เรื่องอาจยาวนิดนึงนะครับ เริ่มต้นเลย ผมอายุ 27 เป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาหางานทำแถวๆภาคใต้ ผมมาแบบมาหางาน หาที่พักเอาข้างหน้า และผมก็ได้มาอาศัยอยู่กับพี่ที่รู้จักคนนึง ผมหาสมัครงาน 2-3 ที่ ผมก็ได้เป็นพนักงานล้างจานที่โรงแรมแห่งหนึ่งรายได้ เฉลี่ย 15,000/เดือน ก็ทำมา 2-3 เดือนก็ผ่านโปร
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อพี่คนที่ผมอาศัยอยู่ด้วยอยากได้มอเตอร์ไซค์(ปรกติพี่เขาปั่นจักรยานไปทำงานประจำ) พี่เขาไม่สามารถออกรถได้เพราะเขาไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน เขาจึงเคี่ยวเข็ญผม ตื้อผม ตื้อจนรำคาญ ผมจึงติดสอยห้อยตามไปร้านรถเพื่อแสดงให้เห็นว่า สลิปเงินเดือนพนักงานใหม่อย่างผมซึ่งมีแค่ 3 ใบ (พึ่งเข้าทำงานได้ 3 เดือน) และพนักงานพึ่งผ่านโปรอย่างผม รายได้แค่ขั้นต่ำ มันออกรถไม่ได้ผมคิดแบบนี้ แต่แล้วเอกสารก็ผ่านหมดรับรถภายใน 1 ชม. ผมหน้าชา ใจเต้นทำอะไรไม่ถูก(คนทั่วไปที่รู้เรื่องนี้ว่าผมโง่) แต่ใครไม่เป็นผมตอนนั้นคงไม่เข้าใจ ผมแค่อยากทำให้เห็นว่ามันออกไม่ได้ซึ่งผมคิดผิดมหันต์ คนได้รถหน้าชื่นตาบาน คนออกรถยิ้มเจื่อนๆ ในใจโครตเครียด ผมทำใจครับคิดว่าเขาคงมีความรับผิดชอบ
มาดูนิสัยของรุ่นพี่คนนี้นะครับ
ขี้โม้หน่อยๆ ติดเหล้า(มาก) สูบบุหรี่จัด ความเกรงใจไม่มี ดูก็รู้จากเรื่องที่กล่าวมาข้างบน
และแล้วเรื่องที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังจากได้รถมาบ่ายสามโมงของวันนั้น ตกตอนเย็นแกขับไปเที่ยวครับ แน่นอนดื่มเหล้าหนัก ช่วง 5 ทุ่มเกิดอุบัติเหตุชนรถยนต์เสียหาย และ ไถลไปชนรถมอเตอร์ไซค์ผัวเมียคู่นึงล้ม ตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์ไม่รอดครับ สภาพรถพัง(แต่พอขับได้) ตำรวจยึดรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนรถยนต์เรียกค่าเสียหาย 2 หมื่น มอเตอร์ไซค์คู่ผัวเมียเรียก 7 พัน ส่วนรุ่นพี่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล กลับมาบ้านอาการเลือดออกหูและจมูก สุดท้ายญาติพี่น้องเขาหามส่งโรงพยาบาล เพราะอาการกำเริบ หมอตรวจปรากฎว่าเลือดคลั่งในสมองต้องผ่าตัดด่วนอาการ 50/50 ผมก็ได้แต่เครียด
สุดท้ายแกรอดตายครับ อยู่โรงพยาบาลเกือบเดือน ออกมาก็กินเหล้าอีหรอบเดิม ญาติพี่น้องก็ด่าบ้างแต่ก็กินด้วยกัน ผมก็ ok รอดมาคงตั้งใจทำงานส่งงวดนะ อย่าทำให้ผมต้องลำบาก
ลืมเล่าไปครับผมก็มีแฟน และย้ายออกจากบ้านเช่าแกตั้งแต่ตอนเกิดอุบัติเหตุแล้วครับ และหลังจากนั่นผมก็เลิกคบไปเลย แต่ก็มีแวะเวียนมาดูรถบ้าง เขาก็ทำงานส่งงวดรถมาเรื่อยครับ
แต่แล้วในที่สุดผมก็ซวยซ้ำสอง เมื่อบริษัทรถโทรมาทวงค่างวดรถ ผมก็เออออไป ผมจึงโทรไปถามญาติรุ่นพี่คนนั้น(ผมไม่คุยกับเขาเลยเพราะผมโกรธมาก) น้องเขาก็บอกว่าเดือนนี้มันช็อต เลยไม่ได้ส่ง ผมก็เอ้าผมก็ซวยดิทีนี้ เขาว่าสิ้นเดือนละกัน ผมมารู้ความจริงจากพี่ที่ทำงานที่เดียวกับเขาว่ารุ่นพี่ตัวต้นเหตุถูกไล่ออกเพราะติดเหล้าหนักเมาไปทำงาน ทำงานไม่ได้เรื่อง เจ้าของบริษัททนมานานแล้ว สุดท้ายไล่ออก ตอนนี้กลับบ้านนอกกำลังจะบวช
ผมจึงเสนอทางออกให้พี่ๆน้องๆเขาว่าให้ส่งต่อนะ ถ้าไม่ส่งต่อ ต้องซ่อมให้ได้สภาพเดิม แล้วผมจะบากหน้าไปคุยกับร้านรถเพื่อขอคืนรถ แต่พวกเขาทำท่าทีเหมือนจะไม่ส่งต่อ และ ไม่ซ่อม คือปัดความรับผิดชอบทุกอย่าง
สุดท้ายพี่น้องเขาตัดสินใจส่งต่อครับ แต่ขอเป็นสิ้นเดือนและขอจ่ายงวดเดียวก่อน ส่วนบริษัทรถเขาก็ทวงถามผมตามปรกติ
จนล่าสุดผมได้คุยกับบริษัทที่ทวงค่างวดผมแล้วผมทนไม่ไหว เพราะผมไม่เคยเป็นหนี้ ไม่เคยมีใครต้องมาทวงหนี้ผม ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ผมจึงโทรไปหาพี่น้องเขาว่าผมจะรับผิดชอบเอง
ผมจะขายมอเตอร์ไซค์คันที่ผมขับอยู่เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหา คำตอบที่ได้คือ พี่น้องเขาบอกว่าเขาหวงรถมาก(ตัวต้นเหตุ)ขอถามเขาก่อน หวงแต่ไม่มีเงินจ่ายเนี่ยนะ ผมนี่แบบสะอึกเลยโครตเห็นแก้ตัว เรื่องยังไม่จบครับ วันข้างหน้าจะจบแบบไหนไม่รู้ผมก็ได้แต่เครียดไปวันๆ
แฟนผมตอนรู้เรื่องแรกๆก็โกรธครับ แต่หลังๆมาก็เข้าใจว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนี้ เขาจะจ่ายค่าซ่อมให้เพื่อจบเรื่องเอารถไปคืนร้าน แต่ผมไม่ยอมให้เขาต้องมาเสียเงินเพราะคนพวกนี้ เรามีแพลนจะเก็บตังไปหมั้นเธอในปีหน้า ที่ผมใช้คำว่าเราเพราะไม่ใช่ผมเก็บเงินไปหมั้นเธอครับ เราเก็บเงินร่วมกันเพื่อที่จะหมั้นเธอ แต่เกมอาจจะพลิกก็ได้ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ คนพวกนี้เขาเคยเครียดบ้างหรือเปล่า เคยคิดสงสารคนที่ตนเองทำเขาเดือดร้อนบ้างมั้ย
ผมอยากปรึกษาครับ ผมพอมีทางออกอย่างไรบ้าง
คำแนะนำที่คนรอบข้างบอก
ไปทวงรถคืนยอมแตกหักไปเลย
(ไม่ได้ครับผมยังต้องไปธุระแถวนั่นบ่อย และ สำคัญผมไม่อยากขัดแย้งหรือมีเรื่องราวไม่ดี)
เหนื่อยครับตอนนี้ ถ้าไม่มีเรื่องนี้ชีวิตผมคงไม่ต้องเครียด งานผมก็ไปได้ดี ติดแต่เรื่อง****นี้เรื่องเดียว
ปรึกษาครับผมเครียดกับปัญหาหนี้สินที่เราไม่ได้ก่อ คบคนผิดจริงๆ
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อพี่คนที่ผมอาศัยอยู่ด้วยอยากได้มอเตอร์ไซค์(ปรกติพี่เขาปั่นจักรยานไปทำงานประจำ) พี่เขาไม่สามารถออกรถได้เพราะเขาไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน เขาจึงเคี่ยวเข็ญผม ตื้อผม ตื้อจนรำคาญ ผมจึงติดสอยห้อยตามไปร้านรถเพื่อแสดงให้เห็นว่า สลิปเงินเดือนพนักงานใหม่อย่างผมซึ่งมีแค่ 3 ใบ (พึ่งเข้าทำงานได้ 3 เดือน) และพนักงานพึ่งผ่านโปรอย่างผม รายได้แค่ขั้นต่ำ มันออกรถไม่ได้ผมคิดแบบนี้ แต่แล้วเอกสารก็ผ่านหมดรับรถภายใน 1 ชม. ผมหน้าชา ใจเต้นทำอะไรไม่ถูก(คนทั่วไปที่รู้เรื่องนี้ว่าผมโง่) แต่ใครไม่เป็นผมตอนนั้นคงไม่เข้าใจ ผมแค่อยากทำให้เห็นว่ามันออกไม่ได้ซึ่งผมคิดผิดมหันต์ คนได้รถหน้าชื่นตาบาน คนออกรถยิ้มเจื่อนๆ ในใจโครตเครียด ผมทำใจครับคิดว่าเขาคงมีความรับผิดชอบ
มาดูนิสัยของรุ่นพี่คนนี้นะครับ
ขี้โม้หน่อยๆ ติดเหล้า(มาก) สูบบุหรี่จัด ความเกรงใจไม่มี ดูก็รู้จากเรื่องที่กล่าวมาข้างบน
และแล้วเรื่องที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังจากได้รถมาบ่ายสามโมงของวันนั้น ตกตอนเย็นแกขับไปเที่ยวครับ แน่นอนดื่มเหล้าหนัก ช่วง 5 ทุ่มเกิดอุบัติเหตุชนรถยนต์เสียหาย และ ไถลไปชนรถมอเตอร์ไซค์ผัวเมียคู่นึงล้ม ตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์ไม่รอดครับ สภาพรถพัง(แต่พอขับได้) ตำรวจยึดรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนรถยนต์เรียกค่าเสียหาย 2 หมื่น มอเตอร์ไซค์คู่ผัวเมียเรียก 7 พัน ส่วนรุ่นพี่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล กลับมาบ้านอาการเลือดออกหูและจมูก สุดท้ายญาติพี่น้องเขาหามส่งโรงพยาบาล เพราะอาการกำเริบ หมอตรวจปรากฎว่าเลือดคลั่งในสมองต้องผ่าตัดด่วนอาการ 50/50 ผมก็ได้แต่เครียด
สุดท้ายแกรอดตายครับ อยู่โรงพยาบาลเกือบเดือน ออกมาก็กินเหล้าอีหรอบเดิม ญาติพี่น้องก็ด่าบ้างแต่ก็กินด้วยกัน ผมก็ ok รอดมาคงตั้งใจทำงานส่งงวดนะ อย่าทำให้ผมต้องลำบาก
ลืมเล่าไปครับผมก็มีแฟน และย้ายออกจากบ้านเช่าแกตั้งแต่ตอนเกิดอุบัติเหตุแล้วครับ และหลังจากนั่นผมก็เลิกคบไปเลย แต่ก็มีแวะเวียนมาดูรถบ้าง เขาก็ทำงานส่งงวดรถมาเรื่อยครับ
แต่แล้วในที่สุดผมก็ซวยซ้ำสอง เมื่อบริษัทรถโทรมาทวงค่างวดรถ ผมก็เออออไป ผมจึงโทรไปถามญาติรุ่นพี่คนนั้น(ผมไม่คุยกับเขาเลยเพราะผมโกรธมาก) น้องเขาก็บอกว่าเดือนนี้มันช็อต เลยไม่ได้ส่ง ผมก็เอ้าผมก็ซวยดิทีนี้ เขาว่าสิ้นเดือนละกัน ผมมารู้ความจริงจากพี่ที่ทำงานที่เดียวกับเขาว่ารุ่นพี่ตัวต้นเหตุถูกไล่ออกเพราะติดเหล้าหนักเมาไปทำงาน ทำงานไม่ได้เรื่อง เจ้าของบริษัททนมานานแล้ว สุดท้ายไล่ออก ตอนนี้กลับบ้านนอกกำลังจะบวช
ผมจึงเสนอทางออกให้พี่ๆน้องๆเขาว่าให้ส่งต่อนะ ถ้าไม่ส่งต่อ ต้องซ่อมให้ได้สภาพเดิม แล้วผมจะบากหน้าไปคุยกับร้านรถเพื่อขอคืนรถ แต่พวกเขาทำท่าทีเหมือนจะไม่ส่งต่อ และ ไม่ซ่อม คือปัดความรับผิดชอบทุกอย่าง
สุดท้ายพี่น้องเขาตัดสินใจส่งต่อครับ แต่ขอเป็นสิ้นเดือนและขอจ่ายงวดเดียวก่อน ส่วนบริษัทรถเขาก็ทวงถามผมตามปรกติ
จนล่าสุดผมได้คุยกับบริษัทที่ทวงค่างวดผมแล้วผมทนไม่ไหว เพราะผมไม่เคยเป็นหนี้ ไม่เคยมีใครต้องมาทวงหนี้ผม ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ผมจึงโทรไปหาพี่น้องเขาว่าผมจะรับผิดชอบเอง
ผมจะขายมอเตอร์ไซค์คันที่ผมขับอยู่เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหา คำตอบที่ได้คือ พี่น้องเขาบอกว่าเขาหวงรถมาก(ตัวต้นเหตุ)ขอถามเขาก่อน หวงแต่ไม่มีเงินจ่ายเนี่ยนะ ผมนี่แบบสะอึกเลยโครตเห็นแก้ตัว เรื่องยังไม่จบครับ วันข้างหน้าจะจบแบบไหนไม่รู้ผมก็ได้แต่เครียดไปวันๆ
แฟนผมตอนรู้เรื่องแรกๆก็โกรธครับ แต่หลังๆมาก็เข้าใจว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนี้ เขาจะจ่ายค่าซ่อมให้เพื่อจบเรื่องเอารถไปคืนร้าน แต่ผมไม่ยอมให้เขาต้องมาเสียเงินเพราะคนพวกนี้ เรามีแพลนจะเก็บตังไปหมั้นเธอในปีหน้า ที่ผมใช้คำว่าเราเพราะไม่ใช่ผมเก็บเงินไปหมั้นเธอครับ เราเก็บเงินร่วมกันเพื่อที่จะหมั้นเธอ แต่เกมอาจจะพลิกก็ได้ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ คนพวกนี้เขาเคยเครียดบ้างหรือเปล่า เคยคิดสงสารคนที่ตนเองทำเขาเดือดร้อนบ้างมั้ย
ผมอยากปรึกษาครับ ผมพอมีทางออกอย่างไรบ้าง
คำแนะนำที่คนรอบข้างบอก
ไปทวงรถคืนยอมแตกหักไปเลย
(ไม่ได้ครับผมยังต้องไปธุระแถวนั่นบ่อย และ สำคัญผมไม่อยากขัดแย้งหรือมีเรื่องราวไม่ดี)
เหนื่อยครับตอนนี้ ถ้าไม่มีเรื่องนี้ชีวิตผมคงไม่ต้องเครียด งานผมก็ไปได้ดี ติดแต่เรื่อง****นี้เรื่องเดียว