กระทู้นี้เรามารีวิว การเที่ยวจีนในปี 2018
"บ้านดินถู่โหลว" Tulou ทริป 2 วัน 1 คืน
เราเตรียมเงินไป400 หยวน ก็ประมาณ 2,000 บาท ตลอดทริป กลับมาคือใช้เงินไม่หมดจ้าา
เมืองมรดกโลกแห่งที่ 36 ของประเทศจีน นั่นก็คือบ้านดินถู่โหลว แห่งเมืองหนานจิ้ง หมู่บ้านในหุบเขาที่บ้านทุกหลังสร้างมาจากดินเหนียว
ที่ผสมกับทรายและขี้เถ้า เป็นหมู่บ้านของชาวจีนแคะที่ถูกสร้างมากว่า 700 ปี ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-20 โดยส่วนมากมีรูปทรงเลขาคณิต
ไม่ว่าจะสี่เหลี่ยม วงกลม แปดเหลี่ยม หรือครึ่งวงกลม โดยขึ้นอยู่กับภูมิทัศน์ในบริเวณนั้น รวมถึงความมั่งคั่งของเจ้าของตระกูลด้วย เพราะบ้านแต่ละหลังจะอยู่รวมกันเป็นตระกูล แต่บางหลังที่ใหญ่มากๆ ก็อาจจะอยู่รวมกันมากกว่าหนึ่งตระกูลก็ได้ ทำให้บ้านแต่ละหลังมีความสูงสองถึงสามชั้น มีห้องต่างๆ มากมาย ซึ่งมีการค้นพบว่าหลังที่มีคนอยู่มากที่สุดคือ 800 คนในหลังเดียวกันด้วย และสาเหตุที่ทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ก็เพราะภูมิปัญญาอันน่าทึ่งที่สามารถนำดินเหนียวอันเป็นวัตถุดิบธรรมชาติมาสร้างบ้านที่มีขนาดใหญ่และมีความคงทนแข็งแรง แม้ว่าจะเจอภัยภิบัติแผ่นดินไหว รวมถึงสงครามใดๆ แต่บ้านดินเหล่านี้ก็ยังแข็งแรงและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ รวมถึงการคำนวนลักษณะการสร้างได้อย่างชาญฉลาด ทำให้บ้านดินจะให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว ให้ความเย็นในฤดูร้อนได้อย่างเหมาะสม กอปรกับการที่แข็งแรงอยู่มาอย่างยาวนาน ภายในบ้านดินจึงมีการสร้างที่ประณีต
มีวัฒนธรรมและศิลปะที่สืบทอดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นสมบัติของคนรุ่นหลัง ทำให้มีบ้านดินจำนวน 46 หลัง และได้รับการขึ้นทะเบียน พร้อมอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกโลกจากบ้านหลายพันหลังคาเรือน (อันนี้ข้อมูลแอบก็อบมาจากเว็บอื่นนะคะ) 555+
Day 1 Xiamenbei to Nanjing
ทริปนี้เราไปกันแกงค์ใหญ่เลยค่ะ เราเริ่มจากนั่งรถไฟจาก Xiamenbei ไปลงที่ Nanjing
ราคาตั๋วเที่ยวละ 25 หยวน อันนี้จำไม่ได้จิงๆว่าใช้เวลากี่นาที 555
แต่เราจำได้ว่าเราออกจากโรงเรียนกันเช้ามาก
กินอาหารเช้าไม่ทันเลยพกมาม่าคัพไปคนละคัพไว้กินบนรถไฟ
ในทริปเราได้เช่ารถพร้อมคนขับไว้ 2 คัน ลงรถไฟปุ๊บ เค้าก็มารอรับเราที่สถานี ก็แบ่งคนกันนั่งพอดี 2 คัน
การที่เราจะขับรถเข้าไปในเขตนี้ ก็คือเริ่มจ่ายเงินตั้งแต่ด่านแล้วจ้าา คนขับรถแวะให้เรากินข้าวเที่ยงกันก่อน
แล้วเราก็มาถึงที่แรก เส้นทางมาที่นี่ค่อนข้างคดเคี้ยวทีเดียวเลย ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่คงจะขับยากเหมือนกันค่ะ
นี่เป็นจุดแรกที่เราแวะถ่ายรูปจากมุมบนจ้า จะมองเห็นโหลว สวยงามพอดี
เอาจิงๆ คือ เราจำชื่อแต่ละที่ไม่ได้เลย เอาเป็นว่าเล่าเรื่องด้วยรูปแล้วกันนะทริปนี้ 555
หลังจากถ่ายรูปมุมบน คนขับก็ให้เราขึ้นรถ เพื่อไปข้างล่างไปเดินชมในโหลว แต่แกงค์เราเลือกที่จะเดินลงไปเองจ้าา แล้วให้คนขับรถไปรอรับข้างล่าง
ระหว่างทางก็มีมุมดีๆ ให้เราเก็บภาพได้เยอะอยู่นะ เดินไปประมาณ 400 เมตร
คือที่เมืองนี้เราไปตรงไหนก็จะเจอผักที่ตากแห้งไว้ทุกมุม
Day 2
รูปข้างล่างคือในบริเวรที่พักที่เราพักกันเมื่อคืน เมื่อวานคือเรามาถึงมืดแล้วเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ลักษณะที่พักห็จะเหมือน บ้านดินที่เราไปดูมา คือตรงส่วนกลางจะเป็นพื้นที่โล่ง ให้นั่งเล่นจิบชา บรรยากาศดีเลยทีเดียว
เพื่อความสะดวก เรากับเพื่อนๆ เราสั่งอาหารเช้าไว้กับที่พัก เค้าคิดคนละ 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาท
อาหารก็จะมีหมั่นโถว และข้าวต้ม ทานกับผักดอง ผัดไข่ ตามสไตล์อาหารจีน และน้ำดื่ม1 ขวด
และในที่สุดเราก็ได้ชิมผักที่เราเห็น ทุกบ้านในเมืองนี้ตากแห้งไว้ รสชาติก็เหมือนผักดอง เคี้ยวฝืดๆหน่อย 55 แต่กินกับข้าวต้มก็พอไหวอยู่จ้า
เราตื่นกันเช้ากินข้าวเสร็จแล้วยังไม่ถึงเวลาที่นัดคนขับรถไว้ เราก็เลยไปเดินเล่นรอบๆ ตอนเช้าอากาศสดชื่นมา
ตัวอาคารบ้านเรือนแถวนั้น คือคงความโบราณ และธรรมชาติไว้ คือบรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ
เราชอบรูปนี้มาก ชอบในความธรรมชาติ และบรรยากาศของเมืองที่ดูเงียบสงบ คงความเป็นเอกลักษณ์ของเมือง
หลังจากเดินเล่นรอบๆ บริเวณที่พัก 9.00 น. คนขับก็มารับเราที่ที่พักตามเวลานัด
แล้วก็มาถึงจุดเที่ยวอีกที่แล้ว เราแวะกินข้าวร้านตรงข้ามทางเข้าสถานที่ก่อน และคนขับให้เวลาเราเยอะเลยเพราะเป็นที่สุดท้ายก่อนจะไปขึ้นรถไฟกลับแต่เวลาเหลือเยอะเลยจ้าา
เราสั่งเมนูเป็นบะหมี่น้ำ ลูกชิ้นรวม ก็จะมีลูกชิ้นเนื้อหมู เนื้อวัว และกุ้ง
หลังจากกินเสร็จเราก็เริ่มเดินเล่นในจุดท่องเที่ยวกัน
เวลาเหลือเยอะเลยเดินเล่นกันไปเรื่อยๆ มุมนี้ดูคลาสลิกดีน่ะ ก็ยังคงมีการตากผักเหมือนเดิมจ้าา ตรงนี้น่าจะเพิ่งวางผักยังดูสดอยู่เลย
[CR] [CR] ทริป Tulou “บ้านดินถู่โหลว” มรดกโลก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้