นับตั้งแต่ที่เทคโนโลยีการใช้คลิปวิดีโอช่วยทำการตัดสินระหว่างการแข่งขัน หรือ "วีเออาร์" ถูกนำมาใช้ในเกมฟุตบอลนั้น มันก็มีหลายครั้งที่ทำให้เกิดการตัดสินที่ถูกต้อง และทำให้เกมฟุตบอลดูมีความเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามจุดประสงค์ของคนใหญ่คนโตในวงการลูกหนัง
อย่างไรก็ตาม มันก็มีบางครั้งที่การใช้ วีเออาร์ ทำให้เกิดประเด็นปัญหาอย่างหนักเช่นกัน ทั้งในด้านที่มีการเปลี่ยนคำตัดสินที่ค้านสายตาของหลายต่อหลายคน และการไม่เปลี่ยนคำตัดสินที่ชวนให้งงว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ซึ่งเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดที่ นาโปลี เปิดรัง ซาน เปาโล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 เมื่อวันอังคารที่17 กันยายน ที่ผ่านมา ถือว่าเข้าข่ายหลัง จากจังหวะที่ "หงส์แดง" ถูกเป่าว่าเสียลูกจุดโทษ ทั้งที่ดูแล้ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไม่ได้เตะโดน โฆเซ่ กาเยฆ่อน ดาวเตะเจ้าถิ่นเลย
สำหรับกระบวนการใช้งาน วีเออาร์ นั้น ขั้นแรกทีมงาน วีเออาร์ ต้องดูก่อนว่าคำตัดสินที่กรรมการในสนามตัดสินนั้นถูกต้องรึเปล่า ซึ่งถ้าทีมงาน วีเออาร์ เห็นว่ามันถูกต้อง กรรมการในสนามก็ไม่จำเป็นต้องมาดูคลิปที่ข้างสนาม หรือปรึกษาอะไรเพิ่มเติม โดยในอดีตก็มีหลายครั้งที่ทีมงาน วีเออาร์ ไม่ยอมติดต่อให้กรรมการเปลี่ยนคำตัดสินเช่นกัน และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างที่เด่นๆ 2 จังหวะ
- เนย์มาร์
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง เนย์มาร์ สิ่งแรกๆ ที่จะผุดขึ้นมาในหัวของหลายคนคือการที่เขาชอบทำท่าทางเจ็บเกินจริงชนิดที่ถ้าจะไปเป็นนักแสดงก็คงได้ หรือไม่ก็ชอบพุ่งล้มเพื่อเรียกฟาวล์ จนทำให้มันเป็นภาพลักษณ์ที่แย่ๆ ของเขา ทั้งที่เจ้าตัวก็มีฝีเท้าดีในระดับหนึ่ง
ถึงกระนั้น ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เขาเล่นให้ทีมชาติบราซิลนั้น ถ้าจะบอกว่า เนย์มาร์ ได้รับความไม่เป็นธรรมนิดหน่อยก็ว่าได้ เพราะในช่วงหนึ่งของการแข่งขันเขาโดน มิเกล ลายุน ดาวเตะ เม็กซิโก เหยียบเข้าที่เท้าตอนนอนกองอยู่ที่ข้างสนาม แต่ ลายุน กลับไม่โดนลงโทษอะไรเลย
ที่จริงในจังหวะนั้นทีมงาน วีเออาร์ สามารถติดต่อเข้าไปหากรรมการ และให้ลงโทษ ลายุน ได้ ถึงกระนั้น ทีมงานดังกล่าวก็ดันปล่อยผ่านไปซะอย่างนั้น โอเค ในจังหวะต่อเนื่องนั้น เนย์มาร์ ดีดดิ้นมากเกินไปจริง แต่อย่างน้อย ลายุน ก็ควรจะโดนใบเหลืองเพื่อเป็นบทลงโทษจากเรื่องในครั้งนี้
- แฮร์รี่ เคน
อังกฤษ ทำผลงานได้น่าประทับใจในทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2018 จากการได้อันดับ 4 ไปครอง ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนั้นคือการที่พวกเขาชนะ ตูนิเซีย 2-1 ในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม โดยที่ เคน เหมาคนเดียว 2 ลูก และประตูชัยก็เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในประเด็นร้อนจากเกมนั้นคือการที่ อังกฤษ ไม่ได้ลูกจุดโทษ ทั้งที่ เคน โดนทำฟาวล์แบบชัดเจน 2 ครั้ง แบ่งเป็นจาก แฟร์ยานี่ ซาสซี่ กับ ยาสซีน เมเรียห์ คนละ 1 หน
โดยทั้งนี้ นอกจากกรรมการจะไม่มองว่ามันควรเป็นจุดโทษแล้วนั้น ทีมงาน วีเออาร์ ที่นั่งส่องจอหลายจออยู่ในห้องก็คิดแบบเดียวกัน โดยหลังจากนั้นสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ก็เหมือนจะยอมรับความผิดพลาด ด้วยการออกมาตรวจสอบเลยว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
credit : www.siamsport.co.th
VAR ต้นทุนต่ำ เหตุเกิดที่ลีกอินโดฯ (ชมคลิป)
ศึกลูกหนังลีกา 1 ของอินโดนีเซีย เกิดประเด็นร้อนแรงในโลกฟุตบอลอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 เกมนัดที่ 19 ของลีก คู่ระหว่างบอเนียว เอฟซี เปิดบ้านรับมือ มาดูรา ยูไนเต็ด ที่สนามเซกีรี ซามารินดา ผลเกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 2-1
แต่ประเด็นที่น่าสนใจของคู่นี้คือ อาเซป เบอร์เลียน กัปตันทีมมาดูรา ยูไนเต็ด ใช้มือถือที่ขอมาจากซุ้มม้านั่งสำรองประท้วงการทำหน้าที่ของ นูชูร์ ฟาดิลาห์ ผู้ตัดสินเกมนี้ หลังเป่าลูกโทษที่จุดโทษให้ทีมเจ้าบ้านช่วงทดเวลา จากจังหวะการเข้าบอลของเขา โดย อาเซป พยายามชี้แจงจากภาพช้าที่มีการยิงสัญญาณสดให้ผู้ตัดสินดูว่าจังหวะนี้ไม่ควรเสียจุดโทษ ทำให้เกมหยุดไป 8 นาที แต่สุดท้ายไม่เป็นผลจุดโทษจังหวะนี้ทำให้บอเนียว เอฟซี เฉือนชนะ มาดูรา ยูไนเต็ดไป 2-1
เกมนี้ มาดูรา ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 7 จาก เบโต้ กอนซาเวซ หัวหอกบราซิลโอนสัญชาติทีมชาติอินโดนีเซีย ก่อนที่จะถูกยิงตีเสมอ 1-1 และมาเสียจุดโทษ 2 ครั้ง จังหวะแรกบอเนียว เอฟซี ยิงถากเสาออกไปและมาได้อีกครั้งจากจังหวะปัญหาที่เกิดขึ้นและจัดการยิงเข้าไปไม่พลาด
โดยเหตุการนี้สื่อกีฬาต่างๆของอินโดนีเซียต่างนำมาตีเป็นประเด็นข่าวพร้อมกับให้หัวข่าวทำนองเดียวกันว่า "VAR LOW BUDGET" หรือเครื่องมือช่วยตัดสินต้นทุนต่ำ
ขอบคุณภาพและข่าวจาก : Tribunnews
credit : www.siamsport.co.th
มีบทเรียนแต่ไม่ช่วย! ย้อนรอย 2 ชอตเด่นที่ทีมงาน วีเออาร์ ไม่แจ้งเปา & VAR ต้นทุนต่ำ เหตุเกิดที่ลีกอินโดฯ (ชมคลิป)
อย่างไรก็ตาม มันก็มีบางครั้งที่การใช้ วีเออาร์ ทำให้เกิดประเด็นปัญหาอย่างหนักเช่นกัน ทั้งในด้านที่มีการเปลี่ยนคำตัดสินที่ค้านสายตาของหลายต่อหลายคน และการไม่เปลี่ยนคำตัดสินที่ชวนให้งงว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ซึ่งเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดที่ นาโปลี เปิดรัง ซาน เปาโล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 เมื่อวันอังคารที่17 กันยายน ที่ผ่านมา ถือว่าเข้าข่ายหลัง จากจังหวะที่ "หงส์แดง" ถูกเป่าว่าเสียลูกจุดโทษ ทั้งที่ดูแล้ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไม่ได้เตะโดน โฆเซ่ กาเยฆ่อน ดาวเตะเจ้าถิ่นเลย
สำหรับกระบวนการใช้งาน วีเออาร์ นั้น ขั้นแรกทีมงาน วีเออาร์ ต้องดูก่อนว่าคำตัดสินที่กรรมการในสนามตัดสินนั้นถูกต้องรึเปล่า ซึ่งถ้าทีมงาน วีเออาร์ เห็นว่ามันถูกต้อง กรรมการในสนามก็ไม่จำเป็นต้องมาดูคลิปที่ข้างสนาม หรือปรึกษาอะไรเพิ่มเติม โดยในอดีตก็มีหลายครั้งที่ทีมงาน วีเออาร์ ไม่ยอมติดต่อให้กรรมการเปลี่ยนคำตัดสินเช่นกัน และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างที่เด่นๆ 2 จังหวะ
- เนย์มาร์
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง เนย์มาร์ สิ่งแรกๆ ที่จะผุดขึ้นมาในหัวของหลายคนคือการที่เขาชอบทำท่าทางเจ็บเกินจริงชนิดที่ถ้าจะไปเป็นนักแสดงก็คงได้ หรือไม่ก็ชอบพุ่งล้มเพื่อเรียกฟาวล์ จนทำให้มันเป็นภาพลักษณ์ที่แย่ๆ ของเขา ทั้งที่เจ้าตัวก็มีฝีเท้าดีในระดับหนึ่ง
ถึงกระนั้น ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เขาเล่นให้ทีมชาติบราซิลนั้น ถ้าจะบอกว่า เนย์มาร์ ได้รับความไม่เป็นธรรมนิดหน่อยก็ว่าได้ เพราะในช่วงหนึ่งของการแข่งขันเขาโดน มิเกล ลายุน ดาวเตะ เม็กซิโก เหยียบเข้าที่เท้าตอนนอนกองอยู่ที่ข้างสนาม แต่ ลายุน กลับไม่โดนลงโทษอะไรเลย
ที่จริงในจังหวะนั้นทีมงาน วีเออาร์ สามารถติดต่อเข้าไปหากรรมการ และให้ลงโทษ ลายุน ได้ ถึงกระนั้น ทีมงานดังกล่าวก็ดันปล่อยผ่านไปซะอย่างนั้น โอเค ในจังหวะต่อเนื่องนั้น เนย์มาร์ ดีดดิ้นมากเกินไปจริง แต่อย่างน้อย ลายุน ก็ควรจะโดนใบเหลืองเพื่อเป็นบทลงโทษจากเรื่องในครั้งนี้
- แฮร์รี่ เคน
อังกฤษ ทำผลงานได้น่าประทับใจในทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2018 จากการได้อันดับ 4 ไปครอง ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนั้นคือการที่พวกเขาชนะ ตูนิเซีย 2-1 ในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม โดยที่ เคน เหมาคนเดียว 2 ลูก และประตูชัยก็เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในประเด็นร้อนจากเกมนั้นคือการที่ อังกฤษ ไม่ได้ลูกจุดโทษ ทั้งที่ เคน โดนทำฟาวล์แบบชัดเจน 2 ครั้ง แบ่งเป็นจาก แฟร์ยานี่ ซาสซี่ กับ ยาสซีน เมเรียห์ คนละ 1 หน
โดยทั้งนี้ นอกจากกรรมการจะไม่มองว่ามันควรเป็นจุดโทษแล้วนั้น ทีมงาน วีเออาร์ ที่นั่งส่องจอหลายจออยู่ในห้องก็คิดแบบเดียวกัน โดยหลังจากนั้นสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ก็เหมือนจะยอมรับความผิดพลาด ด้วยการออกมาตรวจสอบเลยว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
credit : www.siamsport.co.th
VAR ต้นทุนต่ำ เหตุเกิดที่ลีกอินโดฯ (ชมคลิป)
ศึกลูกหนังลีกา 1 ของอินโดนีเซีย เกิดประเด็นร้อนแรงในโลกฟุตบอลอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 เกมนัดที่ 19 ของลีก คู่ระหว่างบอเนียว เอฟซี เปิดบ้านรับมือ มาดูรา ยูไนเต็ด ที่สนามเซกีรี ซามารินดา ผลเกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 2-1
แต่ประเด็นที่น่าสนใจของคู่นี้คือ อาเซป เบอร์เลียน กัปตันทีมมาดูรา ยูไนเต็ด ใช้มือถือที่ขอมาจากซุ้มม้านั่งสำรองประท้วงการทำหน้าที่ของ นูชูร์ ฟาดิลาห์ ผู้ตัดสินเกมนี้ หลังเป่าลูกโทษที่จุดโทษให้ทีมเจ้าบ้านช่วงทดเวลา จากจังหวะการเข้าบอลของเขา โดย อาเซป พยายามชี้แจงจากภาพช้าที่มีการยิงสัญญาณสดให้ผู้ตัดสินดูว่าจังหวะนี้ไม่ควรเสียจุดโทษ ทำให้เกมหยุดไป 8 นาที แต่สุดท้ายไม่เป็นผลจุดโทษจังหวะนี้ทำให้บอเนียว เอฟซี เฉือนชนะ มาดูรา ยูไนเต็ดไป 2-1
เกมนี้ มาดูรา ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 7 จาก เบโต้ กอนซาเวซ หัวหอกบราซิลโอนสัญชาติทีมชาติอินโดนีเซีย ก่อนที่จะถูกยิงตีเสมอ 1-1 และมาเสียจุดโทษ 2 ครั้ง จังหวะแรกบอเนียว เอฟซี ยิงถากเสาออกไปและมาได้อีกครั้งจากจังหวะปัญหาที่เกิดขึ้นและจัดการยิงเข้าไปไม่พลาด
โดยเหตุการนี้สื่อกีฬาต่างๆของอินโดนีเซียต่างนำมาตีเป็นประเด็นข่าวพร้อมกับให้หัวข่าวทำนองเดียวกันว่า "VAR LOW BUDGET" หรือเครื่องมือช่วยตัดสินต้นทุนต่ำ
ขอบคุณภาพและข่าวจาก : Tribunnews
credit : www.siamsport.co.th