ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ที่เราเลือกอ่านเองไม่ใช่ว่าแบบเรามั่นใจอะไรนะ แต่คือ ค่าคอร์สเรียน IELTS มันแพงมากๆ แบบเป็นหมื่น ซึ่งเราคิดว่า เราเอาเงินไปสอบอีกรอบท่าจะดีกว่า ถถถถถถถถถ
รายละเอียดและTips ของ IELTS IELTS Academic
1. Listening : จะใช้เวลาฟัง 30 นาที อีก 10 นาทีที่เหลือให้เขียนตอบในกระดาษคำตอบ โดยจะมีเรื่องฟัง 4 เรื่องเรียงจากง่ายไปยาก (เวลาเขียนตอบจริงเขียนสะกดด้วยตัวพิมใหญ่หมดเพื่อความปลอดภัย) โดยต้องสะกดให้ถูกต้องด้วยถึงจะได้คะแนน ระวัง S ไว้ให้ดี (อันนี้เราได้มากสุดละได้ 8)
วิธีทำยังไงให้ได้คะแนนเยอะ ก็คืออย่างเดียวเลย ทำโจทย์บ่อยๆค่ะ ละเราจะเห็นเลยว่าแบบมันจะมีคำซ้ำๆกันอยู่ เราทำโจทย์มากกว่า 25 ชุด แล้วถ้าใครชอบสะกดคำผิดเหมือนเรา ก็ให้ไปซ้อมสะกดคำเยอะๆ เราแนะนำแอพนี้นะ
เวลาฟังที่เป็นช้อยอ่ะ คือมันจะ tricky มาก คือช้อยที่ให้มา 3 อันมันจะพูดหมด แต่ไม่ใช่สิ่งที่โจทย์ถามอ่ะนึกออกมะ สิ่งที่เราทำนะ อ่านโจทย์ก่อนให้ได้เยอะที่สุด ขีดเส้นคำสำคัญว่าสรุปมันถามว่าอะไร แล้วพอได้ยินอะไรก็จดๆไปก่อน ถึงเราไม่รู้คำตอบเลย เรามาหาคำตอบทีหลังได้อ่ะ
2. Reading : มีเวลาให้ 1 ชม. รวมเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบด้วย จะแบ่งออกเป็น 3 passage ที่คะแนนเท่าๆกัน แต่ความยากไม่เท่า คือpassage แรกจะง่ายสุด เรียงจากง่ายไปยาก (90%ของข้อสอบเป็นแบบนี้นะ) คือเวลาที่เราใช้ควรแบ่งดีๆ IELTS แนะนำว่าควรใช้ 20 นาทีต่อ 1 passage แต่มีคนใน youtube แนะนำว่าควรใช้เวลา 15,20,25 ตามลำดับเพราะมันยากไม่เท่ากัน ซึ่งอันนี้เราเห็นด้วยนะ จำไว้ว่า ปกติคำถามมันจะเรียงกัน คือหมายความว่าคำถามที่ถามก่อนจะเจอก่อนใน passage ถ้าเราเลยคือก็กลับไปหาข้างบน
คือเราว่า Reading ก็ต้องทำโจทย์เยอะๆอ่ะ มันถามอยู่ไม่กี่แนว แบบมี
- ใส่ชื่อหัวข้อให้ตรงกับพารากราฟ => อันนี้จะไม่เรียงตามลำดับนะ
- เรื่องนี้พูดในพารากราฟไหน => อันนี้จะไม่เรียงตามลำดับนะ
- True / False / Not Given
- Yes no not given
- ตอบคำถามเป็นช้อยทั่วไปแบบข้อสอบไทย
- เติมคำในช่องว่าง (เอาคำจาก passage มาใส่)
- เรื่องนี้ใครเป็นคนพูด (ประมาณว่าในเนื้อเรื่องมีนักวิชาการหลายคนออกมาเสนอไอเดียไรงี้) => อันนี้ข้อยกเว้นจะไม่เรียงตามลำดับนะ
คะแนน Reading บางครั้งต้องทำใจ คือแบบ ถ้าเราได้เรื่องยากหรือเป็นเรื่องที่เราไม่รู้ศัพท์คือยากมาก คือแบบเวลาเราอ่านเรื่องกก.การแพทย์,สัตว์ทะเลงี้อ่ะ เรางงมาก แต่ก็ทำได้แค่ทำโจทย์เยอะๆอ่านะ
การเตรียมตัวสอบ IELTS ในเวลา 1 เดือน แบบอ่านเอง ไม่เรียนพิเศษ Ver.คนไม่เก่งอิ้ง (Tips)
รายละเอียดและTips ของ IELTS IELTS Academic
1. Listening : จะใช้เวลาฟัง 30 นาที อีก 10 นาทีที่เหลือให้เขียนตอบในกระดาษคำตอบ โดยจะมีเรื่องฟัง 4 เรื่องเรียงจากง่ายไปยาก (เวลาเขียนตอบจริงเขียนสะกดด้วยตัวพิมใหญ่หมดเพื่อความปลอดภัย) โดยต้องสะกดให้ถูกต้องด้วยถึงจะได้คะแนน ระวัง S ไว้ให้ดี (อันนี้เราได้มากสุดละได้ 8)
วิธีทำยังไงให้ได้คะแนนเยอะ ก็คืออย่างเดียวเลย ทำโจทย์บ่อยๆค่ะ ละเราจะเห็นเลยว่าแบบมันจะมีคำซ้ำๆกันอยู่ เราทำโจทย์มากกว่า 25 ชุด แล้วถ้าใครชอบสะกดคำผิดเหมือนเรา ก็ให้ไปซ้อมสะกดคำเยอะๆ เราแนะนำแอพนี้นะ
2. Reading : มีเวลาให้ 1 ชม. รวมเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบด้วย จะแบ่งออกเป็น 3 passage ที่คะแนนเท่าๆกัน แต่ความยากไม่เท่า คือpassage แรกจะง่ายสุด เรียงจากง่ายไปยาก (90%ของข้อสอบเป็นแบบนี้นะ) คือเวลาที่เราใช้ควรแบ่งดีๆ IELTS แนะนำว่าควรใช้ 20 นาทีต่อ 1 passage แต่มีคนใน youtube แนะนำว่าควรใช้เวลา 15,20,25 ตามลำดับเพราะมันยากไม่เท่ากัน ซึ่งอันนี้เราเห็นด้วยนะ จำไว้ว่า ปกติคำถามมันจะเรียงกัน คือหมายความว่าคำถามที่ถามก่อนจะเจอก่อนใน passage ถ้าเราเลยคือก็กลับไปหาข้างบน
คือเราว่า Reading ก็ต้องทำโจทย์เยอะๆอ่ะ มันถามอยู่ไม่กี่แนว แบบมี
- ใส่ชื่อหัวข้อให้ตรงกับพารากราฟ => อันนี้จะไม่เรียงตามลำดับนะ
- เรื่องนี้พูดในพารากราฟไหน => อันนี้จะไม่เรียงตามลำดับนะ
- True / False / Not Given
- Yes no not given
- ตอบคำถามเป็นช้อยทั่วไปแบบข้อสอบไทย
- เติมคำในช่องว่าง (เอาคำจาก passage มาใส่)
- เรื่องนี้ใครเป็นคนพูด (ประมาณว่าในเนื้อเรื่องมีนักวิชาการหลายคนออกมาเสนอไอเดียไรงี้) => อันนี้ข้อยกเว้นจะไม่เรียงตามลำดับนะ
คะแนน Reading บางครั้งต้องทำใจ คือแบบ ถ้าเราได้เรื่องยากหรือเป็นเรื่องที่เราไม่รู้ศัพท์คือยากมาก คือแบบเวลาเราอ่านเรื่องกก.การแพทย์,สัตว์ทะเลงี้อ่ะ เรางงมาก แต่ก็ทำได้แค่ทำโจทย์เยอะๆอ่านะ