นด้วยส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของ La Mer ไม่ว่าจะเป็น
น้ำสกัดเข้มข้นจาก Miracle Broth™ ช่วยในการเสริมสร้างกระบวนการสร้างผิวใหม่ รวมทั้งเติมความชุ่มชื้น ปรับสมดุลในผิว ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ทรงพลัง
Softening Water มอบความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้กับผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ซึ่ง Softening Water ประกอบไปด้วยไมโครเจลจากสาหร่าย ส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอน และ Deconstructed Waters™
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นโลชั่นใส เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม คล้ายกับเอสเซ้นส์ แต่เข้มข้นกว่า เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นกุหลาบ ช่วยให้ผ่อนคลาย
ช่วยมอบความชุ่มชื่นให้กับผิว สามารถใช้บำรุงได้ทั้งเช้า เย็น ในขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวค่ะ
หลังจากที่เราทดลองใช้ เรารู้สึกว่า โลชั่นนี้น่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและไม่ได้มีปัญหาผิวมากนัก อาจไม่ต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์อื่นใดเพิ่ม
สำหรับคนที่มีผิวแห้งโลชั่นตัวนี้จะทำหน้าที่ผลิตภัณฑ์เตรียมผิวที่ดีมากตัวนึงเลยค่ะ ช่วยเสริมประสิทธิภาพครีมบำรุงที่จะทาต่อด้วย (ผิวแห้งอยู่ดีๆทาครีมบำรุงมันจะไม่ซึมเข้าไปบำรุงผิวนะคะ จะเคลือบอยู่แค่ผิวด้านบนเท่านั้น)
ส่วนคนที่ผิวแพ้ง่าย หลังจากที่ดูส่วนผสม พบว่าก็อาจจะมีส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายเคืองผิวได้บ้าง เช่นคนที่แพ้สารสกัดจากสาหร่าย หรือส่วนผสมจากท้องทะเล คนที่แพ้ส่วนผสมของออยล์ เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันจากพืชธรรมชาติผสมอยู่บ้าง คนที่แพ้ส่วนผสมของสารสกัดจากยีสต์ และคนที่แพ้ส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ
วิธีการใช้
หลังจากล้างหน้า หยดโลชั่นเล็กน้อยลงบนปลายนิ้วหรือบนสำลี กดแตะลงบนผิวเบาๆ สามารถใช้ได้ทั้งเช้า เย็น แล้วตามด้วยการบำรุงผิวด้วยเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ในขั้นตอนต่อไป
วิธีที่1 หยดลงบนสำลี 2-3 หยด ทาให้ทั่วทั้งผิวหน้าและลำคอ
ซึ่งการหยดตัวโลชั่นลงบนสำลีนั้น เป็นวิธีการที่ช่วยให้ประหยัดและทาได้ทั่วผิวได้ดีมากขึ้น
วิธีที่2 หยดโลชั่นเล็กน้อยลงบนปลายนิ้ว ทาให้ทั่วทั้งผิวหน้าและลำคอ
เนื้อโลชั่นใส คล้ายเอสเซ้นส์ แต่มีความเข้มข้น เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มผิว และมีกลิ่นที่หอมคล้ายๆกุหลาบ ระหว่างที่ทาทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
เนื้อโลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ทาThe Treatment Lotion ลงไปในขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว เรารู้สึกว่าผิวหน้ามีความเนียน และมีความชุ่มชื่นขึ้นทันที ตัวโลชั่นมีความบางเบา หลังจากที่ทาไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความสบายผิว ผิวดูสดชื่น ดูตื่นขึ้นทันทีหลังจากที่ใช้
หลังจากนั้นเราจะทาเซรั่ม และครีมบำรุง กันแดดในขึ้นตอนต่อไป เรารู้สึกเลยว่า เซรั่ม และครีมบำรุง ในด้านที่ใช้ The Treatment Lotion ทำให้ตัวสกินแคร์ต่างๆที่ตามลงไปสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีมากๆ ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายขึ้นด้วย และรู้สึกสบายผิวหลังจากที่ทาด้วยค่ะ
ด้านที่ใช้ The Treatment Lotion หลังจากที่ทาสกินแคร์ต่างๆตามลงไปจะเห็นได้ว่าสกินแคร์สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ช่วยให้เกลี่ยง่ายขึ้น ตัวสกินแคร์ไม่ตกค้างไว้บนผิว
ส่วนด้านที่ไม่ได้ใช้ The Treatment Lotion เรารู้สึกว่าสกินแคร์ที่ทาลงไปนั้น ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้น้อยกว่า เคลือบบนผิวหน้า และมีความมันบนใบหน้ามากกว่า
ทดสอบความมันที่ตกค้างที่ผิว
💚แผ่นที่ 1 คือ กระดาษซับมันที่ใช้ซับหลังจากที่ทาThe Treatment Lotion ในขึ้นตอนแรก จะเห็นได้ว่าไม่มีความมันติดมาบนกระดาษซับมันเลย มีแต่ความชุ่มชื่นที่คงข้างบนผิวเท่านั้น
💚แผ่นที่2 คือ กระดาษซับมัน ที่ทำการซับ หลังจากที่ทา The Treatment Lotion ในขั้นตอนแรก และทาสกินแคร์ต่างๆตามลงไป จะเห็นได้ว่ามีความมันติดออกมาน้อยมาก
💚 แผ่นที่ 3 คือ กระดาษซับมัน ที่ทำการซับผิวหน้า โดยไม่ได้ใช้The Treatment Lotion ในขั้นตอนแรก จะเห็นได้ว่ามีความมันติดออกมามากกว่า
ซึ่งเรารู้สึกว่าว่าหลังจากที่เราใช้The Treatment Lotion ทำให้สกินแคร์ที่ทาบำรุงผิวตามลงไป ตัวThe Treatment Lotion สามารถช่วยผลักสารบำรุง และสกินแคร์ต่างๆซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีมากขึ้น ดีมากกว่าเดิมที่ไม่ได้ใช้อย่างเห็นได้ชัดเลย และช่วยให้เรารู้สึกสบายผิว และมอบความชุ่มชื่นให้กับผิวหลังจากที่ใช้ ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ยาวนาน โดยไม่ทำให้ผิวมันเมือก ไม่เหนอะหนะ และช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นด้วย ที่สำคัญช่วยให้เมคอัพที่ทาลงไปติดผิวได้ดีมากขึ้น เมคอัพติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ
ผลลัพท์หลังการใช้
หลังจากที่เราได้ใช้ The Treatment Lotion ขนาดทดลอง 5 ml. หมดขวด (ประมาณ 1 สัปดาห์ )
เรารู้สึกเลยว่าสภาพผิวหน้าของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น มีความชุ่มชื่น ดูอิ่มน้ำ บางวันแอบขี้เกลีนดทาครีมเยอะ ๆ ก็สามารถลง The Treatment Lotion กับกันแดด ผิวหน้าก็รอด และมีความชุ่มชื่นตลอดวัน และยังช่วยหน้าไม่โทรม ผิวละเอียดเนียนนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตัวโลชั่น ให้ความสบายผิว เวลาทาสกินแคร์ตัวอื่นตามลงไป ก็ช่วยให้ สกินแคร์ซึมไปบำรุงผิว ได้รวดเร็ว และดียิ่งขึ้น ไม่สร้างความเหนอะ ระหว่างวัน ช่วงให้เมคอัพที่ลงติดผิวหน้า เกาะผิวได้ดีขึ้น เมคอัพติดทน
ที่สำคัญไม่มีอาการแพ้ หรือระคายเคืองใดๆ เกิดขึ้นเลยค่ะ
ต้องบอกเลยว่า The Treatment Lotion ของ Lamer เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวของผู้หญิงวัย 30 แบบเราได้ดีมากๆ เป็นสกินแคร์ที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและควรแค่การการลงทุน เอาคะแนนความประทับใจไปแบบเต็มๆเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสต้องซื้อขนาดจริงมา ใช้ต่อแน่นอนค่ะ
คะแนนความประทับใจ
เนื้อผลิตภัณฑ์ 5:5
เนื้อโลชั่นเป็นเจลใส คล้ายเอสเซ้นส์ ให้สัมผัสที่เนียนนุ่ม ลื่นผิว บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่สร้างความมันความเหนอะ
กลิ่น 4:5
กลิ่นหอมออกแนวกุหลาบ กลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุน ระหว่างที่ทาจะได้กลิ่นหอม ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
การซึมซาบ 5:5
เราให้คะแนนเต็มเลยค่ะ เพราะเนื้อโลชั่นซึมซาบไว บางเบา ทาแล้วสบายผิว ไม่เหนอะ
ความชุ่มชื่น 5:5
ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ช่วยบำรุงผิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยาวนาน บางวันแค่ The Treatment Lotion กับกันแดดคือจบ ผิวน่าชุ่มชื่นทั้งวัน
การบำรุง 5:5
ช่วยบำรุงผิวตั้งแต่ครั้งแรงที่ใช้ ใช้แล้วผิวชุ่มเนียนนุ่ม ช่วยผลักสารบำรุง ให้ช่วยให้สกินแคร์อื่นๆที่ลงตามลงไปทำงานได้ดีและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ความอ่อนโยน 5:5
ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้ อาการระคายเคือง อ่อนโยนต่อผิวของเรา
คุณภาพ ราคา และการใช้ซ้ำ 5:5
ประสิทธิภาพการบำรุง สารบำรุงต่างๆ พร้อมทั้งผลลัพท์และความเปลี่ยนแปลงหลังการใช้ ต้องบอกว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมากๆ เป็นอีกไอเท็มที่เราอยากใช้ต่อมากๆค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ และอยากสัมผัสความดีงามของผลิตภัณฑ์ Lamer ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Web site : https://www.lamer.co.th/ หรือที่เค้าเตอร์แบรนด์ มีBA สุดน่ารักคอยให้ข้อมูลแบบละเอียดรออยู่จร้า
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม