สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มี 2 ทาง
1.แอบถ่ายเวลาที่เขาอาละวาด พอเขาอารมณ์ดีเอาเหตุผลพร้อมหลักฐานไปคุยเพื่อให้ไปรับยา ถ้าไม่ได้ผลไปข้อ 2
2.แยกบ้าน หรือเลิกกัน เอาลูกไปอยู่ด้วย เพราะความเคลียดพอถึงจุดหนึ่งจะกลายเป็น ทะเลาะเบาะแว้ง ทำร้ายร่างกายคนในบ้าน หรืออาจร้ายแรงกว่านั้น
อย่าลืมว่าคุณเป็นแม่ คุณต้องปกป้องลูกเป็นอันดับ 1 การรักลูกแต่ยังเอาลูกไปไว้ในจุดที่อันตรายไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
1.แอบถ่ายเวลาที่เขาอาละวาด พอเขาอารมณ์ดีเอาเหตุผลพร้อมหลักฐานไปคุยเพื่อให้ไปรับยา ถ้าไม่ได้ผลไปข้อ 2
2.แยกบ้าน หรือเลิกกัน เอาลูกไปอยู่ด้วย เพราะความเคลียดพอถึงจุดหนึ่งจะกลายเป็น ทะเลาะเบาะแว้ง ทำร้ายร่างกายคนในบ้าน หรืออาจร้ายแรงกว่านั้น
อย่าลืมว่าคุณเป็นแม่ คุณต้องปกป้องลูกเป็นอันดับ 1 การรักลูกแต่ยังเอาลูกไปไว้ในจุดที่อันตรายไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
ความคิดเห็นที่ 2
ดูแลหัวใจลูกให้ดี ไม่มีทางจะมีความสุขได้อย่างยั่งยืนค่ัะ จากใจลูกสาวที่มีพ่อป่วยด้วยโรคนี้ มา30 กว่าปี เข้าใจแม่ที่ทนอยู่ทั้งๆ ที่จะทิ้งพ่อมาก็ได้ แต่ไม่ทำำ ทุกวันนี้มองกลับไปเมื่อตัวเองยังเด็กแล้ว อยากกอดตัวเองมากๆ มันมีผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตนะคะเมื่อโตขึ้นมา ถึงจะเข้าใจก็เถอะ ทุกวันนี้เค้าก็ไม่หาย เพียงแต่แก่มากแล้วจนสร้างเรื่องอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 7
น้าชายเราเป็นผู้ป่วยจิตเวช โรคประสาทเลยตั้งแต่วัยรุ่นอายุ18 ซึ่งตอนนี้น้าอายุ 34 แต่อาการของเค้าจะเกิดขึ้นตอนที่นอนไม่เพียงพอและมีเรื่องเครียด ถ้าเริ่มมีอาการคนในบ้านจะรู้ทันทีเพราะลักษณะการพูดจะแปลกไปละ อาการหนักสุดๆก็มีจนต้องล่ามโซ่
แต่เค้ายอมรับและรักษาตัวเองจนหาย และพบรักกับแฟน น้าเราก็แต่งงาน มีลูก1คน ทางบ้านไม่มีใครพูดถึงอาการประสาทของน้าอีกเลยเพราะเค้าหายแล้วจริงๆ จนมีวันนึงน้าเครียดและอาการกำเกิบอีก แฟนเค้าตกใจมาก แต่ต้องขอบคุณเค้านะที่ไม่ทิ้งน้าเรา ดูแลดีกว่าเดิม เอาใจใส่ทุกอย่าง ทั้งลูกและผัว บางทีถ้าน้าเรานอนไม่หลับ ภรรยาเค้าจะแอบเอายาผสมกับเครื่องดื่ม เพราะไม่ต้องการให้เค้าคิดและกังวลว่าอาการตัวเองกลับมาอีก นานๆอาการจะเป็นที ปีหรือสองปีครั้ง
ผู้ป่วยจิตเวชเค้าต้องการคนใกล้ชิดนะคะ อย่าทิ้งเค้านะ ถ้ารักษาหาย เค้าก็คือคนดีๆคนนึง ลองเปลี่ยนวิธีการให้เค้ากินยา หรือตัวคุณเองอาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นกับคุณหมอ.
(ทุกวันนี้ครอบครัวขอบคุณคุณหมอไพโรจน์ ที่ขอนแก่นมาก ยารักษาของท่าน น้าเรากินแค่อาทิตย์เดียวก็หายไม่มีอาการแล้ว บางครั้งแค่เครียดตอนกลางคืน ก็กิน ตื่นเช้ามาก็ปกติละ)
เป็นกำลังใจให้นะคะ
แต่เค้ายอมรับและรักษาตัวเองจนหาย และพบรักกับแฟน น้าเราก็แต่งงาน มีลูก1คน ทางบ้านไม่มีใครพูดถึงอาการประสาทของน้าอีกเลยเพราะเค้าหายแล้วจริงๆ จนมีวันนึงน้าเครียดและอาการกำเกิบอีก แฟนเค้าตกใจมาก แต่ต้องขอบคุณเค้านะที่ไม่ทิ้งน้าเรา ดูแลดีกว่าเดิม เอาใจใส่ทุกอย่าง ทั้งลูกและผัว บางทีถ้าน้าเรานอนไม่หลับ ภรรยาเค้าจะแอบเอายาผสมกับเครื่องดื่ม เพราะไม่ต้องการให้เค้าคิดและกังวลว่าอาการตัวเองกลับมาอีก นานๆอาการจะเป็นที ปีหรือสองปีครั้ง
ผู้ป่วยจิตเวชเค้าต้องการคนใกล้ชิดนะคะ อย่าทิ้งเค้านะ ถ้ารักษาหาย เค้าก็คือคนดีๆคนนึง ลองเปลี่ยนวิธีการให้เค้ากินยา หรือตัวคุณเองอาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นกับคุณหมอ.
(ทุกวันนี้ครอบครัวขอบคุณคุณหมอไพโรจน์ ที่ขอนแก่นมาก ยารักษาของท่าน น้าเรากินแค่อาทิตย์เดียวก็หายไม่มีอาการแล้ว บางครั้งแค่เครียดตอนกลางคืน ก็กิน ตื่นเช้ามาก็ปกติละ)
เป็นกำลังใจให้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
สามีเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ไม่ยอมไปหาหมอ เราจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาอย่างไรถึงจะมีความสุขคะ
เมื่อเรารู้ว่าเขามีโรคทางจิตเวชก็ขอให้หมอจ่ายยาให้ หลังจากรับยาครั้งแรก ความเครียดเขาดีขึ้นอย่างชัดเจน เรามีความสุขขึ้น ครอบครัวมีความสุขขึ้น แต่พอสามีรู้ว่ายาที่กินอยู่เป็นยารักษาโรคทางจิตเวช เขาก็เลิกกิน เลิกหาหมอทันที เขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าเขาเป็นผู้ป่วยจิตเวช เราก็พยายามพาเขาไปหาหมอรักษา เปลี่ยนหมอมาตลอด สุดท้ายเขาเลือกไม่ไปหาหมอ ไม่กินยา ไม่ยอมรับตัวเอง และบอกว่าเขาไม่ได้ป่วย
ซึ่งมันส่งผลต่อเรา,ลูกๆและพ่อแม่พี่น้องเขา หลักๆคือเราและลูกๆเหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์สามีตลอดเวลา อาการความเครียดของสามีเพิ่มขึ้นๆๆๆๆทุกวัน เมื่อก่อนจะเครียดเฉพาะเรื่องงาน เรื่องใหญ่ๆ ทุกวันนี้สามารถเครียดได้ในทุกๆเรื่อง หาเรื่องเราได้ในทุกๆเรื่อง อารมณ์แปรปรวนขึ้นๆลงๆ เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง เรื่องเล็กๆน้อยๆสามารถเอามาเป็นประเด็นได้หมด คนอื่นผิดหมดตัวเองถูกอยู่คนเดียว ความเห็นแก่ตัวสูงมากๆจนไม่แคร์คนอื่น เมื่อเขาทำอะไรผิดเขาจะโยนความผิดให้คนอื่นก่อนเลยเพื่อตัวเองจะไม่ต้องรับผิด ชอบบังคับลูกๆทำตามใจตัวเอง อีโก้สูงมากๆๆ เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ คือเราว่าคนปกติจะไม่มีอาการแบบนี้ และมีอีกหลายอาการค่ะ เราก็เริ่มสุดจะทน เริ่มเกินใจจะรับไหว ใจนึงก็อยากทิ้งไปเลย ใจนึงก็อยากพาตัวเองไปหาหมอจิตเวชซะเอง คือเราเครียดมากๆเพราะต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขา24ชั่วโมง เราเคยนัดจิตแพทย์ให้ตัวเองแต่ไม่ได้ไปหาค่ะ
เราจะทำอย่างไรให้สามีไปหาหมอดีคะ หรือเราต้องใช้ชีวิตยังไงให้ตัวเรามีความสุข อย่าแนะนำให้ปล่อยวางนะคะ เราปล่อยวางจนไม่มีอะไรให้ปล่อยแล้ว แต่ถ้าคุณไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกับผู้ป่วยจิตเวชจะไม่มีทางรู้ความรู้สึกเลย และเราคงยังไม่แยกทางกับเขาเพราะลูกๆยังเล็กมากค่ะ และถ้าเราทิ้งเขาไป เขาก็ไม่น่ามีใครแล้ว พ่อแม่พี่น้องเขายังอยู่กับเขาไม่ไหวเลยเพราะอาการเขาทวีคูณขึ้นทุกวันค่ะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ขอบคุณจริงๆ ไล่ขอบคุณทุกเม้นไม่ไหว แต่เราเห็นลู่ทางว่าควรจะทำอย่างไรต่อกับปัญหานี้แล้วค่ะ
ขอบคุณที่แนะนำคุณหมอ + วิธีรักษานะคะ จะเอาไปปรับทัศนะคติสามีและจะพาเขาไปหาหมอให้ได้ค่ะ
ส่วนเรื่องลูกเราเต็มที่กับลูกเลยให้ความรักเต็มที่มากๆ และสอนสิ่งไหนที่มันเหมาะมันควร แต่คงต้องบอกลูกเพิ่มว่าพ่อป่วย ลูกเริ่มโตน่าจะพอเข้าใจแล้วค่ะ
อัพเดทเพิ่มอีกนิด ตอนนี้เราบอกลูกๆหมดแล้วว่าพ่อป่วย เราต้องช่วยกัน ลูกๆถามเยอะแยะไปหมด ลูกบอกจะช่วยกันพูดให้พ่อไปหาหมอ และเราได้บอกลูกยกตัวอย่างให้เห็นว่าบางพฤติกรรมที่ลูกทำมันซึมซับจากคุณพ่อซึ่งป่วย ดังนั้นเราต้องเลิกทำเพราะมันเป็นอาการของคนป่วย ลูกก็เข้าใจเป็นอย่างดี
พอดีสามีเราไป ตปท. เดี๋ยวเขากลับมาเราคงพูดอย่างจริงจัง เราได้คิวคุณหมอต้นเดือนหน้าค่ะ ได้คุณหมอจากการแนะนำของเพื่อนที่คอมเม้นในกระทู้นี้ (ขอบคุณมากๆนะคะ) แต่ถ้าสามีไม่ไป เราก็จะไปเองค่ะ เราจะต้องรักษาเขาให้หายให้ได้ เราจะไม่ปล่อยให้ปัญหานี้มันเรื้อรังต่อไปแล้ว ขอบคุณทุกคอมเม้นและทุกกำลังใจมากๆนะคะ 🥰🥰🥰