สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีเรื่องโง่ๆ ของคนที่ทำผิดพลาดซ้ำๆ มาเล่าให้ฟัง
เรื่องยาวหน่อยนะคะ มันคือความอึดอัดของเราที่ไม่สามารถระบายให้คนรอบตัวฟังได้เลย
เริ่มจากเราเคยทำผิดพลาดเมื่อปีที่แล้วค่ะ ถ้าใครยังจำได้ เราเคยตั้งกระทุ้โดนโกงแชร์จนชีวิตเป๋ไปเลย แต่มันมีเรื่องยิ่งกว่านั้นอีก เพราะหลังจากนั้นเราถูกหวยค่ะ เข้าใจคำว่าสามล้อถูกหวยไหมคะ ได้เงินมาก็ใช้หนี้ แล้วก็อยากมีธุรกิจอะไรสักอย่าง
แต่เพราะไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ สุดท้ายเราทำธุรกิจเจ๊ง ก็ทำให้เป็นหนี้อยู่ประมาณสามแสนบาท ซึ่งหนี้พวกนี้ก็มีทั้งนอกระบบที่กู้มาเพื่อหมุนในร้าน รวมถึงหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดต่างๆ เราวนกลับมาลูปเดิมอีกแล้วค่ะ
ตอนนั้นสภาพจิตใจเราแย่มากค่ะ เพราะนอกจากร้านเจ๊ง งานที่ทำอยู่ก็มีปัญหา ปัญหาที่ไม่ได้เกิดจากเรา แต่เราต้องมานั่งร้องไห้กับมันทุกวัน เราเลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เรารู้สึกว่าเรารับอะไรไม่ไหวแล้วกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
เราออกมาทำงานฟรีแลนซ์ค่ะ ดูเป็นการตัดสินใจที่บ้ามากใช่ไหมคะ แต่นั่นแหละค่ะ เราอยากทำอะไรแบบที่ไม่ต้องคิดกังวล ไม่ต้องเครียด ตอนนั้นเรารับงานฟรีแลนซ์เป็น BA ขายของในห้างค่ะ เดือนๆ นึง รายได้ประมาณสองหมื่นบาท งานหนักนะคะ แต่ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่ขายของให้ได้ตามเป้าก็พอ
เราทำแบบนั้นอยู่ประมาณเจ็ดเดือนค่ะ ใช้หนี้ไปเรื่อยๆ จ่ายเท่าที่ไหว ประหยัดเท่าที่ทำได้
เราไม่มีแฟนนะคะ เพราะตอนที่ชีวิตเราพัง เรากับแฟนเก่าเราที่ห่างกันอยู่แล้ว ก็แยกย้ายกันไป เพราะเราไม่อยากคุยกับใครอะไรทั้งนั้น เราอยากอยู่คนเดียว
นั่นแหละค่ะ เราตัวคนเดียว แล้วก็ดูแลตัวเองมาตลอด จนในที่สุด เราก็กลับมาทำงานประจำ เพราะหัวหน้าเราที่เราทำงานฟรีแลนซ์กับเขานั่นแหละชวน เงินเดือนน่ารักเชียวค่ะ 11,000 บาทถ้วน แต่ก็รวมนั่นนี่ ได้สองหมื่นเท่าเดิม เพิ่มเติมคือไกลกว่าเดิม แลกกับวันหยุด
ชีวิตเราเกือบจะดีขึ้นแล้วค่ะ จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ที่บ้านเรามีปัญหา ต้องใช้เงินประมาณหนึ่งหมื่นบาท เราก็ไม่มี เพราะหนี้สินที่เรามีก็ทำให้มีใช้แค่อยู่ได้ไปวันๆ เราก็เลยลองหาเงินทางอื่นดู หยิบยืมใครต่อใคร จนได้มาห้าพันบาท แต่มันก็ยังไม่พอกับที่ต้องจ่าย คืนนั้นเรานอนหลับไปด้วยความคิดฟุ้งซ่านมากๆ
กลางดึกเพื่อนเราโทรมาบอกว่า "คนสวย ขับรถไม่ไหว มารับหน่อย" ใช่ค่ะ เพื่อนเราเมาเละอยู่ที่ร้านประจำ ไปถึงเราดื่มกับมันไปสามสี่แก้ว แล้วพอขับกลับ เจอด่านค่ะ เจรจายังไงก็ไม่เป็นผล เป่าได้ 99 โดนค่าปรับสองหมื่นบาท
ใช่ค่ะ สองหมื่นบาท
เรากู้นอกระบบมาเพื่อจบเรื่องนั้น เท่ากับเราเป็นหนี้สองหมื่น กับเงินห้าพันบาทในมือที่ยังไม่พอจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน
วันต่อมาเราไปทำงานด้วยสภาพจิตใจเปราะบางกว่าทุกที เครียดจนหน้าชา มือชาไปหมด ก่อนที่เราจะพบว่า งานเสริมที่เราทำ มีปัญหา และเราต้องรับผิดชอบความเสียหายสี่พันกว่าบาท
ปัญหาประเดประดังจนเราวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำก่อนจะร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง เกือบครึ่งชั่วโมงที่เราฝังตัวอยู่ในนั้น แล้วพอออกมา เราเอาเงินห้าพันบาทในกระเป๋าไปใส่บัญชี เพื่อโอนเข้าเว็บพนันออนไลน์
ตอนสุดท้ายเราคงไม่ต้องบอกใช่ไหมคะว่าเป็นยังไง
..........
วันนี้เรามาทำงานด้วยสีหน้าย่ำแย่จนทุกคนทัก ลองหายืมใครต่อใครแต่ก็ไม่ได้เลย เราเป็นคนไม่มีทรัพย์สินหรือของมีค่าใดๆ เพราะทุกอย่างถูกขายและจำนำไปหมดตั้งแต่ตอนร้านเจ๊ง ส่วนตอนนี้เรามีเงิน 300 บาทอยู่กับตัว และหนี้สินท่วมหัวที่เรายังไม่รู้จะรับมืออย่างไร
__________
เราแค่อยากมาเล่าให้ฟัง ว่าทุกครั้งที่เกิดปัญหา มันมาจากความประมาทของเราทั้งนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชีวิตเราพังแบบนี้ และถ้าเรายังไม่หยุดประมาทเสียที เรื่องนี้ก็ไม่มีวันจบ
ขอกำลังใจให้เราหน่อยนะคะ วันนี้เรายังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับทุกปัญหาได้ยังไง เราคิดอยากตายไปเลยด้วยซ้ำที่ทุกอย่างมันพังแบบนี้ แต่การอดทน คือทางเลือกเดียวที่เรามี แม้เราจะยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง
__________
เราทำงานเอกสารได้ค่อนข้างดีนะคะ พิมพ์ดีดก็ค่อนข้างเร็ว ใครมีงานอะไร จ้างได้นะคะ
..........
เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะหมดวัน เราอยากรู้เหมือนกันว่าเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง T^T
ประมาทซ้ำๆ จนชีวิตพัง บทเรียนของคนไม่รู้จักโต
เรื่องยาวหน่อยนะคะ มันคือความอึดอัดของเราที่ไม่สามารถระบายให้คนรอบตัวฟังได้เลย
เริ่มจากเราเคยทำผิดพลาดเมื่อปีที่แล้วค่ะ ถ้าใครยังจำได้ เราเคยตั้งกระทุ้โดนโกงแชร์จนชีวิตเป๋ไปเลย แต่มันมีเรื่องยิ่งกว่านั้นอีก เพราะหลังจากนั้นเราถูกหวยค่ะ เข้าใจคำว่าสามล้อถูกหวยไหมคะ ได้เงินมาก็ใช้หนี้ แล้วก็อยากมีธุรกิจอะไรสักอย่าง
แต่เพราะไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ สุดท้ายเราทำธุรกิจเจ๊ง ก็ทำให้เป็นหนี้อยู่ประมาณสามแสนบาท ซึ่งหนี้พวกนี้ก็มีทั้งนอกระบบที่กู้มาเพื่อหมุนในร้าน รวมถึงหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดต่างๆ เราวนกลับมาลูปเดิมอีกแล้วค่ะ
ตอนนั้นสภาพจิตใจเราแย่มากค่ะ เพราะนอกจากร้านเจ๊ง งานที่ทำอยู่ก็มีปัญหา ปัญหาที่ไม่ได้เกิดจากเรา แต่เราต้องมานั่งร้องไห้กับมันทุกวัน เราเลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เรารู้สึกว่าเรารับอะไรไม่ไหวแล้วกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
เราออกมาทำงานฟรีแลนซ์ค่ะ ดูเป็นการตัดสินใจที่บ้ามากใช่ไหมคะ แต่นั่นแหละค่ะ เราอยากทำอะไรแบบที่ไม่ต้องคิดกังวล ไม่ต้องเครียด ตอนนั้นเรารับงานฟรีแลนซ์เป็น BA ขายของในห้างค่ะ เดือนๆ นึง รายได้ประมาณสองหมื่นบาท งานหนักนะคะ แต่ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่ขายของให้ได้ตามเป้าก็พอ
เราทำแบบนั้นอยู่ประมาณเจ็ดเดือนค่ะ ใช้หนี้ไปเรื่อยๆ จ่ายเท่าที่ไหว ประหยัดเท่าที่ทำได้
เราไม่มีแฟนนะคะ เพราะตอนที่ชีวิตเราพัง เรากับแฟนเก่าเราที่ห่างกันอยู่แล้ว ก็แยกย้ายกันไป เพราะเราไม่อยากคุยกับใครอะไรทั้งนั้น เราอยากอยู่คนเดียว
นั่นแหละค่ะ เราตัวคนเดียว แล้วก็ดูแลตัวเองมาตลอด จนในที่สุด เราก็กลับมาทำงานประจำ เพราะหัวหน้าเราที่เราทำงานฟรีแลนซ์กับเขานั่นแหละชวน เงินเดือนน่ารักเชียวค่ะ 11,000 บาทถ้วน แต่ก็รวมนั่นนี่ ได้สองหมื่นเท่าเดิม เพิ่มเติมคือไกลกว่าเดิม แลกกับวันหยุด
ชีวิตเราเกือบจะดีขึ้นแล้วค่ะ จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ที่บ้านเรามีปัญหา ต้องใช้เงินประมาณหนึ่งหมื่นบาท เราก็ไม่มี เพราะหนี้สินที่เรามีก็ทำให้มีใช้แค่อยู่ได้ไปวันๆ เราก็เลยลองหาเงินทางอื่นดู หยิบยืมใครต่อใคร จนได้มาห้าพันบาท แต่มันก็ยังไม่พอกับที่ต้องจ่าย คืนนั้นเรานอนหลับไปด้วยความคิดฟุ้งซ่านมากๆ
กลางดึกเพื่อนเราโทรมาบอกว่า "คนสวย ขับรถไม่ไหว มารับหน่อย" ใช่ค่ะ เพื่อนเราเมาเละอยู่ที่ร้านประจำ ไปถึงเราดื่มกับมันไปสามสี่แก้ว แล้วพอขับกลับ เจอด่านค่ะ เจรจายังไงก็ไม่เป็นผล เป่าได้ 99 โดนค่าปรับสองหมื่นบาท
ใช่ค่ะ สองหมื่นบาท
เรากู้นอกระบบมาเพื่อจบเรื่องนั้น เท่ากับเราเป็นหนี้สองหมื่น กับเงินห้าพันบาทในมือที่ยังไม่พอจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน
วันต่อมาเราไปทำงานด้วยสภาพจิตใจเปราะบางกว่าทุกที เครียดจนหน้าชา มือชาไปหมด ก่อนที่เราจะพบว่า งานเสริมที่เราทำ มีปัญหา และเราต้องรับผิดชอบความเสียหายสี่พันกว่าบาท
ปัญหาประเดประดังจนเราวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำก่อนจะร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง เกือบครึ่งชั่วโมงที่เราฝังตัวอยู่ในนั้น แล้วพอออกมา เราเอาเงินห้าพันบาทในกระเป๋าไปใส่บัญชี เพื่อโอนเข้าเว็บพนันออนไลน์
ตอนสุดท้ายเราคงไม่ต้องบอกใช่ไหมคะว่าเป็นยังไง
..........
วันนี้เรามาทำงานด้วยสีหน้าย่ำแย่จนทุกคนทัก ลองหายืมใครต่อใครแต่ก็ไม่ได้เลย เราเป็นคนไม่มีทรัพย์สินหรือของมีค่าใดๆ เพราะทุกอย่างถูกขายและจำนำไปหมดตั้งแต่ตอนร้านเจ๊ง ส่วนตอนนี้เรามีเงิน 300 บาทอยู่กับตัว และหนี้สินท่วมหัวที่เรายังไม่รู้จะรับมืออย่างไร
__________
เราแค่อยากมาเล่าให้ฟัง ว่าทุกครั้งที่เกิดปัญหา มันมาจากความประมาทของเราทั้งนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชีวิตเราพังแบบนี้ และถ้าเรายังไม่หยุดประมาทเสียที เรื่องนี้ก็ไม่มีวันจบ
ขอกำลังใจให้เราหน่อยนะคะ วันนี้เรายังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับทุกปัญหาได้ยังไง เราคิดอยากตายไปเลยด้วยซ้ำที่ทุกอย่างมันพังแบบนี้ แต่การอดทน คือทางเลือกเดียวที่เรามี แม้เราจะยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง
__________
เราทำงานเอกสารได้ค่อนข้างดีนะคะ พิมพ์ดีดก็ค่อนข้างเร็ว ใครมีงานอะไร จ้างได้นะคะ
..........
เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะหมดวัน เราอยากรู้เหมือนกันว่าเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง T^T