ขอบคุณข้อมูลแปลไทยจากเพจ ดราก้อนบอล [Dragon Ball]
- เบจีต้าได้มาถึงดาวยาโดแรตแล้ว
- ในดาวนี้มีการแต่งกายเหมือนกันแต่มีหลายไทป์ (ใช้คำว่าไทป์ แต่น่าจะหมายถึงเผ่า)
-มีชาวยาโดแรตไทป์หนึ่ง (หน้าเหมือนสไลม์ใน DQ) จำนวนมากมาทักทายเบจีต้าอย่างสนิทสนม เพราะได้ยินมาจากโกคู มีการทักนิดหน่อยว่าชาวไซย่าหน้าตาเรียบไปหน่อยนะ
- เป็นมุกทักผิดที่ดันไปทักสายตรวจอวกาศที่มากับเบจีต้าซะงั้น (โทริยามะจริง ๆ )
- มีการเล่าว่าก่อนที่โกคูจะมาที่นี่ หน่วยรบกินิวได้เข้ามาโจมตีดาวยาโดแรต
- แล้วก็ได้ขอบคุณเบจีต้าไปที่ช่วยจัดการพวกกินิวให้ (ป๋ามีซึนขอบใจ)
- เบจีต้าถามหนึ่งในชาวยาโดแรตไทป์สไลม์ว่าใครเป็นคนสอนเคลื่อนย้ายพริบตาให้โกคู
- จากนั้นชาวยาโดแรตจำนวนมากก็หายไปเหลือแค่คนที่คุยกับเบจีต้าแค่คนเดียว
- วิชาแยกร่างนี้ใช้เพื่อหลอกศัตรู เพราะเดิมทีชาวยาโดแรตอ่อนแอ
- จากนั้นเขาก็พาไปหาผู้เฒ่าสูงสุดผู้ที่สอนวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาให้โกคู
- ผู้เฒ่าสูงสุดมีชื่อว่า ปิบารา (ピバラ)
- ผู้เฒ่าสูงสุดเองก็เล่นมุกทักผิดเช่นกัน
- เบจีต้าบอกจุดประสงค์ที่มาดาวยาโดแรต เพราะอยากให้สอนวิชาที่สามารถเอาชนะโมโรได้
- ผู้เฒ่าปิบาราบอกว่าเบจีต้าคงเข้าใจผิด ที่จริงแล้วชาวยาโดแรตไม่ได้รู้จักวิชามากมายขนาดนั้น
- วิชาที่มีนั้นมีเพียงหนึ่งวิชาเท่านั้น นั่นคือการ "ควบคุมวิญญาณ"
- หรือที่โกคูเรียกว่า "สัมผัสพลัง" หรือ Ki
- และการควบคุม ki ทำให้สามารถใช้ท่า "เคลื่อนย้ายพริบตา" "แยกร่าง" และ "ขยายร่าง" ได้
- ผู้เฒ่าปิบาราที่ตัวโตในตอนแรก แท้จริงแล้วเขาใช้วิชาขยายร่างอยู่นั่นเอง
- สำหรับวิชาควบคุมวิญญาณ ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายวิญญาณหรือขยายการมองเห็นให้ใหญ่ขึ้นได้ เป็นวิชาที่ชาวยาโดแรตใช้ได้ทุกคน
- การเรียนรู้โครงสร้างของวิญญาณจะทำให้เส้นทางความรู้เพิ่มขึ้น เบจีต้าตอบตกลงที่จะเรียนทันที
- ฝั่งโกคูกับเมรุสก็ได้เดินทางออกจากฐานแม่ของสายตรวจอวกาศเพื่อไปฝึก
- ซึ่งสถานการณ์ของสายตรวจอวกาศก็ยังคงย่ำแย่ เพราะเหล่านักโทษเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาบนดาวต่าง ๆ จนไม่สามารถจัดกำลังไปปราบปรามได้
-ท่านราชาปลาหมึกถามจาโก้เรื่อง "อาเท" หนึ่งในหน่วยดูแลพื้นที่ของจาโก้ แต่จาโก้บอกว่าไอคนนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร
- ราชาปลาหมึกถามจาโก้ว่า "แล้วคนที่ร่วมประลองตอนบวกกับจักรวาลที่ 6 ล่ะ?"
- คนที่จาโก้คิดคือโมนากะ แต่ราชาปลาหมึกหมายถึงชาวนาเม็กต่างหาก
- พิกโคโล่พยายามใช้กระแสจิตติดต่อกับดาวนาเม็กใหม่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย
- เดนเด้คิดว่าเป็นเพราะอยู่นอกระยะที่ไปไม่ถึง แต่พิกโคโล่ที่เคยติดต่ออยู่เป็นประจำ จึงรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับจักรวาลแน่นอน
- ลูกจ๊อกของโมโร่ที่มาตามหาบลูโอรัมในโลก ได้เดินทางมาถึงโลกแล้ว
-แน่นอนว่าพิกโคโล่ที่รวมร่างกับพระเจ้าแล้ว ย่อมสัมผัสได้ถึงการมาของคนจากนอกโลก พิกโคโล่จึงมุ่งหน้าไปหาทันที เพราะพวกนั้นอาจจะเป็นกลุ่มคนที่ทำให้จักรวาลเกิดเรื่อง
- พวกลูกจ๊อกเห็นพิกโคโล่มาต้อนรับเลยกะเก็บพิกโคโล่ทันที แน่นอนว่าไม่ใช่คู่มือของพิกโคโล่แน่นอน
- บูลม่า ซาตาน และบรา เดินทางมาหาเดนเด้ที่หอคอยพระเจ้า
- แต่มาถึงก็ไม่เจอพิกโคโล่ เดนเด้เลยถามบูลม่าว่ามีธุระอะไร
- บูลม่าบอกว่าจาโก้ติดต่อมา เพราะอยากให้พิกโคโล่เข้าร่วมกองทัพสายตรวจอวกาศ
-ลูกจ๊อกทั้ง 3 ของโมโร ตัวที่เป็นเหมือนหัวหน้าสามารถใช้พลังจิตได้, ตัวเล็กสามารถสร้างระเบิด? (ไม่แน่ใจ) และตัวผู้หญิงสามารถยืดแขนได้
- จาโก้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกบูลม่ากับเดนเด้ฟัง ว่าดาวนาเม็กใหม่ได้ตายแล้วรวมถึงเกิดเหตุจลาจลในจักรวาล โกคูกับเบจีต้าก็หายตัวไปฝึก ทำให้ต้องรวบรวมกองทัพใหม่
- จาโก้สั่งให้บูลม่าไปเรียกพวกลูกของโกคูกับคนหัวล้านมารวมตัว เพราะกำลังจะไปรับที่โลกแล้ว
- ที่โมโรไม่สนใจโลกเพราะว่าโลกมีคนที่มีพลังงานต่ำเยอะกว่าพลังงานสูง (แหงสิ มีไม่กี่สิบคน)
- พิกโคโล่ถามพวกลูกจ๊อกว่าพวกเอ็งสินะที่ทำให้จักรวาลเกิดความผิดปกติ
- พวกลูกจ๊อกโม้ไปว่า "พวกข้าก็แค่มนุษย์ต่างดาวที่ผ่านมา ขอโทษด้วยนะ ที่โจมตีกระทันหัน!"
-พิกโคโล่เดินไปสำรวจยานของพวกลูกจ๊อก ซึ่งระหว่างนั้นพวกลูกจ๊อกเริ่มคิดแผนการสั่งให้โมโรมาทำลายโลก เพื่อที่จะหาช่องว่างตามหาบลูโอรัม
- พิกโคโล่เห็นว่าพวกลูกจ๊อกไม่น่ามีปัญหา เลยปล่อยตัวทิ้งไป และอย่าโผล่หน้าออกมาให้เห็นอีก
- หลังจากนั้นเครื่องบินของบูลม่าก็สวนทางมาทันที เดนเด้บอกพิกโคโล่ว่าไอพวกนั้นแหละที่ก่อเหตุในจักรวาล
- อ้าวเห้ย!
- แต่ว่ายานลูกจ๊อกยังไปไม่ไกลมาก พิกโคโร่เลยระเบิดยานและจับตัวได้ทัน
- สายไปซะแล้ว พวกลูกจ๊อกรายงานโมโรเรียบร้อย
- ตอนนี้รู้แล้วว่าพวกลูกจ๊อกชื่อ "พี่น้องมากาเรนิ"
-โมโร่บอกให้ซากัมโบส่งหน่วยลาดตระเวนที่แข็งแกร่งกว่าพี่น้องมากาเรนิไปที่โลกเพื่อทดสอบพลัง ว่าถ้าหากคุ้มค่าที่จะไปกินพลังงานที่นั่น โมโรจะไปทันที
- เมรุสเริ่มการฝึกกับโกคู
- โกคูพยายามหลบเมรุสเพื่อฝึกวิชาสุดยอดสัญชาตญาณ แต่ก็ทำไม่ได้จนโดนเมรุสเอากระบองตี
- เมรุสอธิบายถึงเรื่องพลังที่เกิดจากความโกรธ ความเศร้า ความดีใจ ซึ่งซูเปอร์ไซย่าคือความโกรธ แน่นอนว่า "วิชานั้น" คือสิ่งที่ตรงกันข้ามทั้งหมด
- เมื่อสามารถควบคุมแรงกระตุ้นขนาดใหญ่ที่สั่นสะเทือนอารมณ์ได้ จังหวะนั้นมันจะแสดงออกมาเอง และนั้นคือหลักการของ "สุดยอดสัญชาตญาณ"
- โกคูจับได้ว่าเมรุสรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด แต่เมรุสมีเหตุผลที่ไม่พูดออกมา
- โกคูเชื่อใจเมรุส เพราะรู้ว่าเมรุสตั้งใจจะจับโมโรจริง ๆ แต่โมโรก็ดูเหมือนลังเลนิดหน่อยก่อนจะเริ่มฝึกต่อ
-เมรุสพาโกคูเข้าไปยังปิรามิดแห่งหนึ่ง ซึ่งในนั้นเป็นห้องกาลเวลา ที่เวลาข้างในผ่านไป 3 วันจะเท่ากับข้างนอก 1 วัน (ห้องกาลเวลาเป๊ะ ๆ)
- นอกจากนี้ภายในห้องกาลเวลาจะตัดขาดจากมิติภายนอกอย่างสิ้นเชิง คราวนี้เมรุสสามารถปล่อยพลังออกมาได้สุดแล้ว
- และโกคูก็เริ่มฝึกกับเมรุส
- จงไปให้สุด สุดยอดสัญชาตญาณ!
การตั้งท่าที่เหมือนกันเปะ ลูกศิษย์เปล่า หรื่อว่าร่างโคลน เป็นเทวดาปลดเกษียน หรือว่าเป็นเพื่อน เพราะขณาดอาจารย์ของจิเร็นยังเป็นเพื่อนกับเทพทำลายล้างได้เลย ถ้าเมรุสเป็นเพื่อนหรื่อคนสนิทกับเทวดา ก็คงไม่แปลกอะไร การตั้งท่ามันจะไม่มีอะไรเลยท่า
เมรุสไม่รู้สุดยอดสัญาชาิตญาณ แต่เมรุสดันรู้ เสียอีก
สิ่งที่น่าสงสัยเกี่ยวกับเมรุส
1.เมรุสไวจนเบจี้ต่ากับโกคูตามไม่ทัน
2.โกคูสัมผัสพลังอะไรเมรุสไม่ได้
3.เมรุสรู้วิธีใช้สุดยอดสัญชาติญาณ
4.การตั้งท่าที่เหมือนกับวิส
5.สถานที่ปิรามีดห้องแห่งกาลเวลา เมรุสรู้สถานที่นั้น
และลักษณะของพีรามีดคล้ายกับลักษณะโครงสร้างของสนามที่เหล่าเทวดาสร้างในศึก 6 vs 7 เลย
คิดเห็นอย่างไรบ้าง ส่วนตัว เจ้าเมรุสนี้น่าสงสัยจริงๆ เบจีต้ากำลังจะมีวิชาใหม่ๆแล้ว
สปอยล์ Dragon Ball Super มังงะตอนที่ 52 คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง (ปล.เมรุสนายเป็นใครกันแน่)
คิดเห็นอย่างไรบ้าง ส่วนตัว เจ้าเมรุสนี้น่าสงสัยจริงๆ เบจีต้ากำลังจะมีวิชาใหม่ๆแล้ว