ผมมีโอกาสไปงานเปิดนิทรรศการศิลปะ ที่เป็นการจัดแสดงงานร่วมกันของศิลปินคู่พี่น้องที่อยู่ในวงการศิลปะ โดยศิลปินผู้พี่คือรองศาสตราจารย์ทินกร กาษรสุวรรณ และส่วนศิลปินผู้น้องคือผู้ช่วยศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณ โดยพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก คุณชูฤทธิ์ จิตวีระ ผู้จัดการฝ่ายกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ คุณชัยวัฒน์ นันทิรุจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกาแพค จำกัด มาร่วมเป็นประธานในพิธีนิทรรศการฯ และในพิธีเปิดยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ศิลปินเจ้าของผลงาน กลิ่นสี และกาวแป้ง มาร่วมพูดคุยแสดงความยินดีกับศิลปินพี่น้องทั้งสองท่านนี้ด้วย เมื่อวันพุธที่ 4 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ที่หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์

 

ผมขออนุญาตให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนก่อน โดยผมเรียบเรียงมาสูจิบัตรของงานนี้

รองศาสตราจารย์ทินกร กาษรสุวรรณ และผู้ช่วยศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณ ศิลปินสองพี่น้องนี้ต้องนับว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในงานด้านศิลปะ โดยรองศาสตราจารย์ทินกรเชี่ยวชาญด้านงานจิตรกรรมและภาพพิมพ์ ส่วนผู้ช่วยศาสตราจารย์สยุมพรเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งทั้งสองท่านได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในวงการศิลปะและแวดวงวิชาการ เพราะท่านทั้งสองเป็นทั้งอาจารย์ ผู้บริหาร ผู้ให้ความรู้ อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการนำงานศิลปะไปใช้ประโยชน์และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคมมาโดยตลอด

รองศาสตราจารย์ทินกร กาษรสุวรรณ ศิลปินผู้พี่ได้สร้างสรรค์และจัดแสดงงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังส่งผลงานเข้าประกวดและได้รับรางวัลจากหลายเวทีสำคัญทั้งระดับชาติและนานาชาติ ปัจจุบันท่านได้สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมและภาพพิมพ์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีแนวคิดและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เนื้อหาจากธรรมชาติ ความเป็นชนบทและวิถีชีวิตต่างๆ โดยสัญลักษณ์การแสดงออกแต่ช่วงจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ประสบการณ์ อารมณ์ความรู้สึก และช่วงวัยของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

สำหรับผู้ช่วยศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณเป็นศิลปินผู้น้อง เน้นการสร้างสรรค์ผลงานด้านงานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา (เซรามิค) มีผลงานที่จัดแสดงและได้รับรางวัลจากหลายเวทีทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ท่านเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและรางวัลดีเด่นจากการประกวดการแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ รวมทั้งมีผลงานสร้างสรรค์กับศิลปินนานาชาติมากมาย โดยมีผลงานจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะประเทศเกาหลีใต้ จีน ตูนิเซีย และตุรกี ฯลฯ

 

คุณชูฤทธิ์ จิตวีระ ผู้จัดการฝ่ายกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)

คุณชัยวัฒน์ นันทิรุจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกาแพค จำกัด

ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร

ศิลปินผู้พี่ รองศาสตราจารย์ทินกร กาษรสุวรรณ

“จากเส้นทางชีวิตศิลปินจิตรกรรมและภาพพิมพ์ คู่ขนาดกับการเป็นผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาความรู้ด้านศิลปะ ให้แก่นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ทำให้ชีวิตไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีและเป็นประโยชน์ยิ่งๆ ขึ้นไป การเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทั้งระยะใกล้และไกล ตลอดทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน”

ศิลปินผู้น้อง ผู้ช่วยศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณ

“จากเส้นทางชีวิตศิลปินด้านเซรามิค คู่ขนานกับการเป็นผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาความรู้ด้านการปั้นให้แก่นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ทำให้ชีวิตเคยหยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ สนุกที่จะเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง การเดินทางทั้งใกล้และไกลเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานตลอดมา”

@@@@@@

ภาพบรรยากาศในพิธีเปิดนิทรรศการ

 

ว่าแล้วก็ลองตามไปชมผลงานบางส่วนที่ผมถ่ายภาพมาให้ท่านดูกันครับ สำหรับตัวผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะ และไม่ได้เรียนจบมาโดยตรงทางด้านศิลปะแต่อย่างใด ผมเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความสุขทุกครั้งเมื่อได้เสพงานศิลปะ สำหรับงานนิทรรศการศิลปะ “จุดนัดพบ...ที่ไม่ได้นัดหมาย” นี้ ผมไปเดินชมแล้วต้องขอบอกว่า ผลงานภาพจิตรกรรมของศิลปินผู้พี่นั้นสวยและงดงาม รับชมแล้วสร้างจินตนาการที่ล้ำลึก ตัวผมชอบที่สุดน่าจะเป็นภาพควายดอกไม้ที่ผมเอามาเป็นภาพเปิดกระทู้นี้ ผมชมแล้วต้องขอบอกเลยว่า บรรดาต้นตระกูลควายทุกสายพันธุ์มันต้องขอบคุณอาจารย์ทินกรแน่ๆ ครับ ที่ทำให้มันดูสวยน่ารัก ต่างไปจากภาพจำที่ฝังลึกของคนไทยที่เหยียดหยามมันโดยตลอด ผมช่วยพูดแทนควายให้ก็ได้ว่า “ควายของอาจารย์ทินกรน่าร๊ากอ่ะ”

จริงๆ แล้วผลงานจิตรกรรมของอาจารย์ทินกรที่จัดแสดงอยู่ในงานนิทรรศการนี้มีอีกหลายภาพมากเลยครับ อย่างเช่นภาพเกาะตะปู ที่พังงา อาจารย์วาดเป็นเกาะตะปูที่ห่อหุ้มด้วยดอกไม้สีสันสดใสมากมาย ดูแล้วน่าประทับใจมากครับ ส่วนผลงานประติมากรรมที่เป็นงานปั้นเซรามิคของอาจารย์สยุมพรนั้น ผมคิดว่าตัวชิ้นงานมันมีแรงดึงดูดให้เราต้องเข้าไปดูใกล้ๆ ดูแล้วพิจารณาถึงเนื้อแท้ที่เป็นเนื้อในของผลงานแต่ละชิ้น แต่ละรูปทรงดูเหมือนเคลื่อนไหวเป็นอิสระอย่างงดงาม ชวนให้จินตนาการไปถึงสิ่งต่างๆ มากมาย ผมลองเอาหน้าจ่อเข้าไปดูใกล้ๆ ชิ้นงานแล้ว ผมต้องคิดถึงคำของนักปราชญ์ที่บอกว่า “ให้พิจารณาถึงเนื้อใน” มองเพื่อค้นหาเนื้อแท้แห่งสัจธรรมในการก่อร่างก่อกำเนิด ส่วนที่ยิบย่อยนั้นประสานกันอย่างทรงพลังและมีความหมาย ผมคิดประมาณนี้เลยครับ ซึ่งอาจจะดูเว่อร์ไปสักนิด แต่ว่าผมคิดอย่างนั้นจริงๆ ครับ

สำหรับงานศิลปะนั้น  ส่วนใครจะมองว่าสวยหรือไม่สวยตรงไหน? งามหรือบิดเบี้ยวตรงไหน? ก็คงต้องแล้วแต่จินตนาการและประสบการณ์ของท่านด้วย เอาเป็นว่าท่านคงต้องไปตามชมกันเองครับ สำหรับงานนิทรรศการศิลปะ “MEETING POINT” จุดนับพบ...ที่ไม่ได้นัดหมาย จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 30 กันยายน 2562 ที่หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ (ติดกับป้อมพระสุเมรุ) งานนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมฟรี ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. หยุดวันอังคารและวันนักขัตฤกษ์ ตามไปชมกันเยอะๆ นะครับ

[/le