กลับมาอีกครั้งนะครับชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกคนไปยังประเทศเล็กๆในแถบอาเซียนซึ่งหลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยนักนั่นก็คือประเทศบรูไนนั่นเองครับ.
ประเทศบรูไนอาจจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของหลายๆคนเพราะว่าเป็นประเทศเล็กๆ แถมที่เที่ยวก็ไม่ค่อยมีรวมไปถึงการเดินทางในประเทศก็ลำบาก แต่สำหรับตัวผมก็อยากลองมาดูประเทศเล็กๆประเทศนี้ดูว่าต่างจากประเทศอื่นในอาเซียนมากน้อยแค่ไหน.
ก่อนอื่นเลยนะครับ เรื่องสกุลเงินที่นี่เค้าจะใช้เป็น Brunei Dollar นะครับจะตกอยู่เหรียญละประมาณ 23บาท แต่ที่นี่มันจะดีอย่างตรงที่เราสามารถใช้เงิน Singapore Dollar ได้เหมือนกัน ใช้ได้ตามปกติเลยครับ แค่ตอนทอนเค้าจะทอนเป็นเงินบรูไนมา ซึ่งอันนั้นเราสามารถเอากลับมาแลกที่ไทยได้ปกติครับตามพวกร้าน Superrich.
ที่พักผมเลือกพักที่ Qing yun guesthouse ครับ จะอยู่ในโซน Gadongซึ่งจะเป็นโซนที่มีของกินละก็ห้างล้อมรอบแต่จะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15นาทีครับ ซึ่งราคาของที่นี่ผมจ่ายไปคืนละ 30เหรียญ ก็จะประมาณ 700บาท เหตุผลที่พักที่นี่จริงๆก็คือเห็นคนรีวิวเยอะว่าเจ้าของใจดี ชอบขับรถไปส่งยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งก็จริงครับ วันที่ผมถึงสนามบินเค้าก็มารอรับเลย เจ้าของเป็นคนจีนใจดีมากๆครับ.
วิวดูพระอาทิตย์ตกแถวที่พัก (ที่บรูไนนี่จะมีแมคโดนัลด์สาขาเดียวทั่วประเทศ)
พอตกเย็นผมก็ลองไปดูตลาดกลางคืนของเค้าซึ่งก็จะคล้ายๆตลาดนัดของไทยครับ. (Gadong Night Market) คนที่นี่จะนับถือศาสนาอิสลามเกือบหมดครับ.
ของกินส่วนใหญ่ผมว่าไม่ค่อยต่างจากที่ไทยเท่าไร ก็เลยไม่ได้เป็นปัญหาอะไร.
มาถึงเรื่องการเดินทางของที่นี่ ปกติก็คนจะนิยมนั่งรถเมล์กันนะครับ ซึ่งถ้าเป็นคนต่างชาติอาจจะยากหน่อยเพราะป้ายมันไม่มีบอกอะไรเลย.
ส่วนแทกซี่ที่นี่เห็นเจ้าของที่พักผมเค้าบอกว่าทั้งประเทศมีแทกซี่แค่50คัน แล้วคือไม่สามารถเห็นข้างทางละโบกได้นะครับ เราต้องโทรจองก่อนเท่านั้น (ยกเว้นที่สนามบิน)แล้วคือแทกซี่นี่แพงมาก แต่ของผมโชคดีที่ว่าเจ้าของที่พักเข้าเมืองทุกวันผมก็เลยขอติดรถไปด้วย.
วันรุ่งขึ้นผมก็ขอติดรถเข้าเมืองไปซึ่งที่ที่ผมจะไปที่แรกจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศเลยนั่นก็คือ
Masjid Omar Ali Saifuddien ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปรูไน แถมด้านบนหลังคานี่ใช้ทองจริงๆทำ คือเห็นมาแต่ไกลเลยครับ555
แต่สิ่งที่ผมสังเกตคือนักท่องเที่ยวน้อยมากๆ คือที่เข้ามาในเมืองผมยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลยซักคน
รอบๆมัสยิดก็จะประมาณนี้ครับ ใหญ่ อลัง จริงๆ
ถ้าจะเข้าไปข้างในก็ต้องเปลี่ยนชุดก่อนครับ แต่ข้างในจะถ่ายรูปไม่ได้
หลังจากนั้นผมก็เดินต่อไปท่าเรือเพื่อขึ้นเรือไปยัง Water village
พอขากลับมาเข้าเมืองผมเดินเล่นอยู่ก็เจอฝรั่งคนนึง(น่าจะเป็นคนต่างชาติคนเดียวเลยที่ผมเห็น) ซึ่งมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันผมเลยเข้าไปชวนเค้านั่งเรีอไปดู Mangroveหรือป่าชายเลน ด้วยกันตอนเย็น (เพื่อที่จะได้แชร์ค่าเรือ)
หลังจากนั้นเย็นๆเราก็ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือใหม่ ก็เจอหลายคนเลยที่จะพาไป ซึ่งผมก็ต่อราคาได้อยู่ที่ 25เหรียญสำหรับ 2คน (ประมาณ12เหรียญหรือ 350บาทต่อคน)
2 ข้างทางก็จะมีต้นไม้ล้อมรอบ
พอเข้ามาในป่าแล้วเค้าก็จอดครับ ให้เราเอ็นจอยกับธรรมชาติ ซึ่งบรรยากาศมันดีมากครับ เงียบๆ ถ้าใครสายธรรมชาตินี่รับรองชอบแน่นอนครับ
วันต่อมา ผมก็ติดรถมากับเจ้าของที่พักเหมือนเดิมตอนเช้า แล้วผมก็เดินต่อไปยังสวนที่อยู่กลางเมืองที่ชื่อว่า Tasek Lama Recreational Park มันเหมือนเป็นที่ออกกำลังกายของคนท้องถิ่นครับ
พอไปถึงทางเข้าก็มีน้ำตกเลย อากาศดีมากๆครับ รู้สึกได้แบบมลพิษน้อยมาก.
หลังจากนั้นก็เริ่มเดินครับ จะเป็นทางเดินเข้าไปในป่า ทางก็จะประมาณนี้.
ช่วงที่ไปพอดีมีฝนตกบ้าง ทางอาจจะลื่นๆหน่อย.
ระหว่างทางก็มีน้ำตกเล็กๆบ้าง (คนนี้เป็นเพื่อนฝรั่งที่เจอเมื่อวานนะครับ)
ใช้เวลาเดินไม่นานครับ ประมาณ 1-2ชม.
ช่วงเย็นๆผมก็ไปลองกินอาหารท้องถิ่นของที่นี่ เค้าจะกินตัวที่คล้ายๆวุ้นแทนข้าวครับ รสชาติก็จะแปลกๆดี555.
พออีกวันนึงผมก็นั่งรถบัสต่อไปยังเมือง Kota Kinabalu ประเทศมาเลเซียครับ (ใช้เวลาเดินทาง 8ชม.) เป็นอันจบทริปที่ประเทศบรูไนนะครับ.
ซึ่งผมคิดว่าประเทศบรูไนก็เป็นอีกประเทศนึงที่น่ามาสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเงียบๆ คนน้อยๆ แล้วก็ชอบพวกธรรมชาติ. แล้วอีกอย่างนึงประเทศบรูไนเป็นประเทศที่ปลอดภัยมากครับ มาคนเดียวได้แบบสบายๆเลย. ก็อยากจะฝากไว้นะครับ ถ้าใครมีโอกาสก็มาลองเที่ยวที่บรูไนดูครับ รับรองได้บรรยากาศที่แตกต่างไปอีกแบบแน่นอน.
[CR] Bandar Seri Begawan ลุยเดี่ยวเที่ยวบรูไน
ประเทศบรูไนอาจจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของหลายๆคนเพราะว่าเป็นประเทศเล็กๆ แถมที่เที่ยวก็ไม่ค่อยมีรวมไปถึงการเดินทางในประเทศก็ลำบาก แต่สำหรับตัวผมก็อยากลองมาดูประเทศเล็กๆประเทศนี้ดูว่าต่างจากประเทศอื่นในอาเซียนมากน้อยแค่ไหน.
ก่อนอื่นเลยนะครับ เรื่องสกุลเงินที่นี่เค้าจะใช้เป็น Brunei Dollar นะครับจะตกอยู่เหรียญละประมาณ 23บาท แต่ที่นี่มันจะดีอย่างตรงที่เราสามารถใช้เงิน Singapore Dollar ได้เหมือนกัน ใช้ได้ตามปกติเลยครับ แค่ตอนทอนเค้าจะทอนเป็นเงินบรูไนมา ซึ่งอันนั้นเราสามารถเอากลับมาแลกที่ไทยได้ปกติครับตามพวกร้าน Superrich.
ที่พักผมเลือกพักที่ Qing yun guesthouse ครับ จะอยู่ในโซน Gadongซึ่งจะเป็นโซนที่มีของกินละก็ห้างล้อมรอบแต่จะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15นาทีครับ ซึ่งราคาของที่นี่ผมจ่ายไปคืนละ 30เหรียญ ก็จะประมาณ 700บาท เหตุผลที่พักที่นี่จริงๆก็คือเห็นคนรีวิวเยอะว่าเจ้าของใจดี ชอบขับรถไปส่งยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งก็จริงครับ วันที่ผมถึงสนามบินเค้าก็มารอรับเลย เจ้าของเป็นคนจีนใจดีมากๆครับ.
วิวดูพระอาทิตย์ตกแถวที่พัก (ที่บรูไนนี่จะมีแมคโดนัลด์สาขาเดียวทั่วประเทศ)
พอตกเย็นผมก็ลองไปดูตลาดกลางคืนของเค้าซึ่งก็จะคล้ายๆตลาดนัดของไทยครับ. (Gadong Night Market) คนที่นี่จะนับถือศาสนาอิสลามเกือบหมดครับ.
ของกินส่วนใหญ่ผมว่าไม่ค่อยต่างจากที่ไทยเท่าไร ก็เลยไม่ได้เป็นปัญหาอะไร.
มาถึงเรื่องการเดินทางของที่นี่ ปกติก็คนจะนิยมนั่งรถเมล์กันนะครับ ซึ่งถ้าเป็นคนต่างชาติอาจจะยากหน่อยเพราะป้ายมันไม่มีบอกอะไรเลย.
ส่วนแทกซี่ที่นี่เห็นเจ้าของที่พักผมเค้าบอกว่าทั้งประเทศมีแทกซี่แค่50คัน แล้วคือไม่สามารถเห็นข้างทางละโบกได้นะครับ เราต้องโทรจองก่อนเท่านั้น (ยกเว้นที่สนามบิน)แล้วคือแทกซี่นี่แพงมาก แต่ของผมโชคดีที่ว่าเจ้าของที่พักเข้าเมืองทุกวันผมก็เลยขอติดรถไปด้วย.
วันรุ่งขึ้นผมก็ขอติดรถเข้าเมืองไปซึ่งที่ที่ผมจะไปที่แรกจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศเลยนั่นก็คือ
Masjid Omar Ali Saifuddien ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปรูไน แถมด้านบนหลังคานี่ใช้ทองจริงๆทำ คือเห็นมาแต่ไกลเลยครับ555
แต่สิ่งที่ผมสังเกตคือนักท่องเที่ยวน้อยมากๆ คือที่เข้ามาในเมืองผมยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลยซักคน
รอบๆมัสยิดก็จะประมาณนี้ครับ ใหญ่ อลัง จริงๆ
ถ้าจะเข้าไปข้างในก็ต้องเปลี่ยนชุดก่อนครับ แต่ข้างในจะถ่ายรูปไม่ได้
หลังจากนั้นผมก็เดินต่อไปท่าเรือเพื่อขึ้นเรือไปยัง Water village
พอขากลับมาเข้าเมืองผมเดินเล่นอยู่ก็เจอฝรั่งคนนึง(น่าจะเป็นคนต่างชาติคนเดียวเลยที่ผมเห็น) ซึ่งมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันผมเลยเข้าไปชวนเค้านั่งเรีอไปดู Mangroveหรือป่าชายเลน ด้วยกันตอนเย็น (เพื่อที่จะได้แชร์ค่าเรือ)
หลังจากนั้นเย็นๆเราก็ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือใหม่ ก็เจอหลายคนเลยที่จะพาไป ซึ่งผมก็ต่อราคาได้อยู่ที่ 25เหรียญสำหรับ 2คน (ประมาณ12เหรียญหรือ 350บาทต่อคน)
2 ข้างทางก็จะมีต้นไม้ล้อมรอบ
พอเข้ามาในป่าแล้วเค้าก็จอดครับ ให้เราเอ็นจอยกับธรรมชาติ ซึ่งบรรยากาศมันดีมากครับ เงียบๆ ถ้าใครสายธรรมชาตินี่รับรองชอบแน่นอนครับ
วันต่อมา ผมก็ติดรถมากับเจ้าของที่พักเหมือนเดิมตอนเช้า แล้วผมก็เดินต่อไปยังสวนที่อยู่กลางเมืองที่ชื่อว่า Tasek Lama Recreational Park มันเหมือนเป็นที่ออกกำลังกายของคนท้องถิ่นครับ
พอไปถึงทางเข้าก็มีน้ำตกเลย อากาศดีมากๆครับ รู้สึกได้แบบมลพิษน้อยมาก.
หลังจากนั้นก็เริ่มเดินครับ จะเป็นทางเดินเข้าไปในป่า ทางก็จะประมาณนี้.
ช่วงที่ไปพอดีมีฝนตกบ้าง ทางอาจจะลื่นๆหน่อย.
ระหว่างทางก็มีน้ำตกเล็กๆบ้าง (คนนี้เป็นเพื่อนฝรั่งที่เจอเมื่อวานนะครับ)
ใช้เวลาเดินไม่นานครับ ประมาณ 1-2ชม.
ช่วงเย็นๆผมก็ไปลองกินอาหารท้องถิ่นของที่นี่ เค้าจะกินตัวที่คล้ายๆวุ้นแทนข้าวครับ รสชาติก็จะแปลกๆดี555.
พออีกวันนึงผมก็นั่งรถบัสต่อไปยังเมือง Kota Kinabalu ประเทศมาเลเซียครับ (ใช้เวลาเดินทาง 8ชม.) เป็นอันจบทริปที่ประเทศบรูไนนะครับ.
ซึ่งผมคิดว่าประเทศบรูไนก็เป็นอีกประเทศนึงที่น่ามาสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเงียบๆ คนน้อยๆ แล้วก็ชอบพวกธรรมชาติ. แล้วอีกอย่างนึงประเทศบรูไนเป็นประเทศที่ปลอดภัยมากครับ มาคนเดียวได้แบบสบายๆเลย. ก็อยากจะฝากไว้นะครับ ถ้าใครมีโอกาสก็มาลองเที่ยวที่บรูไนดูครับ รับรองได้บรรยากาศที่แตกต่างไปอีกแบบแน่นอน.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้