ประสบการณ์การเยีนที่มหาวิทยาลัยของเอกชนแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา - มีนบุรี (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับไม่มีจุดประสงค์พราดพิง)
สวัสดีครับ ผม dek62 จะขอเล่าประสบการณ์การเรียนมหาวิทยาลัย เอกชนแห่งหนึ่งครับ เริ่มจากบ่ายวันหนึ่ง มีเพื่อนอาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาที่โรงเรียนมัธยมที่ผมศึกษาอยู่ เข้ามาเเนะนำ มหาวิทยาลัย (มาทราบที่หลังว่าอาจารย์แกเป็นฟรีแลนซ์ไม่ใช่อาจาย์ที่สอนในมหาวิทยาลัย) โดยพฤติกรรมของแก จะเชียร์เชิงบังคับ บังคับเลยก็ว่าได้ ให้นักเรียนที่อยู่ในห้องพักครูในวันนั้น กรอกใบสมัครโดยที่สมัครใจหรือไม่สมัครใจก็ต้องกรอก (คุยกับที่ปรึกษาว่าเขาอาจได้ค่าหัวจากนักเรียนเเน่ๆ) แต่ก็ไม่คิดอะไร อีกหนึ่งพฤติกรรมของแกคือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสาขาธุรกิจการบิน เพื่อนผมต้องการที่จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีแกก็โน้มน้าว ให้มาการบิน เช่นการการันตีเรื่องงาน 100%(ความจริง คณบดีบอกแค่ 90%)
เข้าช่วงปิดเทอมใหญ่ เพื่อนผมทักมาว่า อาจารย์คนนี้โทรมาตื้อ ให้ไปเรียนที่เนี่ยตัวเพื่อนผมไม่เรียนก็จะขอเบอร์ผู้ปกครองโทรคุย (เข้าข่ายบังคับมากๆ) เพื่อนผมตัดสินใจวางสาย โทรตื้อเพื่อนผมอยู่ 4-5 จากเบอร์ที่โดนบังคับกรอบใบสมัคร ในวันที่ต้องไปดูมหาลัย โดยมีคณบดีมารับด้วยตัวเอง ไปเยี่ยมชม วันนั้นเป็นวันที่รู้สึกว่าอบอุ่นมากจริงๆ การต้อนรับจัดว่าดีเยี่ยมเลยครับ ขอเเทนคณบดีด้วย ดร. นะครับ ดร.ให้ข้อมูลดี พร้อมที่จะช่วยเหลือ น.ศ. ทุกเรื่อง เสมือนเป็นเเม่อีกคน (สิ่งที่ผมเห็นเเละคิด เเละฟังคนอื่นๆเล่ามา) จนมาถึงวันเรียนภาคฤดูร้อนครับช่วงเมษายน 2562 ผมได้ทราบจำนวน น.ศ. มากกว่า 200 คนในมหาวิทยาลัยที่เล็กเเละอบอุ่นนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าเยอะไป ดูจากรุ่นพี่เเล้ว ปีอื่นๆ 20 กว่าคน บ้าง 50 กว่าคนบ้าง ซึ่งยากที่จะดูเเลให้ครบ (ผมมาทราบตอนหลังว่ามีอาจารย์ไปแนะเเนวตามภาค จนได้เด็กมาเยอะขนาดนี้ ทำให้เด็กภาคไหนโชคดีก็ได้ครูเเนะเเนวดีไปเลยเเต่ผมไม่ครับ ตั้งเเต่วันที่มาเซ็นใบสมัครกับทำเรื่อง กยส ไม่เคยไปเจอหน้าเเกอีกเลย มหาวิทยาลัยไม่พร้อมทั้งห้องเรียน ทำให้ต้องย้ายห้องบ่อยมาก แบ่งกลุ่มอีก โดนเฉพาะห้องน้ำ เป็นอะไรที่เเย่มากๆ เป็นมหาลัยเอกชนนะครับ ชำรุดแทบทุกชั้น (ฟิวเดียวกันห้องน้ำในบ้านผีสิง555 เรื่องจริงครับ) จะมีห้องน้ำที่ดีคือชั้นล่างตรงห้องสมุดเป็นชั้นที่โชว์ ของมหาลัย และชั้นของต่างประเทศ นิติศาสตร์ไว้โชว์ห้องศาลครับ เป็นชั้นที่คนจีนอยู่เยอะ (อืมลืมบอกมหาลัยนี้ เป็นมหาลัยที่ดังมากในจีน ทำให้ทุดเดือนจะมี น.ศ. จีนเข้ามาเยอะมาก ครั้งล่าสุดที่เห็น 800 คนเเล้วครับ) แต่ทางมหาลัยก็มีใบสอลถามเรื่องการปรับปรุงอยู่ครับ แต่ดั้นทำแค่โรงอาหาร สวัสดิการของปีผม จะมีการอยู่หอฟรี 4 ปี และทุน 10,000 บาทครับ หอเป็นหอนอกที่หมาลัยเช่าให้ น.ศ.อยู่ครับ อย่าที่ผมพูดข้างต้น เลยจำเป็นให้มหาลัยอัด น.ศ.ห้องละ 4 คนครับในช่วงเเรก ห้องเล็กมากครับ วางฟูกเหลือเเค่ทางเดินอยู่ ไม่ถึงเมตร ทำให้ผมต้องออกมาอยู่หอนอก ซึ่งผมเป็นเพศที่ 3 ด้วยเฮะๆ เเต่ได้ยินว่าสามารถเข้าไปอยู่ในหอหญิงได้ ทำก็รอทำเรื่อง วันนั้นผมเห็นพวกกระเทยย้ายกลับมาอยู่หอชายเฉย (โดนไล่ออกมาครับ ก็เข้าใจเขาว่ามันหอสำหรับผู้หญิง แต่หอชาย 3 คนผมก็ว่าเเน่นเเล้วครับ) ที่เขาทำแบบนี้เพราะจะรอดู น.ศ.ที่จะเข้ามาอีก (200 กว่าคนไม่พอหลอ ดูเเลยังไม่ทั่วถึงเลย -..- ห้องเรียนอาจารย์ห้องน้ำยังไม่พร้อมเลย) ผ่านการเรียนภาคฤดูร้อนไป ได้หยุด 3 วันก็เปิดเรียน ปี1 ภาคเรียนที่ หนึ่งครับ ผมจะแบ่งเป็นการใช้ชีวิต การเรียน รุ่นพี่นะครับ และคณดีเเละอาจารย์
1 การใช้ชีวิต
ถนนรามอินทราเป็นถนนที่รถติดครับเเน่นอนการนั่งรถจากหอและมหาลัยใน 1 กิโลนั้น ใช้เวลา 30-45 นาทีครับผม ติดชนิดว่าขยับที่ละนิด 5555+
ใช้ชีวิตยากขึ้นเพราะเราอยู่เเถวบางแคว่าติดเเล้ว รามอินทราคือที่สุดเลยครับ การกิน การนั่งรถก็เปลี่ยนไปครับ ตามสั่ง 50 ขึ้น การเดินทาง รถตู้ รถเมล์ ไม่มีสองเเถว ครับผม
2 การเรียน กิจกรรมของมหาลัย(ไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่)
เป็นการรวบรวมอาจารย์จากมหาลัยต่างๆ ที่มีความถนัดในด้ายนั้นๆ มาสอนครับ หรือ อาจารย์ที่เคยทำงานในสายงานน้นๆ และเกษียณมา มาสอนครับซึ่งทำให้บางคาปนั้นเกิดการรับงานชนกัน 5555+ (ครูมีสอนที่หอการค้า เดียวครูสั่งงานไว้เเละส่งครูนะ 5555+)
การทำงานของมหาลัยคือการขอร้อง ให้ ชม. กยส หรือจ่างเป็นเบี้ยเลี้ยงครับ จุดประสงค์ ต้องถ่ายรูปขึ้นเพจ ลงทีวี (การสร้างภาพที่ค่อยข้างบังคังเเละสร้างเยอะมาก ผมอยู่ ร.ร.ในวังที่ต้องสร้างไม่เคยเห็นเยอะขนาดนี้) เบี้ยเลี้ยงที 550 บาทหืมผมก็อยากได้
กิจกรรมเยอะเเยะครับหาให้ทำตลอดเวลา เพื่อช่วย ชม.กยสของ น.ศ. เเต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายบ้างเช่นปลูกป่า หรือกิจกรรมออนนอกสถานที่ครับ
กยส ที่นี่กู้ได้ 100% เรามีหน้าที่ กรอกเอกสาร มาฟังอบรม เเค่นั้นครับ ทางมหาลัยจะมีทีม จัดการให้เเทบทุกขั้นตอน
3 รุ่นพี่
ในสาขาที่ผมเรียนจะเป็นสาขาที่เค่งเรื่องการเเต่งกาย เเละวัฒนธรรมของสาขาครับ
ถ้าไม่ทำตามจะมีการให้ VIP แก่รุ่นน้องปี 1 (การลงโทษในวันรับน้องครับ เช่น ปกติโดนขี้ดิน VIP โดนขี้ควายครับ คำพูดนี้รุ่นพี่เป็นคนพูดนะครับ ผมไม่ได้ไปรับน้องไม่รู้ว่าเป็นยังไง) วัฒนธรรมสาขาคือการ ไหว้รุ่นพี่ครับ เป็นการบังคับเลยดีกว่า 555 ซึ่งตัวผมไม่ซีเรียสเลยครับ การไหว้เนี่ยแต่บางกรณีเราไม่ทราบว่าคนไหนเป็นรุ่นพี่ ของสาขาการบิน ทำให้เราไม่ได้ไหว้ครับ รุ่นพี่ก็เอาไปฟ้อนประทานรุ่นทำให้มาด่ารุ่นน้องอยู่บ่อยครั้ง
กิจกรรมของรุ่นพี่อีกอย่างหนึ่งคือการล่าลายเซ็นครับ ยอดฮิด555✨ เนี่ยแหละที่ทำให้ผมโดนแกล้งให้คุยกับค้นไม่กับถังขยะเพราะไม่รู้ว่าคนไหนคือรุ่นพี่การบิน กรรมคือผมโดนรุ่นพี่บัญชีสั่งสะงั้น เราจะรู้เเค่วันที่ เขาใส่ชุดคือวันพุธครับ หาไม่ครบเเน่นอนวีไอดี ซึ่งผมโดนครับ
หลายๆกิจกรรม รุ่นพี่ทั้ง 3 ปี คือ ปี2,3,4 ทะเรอะกัน จน ดร.ไปว่ารุ้นพี่ปี 4 จน รุ่นพี่ปี 4 ไม่ขอเข้ามายุ่งกับกิจกรรม ของปี1 ทำให้การได้ลายเซ็นปี 4 หายไปแงๆ 😭
หลายอย่างครับทำให้คนในคราส ย้ายคณะไป เพราะลัทธิบ้าๆเนี่ย ผมได้ยินจากปากปี 4 ว่าแค่นี้ทำเป็นทนไม่ได้ (ส่วนตัวนะครับทั้งว่ารุ่นน้อง อีโก้สูงใส่รรุ่นน้อง ในรุ่นน้องทำโน้นนี่เป็นกิจกรรมขำๆ ใช่ครับขำผมทำได้เเต่เพื่อนๆหลายคนที่ไม่เคยทำ อย่างเพื่อนผมร้องไห้ไปวันหนึ่งเลยอยากย้ายคณะ 5555+ มันไร้สาระมากไม่รู้รุ่นพี่ทำไปเพื่ออะไร เเต่ผมโอเครเล่นขำๆ) คณะอื่นเขาไม่ทำกันขนาดนี้ เขาง่ายๆกัน มาถึงตอนนี้คคงมองว่าเเค่นี้เอง ผมถ่ายทอดมาไม่หมดหลอกครับต้องมาสัมผัส เเนะนำเป็นถามคำถามมาดีกว่า และจะตอบให้ครับ ผมมีโอกาสโหลดแอบเกย์มีคุยกับประทาน ปี3 ที่เป็นเกย์ครับ ขู่ผมแบบสุดยอด ขนาดจะบอก ดร.ยังบอกอีก พี่ลูกรัก ดร. สะงั้น -...-
4 คณบดีเเละอาจารย์
คณบดีหลังจากวันที่มารับก็ได้เจอหน้าเเกปะปลายครับ จนมีวันหนึ่งที่ผมมีเพื่อนมาถามเรื่องมหาลัยจนทำให้รู้ว่าถ้าชวนเพื่อนมาเรียน 1 คนจะได้ค่าหัว 2,000 บาท ผมเนี่ยอ้อเลย ว่าเเล้วเชียร์ให้มาเรียนที่เนี่ย เเล้วหายไปเลยใช้เงินสบายเลยสิอาจารย์ที่มาเเนะเเนวผม หลังจากนั้นผมคิดว่าโรงเรียนผมเป็นสิทธิพิเศษที่ คณบดีเป็นคนไปรับ เเต่มาทราบที่หลังว่า คณบดีไปรับ นศ.ที่คนเลยยย (ขยันมาก) ทำให้เวลาปรึกษาเเก แกดูเริ่มห่างเพราะเหมือนจะจำเราไม่ได้ ทำให้หลายๆเรื่องที่คุยไว้ เริ่มไม่ได้ตามที่คุย เช่นหางานให้นักศึกษาทำ ที่มาเพราะอันนี้ด้วยครับได้ทำงาน ได้มีบูทมารับสมัคร เชื่อไหม นศ.หลายคนไม่ได้ทำงาน ต้องมาหางานกันเอง เพราะ นศ.เยอะ ทำให้เพื่อนผมใ
นสาขาต่างประเทศเเทบน้ำตาไหล ต้องส่งตัวเองเรียน ไม่มีที่บ้านส่งมาให้ หากันอยู่นานเงิน กยส ก็ยังไม่เข้าเพราะพึ่งเป็นขั้นตอนเซ็นสัญญา 5555😢😭+ ผมเองก็ดิ้นรนครับงานหายากมากกกก เเถวนั้นเเย่งงานกันทำ พนักงานพาร์ทไทม์ไม่ค่อยรับอีก โอ๊ย
ถึงตอนนี้ผมต้องดร็อบครับไม่ไหวค่าใช้จ่ายเยอะ มาทำงานก่อนดีกว่า กลับบ้านเลยปรึกษาอาจารย์คนนึง ให้คำปรึกษาดีมากครับช่วยผมทุกอย่างจริงๆ ผมได้ลองบอกชื่ออาจารย์เเนะเเนวไป อ้อกันใหญ่เเสดงว่าวีรกรรมเยอะพอตัว (บอกชื่อไปหลายอาจารย์อยู่ อ้อทุกคน พฤติกรรมแปลกกว่าชาวบ้าน) เข้าเรื่องครับ ปรึกษาดีจน ไม่อยากให้ผมดร้อบทุกตัว ให้เรียนตัวที่เเกช่วยได้ คือ 3 ตัวครับ (แต่ผมตัดสินใจบอกแกไม่เรียนต่อไว้ก่อนดีกว่าเดียวค่อยมาลงภาควันอาทิตย์) แต่คณบดีผมเนี่ยสิครับ คนใจดีอาจารย์คนไหนผ่านมาก็บอกใจดี โทรไปขึ้น บรรดันอยู่ค่ะ เดียวโทรกลับ รอก็ไม่โทรกลับมา คุณแม่โทรไปปรึกษา ก็พูดทำนองไม่ง้อเด็กเหมือนตอนที่จะเอาเด็กมาเรียน (อ้อช่วยไม่ได้แหละค่ะ ต้องถามตัวน้องจะดร็อบหรือจะลาออก) ผมเนี่ยจุกเลยครับ ที่ผมฟังเเละสัมผัสมาก คือมีเเต่คนพูดไม่มีเงินแกก็ออกให้ มีปัญหาการเรียนให้ไปปรึกษาแก แกเป็นคนอ่อนโยน ผมมักไปหาแกเป็นอาทิตย์เรื่องปรึกษาเรื่องเรียน เเต่แกไม่เหมือนที่ผมเห็นในตอนเเรกและที่ทุกคนพูดครับ เเต่ผมกลับไปรับความช่วยเหลือจาก คณบดีบริหารธุรกิจ น่ารักมากๆครับผม
ที่ปรึกษาผมเหมือนจะอีโก้สูงนะครับเป็นอาจารย์คนใหม่ (มหาลัยนี้ชอบเอาเด็กที่เคยจนไปแล้ว แล้วเอากลับมาทำงาน สังเกตุมา 2 คนว่าถ้าดีก็ดีไปเลย เเต่ถ้าเ_ี้ย ก็จะมีกรุ๊บรุ่นพี่ซัพพอร์ตรุ่นน้องค่อยข้างกลัวเเละเกรงใจ) ที่ปรึกษาคนใหม่นี้เหมือนแบบไม่พอใจไม่ชอบไรจะแสดงออกด้วยสีหน้าครับ
EP: รุ่นพี่ผู้หญิงมีเสียงโทรศัพท์เข้าในห้องสอบ อาจารย์ผู้ชายพูดมาว่าเดียวผมยึดนะครับถ้าได้ยินเสียงอีก พี่ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเรอะ เเล้วบอกว่าไม่มีเเล้วค่ะอาจารย์ เเต่ครูที่ปรึกษาผม มองหน้าแบบเหยียดๆ ตอนพี่คนนั้นหัวเรอะ เเล้วเบะปากในตอนที่พี่เขาพูดประโยคนั้นจบ ซึ่งผมคิดว่าเอาเเล้วคนแบบนี้ถ้าทำให้เขาเกลียดตายเเน่ๆ
อยากรู้อะไรเม้นถามเพิ่มเติมได้ครับ
ทั้งหมดนี้ไม่มีจุดประสงค์พาดพิงสถานศึกษาใดใดๆ เป็นประสบการณ์การเข้าเรียนในเอกชน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
ไม่มีคำถามครับผมจะตั้งกระทู้เล่าประสบการณ์แต่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ประสบการการเรียนมหาลัยเอกชนแถวมรามอินทรา-มีนบุรี
สวัสดีครับ ผม dek62 จะขอเล่าประสบการณ์การเรียนมหาวิทยาลัย เอกชนแห่งหนึ่งครับ เริ่มจากบ่ายวันหนึ่ง มีเพื่อนอาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาที่โรงเรียนมัธยมที่ผมศึกษาอยู่ เข้ามาเเนะนำ มหาวิทยาลัย (มาทราบที่หลังว่าอาจารย์แกเป็นฟรีแลนซ์ไม่ใช่อาจาย์ที่สอนในมหาวิทยาลัย) โดยพฤติกรรมของแก จะเชียร์เชิงบังคับ บังคับเลยก็ว่าได้ ให้นักเรียนที่อยู่ในห้องพักครูในวันนั้น กรอกใบสมัครโดยที่สมัครใจหรือไม่สมัครใจก็ต้องกรอก (คุยกับที่ปรึกษาว่าเขาอาจได้ค่าหัวจากนักเรียนเเน่ๆ) แต่ก็ไม่คิดอะไร อีกหนึ่งพฤติกรรมของแกคือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสาขาธุรกิจการบิน เพื่อนผมต้องการที่จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีแกก็โน้มน้าว ให้มาการบิน เช่นการการันตีเรื่องงาน 100%(ความจริง คณบดีบอกแค่ 90%)
เข้าช่วงปิดเทอมใหญ่ เพื่อนผมทักมาว่า อาจารย์คนนี้โทรมาตื้อ ให้ไปเรียนที่เนี่ยตัวเพื่อนผมไม่เรียนก็จะขอเบอร์ผู้ปกครองโทรคุย (เข้าข่ายบังคับมากๆ) เพื่อนผมตัดสินใจวางสาย โทรตื้อเพื่อนผมอยู่ 4-5 จากเบอร์ที่โดนบังคับกรอบใบสมัคร ในวันที่ต้องไปดูมหาลัย โดยมีคณบดีมารับด้วยตัวเอง ไปเยี่ยมชม วันนั้นเป็นวันที่รู้สึกว่าอบอุ่นมากจริงๆ การต้อนรับจัดว่าดีเยี่ยมเลยครับ ขอเเทนคณบดีด้วย ดร. นะครับ ดร.ให้ข้อมูลดี พร้อมที่จะช่วยเหลือ น.ศ. ทุกเรื่อง เสมือนเป็นเเม่อีกคน (สิ่งที่ผมเห็นเเละคิด เเละฟังคนอื่นๆเล่ามา) จนมาถึงวันเรียนภาคฤดูร้อนครับช่วงเมษายน 2562 ผมได้ทราบจำนวน น.ศ. มากกว่า 200 คนในมหาวิทยาลัยที่เล็กเเละอบอุ่นนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าเยอะไป ดูจากรุ่นพี่เเล้ว ปีอื่นๆ 20 กว่าคน บ้าง 50 กว่าคนบ้าง ซึ่งยากที่จะดูเเลให้ครบ (ผมมาทราบตอนหลังว่ามีอาจารย์ไปแนะเเนวตามภาค จนได้เด็กมาเยอะขนาดนี้ ทำให้เด็กภาคไหนโชคดีก็ได้ครูเเนะเเนวดีไปเลยเเต่ผมไม่ครับ ตั้งเเต่วันที่มาเซ็นใบสมัครกับทำเรื่อง กยส ไม่เคยไปเจอหน้าเเกอีกเลย มหาวิทยาลัยไม่พร้อมทั้งห้องเรียน ทำให้ต้องย้ายห้องบ่อยมาก แบ่งกลุ่มอีก โดนเฉพาะห้องน้ำ เป็นอะไรที่เเย่มากๆ เป็นมหาลัยเอกชนนะครับ ชำรุดแทบทุกชั้น (ฟิวเดียวกันห้องน้ำในบ้านผีสิง555 เรื่องจริงครับ) จะมีห้องน้ำที่ดีคือชั้นล่างตรงห้องสมุดเป็นชั้นที่โชว์ ของมหาลัย และชั้นของต่างประเทศ นิติศาสตร์ไว้โชว์ห้องศาลครับ เป็นชั้นที่คนจีนอยู่เยอะ (อืมลืมบอกมหาลัยนี้ เป็นมหาลัยที่ดังมากในจีน ทำให้ทุดเดือนจะมี น.ศ. จีนเข้ามาเยอะมาก ครั้งล่าสุดที่เห็น 800 คนเเล้วครับ) แต่ทางมหาลัยก็มีใบสอลถามเรื่องการปรับปรุงอยู่ครับ แต่ดั้นทำแค่โรงอาหาร สวัสดิการของปีผม จะมีการอยู่หอฟรี 4 ปี และทุน 10,000 บาทครับ หอเป็นหอนอกที่หมาลัยเช่าให้ น.ศ.อยู่ครับ อย่าที่ผมพูดข้างต้น เลยจำเป็นให้มหาลัยอัด น.ศ.ห้องละ 4 คนครับในช่วงเเรก ห้องเล็กมากครับ วางฟูกเหลือเเค่ทางเดินอยู่ ไม่ถึงเมตร ทำให้ผมต้องออกมาอยู่หอนอก ซึ่งผมเป็นเพศที่ 3 ด้วยเฮะๆ เเต่ได้ยินว่าสามารถเข้าไปอยู่ในหอหญิงได้ ทำก็รอทำเรื่อง วันนั้นผมเห็นพวกกระเทยย้ายกลับมาอยู่หอชายเฉย (โดนไล่ออกมาครับ ก็เข้าใจเขาว่ามันหอสำหรับผู้หญิง แต่หอชาย 3 คนผมก็ว่าเเน่นเเล้วครับ) ที่เขาทำแบบนี้เพราะจะรอดู น.ศ.ที่จะเข้ามาอีก (200 กว่าคนไม่พอหลอ ดูเเลยังไม่ทั่วถึงเลย -..- ห้องเรียนอาจารย์ห้องน้ำยังไม่พร้อมเลย) ผ่านการเรียนภาคฤดูร้อนไป ได้หยุด 3 วันก็เปิดเรียน ปี1 ภาคเรียนที่ หนึ่งครับ ผมจะแบ่งเป็นการใช้ชีวิต การเรียน รุ่นพี่นะครับ และคณดีเเละอาจารย์
1 การใช้ชีวิต
ถนนรามอินทราเป็นถนนที่รถติดครับเเน่นอนการนั่งรถจากหอและมหาลัยใน 1 กิโลนั้น ใช้เวลา 30-45 นาทีครับผม ติดชนิดว่าขยับที่ละนิด 5555+
ใช้ชีวิตยากขึ้นเพราะเราอยู่เเถวบางแคว่าติดเเล้ว รามอินทราคือที่สุดเลยครับ การกิน การนั่งรถก็เปลี่ยนไปครับ ตามสั่ง 50 ขึ้น การเดินทาง รถตู้ รถเมล์ ไม่มีสองเเถว ครับผม
2 การเรียน กิจกรรมของมหาลัย(ไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่)
เป็นการรวบรวมอาจารย์จากมหาลัยต่างๆ ที่มีความถนัดในด้ายนั้นๆ มาสอนครับ หรือ อาจารย์ที่เคยทำงานในสายงานน้นๆ และเกษียณมา มาสอนครับซึ่งทำให้บางคาปนั้นเกิดการรับงานชนกัน 5555+ (ครูมีสอนที่หอการค้า เดียวครูสั่งงานไว้เเละส่งครูนะ 5555+)
การทำงานของมหาลัยคือการขอร้อง ให้ ชม. กยส หรือจ่างเป็นเบี้ยเลี้ยงครับ จุดประสงค์ ต้องถ่ายรูปขึ้นเพจ ลงทีวี (การสร้างภาพที่ค่อยข้างบังคังเเละสร้างเยอะมาก ผมอยู่ ร.ร.ในวังที่ต้องสร้างไม่เคยเห็นเยอะขนาดนี้) เบี้ยเลี้ยงที 550 บาทหืมผมก็อยากได้
กิจกรรมเยอะเเยะครับหาให้ทำตลอดเวลา เพื่อช่วย ชม.กยสของ น.ศ. เเต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายบ้างเช่นปลูกป่า หรือกิจกรรมออนนอกสถานที่ครับ
กยส ที่นี่กู้ได้ 100% เรามีหน้าที่ กรอกเอกสาร มาฟังอบรม เเค่นั้นครับ ทางมหาลัยจะมีทีม จัดการให้เเทบทุกขั้นตอน
3 รุ่นพี่
ในสาขาที่ผมเรียนจะเป็นสาขาที่เค่งเรื่องการเเต่งกาย เเละวัฒนธรรมของสาขาครับ
ถ้าไม่ทำตามจะมีการให้ VIP แก่รุ่นน้องปี 1 (การลงโทษในวันรับน้องครับ เช่น ปกติโดนขี้ดิน VIP โดนขี้ควายครับ คำพูดนี้รุ่นพี่เป็นคนพูดนะครับ ผมไม่ได้ไปรับน้องไม่รู้ว่าเป็นยังไง) วัฒนธรรมสาขาคือการ ไหว้รุ่นพี่ครับ เป็นการบังคับเลยดีกว่า 555 ซึ่งตัวผมไม่ซีเรียสเลยครับ การไหว้เนี่ยแต่บางกรณีเราไม่ทราบว่าคนไหนเป็นรุ่นพี่ ของสาขาการบิน ทำให้เราไม่ได้ไหว้ครับ รุ่นพี่ก็เอาไปฟ้อนประทานรุ่นทำให้มาด่ารุ่นน้องอยู่บ่อยครั้ง
กิจกรรมของรุ่นพี่อีกอย่างหนึ่งคือการล่าลายเซ็นครับ ยอดฮิด555✨ เนี่ยแหละที่ทำให้ผมโดนแกล้งให้คุยกับค้นไม่กับถังขยะเพราะไม่รู้ว่าคนไหนคือรุ่นพี่การบิน กรรมคือผมโดนรุ่นพี่บัญชีสั่งสะงั้น เราจะรู้เเค่วันที่ เขาใส่ชุดคือวันพุธครับ หาไม่ครบเเน่นอนวีไอดี ซึ่งผมโดนครับ
หลายๆกิจกรรม รุ่นพี่ทั้ง 3 ปี คือ ปี2,3,4 ทะเรอะกัน จน ดร.ไปว่ารุ้นพี่ปี 4 จน รุ่นพี่ปี 4 ไม่ขอเข้ามายุ่งกับกิจกรรม ของปี1 ทำให้การได้ลายเซ็นปี 4 หายไปแงๆ 😭
หลายอย่างครับทำให้คนในคราส ย้ายคณะไป เพราะลัทธิบ้าๆเนี่ย ผมได้ยินจากปากปี 4 ว่าแค่นี้ทำเป็นทนไม่ได้ (ส่วนตัวนะครับทั้งว่ารุ่นน้อง อีโก้สูงใส่รรุ่นน้อง ในรุ่นน้องทำโน้นนี่เป็นกิจกรรมขำๆ ใช่ครับขำผมทำได้เเต่เพื่อนๆหลายคนที่ไม่เคยทำ อย่างเพื่อนผมร้องไห้ไปวันหนึ่งเลยอยากย้ายคณะ 5555+ มันไร้สาระมากไม่รู้รุ่นพี่ทำไปเพื่ออะไร เเต่ผมโอเครเล่นขำๆ) คณะอื่นเขาไม่ทำกันขนาดนี้ เขาง่ายๆกัน มาถึงตอนนี้คคงมองว่าเเค่นี้เอง ผมถ่ายทอดมาไม่หมดหลอกครับต้องมาสัมผัส เเนะนำเป็นถามคำถามมาดีกว่า และจะตอบให้ครับ ผมมีโอกาสโหลดแอบเกย์มีคุยกับประทาน ปี3 ที่เป็นเกย์ครับ ขู่ผมแบบสุดยอด ขนาดจะบอก ดร.ยังบอกอีก พี่ลูกรัก ดร. สะงั้น -...-
4 คณบดีเเละอาจารย์
คณบดีหลังจากวันที่มารับก็ได้เจอหน้าเเกปะปลายครับ จนมีวันหนึ่งที่ผมมีเพื่อนมาถามเรื่องมหาลัยจนทำให้รู้ว่าถ้าชวนเพื่อนมาเรียน 1 คนจะได้ค่าหัว 2,000 บาท ผมเนี่ยอ้อเลย ว่าเเล้วเชียร์ให้มาเรียนที่เนี่ย เเล้วหายไปเลยใช้เงินสบายเลยสิอาจารย์ที่มาเเนะเเนวผม หลังจากนั้นผมคิดว่าโรงเรียนผมเป็นสิทธิพิเศษที่ คณบดีเป็นคนไปรับ เเต่มาทราบที่หลังว่า คณบดีไปรับ นศ.ที่คนเลยยย (ขยันมาก) ทำให้เวลาปรึกษาเเก แกดูเริ่มห่างเพราะเหมือนจะจำเราไม่ได้ ทำให้หลายๆเรื่องที่คุยไว้ เริ่มไม่ได้ตามที่คุย เช่นหางานให้นักศึกษาทำ ที่มาเพราะอันนี้ด้วยครับได้ทำงาน ได้มีบูทมารับสมัคร เชื่อไหม นศ.หลายคนไม่ได้ทำงาน ต้องมาหางานกันเอง เพราะ นศ.เยอะ ทำให้เพื่อนผมใ
นสาขาต่างประเทศเเทบน้ำตาไหล ต้องส่งตัวเองเรียน ไม่มีที่บ้านส่งมาให้ หากันอยู่นานเงิน กยส ก็ยังไม่เข้าเพราะพึ่งเป็นขั้นตอนเซ็นสัญญา 5555😢😭+ ผมเองก็ดิ้นรนครับงานหายากมากกกก เเถวนั้นเเย่งงานกันทำ พนักงานพาร์ทไทม์ไม่ค่อยรับอีก โอ๊ย
ถึงตอนนี้ผมต้องดร็อบครับไม่ไหวค่าใช้จ่ายเยอะ มาทำงานก่อนดีกว่า กลับบ้านเลยปรึกษาอาจารย์คนนึง ให้คำปรึกษาดีมากครับช่วยผมทุกอย่างจริงๆ ผมได้ลองบอกชื่ออาจารย์เเนะเเนวไป อ้อกันใหญ่เเสดงว่าวีรกรรมเยอะพอตัว (บอกชื่อไปหลายอาจารย์อยู่ อ้อทุกคน พฤติกรรมแปลกกว่าชาวบ้าน) เข้าเรื่องครับ ปรึกษาดีจน ไม่อยากให้ผมดร้อบทุกตัว ให้เรียนตัวที่เเกช่วยได้ คือ 3 ตัวครับ (แต่ผมตัดสินใจบอกแกไม่เรียนต่อไว้ก่อนดีกว่าเดียวค่อยมาลงภาควันอาทิตย์) แต่คณบดีผมเนี่ยสิครับ คนใจดีอาจารย์คนไหนผ่านมาก็บอกใจดี โทรไปขึ้น บรรดันอยู่ค่ะ เดียวโทรกลับ รอก็ไม่โทรกลับมา คุณแม่โทรไปปรึกษา ก็พูดทำนองไม่ง้อเด็กเหมือนตอนที่จะเอาเด็กมาเรียน (อ้อช่วยไม่ได้แหละค่ะ ต้องถามตัวน้องจะดร็อบหรือจะลาออก) ผมเนี่ยจุกเลยครับ ที่ผมฟังเเละสัมผัสมาก คือมีเเต่คนพูดไม่มีเงินแกก็ออกให้ มีปัญหาการเรียนให้ไปปรึกษาแก แกเป็นคนอ่อนโยน ผมมักไปหาแกเป็นอาทิตย์เรื่องปรึกษาเรื่องเรียน เเต่แกไม่เหมือนที่ผมเห็นในตอนเเรกและที่ทุกคนพูดครับ เเต่ผมกลับไปรับความช่วยเหลือจาก คณบดีบริหารธุรกิจ น่ารักมากๆครับผม
ที่ปรึกษาผมเหมือนจะอีโก้สูงนะครับเป็นอาจารย์คนใหม่ (มหาลัยนี้ชอบเอาเด็กที่เคยจนไปแล้ว แล้วเอากลับมาทำงาน สังเกตุมา 2 คนว่าถ้าดีก็ดีไปเลย เเต่ถ้าเ_ี้ย ก็จะมีกรุ๊บรุ่นพี่ซัพพอร์ตรุ่นน้องค่อยข้างกลัวเเละเกรงใจ) ที่ปรึกษาคนใหม่นี้เหมือนแบบไม่พอใจไม่ชอบไรจะแสดงออกด้วยสีหน้าครับ
EP: รุ่นพี่ผู้หญิงมีเสียงโทรศัพท์เข้าในห้องสอบ อาจารย์ผู้ชายพูดมาว่าเดียวผมยึดนะครับถ้าได้ยินเสียงอีก พี่ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเรอะ เเล้วบอกว่าไม่มีเเล้วค่ะอาจารย์ เเต่ครูที่ปรึกษาผม มองหน้าแบบเหยียดๆ ตอนพี่คนนั้นหัวเรอะ เเล้วเบะปากในตอนที่พี่เขาพูดประโยคนั้นจบ ซึ่งผมคิดว่าเอาเเล้วคนแบบนี้ถ้าทำให้เขาเกลียดตายเเน่ๆ
อยากรู้อะไรเม้นถามเพิ่มเติมได้ครับ
ทั้งหมดนี้ไม่มีจุดประสงค์พาดพิงสถานศึกษาใดใดๆ เป็นประสบการณ์การเข้าเรียนในเอกชน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน