การเดินทางคือการเรียนรู้ และการเรียนรู้ก็คือการเดินทาง เอาจริงๆ นะ สำหรับการพาตัวเองไปในสถานที่แห่งหนึ่งได้นั้น เราจะได้สัมผัสอะไรที่แปลกใหม่และคาดไม่ถึงเสมอ วันนี้ขอพาทุกคนไปท่องเที่ยวกันแบบจุกๆ ที่ จ. น่าน สำหรับที่นี่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งหลายทั้งปวง
เนื่องจากเป็นเมืองที่คุณต้องหลงรักถ้าได้มาสัมผัสอย่างแน่นอน และการเที่ยวครั้งนี้ป๊อปเดินทางในช่วงวันหยุดยาว
ขอบอกว่าที่นี่มาเที่ยวไม่ควรมาแค่วันเดียว ต้องไปสัก 3 วัน 2 คืน ถึงจะเต็มอิ่มแบบพอดิบพอดี เพราะที่นี่คือมีสถานท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ ทั้งวัดวาอารามที่งดงาม หรือจะไปนอนดูดาว ชมทะเลหมอก เที่ยวน้ำตก ดูวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่ไกลลิบสุดลูกหูลูกตา แถมสีสันของธรรมชาติก็สวยงามจนหลับตาครั้งใดก็ยังจำภาพความสวยงามนี้ไม่เสื่อมคลายไปเลย โอ้ย! พูดมาขนาดนี้แล้วมัวรอช้าอยู่ทำไมล่ะคะ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วเดินทางมาพร้อมกับเราเลย
เช้าวันที่ 1 เริ่มต้นที่แรกขอพาไปที่วัดพระธาตุเขาน้อยชมวิวทิวทัศน์เมืองน่านพร้อมกับไอหมอกบางๆ
ไปก่อน และก็มุ่งตรงเข้าตัวเมืองน่าน
มาที่วัดภูมินทร์
ที่มีภาพปู่ม่านย่าม่าน หรือที่คนรู้จักกันว่า
ภาพกระซิบรักบรรลือโลก ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ปราณีตและเป็นภาพที่โดดเด่นประจำวัดภูมินทร์
โดยเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบสนทนา และถ้าหากคู่รักใดมาบอกรักขอพรต่อหน้า
“ปู่ม่านย่าม่าน” นอกจากจะช่วยให้มีความรักยืนยงยาวนานแล้ว
ยังมั่นคงและมั่งคั่งในชีวิตรักและชีวิตสมรสอีกด้วย ไปค่ะจูงมือแฟนไปที่นี่
ด่วนเลย555
ต่อด้วยวัดพระธาตุแช่แห้งองค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกลที่นี่เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต
จากนั้นก็นั่งรถมุ่งตรงมาที่ดอยเสมอดาวกันเลยจ้าก่อนอื่นเมื่อมาถึงที่นี้ก็กางเต็นจับจองพื้นที่กันก่อนเลยเพราะคืนนี้เราจะมานอนรอดูดาวกัน
พอตกตอนเย็นตะวันใกล้ลับขอบฟ้าเราก็มานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินสักหน่อยขอบอกว่าบรรยากาศที่นี่โครตดีเลย วิวมันได้ ไม่มานี่พลาดครั้งใหญ่ในชีวิตเลยนะ แต่เรามาและถือว่ารอดตัวไป555
สำหรับคืนแรก
ในค่ำคืนนี้การมองดูดาวก็เป็นเรื่องง่าย ขอบอกว่าที่นี่คือดาวเยอะมากๆ จริงๆ
แบบอย่างกะหลุดเข้าไปในห้วงกาแล็กซี่เลยก็ว่าได้ จนมีเพลงนึงลอยมาขึ้นมาในหัวเลย
คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตนาการการเป็นภาพเธอ
โอ้ยดาวเยอะขนาดนี้พาแฟนมาขอบอกว่าโรแมนติกสุดๆ
เช้ามาก็ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอกฟินๆ
กับไอแดดบางๆ พร้อมกับสูดโอโซนให้เต็มปอดไปเลยยยย
พอสายหน่อยเราก็เก็บเต๊นท์และมุ่งสู่อ.ปัวกันต่อเลย ทริปวันที่ 2 นี้ ก็เริ่มต้นแวะกันที่วัดวาอารามอย่าง วัดศรีมงคล กันจ้า ดูเป็นคนดีเข้าวัดวาตลอด5555 ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ที่ ต.ยม อ.ท่าวังผา ซึ่งพระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือหลวงปู่ก๋งด้านหลังของวัดมีลานชมวิว มองเห็นทุ่งนา และทิวเขาของดอยภูคาเรียงรายสลับซับซ้อน บริเวณนาข้าวมีที่พักและร้านกาแฟฮักนน่านมีสะพานไม้ไผ่เชื่อมจากตัววัดสามารถลงไปเดินเล่นถ่ายภาพได้ เอาค่ะไม่พลาดถ่ายรูปมาอีกร้อยกว่ารูปกับวัดนี้555 (คนอะไรบ้าถ่ายรูปชะมัด)
ต่อด้วยมาชิมกาแฟบ้านไทลื้อ และชมผ้าทอกันที่บ้านลำดวน สำหรับที่นี่คือร้านกาแฟสุดเก๋ไก๋ ในอ.ปัว ที่ล้อมรอบไปด้วยวิวสวยๆ ของทุ่งนาเขียวขจี
แถมมีสะพานไม้ให้ได้เดินชมวิวทุ่งนา
แล้วก็มาต่อกันที่วังศิลาแลงจ้า
ซึ่งที่นี่ถือได้ว่าเป็นแกรนด์แคนยอนของ อ. ปัว ก็ว่าได้
โดยอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มเห็ดบ้านหัวยน้ำ ประมาณ 500 เมตร
อันนี้วิวที่มองจากฟาร์มเห็ดบ้านหัวยน้ำ
และเราก็เดินลุยไปยังวังศิลาแลงกันเลยโดยเดินลัดเลาะตามริมทุ่งนาไปเรื่อยๆ ไปค่ะ
ลุยเลย!
หลังจากนี้ก็ไปขึ้นดอยกันต่อจ้าขอบอกว่า
ในระหว่างการเดินทางเพื่อไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคานี้วิวข้างทางคือดีจริงๆ นึกว่าอยู่ไต้หวันกันเลยทีเดียว
และแล้วก็ขึ้นมาถึงดอยภูคากันแล้วจ้า ขอบอกที่พักของอุทยานคือดี ในราคาแค่ 300 บาท ต่อคืนเท่านั้นเอง แถมนอนได้สองคนเลยนะคะ
วันเวลาของการท่องเที่ยวนั้นผ่านไปไวมากและแล้วก็จบวันที่ 2 ของการเที่ยวน่าน คืนนี้ขอนอนฟินกับอากาศเย็นๆของอุทยานแห่งชาติดอยภูคาก่อนค่าาา
สำหรับเช้าวันที่ 3 นี้เราขอมาชมวิวที่จุดชมวิว 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นที่นี่ขอบอกว่าเช้านี้อากาศ 19 องศาเบาๆ เย็นดีเลยค่ะ
จากนั้นก็ไปเที่ยวที่บ่อเกลือสินเธาว์ อ.บ่อเกลือ ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่เหมือนที่ไหน แถมมีลำธารเล็กๆ หลังหมู่บ้านอีกด้วย
และปิดท้ายด้วยน้ำตกสะปันก่อนกลับบ้านค่ะ
สำหรับที่นี่คือบรรยากาศร่มรื่นย์และเย็นสบายมากเลย เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ
งดงามตามท้องเรื่องค่ะ
ภาพโดย Ratikorn Sripakho
จบทริปที่น่านเพียงเท่านี้ เอาจริงๆ คือยังไม่อยากกลับเลย เพราะที่นี่น่าหลงไหลด้วยความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติที่โอบกอดจังหวัดนี้จริงๆ สวยลืมไปเลยยยย สำหรับใครที่ต้องการชาร์ตแบตเพิ่มเอ็นเนอร์จีให้กับตัวเอง จ.น่าน เป็นอีกตัวเลือกที่คุณต้องมาให้ได้เลยค่ะ
และสุดท้ายนอกจากความสวยงามของแต่ละสถานที่ที่ได้ไปแล้ว สิ่งที่ดีงามไม่แพ้กันก็คือมิตรภาพที่ได้ระหว่างเดินทางในทริปนี้
♥♥♥ ขอบคุณที่ทำให้เราได้โคจรมาเจอกัน
“ถ้าเปรียบการเดินทางคือการเรียนรู้ คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะพาตัวเองออกไปในสถานที่ใหม่ๆ นะคะ
แล้วคุณจะรู้ว่าโลกใบนี้มีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ” ส่วนวันนี้ขอตัวก่อนจ้า บ๊ายบาย…
ขอบคุณรูปภาพจาก
ssomo khamriangsri,Ratikorn Sripakho,Oil Kanjanat,Bazkinz Bua Srunrat
เรียบเรียงโดย
ShockingPink
[CR] พาไปน่าน เข้าวัด นอนดูดาว ชมทะเลหมอก เที่ยวน้ำตก ดูวิวภูเขา มาที่เดียวครบ
เนื่องจากเป็นเมืองที่คุณต้องหลงรักถ้าได้มาสัมผัสอย่างแน่นอน และการเที่ยวครั้งนี้ป๊อปเดินทางในช่วงวันหยุดยาว
ขอบอกว่าที่นี่มาเที่ยวไม่ควรมาแค่วันเดียว ต้องไปสัก 3 วัน 2 คืน ถึงจะเต็มอิ่มแบบพอดิบพอดี เพราะที่นี่คือมีสถานท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ ทั้งวัดวาอารามที่งดงาม หรือจะไปนอนดูดาว ชมทะเลหมอก เที่ยวน้ำตก ดูวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่ไกลลิบสุดลูกหูลูกตา แถมสีสันของธรรมชาติก็สวยงามจนหลับตาครั้งใดก็ยังจำภาพความสวยงามนี้ไม่เสื่อมคลายไปเลย โอ้ย! พูดมาขนาดนี้แล้วมัวรอช้าอยู่ทำไมล่ะคะ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วเดินทางมาพร้อมกับเราเลย
เช้าวันที่ 1 เริ่มต้นที่แรกขอพาไปที่วัดพระธาตุเขาน้อยชมวิวทิวทัศน์เมืองน่านพร้อมกับไอหมอกบางๆ
ไปก่อน และก็มุ่งตรงเข้าตัวเมืองน่าน
มาที่วัดภูมินทร์
ที่มีภาพปู่ม่านย่าม่าน หรือที่คนรู้จักกันว่า ภาพกระซิบรักบรรลือโลก ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ปราณีตและเป็นภาพที่โดดเด่นประจำวัดภูมินทร์
โดยเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบสนทนา และถ้าหากคู่รักใดมาบอกรักขอพรต่อหน้า
“ปู่ม่านย่าม่าน” นอกจากจะช่วยให้มีความรักยืนยงยาวนานแล้ว
ยังมั่นคงและมั่งคั่งในชีวิตรักและชีวิตสมรสอีกด้วย ไปค่ะจูงมือแฟนไปที่นี่
ด่วนเลย555
ต่อด้วยวัดพระธาตุแช่แห้งองค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกลที่นี่เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต
จากนั้นก็นั่งรถมุ่งตรงมาที่ดอยเสมอดาวกันเลยจ้าก่อนอื่นเมื่อมาถึงที่นี้ก็กางเต็นจับจองพื้นที่กันก่อนเลยเพราะคืนนี้เราจะมานอนรอดูดาวกัน พอตกตอนเย็นตะวันใกล้ลับขอบฟ้าเราก็มานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินสักหน่อยขอบอกว่าบรรยากาศที่นี่โครตดีเลย วิวมันได้ ไม่มานี่พลาดครั้งใหญ่ในชีวิตเลยนะ แต่เรามาและถือว่ารอดตัวไป555 สำหรับคืนแรก
ในค่ำคืนนี้การมองดูดาวก็เป็นเรื่องง่าย ขอบอกว่าที่นี่คือดาวเยอะมากๆ จริงๆ
แบบอย่างกะหลุดเข้าไปในห้วงกาแล็กซี่เลยก็ว่าได้ จนมีเพลงนึงลอยมาขึ้นมาในหัวเลย
คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตนาการการเป็นภาพเธอ
โอ้ยดาวเยอะขนาดนี้พาแฟนมาขอบอกว่าโรแมนติกสุดๆ
เช้ามาก็ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอกฟินๆ
กับไอแดดบางๆ พร้อมกับสูดโอโซนให้เต็มปอดไปเลยยยย
พอสายหน่อยเราก็เก็บเต๊นท์และมุ่งสู่อ.ปัวกันต่อเลย ทริปวันที่ 2 นี้ ก็เริ่มต้นแวะกันที่วัดวาอารามอย่าง วัดศรีมงคล กันจ้า ดูเป็นคนดีเข้าวัดวาตลอด5555 ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ที่ ต.ยม อ.ท่าวังผา ซึ่งพระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือหลวงปู่ก๋งด้านหลังของวัดมีลานชมวิว มองเห็นทุ่งนา และทิวเขาของดอยภูคาเรียงรายสลับซับซ้อน บริเวณนาข้าวมีที่พักและร้านกาแฟฮักนน่านมีสะพานไม้ไผ่เชื่อมจากตัววัดสามารถลงไปเดินเล่นถ่ายภาพได้ เอาค่ะไม่พลาดถ่ายรูปมาอีกร้อยกว่ารูปกับวัดนี้555 (คนอะไรบ้าถ่ายรูปชะมัด)
ต่อด้วยมาชิมกาแฟบ้านไทลื้อ และชมผ้าทอกันที่บ้านลำดวน สำหรับที่นี่คือร้านกาแฟสุดเก๋ไก๋ ในอ.ปัว ที่ล้อมรอบไปด้วยวิวสวยๆ ของทุ่งนาเขียวขจี
แถมมีสะพานไม้ให้ได้เดินชมวิวทุ่งนา
แล้วก็มาต่อกันที่วังศิลาแลงจ้า
ซึ่งที่นี่ถือได้ว่าเป็นแกรนด์แคนยอนของ อ. ปัว ก็ว่าได้
โดยอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มเห็ดบ้านหัวยน้ำ ประมาณ 500 เมตร
อันนี้วิวที่มองจากฟาร์มเห็ดบ้านหัวยน้ำ
และเราก็เดินลุยไปยังวังศิลาแลงกันเลยโดยเดินลัดเลาะตามริมทุ่งนาไปเรื่อยๆ ไปค่ะ
ลุยเลย!
หลังจากนี้ก็ไปขึ้นดอยกันต่อจ้าขอบอกว่า
ในระหว่างการเดินทางเพื่อไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคานี้วิวข้างทางคือดีจริงๆ นึกว่าอยู่ไต้หวันกันเลยทีเดียว
และแล้วก็ขึ้นมาถึงดอยภูคากันแล้วจ้า ขอบอกที่พักของอุทยานคือดี ในราคาแค่ 300 บาท ต่อคืนเท่านั้นเอง แถมนอนได้สองคนเลยนะคะ
วันเวลาของการท่องเที่ยวนั้นผ่านไปไวมากและแล้วก็จบวันที่ 2 ของการเที่ยวน่าน คืนนี้ขอนอนฟินกับอากาศเย็นๆของอุทยานแห่งชาติดอยภูคาก่อนค่าาา สำหรับเช้าวันที่ 3 นี้เราขอมาชมวิวที่จุดชมวิว 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นที่นี่ขอบอกว่าเช้านี้อากาศ 19 องศาเบาๆ เย็นดีเลยค่ะ
จากนั้นก็ไปเที่ยวที่บ่อเกลือสินเธาว์ อ.บ่อเกลือ ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่เหมือนที่ไหน แถมมีลำธารเล็กๆ หลังหมู่บ้านอีกด้วย
และปิดท้ายด้วยน้ำตกสะปันก่อนกลับบ้านค่ะ
สำหรับที่นี่คือบรรยากาศร่มรื่นย์และเย็นสบายมากเลย เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ
งดงามตามท้องเรื่องค่ะ
ภาพโดย Ratikorn Sripakho
จบทริปที่น่านเพียงเท่านี้ เอาจริงๆ คือยังไม่อยากกลับเลย เพราะที่นี่น่าหลงไหลด้วยความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติที่โอบกอดจังหวัดนี้จริงๆ สวยลืมไปเลยยยย สำหรับใครที่ต้องการชาร์ตแบตเพิ่มเอ็นเนอร์จีให้กับตัวเอง จ.น่าน เป็นอีกตัวเลือกที่คุณต้องมาให้ได้เลยค่ะ
และสุดท้ายนอกจากความสวยงามของแต่ละสถานที่ที่ได้ไปแล้ว สิ่งที่ดีงามไม่แพ้กันก็คือมิตรภาพที่ได้ระหว่างเดินทางในทริปนี้
♥♥♥ ขอบคุณที่ทำให้เราได้โคจรมาเจอกัน
“ถ้าเปรียบการเดินทางคือการเรียนรู้ คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะพาตัวเองออกไปในสถานที่ใหม่ๆ นะคะ
แล้วคุณจะรู้ว่าโลกใบนี้มีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ” ส่วนวันนี้ขอตัวก่อนจ้า บ๊ายบาย…
ขอบคุณรูปภาพจาก ssomo khamriangsri,Ratikorn Sripakho,Oil Kanjanat,Bazkinz Bua Srunrat
เรียบเรียงโดย ShockingPink
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น