ในกรณีหมายถึงคนที่ปกติดีทุกอย่างแต่ไปนั่งในที่นั่งสำรองนะครับ
จากประสบการณ์ที่เคยเจอใน สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่นั่งสำรองของเขาคือที่นั่งสำรองจริงๆ แทบไม่มีใครไปนั่งเลยต่อให้คนเยอะ และคนที่นั่งอยู่ก็เป็นคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ
ต่อให้มีคนที่ปกติดีนั่งอยู่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ เมื่อมีคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เขาก็ลุกให้ทันที ไม่ได้ตีมึนแกล้งหลับ/เล่นมือถือทำเป็นมองไม่เห็น แบบเมืองไทย
คิดเห็นอย่างไรกันครับกับคนจำพวกนี้ที่ไปนั่งที่นั่งสำรองทั้งที่ร่างกายตัวเองปกติดี
อีกข้อสังเกตุนึงคือ ในต่างประเทศ ที่นั่งสำรองเขาไม่ได้รวมถึงนักบวช และเด็ก แต่จะเป็นบุคคลที่ไม่สามารถยืนได้จริงๆเท่านั้น เช่นคนชราและคนพิการ
คิดเห็นอย่างไรกับคนที่ไปนั่งที่สำรองบนรถไฟฟ้า(Priority Seat)
จากประสบการณ์ที่เคยเจอใน สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่นั่งสำรองของเขาคือที่นั่งสำรองจริงๆ แทบไม่มีใครไปนั่งเลยต่อให้คนเยอะ และคนที่นั่งอยู่ก็เป็นคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ
ต่อให้มีคนที่ปกติดีนั่งอยู่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ เมื่อมีคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เขาก็ลุกให้ทันที ไม่ได้ตีมึนแกล้งหลับ/เล่นมือถือทำเป็นมองไม่เห็น แบบเมืองไทย
คิดเห็นอย่างไรกันครับกับคนจำพวกนี้ที่ไปนั่งที่นั่งสำรองทั้งที่ร่างกายตัวเองปกติดี
อีกข้อสังเกตุนึงคือ ในต่างประเทศ ที่นั่งสำรองเขาไม่ได้รวมถึงนักบวช และเด็ก แต่จะเป็นบุคคลที่ไม่สามารถยืนได้จริงๆเท่านั้น เช่นคนชราและคนพิการ