โอ๊วว เย 3..... 2..... 1.... ไม่ได้อยากถามแต่แค่อยากรู้ว่าเธอคิดถึงฉันไหม  วันนี้แค่อยากมากระซิบเบาๆว่า…รักจริงๆ อ่ะลิงจั๊กๆ  ทักทายกันแบบนี้ รู้ยัง !! ว่าเราไปเที่ยวจังหวัดไหนมาน้าาา  อะ ใบ้ให้ว่า เป็นเมืองรอง ที่หลายคนอาจเคยขับรถผ่าน แต่ไม่ได้แวะเที่ยวจริงจังซะทีเลย
วันนี้เรานำภาพ บรรยากาศ สถานที่สวยๆแนวพีเรียด มีความเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ  เป็นสถานที่จริง และโด่งดังในละครมาแล้ว มาให้ติดตามชมกันด้วย มารีวิวช้าหน่อยแต่ชัวร์นะจ๊ะ กับทริปนี้
ครั้งนี้เรากลับมาพร้อมกับทริปสุดพิเศษอีกแล้ว  ขอเชิญพับกบ เอร๊ยย พบกับ ทริปสุดฟิน อิ่มพุงกาง ทริป Fan Meeting กับเชฟคนเก่ง
‘เชฟบุ๊ค’ บุญสมิทธิ์  พุกกะณะสุต   ร่วมกับทาง Thai PBS  และ  ททท. จ้า เกริ่นนิดนึงนะ  ครั้งนี้ ทีมงาน คัดมาจาก เกือบ400 คน ที่จะไปร่วมกิจกรรมไป Meetingในครั้งนี้ เลือกมาเพียง 30คน+ผู้ติดตามไปได้อีก1  เท่านั้นๆๆ เลยเป็นทริปที่ Exclusive สุดๆ อยากบอกว่าทริปนี้ เราจะได้เจอน้องไข่ดาวสุดสวยด้วยนะจ๊ะ ว่าแล้วก็วิ่ง 4x100  ตามมาเล้ยย
มากับ Foodwork ทั้งทีต้องได้ชิมฝีมือเชฟบุ๊คก่อนนะ ทีมงานบอกว่า เชฟทำเมนูนี้มาพิเศษเพื่อแฟนๆเลยน้า  น่ารักจริง
น้องไข่ดาวเองจ้าา ถึงหนูจะชื่อน่าอร่อย แต่กินไม่ได้นาจาาา
แล้วก็ออกเดินทางไปยัง วิสาหกิจชุมชน บ้านมหาสอน หรือเรียกว่า บ้านสวนขวัญ อยู่ที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี    โอ๊วว เร็วมาก ถึงแล้วว
ก่อนอื่นเรามารู้จัก พี่ขวัญ  อิงณภัสร์ วงษ์สิทธิชัย เจ้าของสุดสวยและใจดีมากๆ คอยแนะนำและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเชิงเกษตรแบบพอเพียงแบบนี้มาหลายปีแล้ว  ต้อนรับกันด้วย ของอร่อยๆ เมนูกล้วยนาบกระทะ เมนูอร่อยที่ทำจากกล้วย มะพร้าว ผสมกับแป้งแล้วนำไปลงนาบกับกระทะร้อน และน้ำสมุนไพรหอมๆ
เอาล่ะ รองท้องเบาๆ แล้วก็แบ่งทีมตามคันรถ ร่วมกิจกรรมตามฐานต่างๆ ของทีมเราเริ่มจากทำไข่เค็มใบเตยดินสอพอง เค้าว่ากันว่า 
มาลพบุรี ต้องได้จับดินสอพอง มามหาสอน ต้องได้จับไข่ มาค่ะ เริ่มจากเตรียมไข่เป็ดไล่ทุ่ง 10ฟอง ดินสอพอง 4ขีด ใบเตย3ขีด เกลือสมุทร 1.5ขีด
นำมาโขลกให้ละเอียด เราจะจับไข่กันค่ะ ^^ แล้วนำส่วนผสมที่เตรียมไว้ แล้วมาพอกไข่ให้มิด เก็บไว้อย่างนี้ ท่องไว้เลยค่ะ 7วันทำไข่ดาวเค็ม 12 วันนำไปต้ม 6นาที จะได้ไข่เค็มยางมะตูม อู๊ยย อดใจไม่ไหวแล้ว
ต่อด้วย ความชิลล์ นั่งแช่มือและเท้าในน้ำสมุนไพร ช่วยบำบัดโรค ด้วยความร้อนของน้ำผสมกับสมุนไพรไทยพื้นบ้าน 9 ชนิด ทั้ง ทองพันชั่ง เสลดพังพอน ชุมเห็ดเทศ ไพร ตะไคร้ ใบมะขาม  ลูกมะกรูด และสมุนไพรอื่นๆที่มีอยู่ในชุมชน  แช่มือและเท้า เพียง 20 นาที น้ำร้อนๆและสมุนไพรทำให้รู้สึกผ่อนคลายสดชื่นดีด้วย
แล้วมาถึงเวลาที่รอคอย มาทำพิซซ่าเตาถ่านกันค่ะ ไม่ได้หิวเลยจริงๆ  แต่ชิมไปหลายชิ้น ฟินน์มากเลย ฐานนี้ เครื่องแน่น ชีสจัดเต็ม อร่อยหอมมากๆ
หรือจะแบบนี้ก็ได้ค่ะ 
ตบท้ายด้วย ชมการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดงกันจ้าาา
ก่อนกลับก็ไมลืมที่จะ ช๊อป ขนม แคปหมู และสมุนไพรไปเป็นของฝากคนที่บ้านกันด้วยนะคะ อุดหนุนชุมชนกันจ้า อร่อยสดใหม่ ช๊อปกันรัวๆ
แล้วก็ได้เวลากินๆๆ มื้อกลางวันเรามากันที่ ร้านอาหาร กังหันลม อิ่มอร่อยพุงกางก่อนไปเที่ยวกันต่อ
อิ่มแล้วก็ไปต่อค่ะ เราไปชม พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณวังนารายณ์ ซึ่งเป็นพระราชวังโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาที่แสดงถึงความรุ่งเรืองสูงสุดสมัยหนึ่งของเมืองละโว้ ก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในอีกยุค ยิ่งได้ฟังประวัติ ห้องต่างๆ และชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ก็ยิ่งรู้สึก ตื่นเต้นในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเยอะๆเลย

บ้านหลวงรับราชทูต หรือ บ้านวิชาเยนทร์  คือ ขุนนางที่สมเด็จพระนารายณ์โปรดปราน (ถ้าเราจำได้จากเรื่องบุพเพสันนิวาส เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ผู้รับบทคือ หลุยส์ สก๊อตต์ ค่ะ  )
สร้างขึ้นเพื่อใช้ต้อนรับคณะทูตจากประเทศฝรั่งเศสชุดแรกที่เข้ามาในกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2228 ในสมัยแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์
อีกทั้งยังเป็นบ้านพักที่เมืองลพบุรีของท้าวทองกีบม้า กับสามี เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือ หลวงสุรสาคร (คอนสแตนตินฟอลคอน) สมุหนายกชาวกรีก คนโปรดของสมเด็จพระนารายณ์ อีกด้วยคอนสแตนติน ฟอลคอน คือชื่อเดิมเมื่อครั้งท่านเข้ามารับราชการ ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “เจ้าพระยาวิชาเยนทร์” ด้วยเพราะทำความดีความชอบไว้มาก และได้รับพระราชทานที่พักอาศัยให้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของบ้านหลวงรับราชทูต จึงเป็นที่มาของชื่อบ้านวิชาเยนทร์ ในปัจจุบัน
เดินชม พร้อมกับทานขนมไทยๆแบบนี้ไปด้วย ฟินน์จัง
บ้านวิชาเยนทร์เหลือเพียงซากปรักหักพัง ซึ่งอยู่ในรั้วรอบขอบชิด มีประตูเปิด-ปิดภายในยังมองเห็นโครงสร้าง ที่แบ่งได้เป็นสามส่วนคือ ส่วนทิศตะวันตก
ส่วนกลาง และส่วนทางทิศตะวันออก
ส่วนทิศตะวันตก สันนิษฐานว่าเป็นบ้านพักของพระยาวิชาเยนทร์และท้าวทองกีบม้า เป็นกลุ่มอาคาร ได้แก่ ตึก 2 ชั้นหลังใหญ่ก่อด้วยอิฐ และอาคารชั้นเดียว แคบยาว ซุ้มประตูทางเข้าเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม
ส่วนกลาง สันนิษฐานว่าเป็นหอระฆัง และ โบสถ์ศาสนาคริสต์ ซึ่งถือเป็นโบสถ์หลังแรกของโลกที่ตกแต่งด้วยลักษณะของโบสถ์ทางพระพุทธศาสนา
ผสมผสานสถาปัตยกรรมยุโรปยุคเรเนซองส์
ส่วนทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเป็นบ้านพักรับรองเหล่าคณะทูต ประกอบด้วย กลุ่มอาคารใหญ่ 2 ชั้น มีบันไดขึ้นทางด้านหน้าเป็นรูปครึ่งวงกลม แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบยุโรป โดยเฉพาะหน้าต่างและซุ้มประตู เป็นศิลปะแบบเรอเนสซองส์