สวัสดีค่ะ สาวกเบียงโคเนรี่ทุกคน

วันนี้ถือเป็นวันครอบรอบ 13 ปี ที่แฟนยูเว่นึกถึงทีไรก็รู้สึกเจ็บปวด

เพราะเมื่อวันที่ 9 กันยายน ปี 2006 เป็นวันที่ยูเวนตุสได้ลงแข่งขันแมตช์แรกในเซเรีย บี เจอกับสโมสร ริมินี่

หลังจากถูกปรับตกชั้น จากความผิดในคดีอื้อฉาว "กัลโช่โปลี" หรือ คดีล็อกตัวผู้ตัดสิน

ภายใต้การคุมทัพของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ที่มารับงานเผือกร้อนอาสาเป็นผู้จัดการทีมให้ 

เขาก็ได้พาม้าลายผงาดคว้าแชมป์ เซเรีย บี ได้ถ้วย คาเด็ตติ (Cadetti) มาครอบครอง

(ซึ่งรองแชมป์และอันดับ 3 ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนค่ะ คือ นาโปลี และ เจนัว นั่นเอง)

และเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด เซเรีย อา ได้สำเร็จ ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ฤดูกาล

แม้จะต้องโดนตัดแต้มถึง 9 แต้มก็ตาม (ยื่นอุทธรณ์ขอลดจากที่โดนตัด 30 แต้ม มาเหลือ 9 แต้ม)

   

ประธานสโมสร และบอร์ดบริหาร

          ในช่วงเวลานั้นเรียกได้ว่าเปลี่ยนบอร์ดบริหารใหม่ยกชุดเลยค่ะ โดยผู้ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานสโมสร และประธานบอร์ดบริหารของยูเวนตุส คือ โจวานนี่ โคบอลลี่ จิยี่ (รับตำแหน่งต่อจาก ฟรานโซ่ กรันเด้ สตีเฟ่น) โดยมีลูกน้องคนสนิทสองคน ทำงานร่วมกันเป็นสามทหารเสือ คนแรก คือ ฌอง-โคล้ด บล็องก์ ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) และอีกคนคือ อเลสซิโอ เซ็คโค่ (อดีตผู้ช่วยของ ลูเซียโน่ มอจจี้) ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกีฬา (Director of Sport)

ประธานสโมสร "โจวานนี่ โคบอลลี่ จิยี่" 

+ + +

ผู้จัดการทั่วไป "ฌอง-โคล้ด บล็องก์"

+ + +

ผู้อำนวยการกีฬา "อเลสซิโอ เซ็คโค่"

ผู้จัดการทีม

          ผู้จัดการทีมไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนค่ะ เพราะเค้าคือ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ตำนานและอดีตกัปตันทีมของยูเว่ในช่วงก่อนยุค 2000 นี่เองค่ะ นอกจากจะหล่อ และฝีเท้าเก่งมาก ๆ แล้ว ยังเป็นคนที่จิตใจดีและกตัญญูมาก ๆ ด้วย พอรู้ว่ายูเว่ถูกปรับตกชั้น น้าเด้ของเราก็ไม่รีรอ รับอาสาเข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของม้าลายตัวน้อย ๆ นี้ในทันทีทันใด 

          แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่เดส์ชองส์ไม่ได้อยู่คุมทีมจนจบฤดูกาล เขาได้ตัดสินใจลาออกในช่วงท้ายซีซั่นหลังจบเกมที่ยูเว่เปิดบ้านเอาชนะมานโตว่า เนื่องจากเขามีปัญหากับบอร์ดบริหารของสโมสร และมีความเห็นที่ไม่ตรงกันหลายอย่าง ซึ่งคนที่มารับช่วงต่อดูแลทีมในระยะเวลาสั้น ๆ แทนเดส์ชองส์ คือ จิอันคาร์โล คอร์ราดินี่ ค่ะ

          :: ยังไงก็ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ น้าเดเด้ ที่มาช่วยทีมในตอนนั้น ถ้าเบื่อคุมทีมตราไก่ในทีมชาติแล้ว อยากลองกลับมาคุมสโมสรอย่างยูเว่อีกครั้งมั้ยคะ หนูไม่ติดนะ แถมบอร์ดบริหารยุคนี้ก็ใจดีมากด้วย ไม่มีปัญหากันอย่างในอดีตแน่นอนค่ะ ฟันธง ^^/

นักเตะ 

          นี่คือโฉมหน้าหนุ่มหล่อของเราในฤดูกาลนั้นค่ะ แต่เป็นแค่บางส่วนนะ เพราะในรูปนี้ขาดนักเตะสำคัญ ๆ อีกหลายคนเลย ยูเวนตินี่พอคุ้นหน้าคุ้นตาใครบ้างมั้ยคะ อิอิ >.<

          จากในรูปก็จะมีทั้งนักเตะเก่าจากยุคการคุมทีมของคาเปลโล่ ที่ต้องนับถือในความรักที่มีต่อสโมสรของพวกเขาและยอมอยู่กับทีมต่อ และนักเตะใหม่หลังจากที่โดนกัลโช่โปลีแล้ว คละ ๆ กันค่ะ

          โดยนักเตะเก่าที่อยู่ช่วยทีมต่อ และไม่ทอดทิ้งหญิงชราที่กำลังล้มลุกคลุกคลานทีมนี้ไปไหน มีทั้งหมด 13 คน ค่ะ ประกอบด้วย : บุฟฟ่อน , บิรินเดลลี่ , คิเอลลินี่ , โควัช (คนน้อง) , เดล ปิเอโร่ , เนดเวด , บัลซาเร็ตติ , คาโมราเนซี่ , เทรเซเกต์ , จานนิเคดด้า , ซาลาเยต้า , เซบีน่า , และ มาร์คิซิโอ้ นอกจากนี้ ในฤดูกาล 2006/07 ยังมีการดันเด็กดาวรุ่ง 1 คน จากชุดเยาวชนขึ้นมาเล่นกับยูเว่ชุดใหญ่ด้วย เขาคือ เซบาสเตียน โจวินโก้ ลูกหม้ออีกคนของสโมสรค่ะ 

          ** แก้ไขจาก 14 คน เป็น 13 คน เพราะ เปสซ็อตโต้ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของสโมสรหลังจบคัมปิโอนาโต้ 2005/06

          ส่วนนักเตะที่ย้ายไปค้าแข้งกับทีมอื่น หลัก ๆ มีประมาณนี้ ค่ะ : วิเอร่า , เอเมอร์สัน , ซลาตัน , คริสซิโต้ , มูตู , ซามบร็อตต้า , บลาซี่ , ตูราม , โอลิเวร่า , และ คันนาวาโร่

          :: ซึ่งคู่กองหลังที่ชั้นรักมากที่สุดไปคู่เลยจ่ะ ฮัมเพลงแป๊ป ทำมายยยยยถึงทำกับชั้นได้ (T^T) คนนึงไปมาดริด อีกคนไปบาร์ซ่า ส่วนแบ็คซ้ายที่ชอบอย่างซามบร็อตต้า นางก็ไปบาร์ซ่าเช่นกัน เจ็บกว่านี้มีอีกไหม แต่ที่เจ็บยิ่งกว่า คือการที่เสีย ตูราม กับ ซามบร็อตต้า ไป แต่ดันได้ บูมซง กับ เด เชเย่ เข้ามาแทน มันคืออะไรคะ ความเท่าเทียมกันอยู่ตรงไหน 555555 | แต่ช่างมันเถอะ อดีตก็คืออดีต ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไป โฟกัสกับปัจจุบันดีกว่า แค่ตอนนั้น อาเล่ เทร เนดเวด และ พี่จี้ ไม่ย้ายออกชั้นก็ดีใจมาก ๆ ละ 

บทสัมภาษณ์จากนักเตะบางส่วน | ที่รักทั้ง 4 คนของเก๊าเอง >.<

"เซเรีย บี เป็นฉากหนึ่งที่โผล่ขึ้นมา และผมจะระลึกถึงมันเสมอ ผมจำได้ถึงตอนเดินก้าวลงสู่สนามที่ ริมินี่ กับการได้กลิ่นป๊อปคอร์น, กลิ่นขนมปังแผ่น และกลิ่นไส้กรอก มันสวยงามมาก ตอนนี้ผมสามารถบอกแบบนั้นได้เลย ในช่วงเวลานั้นมันยากมาก"

- อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ -

"กัลโช่โปลี? นักเตะทุกคนจำต้องเลือกโชคชะตาของเขาว่าจะอยู่หรือไป การอยู่ต่อหมายความว่าเราต้องเริ่มต้นเซเรีย บี ด้วยการถูกหัก 16 คะแนน ในช่วงเวลานั้นผมรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อ ยูเว่ เราตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือทีม และเพื่อเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่"

- ดาวิด เทรเซเกต์ -

"เมื่อมองย้อนกลับไปผมพอใจมากที่ได้เผชิญหน้ากับประสบการณ์นั้น เพราะเราได้ความเคารพ ไม่เพียงในฐานะนักเตะ แต่ยังในฐานะคนๆ หนึ่ง และนี่เป็นสิ่งสวยงาม เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าของเรา ไม่ใช่แค่แฟนบอลของเรา แต่ยังคนอื่นด้วย พวกเขาบอกกันว่าให้ดูนักเตะที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกลงเล่นในสนามของเซเรีย บี เราเล่นเพื่อ ยูเว่ และไม่สนใจเรื่องอื่นเลย เมื่อคุณสวมเสื้อตัวนี้ คุณเพียงต้องต่อสู้เท่านั้น"

- พาเวล เนดเวด -

"ในปี 2006 หลังกัลโช่โปลี หลายสโมสรยักษ์ใหญ่ติดต่อผมเข้ามา แต่ผมตัดสินใจอยู่ ยูเว่ ต่อไปเพื่อแสดงความกตัญญู ฟุตบอลไม่เป็นเพียงเรื่องธุรกิจ มันยังเป็นเรื่องของความรู้สึกอีกด้วย"

- จานลุยจิ บุฟฟ่อน -

:: ทั้ง 4 คนสัมดีมากค่ะ กินใจมาก น่ารักที่สุด เลิฟ ๆ เลย ❤️  |  ขอบคุณที่มาจาก เพจ กัลโช่ คลับ ค่ะ 

ภาพเหตุการณ์ในอดีต

เปิดตัวด้วยคนแรก เทร แฟนเก่าชั้นเอง หารูปดี ๆ หล่อ ๆ ของนางไม่เคยได้เลย

เซิร์ชกี่ที่ก็เจอแต่รูปแหกปาก อ้าปากกว้าง เป็นซิกเนเจอร์หลังจากทำประตูได้

+ + +

คิงคองสมัยยังเอ๊าะ หนวดแหนดยังไม่มี ส่วนคนข้างหลังไม่ต้องสืบ บูมซง ชัวร์ป้าป

+ + +

พี่จี้ แมตช์ดวลกับนาโปลี ในเซเรีย บี

+ + +

อาเล่ นี่ช่างหล่อจริง ๆ เล้ย ไม่ไหวจะหลง >////<

+ + +

เนดเวด กับ คาโมราเนซี่ คู่หูปีกสะท้านสะเทือนพิภพ อวยยศโดยอิชั้นเองค่ะ อิอิ

+ + +

โมเมนต์ เนดเวด x เดล ❤️ กรี๊ดดดดดด แม่จ๋า นุชอบ นุจะเอา นุรักพวกเค้า  

+ + +

มาร์คิออนนี่ ตอนดวลกับผู้เล่นของสโมสรอาเรสโซ่ ค่ะ

+ + +

เซบีน่า กระโดดโขกบอล ขณะดวลกับผู้เล่นจากสโมสรโมเดน่า ค่ะ

+ + +

ท่านรองเนดเวดกับความขาวพิฆาตสาวหน้าเงือกอย่างอิชั้น ขอตัวไปเช็ดเลือดกำเดาแป๊ปนะคะ

+ + +

บูมซง กับ พี่จี้ เฉลิมฉลองที่ได้เลื่อนชั้นสู่เซเรีย อา อย่างเป็นที่แน่นอนแล้ว หลังจากเอาชนะอาเรสโซ่ได้

 

+ + +

หนุ่ม ๆ แชะภาพกับถ้วยคาเด็ตติ ค่ะ แม้นัดสุดท้ายจะแพ้สเปเซียก็เถอะ