https://www.share2trade.com/index.php?mod=news&file=view&id=3477
กูรูหุ้นจาก บล.คันทรี่กรุ๊ป ส่องหุ้น EPCO หลังขายโรงไฟฟ้าเวียดนามให้ BGC มูลค่าเกือบ 1.3 พันล้านบาท จ่อบุ๊กกำไรพิเศษเข้ามาทันทีในช่วงโค้งหลังของปีนี้กว่า 500 ล้านบาท ลั่นพร้อมลุยขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานในเวียดนามเพิ่มเติม มั่นใจได้ IRR มากกว่า 12% ชี้ช่วงนี้ถือเป็นจังหวะทองช้อปของถูก P/E ต่ำกว่า 10 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน) (EPCO) ว่า การขายโรงไฟฟ้าเวียดนามที่บริหารโดย SPM ให้กับบริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (BGC) มูลค่า 1.3 พันล้านบาท จะรับรู้เป็นกำไรจากการขาย 500 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ครบทั้งจำนวนภายในเดือนต.ค.นี้ โดยจะนำเงินที่ได้มารองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนของบริษัทฯในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อลงทุนธุรกิจพลังงานในเวียดนาม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาโครงการที่จะเข้าไปลงทุน โดยตั้งเป้าจะลงทุนในโครงการที่มี IRR มากกว่า 12%
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม บริษัท ดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) หรือ WPS ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯถือหุ้นใน WPS ที่ 100% ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เวิลด์ พริ้นติ้ง แอนด์ แพ็คเกจจิ้ง (WPP) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจไปยังบรรจุภัณฑ์กระดาษประเภทกล่องลูกฟูก โดยจะเริ่มผลิตกล่องในเดือนตุลาคม และในปี 2563 มีแผนผลิตวัสดุผลิตภัณฑ์จากชานอ้อย และถุงกระดาษหูหิ้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดรายได้จากธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์ในปี 2563 ที่ 500 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิตที่ 80% และคาดมีอัตรากำไรสุทธิจากธุรกิจนี้ราว 10%
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 บริษัทฯมีแผน COD โรงไฟฟ้าญี่ปุ่น 2 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 21.6 MWdc แบ่งเป็น Kurihara 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 MWdc มีแผน COD ในช่วงไตรมาส 4/62 และ Shichikashuku 1-2 กำลังการผลิตติดตั้ง 4.35 MWdc มีแผน COD ในปี 2020 ซึ่งการขายโรงไฟฟ้าในเวียดนามจะทำให้ EPCO รับรู้กำไรพิเศษในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 445 MW
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 50% เทียบกับปีที่ผ่านมา จากรายได้ธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่องหุ้น EPCO โบรกฯชี้โอกาสทองช้อปของถูก
กูรูหุ้นจาก บล.คันทรี่กรุ๊ป ส่องหุ้น EPCO หลังขายโรงไฟฟ้าเวียดนามให้ BGC มูลค่าเกือบ 1.3 พันล้านบาท จ่อบุ๊กกำไรพิเศษเข้ามาทันทีในช่วงโค้งหลังของปีนี้กว่า 500 ล้านบาท ลั่นพร้อมลุยขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานในเวียดนามเพิ่มเติม มั่นใจได้ IRR มากกว่า 12% ชี้ช่วงนี้ถือเป็นจังหวะทองช้อปของถูก P/E ต่ำกว่า 10 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน) (EPCO) ว่า การขายโรงไฟฟ้าเวียดนามที่บริหารโดย SPM ให้กับบริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (BGC) มูลค่า 1.3 พันล้านบาท จะรับรู้เป็นกำไรจากการขาย 500 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ครบทั้งจำนวนภายในเดือนต.ค.นี้ โดยจะนำเงินที่ได้มารองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนของบริษัทฯในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อลงทุนธุรกิจพลังงานในเวียดนาม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาโครงการที่จะเข้าไปลงทุน โดยตั้งเป้าจะลงทุนในโครงการที่มี IRR มากกว่า 12%
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม บริษัท ดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) หรือ WPS ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯถือหุ้นใน WPS ที่ 100% ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เวิลด์ พริ้นติ้ง แอนด์ แพ็คเกจจิ้ง (WPP) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจไปยังบรรจุภัณฑ์กระดาษประเภทกล่องลูกฟูก โดยจะเริ่มผลิตกล่องในเดือนตุลาคม และในปี 2563 มีแผนผลิตวัสดุผลิตภัณฑ์จากชานอ้อย และถุงกระดาษหูหิ้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดรายได้จากธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์ในปี 2563 ที่ 500 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิตที่ 80% และคาดมีอัตรากำไรสุทธิจากธุรกิจนี้ราว 10%
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 บริษัทฯมีแผน COD โรงไฟฟ้าญี่ปุ่น 2 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 21.6 MWdc แบ่งเป็น Kurihara 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 MWdc มีแผน COD ในช่วงไตรมาส 4/62 และ Shichikashuku 1-2 กำลังการผลิตติดตั้ง 4.35 MWdc มีแผน COD ในปี 2020 ซึ่งการขายโรงไฟฟ้าในเวียดนามจะทำให้ EPCO รับรู้กำไรพิเศษในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 445 MW
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 50% เทียบกับปีที่ผ่านมา จากรายได้ธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ