ถ้าไม่มีความอยากในจิต ก็จะไม่มีการเกิดอีก แม้จะมีผลกรรม เหลืออยู่ตามปกติ
(กลายเป็นกรรมที่ให้ผลไม่ได้
ไม่มีที่ให้ผล
เพราะไม่มีจิตและกายที่จะให้ผล
คือเป็น อโหสิกรรม
ไปทั้งหมด )
********************************
สุภาษิตเย้ยตัณหา
[๒๘๙] เรือนคืออัตภาพ
ที่เกิดในภพนั้นๆ บ่อยๆ
เป็นของไม่เที่ยง
เราแสวงหานายช่าง
คือ
ตัณหาผู้สร้างเรือน
เมื่อไม่พบ
ได้ท่องที่ยวไปสู่สงสารสิ้นชาตืมิใช่น้อย
การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ร่ำไป
ดูกรนายช่างผู้สร้างเรือน
บัดนี้ เราพบท่านแล้ว ท่านจักไม่ต้องสร้างเรือนให้เราอีก ซี่โครงคือกิเลส
ของท่าน เราหักเสียหมดแล้ว และช่อฟ้าคืออวิชชาแห่งเรือนท่าน
เราทำลายแล้ว จิตของเราไม่เกิดต่อไปเป็นธรรมดาแล้ว จักดับอยู่ในภพ
นี้เอง
*******************************
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๒. สิวกเถรคาถา
สุภาษิตเย้ยตัณหา
*********************************
---- "คนเกิดมา เพราะมีความอยาก" คิดว่า จิตเป็นตัวเรา ไม่รู้ว่า จิตไม่ใช่ใคร /จิตใหม่เกิดขึ้นเพราะ จิตเเก่ามีความอยาก
(กลายเป็นกรรมที่ให้ผลไม่ได้
ไม่มีที่ให้ผล
เพราะไม่มีจิตและกายที่จะให้ผล
คือเป็น อโหสิกรรม
ไปทั้งหมด )
********************************