ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเขียนกระทู้นี้ดีมั้ย แต่วันนี้เรารู้สึกที่อยากจะมาแชร์ ประสบการณ์และเรื่องราวของเรากับโรคซึมเศร้าให้เพื่อนๆได้ฟัง
เราเป็นคนนึงที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นคนปกติคนนึง ที่ส่วนมากคนรอบข้างที่รู้จักเราต่างก็มองว่าเรามีชีวิตที่ดีและพร้อมไปหมดทุกอย่าง
เริ่มจากสังคมที่ทำงานมองว่าเราเป็นคนเก่ง เราเรียนต่อก็ประสบความสำเร็จเร็วกว่าคนอื่นๆ มีผลงานต่างๆมากมาย มีครอบครัวที่ดีคอยซับพอร์ต ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินทอง และมีแฟนที่รักและดูแลเราดีมาตลอด และกับเพื่อนสมัยเรียนก็มองว่าเราเป็นคนเก่งที่เรียนจบแล้วมีงานที่ดีทำทันที มีเงินเดือนใช้ก่อนเพื่อนๆในรุ่น ซื้อรถเป็นของตัวเอง อยากได้อะไรก็ได้ตามใจตัวเอง ทุกคนมักจะคอยพูดกับเราเสมอว่าเราเกิดมาโชคดีที่มีขีวิตที่ดีแบบนี้ แต่ใครจะรู้บาง ว่าจริงๆแล้วเราไม่เคยมีความสุขกับชีวิตเราเลย เรายอมรับและรู้ตัวว่าเราเป็นที่กดดันตัวเองเวลาทำอะไรก็จะทำให้สุดและดีที่สุด และต้องการจะมีชีวิตที่ดี ต้องการที่จะก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยคิดที่จะให้ใครมาอิจฉา เราเพียงแค่อยากมีชีวิตที่ทีความสุขที่สุด และเมือไหร่ที่มันไม่เป็นไปตามหวัง เราก็เสียใจมากเช่นกัน เรามีความคิดกดดันตัวเองแบบนี้ มานานมาก เราไม่เคยรู้ตัวเอง จนกลายเป็นความเครียดสะสม ที่รู้ว่าตัวเองเครียดเพราะเกิดจาก ช่วงปีที่แล้วเรากินไม่ได้นอนไม่หลับ จนเป็นโรคกะเพาะ ไปพบหมอ คุณหมอบอกเราเป็นโรคเครียดลงกระเพาะให้เราพักผ่อนเยอะๆ
จนเมื่อต้นปีนี้เรามีอาการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่ฟังคนรอบข้างเล่ามาว่า เรามีการแยกตัวออกจากสังคมมากขึ้น มีอารมณ์ฉุนเฉียว ไม่พูดเยอะเหมือนแต่ก่อนพอมีใครถามว่าเราเป็นอะไร เราก็จะเลือกที่จะไม่ตอบ หรือบอกไปว่าไม่ได้เป็นอะไร และที่ชัดที่สุด คือเราน้ำหนักลดจนผอมลงมากเราไม่รู้ตัวเองเลย ว่าสภาพตอนนั้นเราเหมือนศพมาก จากคนน้ำหนัก57กิโล ลดลงมาเหลือ52กิโล ทุกอย่างเกิดขึ้นภายใน2เดือน เรารู้ตัวเองแค่ว่าเรานอนหลับยากขึ้น และนอนแปปเดียว มีสะดุ้งตื่นบ่อย มีการย้ำคิดย้ำทำ ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลและเวลาที่เราร้องไห้หรือเราโกรธเราควบคุมตัวเองไม่ได้ และชอบที่จะหยิกมือหยิกแขนตัวเอง เราเริ่มรู้สึกแย่กับตัวเอง เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ อาการทุกอย่างที่เราเล่ามาไม่เคยมีใครรู้นอกจากแฟนและพี่สาว เรามีอาการแบบนี้
จนเราตัดสินใจไปหาหมอ เรื่องที่เราปวดหัวนอนไม่หลับ พอคุณหมอได้ซักประวัติ ตุณหมอก็ส่งเราไปแผนกเฉพาะทางจิตเวชเลยค่ะ ตอนนั้นในใจมันต่อต้านมาก เราไม่คิดเลยว่าเราจะต้องพิ่งจิตแพทย์ พอได้คุยกับกับคุณหมอจิตแพทย์แล้ว คุณหมอก็บอกว่าเรามีโรคเครียดมีภาวะการปรับตัวผิดปกติและมีภาวะโรคซึมเศร้า เราไม่ยอมรับว่าเราเป็น เราต่อต้านมันยิ่งขึ้นไปอีก คุณหมอสั่งยามาให้ทานเราไม่เคยทานถึงแม้คุณหมอบอกว่ามันจะช่วยให้เราได้นอนหลับได้และช่วยปรับอารมณ์เราให้ได้ดีกว่านี้ เรากลับมาจากหาหมอเราใช้ชีวิตเหมือนเดิมค่ะ ไม่ทานยาไม่คิดจะรักษาต่อคิดแต่ว่าปวดหัวก้กินยาแก้ปวดไปเดี๋ยวก็หาย จนวนนึงที่เรารู้สึกว่าเราปวดหัวหนักมากไม่รุ้ว่าคิดเรื่องอะไรวนไปวนมา มันหนักหัวมากจริงๆจนคิดว่า เราคุมตัวเองไม่ได้ เราตั้งใจจะกินยาให้หลับคิดแค่ว่าขอแค่ให้หลับจะตื่นหรือไม่ตื่นไม่รู้แต่ขอให้ในตอนนั้นเราได้พักก็พอ นาทีที่เรากินยาพาราไปเรื่อยๆเรากินทีล่ะเม็ด กินไปกี่เม็ดก็ไม่รู้กินยังไงก็ไม่หายปวดหัว แต่กลายเป็นเราแน่นหน้าอกจุกคอ คลื่นไส้ ทรมานในร่างกายไปหมด นาทีนั้นเราไม่คิดถึงใครเลยนอกจากตัวเอง เราไม่ได้บอกลาใครเลย จนผ่านไปกี่ชั่วโมงหรือกี่นาทีไม่รู้แฟนเรากลับมาเจอเรากำลังนอนปวดท้องทรมานอยู่ แฟนเราพอจะรู้ว่าเรามีอาการซึมเศร้า และเค้าคงเห็นขวดยาที่เรากิน เค้าเลยรีบล้วงคอเราทำให้เราอ้วกออกมา เราเห็นแฟนเราร้องไห้ที่เราทำแบบนี้ เรารู้สึกแย่ที่มันเป็นแบบนี้ แฟนเรารีบโทรหาพี่สาวเราบอกว่าเราทำอะไรลงไป พี่สาวโทรหาเราและให้ย่าคุยกับเราโดยที่ไม่ได้บอกว่าเราทำอะไรลงไปบอกแต่ว่าเราไม่สบายแค่ว่าเราไม่สบายให้โทรมาให้กำลังใจเราหน่อย นาทีนั้นคือมันมีความรู้สึกผิดเข้ามาว่าเราทำแบบนั้นไปได้ยังไงทำไมเราถึงลืมคนที่รักเรา เรารู้สึกแย่กับตัวเองจากเหตุการณ์นั้นมาก เราตัดสินใจกลับไปหาหมอตามนัด เพราะเราไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว และทุกวันนี้เรากินยารักษาตามที่หมอสั่ง
ก่อนหน้านี้ที่เราต่อต้านมัน คงเป็นเพราะความกลัวและความอายที่เราเป็นโรคนี้ เราไม่กล้าบอกใครว่าเราหาหมอจิตเวช กลัวคนอื่นจะมองว่าเราบ้าเราจิตไม่ปกติ แต่ตอนนี้เราไม่กลัวแล้ว เรากลัวแค่ว่าเราจะไม่ได้อยู๋กับคนที่เรารักมากกว่า อยากจะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่เป็นโรคนี้ทุกคนให้สู้ๆ และรักตัวเองให้มากๆชีวิตของเรามีค่า ไม่มีใครที่เกิดมาและไม่มีใครข้างๆแต่อยู่ที่จะเลือกมองว่าเราจะมองเห็นเค้ามั้ย
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ มันก็เหมือนเป็นกระทู้ระบายความรู้สึกของเรา และเราจะผ่านมันไปให้ได้ค่ะ✌🏻
เรื่องราวของฉันกับ"โรคซึมเศร้า"
เราเป็นคนนึงที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นคนปกติคนนึง ที่ส่วนมากคนรอบข้างที่รู้จักเราต่างก็มองว่าเรามีชีวิตที่ดีและพร้อมไปหมดทุกอย่าง
เริ่มจากสังคมที่ทำงานมองว่าเราเป็นคนเก่ง เราเรียนต่อก็ประสบความสำเร็จเร็วกว่าคนอื่นๆ มีผลงานต่างๆมากมาย มีครอบครัวที่ดีคอยซับพอร์ต ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินทอง และมีแฟนที่รักและดูแลเราดีมาตลอด และกับเพื่อนสมัยเรียนก็มองว่าเราเป็นคนเก่งที่เรียนจบแล้วมีงานที่ดีทำทันที มีเงินเดือนใช้ก่อนเพื่อนๆในรุ่น ซื้อรถเป็นของตัวเอง อยากได้อะไรก็ได้ตามใจตัวเอง ทุกคนมักจะคอยพูดกับเราเสมอว่าเราเกิดมาโชคดีที่มีขีวิตที่ดีแบบนี้ แต่ใครจะรู้บาง ว่าจริงๆแล้วเราไม่เคยมีความสุขกับชีวิตเราเลย เรายอมรับและรู้ตัวว่าเราเป็นที่กดดันตัวเองเวลาทำอะไรก็จะทำให้สุดและดีที่สุด และต้องการจะมีชีวิตที่ดี ต้องการที่จะก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยคิดที่จะให้ใครมาอิจฉา เราเพียงแค่อยากมีชีวิตที่ทีความสุขที่สุด และเมือไหร่ที่มันไม่เป็นไปตามหวัง เราก็เสียใจมากเช่นกัน เรามีความคิดกดดันตัวเองแบบนี้ มานานมาก เราไม่เคยรู้ตัวเอง จนกลายเป็นความเครียดสะสม ที่รู้ว่าตัวเองเครียดเพราะเกิดจาก ช่วงปีที่แล้วเรากินไม่ได้นอนไม่หลับ จนเป็นโรคกะเพาะ ไปพบหมอ คุณหมอบอกเราเป็นโรคเครียดลงกระเพาะให้เราพักผ่อนเยอะๆ
จนเมื่อต้นปีนี้เรามีอาการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่ฟังคนรอบข้างเล่ามาว่า เรามีการแยกตัวออกจากสังคมมากขึ้น มีอารมณ์ฉุนเฉียว ไม่พูดเยอะเหมือนแต่ก่อนพอมีใครถามว่าเราเป็นอะไร เราก็จะเลือกที่จะไม่ตอบ หรือบอกไปว่าไม่ได้เป็นอะไร และที่ชัดที่สุด คือเราน้ำหนักลดจนผอมลงมากเราไม่รู้ตัวเองเลย ว่าสภาพตอนนั้นเราเหมือนศพมาก จากคนน้ำหนัก57กิโล ลดลงมาเหลือ52กิโล ทุกอย่างเกิดขึ้นภายใน2เดือน เรารู้ตัวเองแค่ว่าเรานอนหลับยากขึ้น และนอนแปปเดียว มีสะดุ้งตื่นบ่อย มีการย้ำคิดย้ำทำ ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลและเวลาที่เราร้องไห้หรือเราโกรธเราควบคุมตัวเองไม่ได้ และชอบที่จะหยิกมือหยิกแขนตัวเอง เราเริ่มรู้สึกแย่กับตัวเอง เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ อาการทุกอย่างที่เราเล่ามาไม่เคยมีใครรู้นอกจากแฟนและพี่สาว เรามีอาการแบบนี้
จนเราตัดสินใจไปหาหมอ เรื่องที่เราปวดหัวนอนไม่หลับ พอคุณหมอได้ซักประวัติ ตุณหมอก็ส่งเราไปแผนกเฉพาะทางจิตเวชเลยค่ะ ตอนนั้นในใจมันต่อต้านมาก เราไม่คิดเลยว่าเราจะต้องพิ่งจิตแพทย์ พอได้คุยกับกับคุณหมอจิตแพทย์แล้ว คุณหมอก็บอกว่าเรามีโรคเครียดมีภาวะการปรับตัวผิดปกติและมีภาวะโรคซึมเศร้า เราไม่ยอมรับว่าเราเป็น เราต่อต้านมันยิ่งขึ้นไปอีก คุณหมอสั่งยามาให้ทานเราไม่เคยทานถึงแม้คุณหมอบอกว่ามันจะช่วยให้เราได้นอนหลับได้และช่วยปรับอารมณ์เราให้ได้ดีกว่านี้ เรากลับมาจากหาหมอเราใช้ชีวิตเหมือนเดิมค่ะ ไม่ทานยาไม่คิดจะรักษาต่อคิดแต่ว่าปวดหัวก้กินยาแก้ปวดไปเดี๋ยวก็หาย จนวนนึงที่เรารู้สึกว่าเราปวดหัวหนักมากไม่รุ้ว่าคิดเรื่องอะไรวนไปวนมา มันหนักหัวมากจริงๆจนคิดว่า เราคุมตัวเองไม่ได้ เราตั้งใจจะกินยาให้หลับคิดแค่ว่าขอแค่ให้หลับจะตื่นหรือไม่ตื่นไม่รู้แต่ขอให้ในตอนนั้นเราได้พักก็พอ นาทีที่เรากินยาพาราไปเรื่อยๆเรากินทีล่ะเม็ด กินไปกี่เม็ดก็ไม่รู้กินยังไงก็ไม่หายปวดหัว แต่กลายเป็นเราแน่นหน้าอกจุกคอ คลื่นไส้ ทรมานในร่างกายไปหมด นาทีนั้นเราไม่คิดถึงใครเลยนอกจากตัวเอง เราไม่ได้บอกลาใครเลย จนผ่านไปกี่ชั่วโมงหรือกี่นาทีไม่รู้แฟนเรากลับมาเจอเรากำลังนอนปวดท้องทรมานอยู่ แฟนเราพอจะรู้ว่าเรามีอาการซึมเศร้า และเค้าคงเห็นขวดยาที่เรากิน เค้าเลยรีบล้วงคอเราทำให้เราอ้วกออกมา เราเห็นแฟนเราร้องไห้ที่เราทำแบบนี้ เรารู้สึกแย่ที่มันเป็นแบบนี้ แฟนเรารีบโทรหาพี่สาวเราบอกว่าเราทำอะไรลงไป พี่สาวโทรหาเราและให้ย่าคุยกับเราโดยที่ไม่ได้บอกว่าเราทำอะไรลงไปบอกแต่ว่าเราไม่สบายแค่ว่าเราไม่สบายให้โทรมาให้กำลังใจเราหน่อย นาทีนั้นคือมันมีความรู้สึกผิดเข้ามาว่าเราทำแบบนั้นไปได้ยังไงทำไมเราถึงลืมคนที่รักเรา เรารู้สึกแย่กับตัวเองจากเหตุการณ์นั้นมาก เราตัดสินใจกลับไปหาหมอตามนัด เพราะเราไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว และทุกวันนี้เรากินยารักษาตามที่หมอสั่ง
ก่อนหน้านี้ที่เราต่อต้านมัน คงเป็นเพราะความกลัวและความอายที่เราเป็นโรคนี้ เราไม่กล้าบอกใครว่าเราหาหมอจิตเวช กลัวคนอื่นจะมองว่าเราบ้าเราจิตไม่ปกติ แต่ตอนนี้เราไม่กลัวแล้ว เรากลัวแค่ว่าเราจะไม่ได้อยู๋กับคนที่เรารักมากกว่า อยากจะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่เป็นโรคนี้ทุกคนให้สู้ๆ และรักตัวเองให้มากๆชีวิตของเรามีค่า ไม่มีใครที่เกิดมาและไม่มีใครข้างๆแต่อยู่ที่จะเลือกมองว่าเราจะมองเห็นเค้ามั้ย
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ มันก็เหมือนเป็นกระทู้ระบายความรู้สึกของเรา และเราจะผ่านมันไปให้ได้ค่ะ✌🏻