ต่อดีไหม ประกันสังคม สำหรับคนที่อยากออกมาล่าฝัน

เพี้ยนขำหนักมากต่อดีไหม ประกันสังคม สำหรับคนที่อยากออกมาล่าฝัน
เพี้ยนลอยน้องชาย ของผมอายุประมาณ 28 ปี ทำงานเป็นพนักงานบัญชีในบริษัทแห่งหนึ่ง มาเกือบ 5 ปี ด้วยความที่เป็นเด็กสมัยใหม่ อยากเป็นนายตัวเอง เลยลาออกจากงานประจำเพื่อมาลองทำธุรกิจเล็กๆ เปิดร้าน ขายโมเดล ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ตอนเป็นพนักงานประจำเขามีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ แล้วลาออกมาแบบนี้ จะทำอย่างไรดีกับสิทธิ์ประกันสังคมที่เคยมี จะต่อ ดีไหม หรือ ไม่ต่อดี
นี่พี่เพี้ยนเองวันนี้ทาง K Expert เลยมานำเสนอสิ่งที่ได้จากการต่อประกันสังคม สำหรับผู้ที่เคยมีสิทธ์ประกันสังคมในกรณีนี้มาลองให้พิจารณาดู เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะต่อดีไหม
เพี้ยนเผือกก่อนอื่นขอพาไปซื้อกระเบื้องก่อนนะครับ “ปูพื้น” นั้นเอง ประกันสังคมที่มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเรามีกันคือ มาตรา 33 ที่เราทั่วไปจ่ายกันทุกเดือน 5% ของเงินเดือน (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท) หรือจ่าย สูงสุดไม่เกิน 750 บาทนั้น เงินส่วนนี้จะให้สิทธิประโยชน์ 3 ด้าน
   ด้านที่ 1 (ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต และ คลอดบุตร)
   ด้านที่ 2 (เงินสงเคราะห์บุตร และ เงินชราภาพ “บำเหน็จ หรือ บำนาญ”)
   ด้านที่ 3 (เลิกจ้างแบบไม่มีความผิด และ ลาออก)
เพี้ยนชอบในกรณีที่เราออกจากงานมา และไม่กลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือน การต่อสิทธิประกันสังคม จะต่อใน มาตรา 39 โดยต้องจ่ายเงินสมทบ เดือนละ 432 บาทต่อเดือน ( 9% ของเงินเดือน 4,800 บาท) โดยต้องเคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และสมัครมาตรา 39 แล้วออกจากงานมาไม่เกิน 6 เดือน ด้วยครับ จะได้สิทธิประโยชน์เหลือเพียง 2 ด้านคือ
   ด้านที่ 1 (ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต และ คลอดบุตร)
   ด้านที่ 2 (เงินสงเคราะห์บุตร และ เงินชราภาพ “บำเหน็จ หรือ บำนาญ”)
เพี้ยนสวัสดีหลังจากปูพื้นแล้วเรียบร้อยผมขอสรุปเป็นข้อดีสำหรับในกรณีนี้ สำหรับการต่อประกันสังคมมาตรา39 เพื่อประกอบในการตัดสินใจว่าจะต่อดีไหม เป็น 5 ข้อนะครับ

1. สิทธิรักษาพยาบาล ถ้าตอนนี้เราพอใจในสิทธิรักษาพยาบาลของประกันสังคมอยู่ ก็แนะนำให้ต่อประกันสังคม มาตรา 39 เลยครับ เช่นบางคนได้สิทธิ ประกันสังคมโรงพยาบาลท็อปๆ ก็ต่อเพื่อรักษาสิทธินี้ได้เลยครับ บางคนอาจมองว่าถ้าไม่ต่อประกันสังคมก็ได้สิทธิบัตรทองอยู่ดี ซึ่งสิทธิบัตรทอง รัฐจะระบุสถานพยาบาลให้ตามทะเบียนบ้าน ดังนั้นถ้าจะเทียบกัน ให้ลองศึกษารายละเอียดของบัตรทองอีกทีครับ และเปรียบเทียบระหว่างโรงพยาบาลที่ได้สิทธิว่าเราเหมาะหรือพอใจกับโรงพยาบาลไหนมากกว่ากัน

2. เงินทดแทนการขาดรายได้ ในกรณีทำงานไม่ได้จากการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย จนทุพพลภาพ ประกันสังคมมีเงินทดแทนการขาดรายได้ส่วนนี้ให้ด้วยนะครับ

3. ค่าทำศพ ในกรณีเสียชีวิต มีค่าทำศพ 40,000 บาท + เงินสงเคราะห์ ให้ด้วยนะครับ เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 2 เดือน หรือ 6 เดือนแล้วแต่กรณี ประเด็นนี้เจ้าตัวอาจไม่ได้รับโดยตรง แต่ก็เป็นประโยชน์แก่ญาติพี่น้องของเราครับ

4. ค่าคลอดบุตร และค่าสงเคราะห์บุตร เป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่ทราบว่ามี ค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายไม่จำกัดจำนวนครั้ง เบิกได้ 13,000 บาทต่อครั้ง และมีเงินสงเคราะห์บุตร 600 บาทต่อคนต่อเดือน คราวละไม่เกิน 3 คน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี อีกด้วยครับ

5. นับอายุประกันสังคมต่อเนื่องให้ ในกรณีของน้องชายผมถ้าวันข้างหน้าอยากกลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือนอีก ซึ่งได้สิทธิประกันสังคม มาตรา 33 อีกครั้ง ช่วงที่เราต่อ มาตรา 39 จะถูกนับจำนวนเดือนในการสมทบ ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์ชราภาพสูงขึ้น
เพี้ยนเขินสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ได้รับอย่างละเอียดสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th ครับ สุดท้ายสำหรับท่านที่กำลังคิดว่าจะต่อประกันสังคมดีไหมก็ลองพิจารณาผลประโยชน์ต่างๆ ที่ได้ดูครับ ถ้าคิดว่าการจ่ายเงินเดือนละ 432 บาทได้สิทธิที่เป็นประโยชน์กับเรา ก็ต่อเลย หรือบางคนมีสวัสดิการอื่นของตนเองที่ดีอยู่ก็จะเลือกไม่ต่อ ก็ตามความเหมาะสมครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะต่อประกันสังคมดีไหมครับ
เพี้ยนขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่