บทความตามใจฉัน “Game of Consoles 16” Prologue

ในช่วงปลายยุค 1980 ถึงกลางยุค 1990 ในวงการเกมนั้น เริ่มมีบริษัทอื่น ๆ กลับเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดนี้มากขึ้น

ทำให้การแข่งขันในตลาดเกมคอนโซลเพิ่มความรุนแรงมากจนต่อมาถูกเรียกว่าเป็นยุค Consoles War


โดยในสงครามนี้หากมองให้ลึกลงไป

มันคือสงครามแย่งชิงทรัพยากร โดยจะขออธิบายเปรียบเทียบดังนี้

สมมุติว่าบริษัทเครื่องเกมคอนโซลแต่ละบริษัทเป็นประเทศต่าง ๆ ซึ่งต้องการที่จะครองตลาดผู้ผลิตเครื่องบินรบอันดับหนึ่งในโลก

ในการผลิตเครื่องบินนั้นแต่ละประเทศจะเลือกใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ตามที่เห็นว่าเหมาะสม

ในการสร้างเครื่องบินรบเพื่อแย่งชิงคำสั่งซื้อและสร้างฐานลูกค้าในแต่ละประเทศ

เครื่องบินรบที่ว่าก็คือเครื่องเกมคอนโซลนั้นเอง

แต่นั้นก็แค่เครื่องเปล่า

สิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งในการตัดสินใจสั่งซื้อคืออาวุธต่าง ๆ ที่สามารถติดตั้งได้

อาวุธต่าง ๆ เหล่านั้นก็คือเกมนั้นเอง


ผู้ผลิตอาวุธนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม

1. หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ผลิตอาวุธป้อนให้กับเครื่องบินรบของตน เทียบได้กับ Inhouse Developer

2. บริษัทผู้ผลิตอาวุธเอกชนที่สามารถผลิตอาวุธที่ใช้ได้กับเครื่องบินรบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทุกฝ่ายก็ได้

ซึ่งก็คือบริษัทผู้พัฒนาเกม third party นั้นเอง

การที่จะทำให้บริษัทผู้ผลิตอาวุธเอกชนเหล่านี้มาผลิตอาวุธให้นั้นมีหลายวิธี

ไม่ว่าเป็นการเจรจาชักจูง, ยื่นสิทธิ์พิเศษให้

บางครั้งบริษัทเหล่านี้ก็จะมาเสนอตัวผลิตอาวุธให้เองเนื่องด้วยเทคโนโลยีของเครื่องบินตรงตามความต้องการของบริษัท,

เครื่องบินมีการใช้งานอย่างแพร่หลายหรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ 


เมื่อมีพร้อมทั้งเครื่องบินและอาวุธ แต่ละประเทศก็จะโฆษณาและเสนอขายเครื่องบินและอาวุธเหล่านั้นในตลาด

หากเครื่องบินและอาวุธเหล่านั้นมีประสิทธิ์ภาพตรงตามความต้องการในราคาที่จ่ายได้

ประเทศผู้ซื้อก็จะยืนคำสั่งซื้อเข้ามา ประเทศผู้ผลิตและบริษัทผลิตอาวุธก็จะได้รับเงินค่าสินค้าบวกกำไร

ยิ่งเครื่องบินที่ขายไปนั้นมีประสิทธิ์ภาพดีและมีอาวุธคุณภาพสูงให้เลือกติดตั้งได้หลากหลายแบบเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นที่นิยมมากเท่านั้น

ซึ่งจะทำให้คำสั่งซื้อมีเพิ่มมากขึ้น อาวุธก็มีคำสั่งซื้อมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน

กำไรส่วนหนึ่งจากการขายเครื่องและอาวุธเหล่านั้นก็จะถูกนำไปใช้ในการผลิตและพัฒนาอาวุธใหม่ ๆ

รวมถึงการพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่ต่อไป

ผู้ซื้อเครื่องบินและอาวุธดังกล่าวก็คือผู้ซื้อเครื่องเกมหรือผู้เล่น


ตรงนี้จะเห็นว่าทรัพยากรคือ เทคโนโลยี, ชิ้นส่วน Hardware, บริษัทผู้พัฒนาเกม, ฐานลูกค้า โดนผลที่ต้องการคือเงินรายได้

สาเหตุที่ต้องอธิบายแบบเปรียบเทียบนี้ก็เพราะ

เมื่อมองลงไปในประวัติศาสตร์การแข่งขันในธุรกิจนี้โดนใช้แนวคิดในมุมมองดังกล่าวจะช่วยให้ง่ายต่อการมองและแยกแยะว่าชัยชนะ,

ความพ่ายแพ้หรือ Turning Point ที่เกิดขึ้นนั้นสาเหตุมาจากอะไร

เมื่อนำแนวคิดดังกล่าวมามองตลาดเครื่องเล่นเกมในยุคนั้นก็จะพบว่าใน Consoles War นี้ยังมีสงครามย่อยแฝงอยู่ในนั้น

นั่นคือสงครามเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ

ในเวลานั้น ผู้เล่นต้องการเกมที่คุณภาพดียิ่งขึ้น กราฟฟิกที่ดีกว่านี้ คุณภาพเสียงที่ดีกว่าเดิม

ความฝันสูงสุดของผู้เล่นคือการได้เล่นเกมที่มีคุณภาพใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับเครื่องเกมอาเขตที่บ้านของตน

และการที่จะทำเช่นนั้นได้ย่อมหมายถึงเครื่องเล่นเกมจะต้องใช้ชิปประมวลผลที่ประสิทธิ์ภาพดีกว่าเดิม


วิธีการเพิ่มประสิทธิ์ภาพก็คือการใช้ชิปที่สามารถเข้าถึงหน่วยความจำและประมวลผลได้ดียิ่งขึ้นโดยการใช้สถาปัตยกรรม

16 Bit กับชิปประมวลผลที่ติดตั้งในเครื่องเกมนั้นเอง

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความเชื่อในกลุ่มผู้บริโภคขึ้นมาว่า Bit ยิ่งเยอะยิ่งดี

บริษัทผู้ผลิตเครื่องเกมก็ใช้ประโยชน์จากความเชื่อนี้ในการโฆษณาและผลิตเครื่องเกมของตน

จนทำให้ในยุค Consoles War นี้เป็นสงครามที่ใช้ Bit ในการโฆษณาและแย่งชิงทรัพยากรจนเกิดนิยามเกี่ยวกับวงการเกมในยุคนี้อีกคำขึ้นมาว่า

“Bit War”

ยุคที่เปี่ยมไปด้วยความรุ่งเรื่อง, การเพลี่ยงพล่ำ, การจากลาและทิ้งไว้เพียงตำนาน

อรุณของยุคทองแห่งวงการเกมเริ่มทอแสงเยี่ยงนี้แล


ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน” โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น

ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ

https://www.facebook.com/uptomejournal/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่