เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวของน้องชายโดยขอเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ดังนี้
1.น้องชายไปออกรถแล้วผ่อนจ่ายกับไฟแนนซ์ไม่ครบตามกำหนดหลังจากที่มีการหักลบกลบหนี้ต่างๆ ไปแล้ว ทำให้ไฟแนนซ์ เสียผลประโยชน์เป็นเงิน 112,000บาท ประมาณนี้ จึงโดนไฟแนนซ์ฟ้องร้องค่าเสียหายโดยมีคำสั่งศาลส่งไปถึงผู้ค้ำประกันคนที่ 1
2.เมื่อน้องได้รับแจ้งคำสั่งศาลจากผู้ค้ำฯ จึงไปศาลตามกำหนดครั้งแรกเป็นการไกล่เกลี่ยแต่ไกล่เกลี่ยไม่ลงเพราะโจทก์ที่เป็นไฟแนนซ์ ยังไม่ได้หักลบเงินดาวน์ที่น้องชายได้ออกรถยนต์รวมไปด้วยอีก50,000 บาท
3.ศาลจึงนัดขึ้นบัลลังก์พิจารณาไต่สวนครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23กรกฎาคม 2562 น้องชายไปแบบซี่อๆ และไม่มีทนาย แต่เนื่องจากวันนั้นผู้พิพากษาพิจารณาแล้วแจ้งว่าบัญชีพยานฝ่ายโจทก์ยังไม่สมบูรณ์ จึงแจ้งลงเป็นบัญชีดำไว้แล้วแจ้งให้โจทก์ไปทำเอกสารมาใหม่พร้อมกับให้น้องชายผมกลับมาติดต่อที่หน้าศาลใหม่อีก 1 อาทิตย์เพื่อดูความเคลื่อนไหวต่อไป โดยไม่มีการไต่สวน
4.แต่หลังจากนั้น น้องจึงไปตามความเคลื่อนไหวที่หน้าศาลแจ้งไว้แต่ไม่มีเรื่องอะไรเข้าดำเนินการ จึงรอเพื่อจะได้ไปพิจารณาครั้งที่ 2
5. เมื่อ 14 กันยายน 2562ผู้ค้ำประกันคนที่ 1 ได้รับเป็นหมายศาลคดีแดง โดยระบุว่าให้น้องผมตกเป็นหนี้ที่ต้องชำระให้แก่โจทก์ตามจำนวนเงินที่ฟ้องโดยเป็นคดีแดงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2562
ขอปรึกษาดังนี้
1. การตัดสินลงเป็นคดีแดงซึ่งเป็นการลงเป็นวันที่เดียวกันกับคดีดำนั่นคือเป็นการตัดสินไปแล้วในวันนั้น โดยที่น้องชายไม่ทรายเลย ได้ด้วยหรือครับ เพราะศาลเองเป็นผู้แจ้งให้น้องกลับทั้งที่มีการแจ้งว่าให้โจทก์ไปทำบัญชีมาใหม่ แล้วให้น้องผมกลับโดยไม่ไต่สวน หากไต่สวนก็จะแจ้งหักลบเงินดาวน์ไปอีก50,000 บาท
2. ทำไมน้องชายไม่เคยได้รับหมายจากศาลโดยตรงเลยเขาไปทำงานที่อื่นปล่อยบ้านร้างแต่บริเวณนั้นเป็นบ้านญาติพื้นที่บ้านอยู่กันหลายหลังไม่มีใครได้รับจดหมายศาลในกลุ่มนั้นมีญาติที่เป็นคนค้ำบุคคลที่ 2 อยู่ด้วยก็ไม่ได้รับแค่คนค้ำที่อยู่ต่างจังหวัดออกไปได้รับ
3. น้องชายอายุ 30 กว่าๆพ่อแม่เสีย แยกทางกับภรรยา อยู่ตัวคนเดียวดิ้นรนเปลี่ยนที่ทำงานไปเรื่อยไม่มีเงินจ่ายเป็นก้อน และศาลไม่ได้แจ้งว่าต้องจ่ายอย่างไรเท่าไร บังคับเลยว่าต้องจ่ายไม่งั้นจะมีผลตามยึดทรัพย์หรือถูกจับขัง กรณีนี้สามารถอุทธรณ์ได้หรือไม่
หากเล่ากระโดดไม่ละเอียด ผิดๆ ถูกๆ ขออภัยด้วยครับ เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเรื่องข้อกฎหมายกระบวนการขั้นตอน
สอบถามกรณีศาลตัดสินพิพากษาลับหลังจำเลย
1.น้องชายไปออกรถแล้วผ่อนจ่ายกับไฟแนนซ์ไม่ครบตามกำหนดหลังจากที่มีการหักลบกลบหนี้ต่างๆ ไปแล้ว ทำให้ไฟแนนซ์ เสียผลประโยชน์เป็นเงิน 112,000บาท ประมาณนี้ จึงโดนไฟแนนซ์ฟ้องร้องค่าเสียหายโดยมีคำสั่งศาลส่งไปถึงผู้ค้ำประกันคนที่ 1
2.เมื่อน้องได้รับแจ้งคำสั่งศาลจากผู้ค้ำฯ จึงไปศาลตามกำหนดครั้งแรกเป็นการไกล่เกลี่ยแต่ไกล่เกลี่ยไม่ลงเพราะโจทก์ที่เป็นไฟแนนซ์ ยังไม่ได้หักลบเงินดาวน์ที่น้องชายได้ออกรถยนต์รวมไปด้วยอีก50,000 บาท
3.ศาลจึงนัดขึ้นบัลลังก์พิจารณาไต่สวนครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23กรกฎาคม 2562 น้องชายไปแบบซี่อๆ และไม่มีทนาย แต่เนื่องจากวันนั้นผู้พิพากษาพิจารณาแล้วแจ้งว่าบัญชีพยานฝ่ายโจทก์ยังไม่สมบูรณ์ จึงแจ้งลงเป็นบัญชีดำไว้แล้วแจ้งให้โจทก์ไปทำเอกสารมาใหม่พร้อมกับให้น้องชายผมกลับมาติดต่อที่หน้าศาลใหม่อีก 1 อาทิตย์เพื่อดูความเคลื่อนไหวต่อไป โดยไม่มีการไต่สวน
4.แต่หลังจากนั้น น้องจึงไปตามความเคลื่อนไหวที่หน้าศาลแจ้งไว้แต่ไม่มีเรื่องอะไรเข้าดำเนินการ จึงรอเพื่อจะได้ไปพิจารณาครั้งที่ 2
5. เมื่อ 14 กันยายน 2562ผู้ค้ำประกันคนที่ 1 ได้รับเป็นหมายศาลคดีแดง โดยระบุว่าให้น้องผมตกเป็นหนี้ที่ต้องชำระให้แก่โจทก์ตามจำนวนเงินที่ฟ้องโดยเป็นคดีแดงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2562
ขอปรึกษาดังนี้
1. การตัดสินลงเป็นคดีแดงซึ่งเป็นการลงเป็นวันที่เดียวกันกับคดีดำนั่นคือเป็นการตัดสินไปแล้วในวันนั้น โดยที่น้องชายไม่ทรายเลย ได้ด้วยหรือครับ เพราะศาลเองเป็นผู้แจ้งให้น้องกลับทั้งที่มีการแจ้งว่าให้โจทก์ไปทำบัญชีมาใหม่ แล้วให้น้องผมกลับโดยไม่ไต่สวน หากไต่สวนก็จะแจ้งหักลบเงินดาวน์ไปอีก50,000 บาท
2. ทำไมน้องชายไม่เคยได้รับหมายจากศาลโดยตรงเลยเขาไปทำงานที่อื่นปล่อยบ้านร้างแต่บริเวณนั้นเป็นบ้านญาติพื้นที่บ้านอยู่กันหลายหลังไม่มีใครได้รับจดหมายศาลในกลุ่มนั้นมีญาติที่เป็นคนค้ำบุคคลที่ 2 อยู่ด้วยก็ไม่ได้รับแค่คนค้ำที่อยู่ต่างจังหวัดออกไปได้รับ
3. น้องชายอายุ 30 กว่าๆพ่อแม่เสีย แยกทางกับภรรยา อยู่ตัวคนเดียวดิ้นรนเปลี่ยนที่ทำงานไปเรื่อยไม่มีเงินจ่ายเป็นก้อน และศาลไม่ได้แจ้งว่าต้องจ่ายอย่างไรเท่าไร บังคับเลยว่าต้องจ่ายไม่งั้นจะมีผลตามยึดทรัพย์หรือถูกจับขัง กรณีนี้สามารถอุทธรณ์ได้หรือไม่
หากเล่ากระโดดไม่ละเอียด ผิดๆ ถูกๆ ขออภัยด้วยครับ เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเรื่องข้อกฎหมายกระบวนการขั้นตอน