สวัสดีค่ะ เป็นกระทู้ที่สองแล้วกับการรีวิวของกิน
เนื่องจากปีนี้อยู่ไทยจนรากงอก นานๆทีจะได้ไปต่างประเทศ ไปก็ได้แว๊บๆแล้วก็กลับ ไม่ได้ไปเที่ยวจริงจังเหมือนปีก่อนๆที่สมัยเรายังเรียนอยู่
เลยขอทำการรีวิว MUJI Cafe Thailand ละกัน มาถ่ายรูปรับปริญญาพี่ป.โท ที่จุฬา แล้วผ่านพอดี ขอซักนิดก็ยังดี
เอาล่ะ เริ่มต้นของการรีวิว
MUJI Cafe สาขาแรกของไทย
ตั้งอยู่ภายในร้าน MUJI สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ก็คือต้องเดินเข้ามาในตัวร้าน ผ่านโซนขายของก่อน
ตัวคาเฟ่จะตั้งอยู่ตรงกลางร้าน MUJI Store เลย
***เนื่องจากวันนี้ โซนที่นั่งคนเต็ม ละเราเซนเซอร์รูปไม่เป็น ไม่ได้เก่ง IT ขนาดนั้น เลยขอไม่ถ่ายโซนนั้งมา เดี๋ยวติดหน้าคน ***
เริ่มด้วยการเข้ามาถึงก็ต้องต่อแถว และบรรยากาศของการต่อแถววันแรกก็เป็นแบบนี้
ร้าน MUJI Cafe สาขาประเทศไทย ให้การสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น จึงได้เลือกใช้กาแฟของ “ดอยตุง” ดังจะเห็นได้จากที่วางขายอยู่หน้าร้านค่ะ
ระหว่างที่เรารอต่อคิว เนื่องจากคิวยาวมากๆ (แต่ก็รันคิวเร็วนะ) เราเลยมือบอน ถ่ายรูปอะไรที่น่าสนใจเล่นซักหน่อย เป็นสินค้า limited edition ที่ไทย ซื้อฝากเพื่อนต่างชาติกันได้ (แอบอยากชม store manager ที่ฉลาด เอามาตั้งถูกจุดพอดี เกือบสอยละ ถ้าติดว่าจะยังไม่ได้บินตปท.เร็วๆนี้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มุมแย่นิดนึงนะคะ รีบกดชัตเตอร์มาก อย่างที่บอกแหละค่ะ รันคิวเร็ว 55555+ รอแปปเดียวเอง
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนในการสั่งกาแฟ
เค้าท์เตอร์ดีไซน์สวยมาก จริงๆมีเมนูวางให้หยิบ ละมีเขียนไว้ด้านหลัง แต่ตอนนั้นรีบมาก
รีบแม้กระทั่งลืมถ่ายเมนู เลยขออนุญาตเอารูปเมนูที่รุ่นน้องถ่ายมาไปแทนละกัน เรากับรุ่นน้องแยกกันไป
ตอนแรกตั้งใจแค่เครื่องดื่ม แต่ดันมีเค้กโปรดซะได้ ก็จัดมาละกัน เดี๋ยวไปทำสงครามแย่งโต๊ะเอา 55555+
เสียหายรวมทั้งสิ้น 130 บาทครัชพี่น้อง
และแล้วเมื่อได้บิลล์ สิ่งแรกที่ดิฉันทำก็คือสงครามแย่งโต๊ะ ในหัวนี่คิดแล้วคิดอีกว่าจะต้องไปกดดันคนไทยด้วยวิธีไหนเพื่อให้ได้มาซึ่ง “โต๊ะ”
แต่พอเดินไปอีกฝั่งนึง ก็มีที่วางฟันหรออยู่ที่นึงพอดี เลยเดินไป ถามคนในโต๊ะ พอรู้ว่าว่างก็เอากระเป๋าวางเลย (มารยาทดีมว๊ากกกก 555555+)
ยังไม่ทันจะได้ถ่ายรูปใบเสร็จ พนักงานก็เรียกไปรับเครื่องดื่มละจ้า ละหน้าตาของโซนรับเครื่องดื่มดูผ่อนคลายมาก ยังกับอยู่ในป่าแอมมะซอน
ไฮไลท์อยู่นี่ หน้าตาขนม
การมิกซ์แบบที่ยังไม่ได้ให้มันเป็นเนื้อเดียวกันทำให้เรารู้สึกว่ากาแฟมันเฟรช สดใหม่
เปล่า พนักงานรีบ 5555+
เราเป็นคนกินกาแฟไม่หวาน เราจำได้ว่าลืมสั่งหวานน้อย แต่โกโก้ที่ได้กิน แทบไม่หวานเลย อร่อยมากค่ะ คุ้มค่า — ทำให้อยากกลับไปลองเลยว่า ถ้าหวานน้อย จะเป็นขมไปเลยรึเปล่า อยากลองของ 555555+
ส่วนเค้กก็อร่อยค่ะ เป็นช๊อกโกแล๊ตมูสกลิ่นส้ม ซึ่งเข้ากันมากๆ และราคาจับต้องได้ เสียดายชิ้นเล็กไปนิด
อีกสิ่งที่ประทับใจ MUJI คือการใช้หลอดกระดาษค่ะ
ช่วงนี้เราสนิทกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่ได้มาจากการทำงานสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม เรารู้สึกว่าการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่ทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ควรช่วยกันคนละนิด ยังไม่ต้องคิดถึงภาพใหญ่ว่ามันจะเปลี่ยนโลกได้ แค่เปลี่ยนนิสัยตัวเอง เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยู่ แล้วมันจะกระจายไปสู่ภาพกว้างที่เราปรารถนาจะให้เป็นเอง
โดยส่วนตัว วันนี้ประทับใจ MUJI Cafe มากๆค่ะ ดีใจและรอมานานให้เปิดที่ไทย ต่อให้จะไม่ Full Option เหมือนสมัยที่เราเคยไปกินสมัยอยู่โตเกียว ไม่เหมือนกับที่เราพาเพื่อนไปกินที่สิงคโปร์กับฮ่องกง แต่ชอบด้านของ Community Awareness (เรื่องการใช้กาแฟดอยตุง และการใช้หลอดกระดาษ) มันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระและไม่คุ้มค่าสำหรับหลายๆคน แต่มันคุ้มค่าสำหรับจิตใจเรามากๆค่ะ ดีใจที่ได้มีวันนี้
ที่เราตัดดาวออกบ้างคือเรื่องเมนูน้อยเกินไป กับเรื่องปริมาณ ที่เราว่าเค้กก้อนเล็กไปอะค่ะ แล้วก็แอบตัดดาวออกตรงไม่มีเมนูข้าว (bias ส่วนตัวจริงๆ TT^TT) นอกนั้นดีละค่ะ
สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกระทู้ค่ะ
[CR] MUJI Café Thailand สาขาแรก @ สามย่านมิตรทาวน์
เนื่องจากปีนี้อยู่ไทยจนรากงอก นานๆทีจะได้ไปต่างประเทศ ไปก็ได้แว๊บๆแล้วก็กลับ ไม่ได้ไปเที่ยวจริงจังเหมือนปีก่อนๆที่สมัยเรายังเรียนอยู่
เลยขอทำการรีวิว MUJI Cafe Thailand ละกัน มาถ่ายรูปรับปริญญาพี่ป.โท ที่จุฬา แล้วผ่านพอดี ขอซักนิดก็ยังดี
เอาล่ะ เริ่มต้นของการรีวิว
MUJI Cafe สาขาแรกของไทย ตั้งอยู่ภายในร้าน MUJI สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ก็คือต้องเดินเข้ามาในตัวร้าน ผ่านโซนขายของก่อน ตัวคาเฟ่จะตั้งอยู่ตรงกลางร้าน MUJI Store เลย
***เนื่องจากวันนี้ โซนที่นั่งคนเต็ม ละเราเซนเซอร์รูปไม่เป็น ไม่ได้เก่ง IT ขนาดนั้น เลยขอไม่ถ่ายโซนนั้งมา เดี๋ยวติดหน้าคน ***
เริ่มด้วยการเข้ามาถึงก็ต้องต่อแถว และบรรยากาศของการต่อแถววันแรกก็เป็นแบบนี้
ร้าน MUJI Cafe สาขาประเทศไทย ให้การสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น จึงได้เลือกใช้กาแฟของ “ดอยตุง” ดังจะเห็นได้จากที่วางขายอยู่หน้าร้านค่ะ
ระหว่างที่เรารอต่อคิว เนื่องจากคิวยาวมากๆ (แต่ก็รันคิวเร็วนะ) เราเลยมือบอน ถ่ายรูปอะไรที่น่าสนใจเล่นซักหน่อย เป็นสินค้า limited edition ที่ไทย ซื้อฝากเพื่อนต่างชาติกันได้ (แอบอยากชม store manager ที่ฉลาด เอามาตั้งถูกจุดพอดี เกือบสอยละ ถ้าติดว่าจะยังไม่ได้บินตปท.เร็วๆนี้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนในการสั่งกาแฟ
เค้าท์เตอร์ดีไซน์สวยมาก จริงๆมีเมนูวางให้หยิบ ละมีเขียนไว้ด้านหลัง แต่ตอนนั้นรีบมาก รีบแม้กระทั่งลืมถ่ายเมนู เลยขออนุญาตเอารูปเมนูที่รุ่นน้องถ่ายมาไปแทนละกัน เรากับรุ่นน้องแยกกันไป
ตอนแรกตั้งใจแค่เครื่องดื่ม แต่ดันมีเค้กโปรดซะได้ ก็จัดมาละกัน เดี๋ยวไปทำสงครามแย่งโต๊ะเอา 55555+
เสียหายรวมทั้งสิ้น 130 บาทครัชพี่น้อง
และแล้วเมื่อได้บิลล์ สิ่งแรกที่ดิฉันทำก็คือสงครามแย่งโต๊ะ ในหัวนี่คิดแล้วคิดอีกว่าจะต้องไปกดดันคนไทยด้วยวิธีไหนเพื่อให้ได้มาซึ่ง “โต๊ะ”
แต่พอเดินไปอีกฝั่งนึง ก็มีที่วางฟันหรออยู่ที่นึงพอดี เลยเดินไป ถามคนในโต๊ะ พอรู้ว่าว่างก็เอากระเป๋าวางเลย (มารยาทดีมว๊ากกกก 555555+)
ยังไม่ทันจะได้ถ่ายรูปใบเสร็จ พนักงานก็เรียกไปรับเครื่องดื่มละจ้า ละหน้าตาของโซนรับเครื่องดื่มดูผ่อนคลายมาก ยังกับอยู่ในป่าแอมมะซอน
ไฮไลท์อยู่นี่ หน้าตาขนม
การมิกซ์แบบที่ยังไม่ได้ให้มันเป็นเนื้อเดียวกันทำให้เรารู้สึกว่ากาแฟมันเฟรช สดใหม่
เปล่า พนักงานรีบ 5555+เราเป็นคนกินกาแฟไม่หวาน เราจำได้ว่าลืมสั่งหวานน้อย แต่โกโก้ที่ได้กิน แทบไม่หวานเลย อร่อยมากค่ะ คุ้มค่า — ทำให้อยากกลับไปลองเลยว่า ถ้าหวานน้อย จะเป็นขมไปเลยรึเปล่า อยากลองของ 555555+
ส่วนเค้กก็อร่อยค่ะ เป็นช๊อกโกแล๊ตมูสกลิ่นส้ม ซึ่งเข้ากันมากๆ และราคาจับต้องได้ เสียดายชิ้นเล็กไปนิด
อีกสิ่งที่ประทับใจ MUJI คือการใช้หลอดกระดาษค่ะ
ช่วงนี้เราสนิทกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่ได้มาจากการทำงานสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม เรารู้สึกว่าการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่ทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ควรช่วยกันคนละนิด ยังไม่ต้องคิดถึงภาพใหญ่ว่ามันจะเปลี่ยนโลกได้ แค่เปลี่ยนนิสัยตัวเอง เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยู่ แล้วมันจะกระจายไปสู่ภาพกว้างที่เราปรารถนาจะให้เป็นเอง
โดยส่วนตัว วันนี้ประทับใจ MUJI Cafe มากๆค่ะ ดีใจและรอมานานให้เปิดที่ไทย ต่อให้จะไม่ Full Option เหมือนสมัยที่เราเคยไปกินสมัยอยู่โตเกียว ไม่เหมือนกับที่เราพาเพื่อนไปกินที่สิงคโปร์กับฮ่องกง แต่ชอบด้านของ Community Awareness (เรื่องการใช้กาแฟดอยตุง และการใช้หลอดกระดาษ) มันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระและไม่คุ้มค่าสำหรับหลายๆคน แต่มันคุ้มค่าสำหรับจิตใจเรามากๆค่ะ ดีใจที่ได้มีวันนี้
ที่เราตัดดาวออกบ้างคือเรื่องเมนูน้อยเกินไป กับเรื่องปริมาณ ที่เราว่าเค้กก้อนเล็กไปอะค่ะ แล้วก็แอบตัดดาวออกตรงไม่มีเมนูข้าว (bias ส่วนตัวจริงๆ TT^TT) นอกนั้นดีละค่ะ
สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกระทู้ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้