5 ปริศนาคดีดังที่ยังไขไม่ได้

แม้จะมีเบาะแสมากมายและพยานที่เห็นเหตุการณ์ แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถปิดคดีเหล่านี้ได้แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม ทิ้งไว้เพียงปริศนาและการรอคอยของครอบครัวที่ไม่มีวันสิ้นสุดเท่านั้น
 
1. เท้าปริศนาที่บริติชโคลัมเบีย

ในช่วงปี 2007 มีเท้ามนุษย์ที่เน่าเปื่อยหลายเท้าลอยขึ้นมาติดบนชายฝั่งของบริติชโคลัมเบีย ซึ่งชิ้นส่วนเท้าที่พบมักจะสวมใส่รองเท้าวิ่งหรือรองเท้าเดินทางไกลอยู่เสมอ และสถานที่ที่มักจะพบชิ้นส่วนอวัยวะมักจะอยู่ที่ชายฝั่งทะเลเซลิช ใกล้กับแวนคูเวอร์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนและสามารถระบุตัวบุคคลได้ 6 คน จากชิ้นส่วนเท้าทั้งหมด 8 เท้า ส่วนที่เหลืออีก 2 ชิ้นนั้นยังคงเป็นปริศนา
มีทฤษฏีหลายอย่างเกี่ยวกับการค้นพบในครั้งนี้ ส่วนใหญ่คาดเดาว่ามีศพที่เน่าเปื่อยอยู่ในน้ำ แต่รองเท้ายังคงรักษาสภาพเท้าไว้ได้เป็นอย่างดีและดึงแยกเท้าออกจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมโยงระหว่างเท้าที่พบและผู้ป่วยโรคซึมเศร้า จึงสันนิษฐานว่าพวกเขากระโดดจากสะพานในบริเวณไม่ไกลจากนั้นเพื่อฆ่าตัวตาย 
ในขณะที่บางทฤษฏีเชื่อว่าเป็นศพที่ยังหลงเหลือจากเหตุการณ์สึนามิในปี 2004 แต่ตำรวจกลับระบุว่ารองเท้าที่พบนั้นเป็นสินค้าที่วางขายในบริติชโคลัมเบียไม่ใช่ในเอเชีย ดังนั้นทฤษฏีนี้จึงตกไป แต่ก็ไม่มีคำตอบที่แน่นอนว่าเท้าเหล่านี้มาจากไหน และยังมีการค้นพบเท้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 และด้วยการพบเจอเฉพาะส่วนเท้าจึงทำให้การสืบสวนการฆาตกรรมไม่สามารถเป็นไปได้
 

2. การฆาตกรรมโหดของครอบครัว Al-Hilli 

ในวันที่ 5 กันยายน 2012 ฆาตกรได้ยิงสังหารคน 4 คนใกล้กับบริเวณเทือกเขาแอลป์ของประเทศฝรั่งเศส ฆาตกรใช้ลานจอดรถเล็กๆ ที่ปลายถนนแห่งหนึ่งเป็นที่ลงมือ เหยื่อ 3 คนแรกเป็นสมาชิกของครอบครัว Al-Hilli ได้แก่ Saad อายุ 50 ปี, ภรรยาของเขา Iqbal อายุ 47 ปี และแม่สามี Suhaila al-Allaf อายุ 74 ปี นอกจากนี้ยังพบศพอีกหนึ่งรายซึ่งเป็นของนักปั่นจักรยานท้องถิ่นชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Sylvain Mollier อีกด้วย

มีนักปั่นจักรยานรายหนึ่งพบศพที่ถูกฆาตกรรมหลังจากเห็นลูกสาววัย 7 ขวบของครอบครัว Al-Hilli เดินโซเซไปรอบลานจอดรถก่อนจะล้มลง ฆาตกรยิงเด็กสาวที่หัวไหล่ก่อนจะใช้ปืนสั้นฟาดเธอซ้ำ ส่วนน้องสาววัย 4 ขวบของเธอรอดชีวิตจากการซ่อนอยู่ใต้กระโปรงของผู้เป็นแม่ เจ้าหน้าที่พบเธอหลายชั่วโมงต่อมา แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บทางกายแต่ก็บอบช้ำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

ในตอนต้น ตำรวจสงสัยในตัวพี่ชายที่ห่างเหินจากครอบครัวที่ชื่อ Zaid Al-Hilli ว่าอาจจะทำการฆาตกรรมเนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติของบิดา แต่ก็ไม่ได้ทำการจับกุมเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ มีการคาดเดาว่า Saad อาจมีความเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับซัดดัม ฮุสเซน และภรรยาของเขาก็มีอดีตสามีลับๆ ในอเมริกาซึ่งเสียชีวิตในวันเดียวกันกับเธอ นอกจากนี้ Saad ยังมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อน ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการถูกฆาตกรรมอีกด้วย
 

3. การหายไปของ Amy Lynn Bradley

ในวันที่ 24 มีนาคม 1998 บนเรือสำราญที่เดินทางจากอารูบาไปยังคูราเซา Amy Lynn Bradley วัย 23 ปี ออกจากห้องในยามเช้าตรู่เพื่อออกไปสูบบุหรี่ ในขณะที่เรือกำลังจะเทียบท่า พ่อของ Amy เห็นเธอนอนหลับอยู่ในห้องของครอบครัวตอนเวลา 5.30 น. และเมื่อทั้งครอบครัวตื่นขึ้นตอน 6.00 น. Amy ก็หายตัวไปแล้ว เธอออกจากห้องไปโดยเท้าเปล่าและหยิบแต่บุหรี่และไฟแช็คไปเท่านั้น 

ในขณะที่ทั้งครอบครัวทำการค้นหา Amy ผู้จัดการเรือก็ปฏิเสธที่จะหยุดผู้โดยสารคนอื่นๆ ไม่ให้ขึ้นฝั่ง และยังปฏิเสธที่จะประกาศให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ รับรู้ถึงการหายไปของ Amy อีกด้วย มีการแจ้งว่าลูกเรือได้มีปฎิสัมพันธ์กับ Amy ที่ไนท์คลับบนเรือ และแสดงความสนใจในตัวเธอ ซึ่งน่าสงสัยเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ไม่เคยพบศพ Amy และเมื่อ FBI ทำการสืบสวนเรื่องราวของเธอและครอบครัว พวกเขาก็ไม่สามารถดำเนินการสอบสวนต่อไปได้เนื่องจากเขตอำนาจศาลระหว่างประเทศ แต่ FBI ก็ได้เบาะแสที่น่าเชื่อถือหลายอย่างจากผู้คนที่ระบุรอยสักของเธอได้อย่างถูกต้อง มีพยานให้การว่ามีคนจับเธอไปขายที่ซ่องในคูราเซา แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์คำกล่าวอ้างได้

มีนักต้มตุ๋นรายหนึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นอดีตหน่วยซีล และอ้างว่ารู้ที่อยู่ของ Amy นักต้มตุ๋นรายนี้ได้ทำการหลอกลวงเงินจากครอบครัว Bradley ไปมากกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ  จนกระทั่งถูกกระชากหน้ากากและถูกดำเนินคดีในที่สุด  มีเว็บไซต์ผู้ใหญ่รายนึงได้ส่งอีเมลไปยังพ่อแม่ของ Amy ซึ่งเป็นรูปของหญิงสาวรายหนึ่งที่มีหน้าตาคล้าย Amy และกล่าวเป็นนัยๆ ว่าหญิงสาวในรูปถูกบังคับถ่ายภาพอย่างไม่เต็มใจ และในปี 2005 ก็มีคนอ้างว่าเห็น Amy ในบาร์บาโดส แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบตัว Amy แต่อย่างใด

 
4. การลักพาตัวของ David Sneddon

David Sneddon มิชชันนารีของลัทธิมอร์มอน ที่ได้เรียนรู้ภาษาจีนและเดินทางไปท่องเที่ยวในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน David มีอายุ 24 ปีตอนที่หายไปในปี 2004 เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของจีนยืนยันว่าเขาได้ตกลงไปในหุบเขาและจมน้ำเสียชีวิต แต่ไม่เคยมีการพบศพของเขา พ่อแม่ของ David จึงเดินทางไปยังประเทศจีน และพบกับพยานที่น่าเชื่อถือซึ่งเล่าว่าพวกเขาได้พูดคุยกับ David หลังจากที่ David เดินผ่านหุบเขาไป ก็มีการพบเห็นเขาใกล้กับชายแดนจีน - พม่า

แม้เวลาจะผ่านมานานหลาย 10 ปี ครอบครัวก็ยังไม่เชื่อว่า David เสียชีวิตไปแล้ว ในเดือนกันยายน 2016 Choi Sung-yong หัวหน้าสมาคมที่สมาชิกในครอบครัวถูกลักพาตัวแห่งเกาหลีใต้ กล่าวว่าเขามีข้อมูลที่อ้างว่า David อาศัยอยู่ในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้เขายังแต่งงานกับหญิงสาวชาวเกาหลี มีลูก 2 คน และเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอีกด้วย Choi กล่าวว่าอดีตผู้นำ Kim Jong-il i ลักพาตัวเขามาเพื่อให้สอนภาษาอังกฤษให้กับบุตรชาย Kim Jong-un และเนื่องจาก David เก่งภาษาเกาหลี เขาจึงได้รับการทาบทามจากหญิงสาวชาวเกาหลีในประเทศจีน ให้สอนภาษาเกาหลีให้กับลูกๆ ของเธออีกด้วย

เกาหลีเหนือมีประวัติเสียในการลักพาตัวชาวต่างชาติบ่อยครั้ง ซึ่งรวมทั้งคู่รักชาวญี่ปุ่นที่ถูกบังคับให้อยู่ในเกาหลีเหนือเพื่อสอนภาษาญี่ปุ่นรวมทั้งวัฒนธรรมให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ในปี 2016 กระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาการลักพาตัว David อย่างแข็งกร้าวอีกด้วย

 
5. การลักพาตัวพี่น้อง Beaumont 

การหายตัวไปจากชายหาดแอดิเลดของเด็กๆ ชาวออสเตรเลียสามคนที่เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อน ยังคงสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนในฐานะเหตุการณ์ที่หลอนที่สุดในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย และคดีนี้ก็เปลี่ยนแปลงทัศนคติเกี่ยวกับความปลอดภัยส่วนบุคคลและความปลอดภัยของเด็ก ให้แก่เมืองที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความไร้กังวลมาก่อน

ในวันที่ 26 มกราคม 1966 Jane, Arnna และ Grant Beaumont นั่งรถบัสไปยังชายหาดเกลนเนลก์ที่อยู่ไม่ไกล และพวกเขาเคยไปมาแล้วก่อนเกิดเหตุร้ายขึ้น พยานเห็นว่าเด็กๆ เดินทางมากับชายอายุ 30 ปลายๆ และเด็กๆ ก็ดูจะสบายใจที่จะอยู่กับชายผู้นั้น จึงไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอะไร ระหว่างนั้นพี่สาวคนโตได้ทำการซื้ออาหารด้วยธนบัตร แต่แม่ของเด็กๆ กล่าวว่าเธอให้เหรียญกับเด็กๆ ไปเท่านั้นไม่ใช่ธนบัตร แปลว่าต้องมีคนให้เงินกับเด็กๆ พยานกล่าวว่าเห็นเด็กๆ เป็นครั้งสุดท้ายตอนเที่ยง และกำลังเดินมุ่งหน้ากลับบ้านก่อนจะหายตัวไป และการหายไปของพวกเขาก็สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ 
แม้ตำรวจจะได้รับเบาะแสมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา และพยายามจะเชื่อมโยงการหายไปของเด็กๆ กับพวกมีประวัติใคร่เด็ก แต่ก็ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด ในปี 2018 ตำรวจได้รับเบาะแสใหม่ และทำการขุดค้นบริเวณสถานที่ก่อสร้างเพื่อหาร่างของเด็ก แต่ก็พบเพียงโครงกระดูกของสัตว์เท่านั้นจึงต้องยกเลิกการขุดค้นไปในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: http://www.crossboxs.com/posts/5ปริศนาคดีดัง-ที่ยังไขไม่ได้
Cr.ranker
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่